บทที่ 31 พ่อตีลูกชาย
จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น คนของสำนักงานควบคุมยาก็มาถึงที่โรงพยาบาลประชาชนเมืองNo.3
จ้าวจื้อซวนวางแก้วลง แล้วพูดออกไปอย่างชุ่ยๆ “พวกเธอดูให้ดี บิลของฉันฉบับนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ได้พาคนเดินเข้ามา
“ผลสรุปของพวกคุณออกมาแล้ว”
“ทำไมครั้งนี้ช้าจัง? ทำเอาฉันรอไปครึ่งวัน”
“เชื่อมั้ยว่าฉันจะกลับไปไล่พวกนายออก?”
ต่อหน้าคนของสำนักงานควบคุมยา อารมณ์ของจ้าวจื้อซวนก็ยังคงไม่ดี ไม่ได้เอาพวกเขามาใส่ใจเลยสักนิด
ชายวัยกลางคนคนนั้นถอดหมวกออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายจะไล่ใครออกเหรอ?”
เมื่อจ้าวจื้อซวนได้ยินเสียงนั้น ก็ตกใจจนสะดุ้งลุกจากเก้าอี้ทันที เขาเบิกตากว้างแล้วมองอย่างละเอียด ทันใดนั้นทั้งตัววก็แข็งทื่อ
“พ่อ?”
“พ่อ พ่อมาได้ไง?”
“เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ให้พี่หวงมาก็ได้แล้วนี่”
เมื่อจ้าวจื้อซวนเห็นจ้าวฉงตงมาด้วยตัวเอง ก็ตกใจจนพูดไม่เป็นคำ แล้วรีบเดินเข้าไปด้านข้างจ้าวฉงตง
จ้าวฉงตงพูด “ฉันได้รับคำสั่ง ให้มาตรวจสอบราคายาที่นาย”
“คำสั่ง?” จ้าวจื้อซวนหัวเราะ “พ่ออย่ามาล้อผมเล่นสิ ผมจะไปกล้าออกคำสั่งกับพ่อได้ยังไงกัน”
ขณะนั้น เจียงชื่อก็หยิบบิลขึ้นมา แล้วยื่นให้ด้านหน้าของจ้าวฉงตง “รองผู้อำนวยการจ้าว นี่คือบิลที่ลูกชายของท่านออกยาให้พวกเราครับ พวกเราเป็นคนธรรมดาดูไม่รู้เรื่อง ท่านดูด้วยตัวเองเถอะครับ”
“อืม”
จ้าวฉงตงรับบิลแผ่นนั้นมา อย่างไม่ได้ใส่ใจ
ใครจะรู้ ว่าเจียงชื่อจะพูดเสริมขึ้นอีกหนึ่งประโยค “ท่านต้องดูดีๆ นะครับ บิลฉบับนี้ผู้บริหารระดับสูงได้อ่านเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ผู้บริหารระดับสูง’ สีหน้าของจ้าวฉงตงก็เปลี่ยนทันที มือที่จับบิลยาก็ดูลนลานขึ้นมาทันที
เขาดูบิลยาตั้งแต่ต้นจนจบอย่างตั้งใจมากๆ
สองคำ:ฉิบหาย!
ราคายาในนี้มันแพงมากเกินความเหมาะสม และจำนวนของยาก็มากจนเกินไป ถ้ากินยาเข้าไปตามนี้คงต้องตายแน่ๆ แล้วก็ค่าเตียงผู้ป่วย และอุปกรณ์การแพทย์ก็แพงเกินไป แพงกว่าราคาในตลาดไม่น้อยกว่าสิบๆ เท่า
บิลแผ่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามันคือบิลโกงเงินใบนึง
จ้าวฉงตงช้ำใจ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงถึงให้เขามาตรวจดูด้วยตัวเองสักครั้ง นี่คือการให้โอกาสเขา ‘สั่งสอนลูกให้รู้ผิดชอบชั่วดี’ !
เสียดาย ที่จ้าวจื้อซวนไม่ได้รู้สึกถึงข้อนี้
เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูจ้าวฉงตง “พ่อ ผมรู้ว่าบิลนี้มีปัญหา แต่ว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ พ่อปล่อยมันผ่านไปเถอะนะ? มีบิลใบนี้ ผมก็สามารถช่วยพ่อพาลูกสะใภ้กลับมาได้ พ่อก็ดีใจไม่ใช่เหรอ?”
จ้าวฉงตงดวงตาแดงก่ำ
เรียกค่ายาแพงตามใจ แล้วยังจะคุกคามครอบครัวผู้ป่วยอีก นี่มันความผิดร้ายแรงขนาดไหน?
เจียงชื่อพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค “รองผู้อำนวยการจ้าว เมื่อครู่คุณหมอจ้าวท่านนี้บอกว่าในเมืองเจียงหนาน อุตสาหกรรมยา เขาคือพระราชา เขาก็คือกฎหมาย ใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเขามีสิทธิ์มากมายขนาดนี้ได้ยังไง ไม่รู้ว่าหากท่านผู้บริหารระดับสูงรู้เข้า ท่านจะคิดยังไง?”
จ้าวจื้อซวนที่อยู่เบื้องหน้ายิ้ม “ที่ฉันพูดคือนายโง่หรือไง? นายมองไม่ออกเหรอว่าทำไม? รองผู้อำนวยการจ้าวเป็นพ่อของฉัน ในอุตสาหกรรมยานายจะทำอะไรฉันได้? อะไรคือผู้บริหารระดับสูง? ฉันไม่เคยได้ยิน ถ้าเขามาฉันก็จะให้เขาคุกเข่าก้มหัวให้ฉันเหมือนกัน!”
“ไอ้ลูกเลว!!!”
จ้าวฉงตงตบไปที่หน้าของจ้าวจื้อซวนอย่างแรง ทำเอาเขาตัวเกือบปลิว เขาเซหมุนสองรอบแล้วไปชนเข้ากับโต๊ะ
เขากุมหน้า
“พ่อ ทำอะไร?”
“ทำอะไร? วันนี้ฉันจะตีไอ้ลูกหมาไร้ยางอายอย่างแกให้ตายเลย!”
จ้าวฉงตงหยิบไม้กวาดที่ประตูหลังขึ้นมา แล้วฟาดไปที่จ้าวจื้อซวน ฟาดจนจ้าวจื้อซวนร้องโอดครวญไม่หยุด
ตอนแรกคนอื่นอยากจะเข้าไปห้าม แต่จ้าวฉงตงตะคอกอย่างฉุนเฉียว “หลีกไปให้หมดทุกคน!ใครกล้ามาห้ามฉัน ฉันจะตีมันด้วย!”
ตีแล้วตีอีก ฟาดมันลงไปบนร่างของจ้าวจื้อซวนอย่างแรงมากๆ เสียงโอดครวญที่น่ากลัวดังขึ้นลั่นห้อง
ซูสวนงงไปหมด
เธอดึงแขนของเจียงชื่อ “นี่……มันเกิดอะไรขึ้น?”
เจียงชื่อหัวเราะ “ง่ายๆ บิลมีปัญหา รองผู้อำนวยการจ้าวทนเห็นต่อไปไม่ได้เลยสั่งสอนลูกให้รู้จักผิดชอบชั่วดี”
“ง่ายแบบนี้เลยเหรอ?”
“ไม่ง่ายแบบนี้ได้ไง?”
ซูสวนทำปากยู่ “ทำไมฉันมีความรู้สึกบางอย่าง ว่านายกำลังกลั่นแกล้งอยู่เบื้องหลัง?”
เจียงชื่อหัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไร
จ้าวฉงตงฟาดไม่ยั้ง ฟาดไปเต็มๆ ยี่สิบนาที ตีจนจ้าวจื้อซวนเนื้อหนังเปิดจนเป็นลมสลบไป
“ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ต้องวุ่นวาย เรียกพยาบาลมาหิ้วเขาไปก็พอ”
คนที่เหลือมองตากัน แล้วรีบให้พยาบาลเข้าไปช่วย
จ้าวฉงตงเขวี้ยงไม้กวาดทิ้ง สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเดินไปอยู่เบื้องหน้าเจียงชื่อ “ไอ้คนอกตัญญูคนนี้ มันคือความอัปยศของครอบครัว ทำเอานายเห็นเรื่องน่าขำจนได้”
เจียงชื่อพูด “รองผู้อำนวยการจ้าวไม่เห็นแก่ตัว น่าชื่นชมมากครับ”
จ้าวฉงตงโบกมือ “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่มีหน้าไปรับความชื่นชมหรอก ไอ้น้อง อีกแป๊บนายไปพบกับท่านผู้บริหารระดับสูงนายช่วยฉันอธิบายก็พอแล้ว ไอ้ชั่วจ้าวจื้อซวนนี่ ฉันจะไม่ปรานีเขาง่ายๆ แน่ ต้องขอบคุณผู้บริหารระดับสูงที่ให้โอกาสฉันสะสางปัญหานี้ด้วยตัวเอง”
เจียงชื่อพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ งั้นค่ายานี่……”
“ฉันจ่ายเอง”
จ้าวฉงตงพูด “ค่ายาทั้งหมด ฉันจะจ่ายเอง แล้วก็ฉันจะหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาเขียนใบสั่งยาให้ใหม่ พยายามรักษาผู้ป่วยให้หายดี”
“งั้นต้องขอบคุณรองผู้อำนวยการจ้าวแล้วครับ”
จากนั้น ตามที่จ้าวฉงตงได้สั่งไว้ ทางโรงพยาบาลก็รีบหาหมอที่เก่งที่สุดมาออกใบสั่งยาให้ใหม่ และค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดก็เซ็นต์บิลชื่อจ้าวฉงตงไว้ได้เลย
ประเด็นก็คือ ที่จ้าวจื้อซวนพูดมาเกินจริง ว่าไม่มียาที่สามารถรักษาคุณปู่กู้ได้ ความจริงแล้วอาการป่วยไม่ได้แย่ขนาดนั้น แค่ใช้ยาให้ถูก แล้วพักฟื้นดีๆ ไม่เกินหนึ่งเดือนก็ดีขึ้น แล้วก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
หลังจากที่จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย ซูสวนกับเจียงชื่อก็ออกมาจากโรงพยาบาลประชาชนเมืองNo.3
กลับมาถึงที่รถ
ซูสวนชูแขนสองข้าง แล้วตะโกนเสียงดัง: “ชโย !!!”
เจียงชื่อหัวเราะ: “ดีใจขนาดนี้เลยเหรอ?”
“แน่นอนสิ หนึ่งคือได้สั่งสอนไอ้สารเลวจ้าวจื้อซวนนั่น สองคือค่าใช้จ่ายทั้งหมอจ้าวฉงตงเป็นคนจ่าย ฉันก็ไม่ต้องปวดหัวเรื่องเงินแล้ว สามก็คือในที่สุดก็มีวิธีรักษาคุณปู่กู้แล้ว”
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดๆ กัน ฉันอยู่มาตั้งนาน ไม่มีวันไหนที่จะมีความสุขเท่าวันนี้เลย”
เจียงชื่อสตาร์ทรถ “มีความสุขก็ดีแล้ว นั่งดีๆ ฉันจะส่งเธอกลับแล้ว”
แช๊ะ
ซูสวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหันไปทางเจียงชื่อ แล้วถ่ายรูป
“เธอทำอะไร?”
“ถ่ายรูปไง”
“ฉันรู้ว่าเธอถ่ายรูป ที่ฉันถามคือเธอถ่ายรูปฉันทำไม”
“ไม่บอกหรอก”
เจียงชื่อส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด แล้วจึงเหยียบคันเร่ง รถก็เคลื่อนตัวออกไป
บนรถ ซูสวนก็แอบเปลี่ยนรูปหน้าจอโทรศัพท์เป็นรูปของเจียงชื่อ จากนั้นก็จ้องอยู่นาน รอยยิ้มที่มีความสุขก็ได้ออกมาจากมุมปาก