บทที่ 71 นี่คุณหาพ่องั้นเหรอ?
เฉิงดันถิงตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด เธอเคยเจอคนที่ทำอะไรเหนือความคาดหมายแบบนี้เมื่อไหร่กัน?
มีดของคนร้ายวางอยู่บนคอของเธอ สามารถฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ
ตำรวจเองก็ตกใจ ทุกคนต่างเล็งปากกระบอกปืนไปที่คนร้าย “ใจเย็นๆ นายใจเย็นๆนะ เรื่องหาเมีย นายค่อยๆทำก็ได้”
คนร้ายตะโกนว่า “ฉันค่อยๆหามาสี่สิบปีแล้ว ยังจะต้องค่อยๆทำอีกเหรอ? ฉันไม่สน วันนี้ฉันจะหลบหนีไปกับผู้หญิงคนนี้ ชีวิตนี้ฉันหาเมียไม่เจอ แต่ได้พาสาวน้อยชั้นเลิศคนนี้ไปด้วยก็คุ้มค่าแล้วที่จะตาย!”
ปลายแหลมของมีดกำลังจะแทงเข้าไปในหัวใจของเฉิงดันถิง เธอมองดูคนที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว ในตอนนี้เองก็ได้ยินเสียง “ฟึ่บ” และมีตะเกียบอันหนึ่งได้แหวกกลางอากาศตรงมายังคนร้าย
เสียงดังฟึ่บแล้วตะเกียบทั้งแท่งได้แทงทะลุหลังมือของคนร้ายเข้าไปทันที
ปึงปัง ปึงปัง มีดสั้นในมือของคนร้ายหล่นลงบนพื้น
ตำรวจพุ่งไปข้างหน้าแล้วกดคนร้ายลงไปบนพื้น
“อย่าขยับ!”
“ทำตัวดีๆ!”
เฉิงดันถิงที่ตกใจกลัวแทบตาย มีคนคนพาออกไปนั่งหายใจหอบอยู่บนเก้าอี้
เจียงชื่อหยิบแก้วน้ำมาวางไว้ตรงหน้าเธอ “ดื่มน้ำให้หายตกใจก่อนครับ”
เฉิงดันถิงจิบน้ำแต่ก็ยังไม่หายจากอาการตกใจ
เวลานี้ตำรวจเดินเข้ามาแล้วทำความเคารพต่อเจียงชื่อ “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของสหายท่านนี้ด้วยครับ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คงเป็นเรื่องยากที่พวกเราจะจับคนร้ายได้ น่ากลัวว่าวันนี้จะต้องเกิดเรื่อง ขอขอบคุณมากจริงๆ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
เฉิงดันถิงตกตะลึงทันทีแล้วเงยหน้ามองเจียงชื่อ “เมื่อกี้นี้คุณช่วยชีวิตฉันไว้เหรอ?”
เจียงชื่อพยักหน้า “ถึงแม้ว่าผู้ชายจะมีหลายด้านที่ไม่น่าเชื่อถือและมีหลายๆเรื่องที่ผู้หญิงสามารถทำได้ดีกว่าผู้ชาย แต่ในแง่ของพละกำลัง ผมก็ยังคิดว่าผู้ชายแข็งแรงกว่าอยู่ดี”
เฉิงดันถิงหน้าแดงและพูดไม่ออก
เธอดื่มน้ำเข้าไปอีกหลายอึกแล้วพูดเสียงกระซิบว่า “ขอบคุณ”
เจียงชื่อยิ้มเล็กน้อย “ด้วยความยินดี”
หลังจากพักผ่อนแล้วสักพัก เฉิงดันถิงได้กลิ่นบนตัวเธอจึงเอ่ยว่า “ไม่ไหว เมื่อกี้นี้ฉันถูกนักเลงกอดไว้นานเกินไป บนตัวเปื้อนกลิ่นเหม็นของเขาเต็มไปหมด”
เจียงชื่อเอ่ยถามว่า “คุณน่าจะอยากอาบน้ำก่อนหรือเปล่า?”
“ไม่ต้องอาบน้ำหรอกค่ะ แต่ฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเสื้อผ้าที่เหม็นไปทั้งตัวแบบนี้มันทำให้ฉันอยากอาเจียนตลอดเวลา”
เธอชี้ไปที่ห้างสรรพสินค้าฝั่งตรงข้าม “งั้นไปที่นั่นแล้วซื้อเสื้อผ้าสักสองสามชิ้นเถอะค่ะ”
ทั้งสองคนมาที่ห้างสรรพสินค้า
ที่นี่คือห้างที่เพิ่งเปิดทำการได้ไม่นาน ด้านในขายสินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศชั้นนำทุกยี่ห้อและราคาค่อนข้างแพง
ดังนั้นคนที่มาจับจ่ายใช้สอยที่นี่ ปกติแล้วจึงเป็นพวกคนรวยหรือคนมีเงิน
เฉิงดันถิงเดินเข้าไปดูเสื้อผ้าในร้านอย่างสบายๆแล้วเลือกเสื้อผ้าอย่างพิถีพิถัน เจียงชื่อเดินตามหลังอย่างอดทน
ในขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้น เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“เฮ้ นี่ดันถิงไม่ใช่เหรอ?”
เฉิงดันถิงรู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูเป็นอย่างมาก เมื่อเงยหน้าหันไปมองก็พบว่าเป็นหญิงสาวท้องโตคนหนึ่งที่กำลังโอบแขนชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมคนหนึ่งอยู่เดินเข้ามา
หญิงตั้งครรภ์คนนี้มีชื่อว่าหยางย่าหมิ่นเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยของเฉิงดันถิง
เฉิงดันถิงมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมในสมัยที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยและยังมีหน้าตาที่สวยงาม เธอเป็นเทพธิดาในใจของนักเรียนชายจึงต้องพบเจอกับความอิจฉาของสาวๆจำนวนไม่น้อย
หยางย่าหมิ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทุกอย่างของเธอนั้นไม่อาจเทียบกับเฉิงดันถิงได้เลย นอกจากความอิจฉาริษยาและเกลียดชังแล้วก็ไม่มีความคิดอะไรที่ดีเลย
แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หยางย่าหมิ่นแต่งงานกับราชาเพชรผู้ร่ำรวย กินดื่มได้ตามต้องการ ใช้ชีวิตเป็นคุณนายอยู่ที่บ้าน สบายที่สุด
ในทางกลับกันเฉิงดันถิง ถึงแม้ว่าเธอยังคงงดงามราวกับดอกไม้และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เธอยังโสดมาจนถึงบัดนี้และน่ากลัวว่าจะไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิตนี้
ในจุดนี้หยางย่าหมิ่นรู้สึกว่าตนเองได้เปรียบอยู่เล็กน้อย
เพื่อนร่วมชั้นเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาพบกันอีกในสถานที่เช่นนี้
ช่วงเวลาที่ควรจะมีความสุข แต่กลับไม่มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าของเฉิงดันถิง เป็นเพราะว่าเธอเกลียดผู้หญิงอย่าง หยางย่าหมิ่นที่รังเกียจคนจนและรักคนรวย
หยางย่าหมิ่นเดินเข้ามามองเฉิงดันถิงแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข
“โอ้ ฉันได้ยินเพื่อนเก่าสมัยเรียนบอกว่า ดันถิง จนถึงตอนนี้เธอก็ยังเป็นโสด ดูเหมือนจะเป็นข่าวปลอมสิเนี่ย วันนี้ออกมาชอปปิ้งกับแฟนสินะ?”
เฉิงดันถิงและเจียงชื่อต่างตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
นี่มันคือการเข้าใจผิดครั้งใหญ่
โดยไม่รอให้พวกเขาได้เปิดปากอธิบาย หยางย่าหมิ่นก็พูดอีกครั้งว่า “ก็ว่าเถอะนะดันถิง ไม่ได้จะว่าเธอหรอกนะ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะอายุยังน้อยแถมยังหาแฟนไม่ได้ คงกำลังกังวลอย่างมาก แต่ก็อย่ากินไม่เลือก หยิบอะไรได้จากกองขยะก็เอาหมด”
“ดูที่เธอเจอสิ จุ๊ๆๆ ใส่ของแผงลอยทั้งตัว รูปร่างหนาบึกบึน มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเพิ่งจะกลับจากการทำไร่ไถนา”
“ดันถิงเอ๋ย เธอทำอย่างนี้มีแต่ให้ตัวเองต้องอับอายนะ”
เฉิงดันถิงโกรธจนควันออกหู
ที่ไหนกัน ที่ไหนกันล่ะ?
เธอเกลียดผู้ชายมากที่สุด แต่ฝั่งตรงข้ามดันเข้าใจผิดว่าเธอเป็นแฟนของเจียงชื่อเสียได้ พูดจบแล้วยังเอาเจียงชื่อไปเยาะเย้ย ฉากหน้ากำลังเย้ยหยันเจียงชื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้วกำลังตบหน้าเฉิงดันถิง!
เจียงชื่อหัวเราะเหอะๆ แล้วเดินมาด้านหน้าพร้อมกับพูดว่า “ฟังน้ำเสียงของคุณผู้หญิงแล้ว ผู้ชายที่คุณมองหาต้องแข็งแรงมากอย่างแน่นอน”
หยางย่าหมิ่นกลอกตา “ไร้สาระ”
เจียงชื่อพูดอีกว่า “ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสจะต้องขอทำความรู้จักสักหน่อยแล้ว ใช่แล้วล่ะ คนที่อยู่ข้างๆนี้คือคุณลุงสินะครับ? อายุขนาดนี้แล้วยังออกมาช้อปปิ้งเป็นเพื่อนลูกสาว ลำบากมากจริงๆเลยนะครับ”
“อุ๊บส์~~”
แม้แต่คนที่เย่อหยิ่งเช่นเฉิงดันถิง เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วก็ยังอดหัวเราะไม่ได้
ลุง?
ออกมาช้อปปิ้งเป็นเพื่อนลูกสาว?
คนสายตาดีล้วนแต่มองออกว่านั่นคือสามีของหยางย่าหมิ่น เพียงแค่เขามีอายุมากกว่านิดหน่อยเท่านั้นเอง
เจียงชื่อจงใจพูดเช่นนี้เพื่อทำให้หยางย่าหมิ่นต้องอับอายจนทนไม่ได้
เธอกระทืบเท้าอย่างกระวนกระวาย “คุณพูดอะไรไร้สาระ? นี่คือสามีของฉัน!”
เจียงชื่อตื่นตะลึง “โอ๊ะโอ นี่คือสามีของคุณเหรอเนี่ย? ขอโทษทีขอโทษที ผมพูดผิดไป แต่จะว่าไปอายุก็มากโขอยู่นะครับ คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณมองหาสามีหรือว่าคุณพ่อเหรอครับ?”
หยางย่าหมิ่นจำได้แค่เกาหัวตัวเองอย่างงุนงงแล้วอยากจะตบกลับอย่างมาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
สามีของเธอทำเสียงฮึดฮัด “พ่อหนุ่ม ระวังท่าทีของนายด้วย ปลาหมอตายเพราะปากรู้หรือเปล่า?”
เจียงชื่อพูดอย่างเย็นชาว่า “ภรรยาของตัวเองพูดจาไร้สาระมากมาย คุณกลับไม่ไปสั่งสอนแต่กลับมาสอนคนอื่นงั้นเหรอ? คุณลุงท่านนี้มีสองมาตรฐานใช้ได้เลยนะครับเนี่ย”
หยางย่าหมิ่นพูดอย่างโกรธๆว่า”เฉิงดันถิง เธอไม่สนใจเลยเหรอ? เธอหาไอ้คนพรรค์นี้มาทำแฟนงั้นเหรอ?”
เฉิงดันถิงเองก็คร้านที่จะอธิบายแล้ว จึงพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ได้คนพรรค์นี้ ก็ดีกว่าได้ “พ่อ”แล้วกัน”
“เธอ!!!”
เฉิงดันถิงหันกลับมาโดยไม่สนใจเธอแล้วหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาเตรียมตัวไปลองชุด
หยางย่าหมิ่นเดินเข้าไปหยิบของที่ราคาแพงกว่าข้างๆด้วยความโกรธแล้วพูดว่า “ทำไมเหรอ ดันถิงเธอได้แฟนเป็นคนบ้านนอกเลยซื้อเสื้อผ้าดีๆไม่ไหวใช่ไหม?
เฉินดันถิงขมวดคิ้ว แล้ว “การต่อสู้” ระหว่างผู้หญิงก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เธอทำเสียงฮึดฮัดแล้วหยิบชิ้นที่ราคาแพงกว่า
“ฉันซื้อเสื้อผ้าที่แพงกว่าเธอเสมอ!