ผู้หญิงที่ฉลาดอย่างประธานเชี่ยนเป็นพวกแค้นฝังหุ่นแค่ไหน ไม่มีใครรู้ดีเท่าอาข่า
อย่างอาเหม็ดก็เป็นตัวอย่างที่โดนอย่างโชกโชนไม่ใช่เหรอ เพราะคิดจะงาบสุ่ยเซียนของประธานเชี่ยน เลยถูกประธานเชี่ยนโจมตีไม่หยุด แถมอาเหม็ดที่ไม่รู้จักกลัวตายยังคิดจะมาจีบประธานเชี่ยนอีก ปรากฏว่าถูกประธานเชี่ยนจับใส่พานประเคนให้ซ่งชิงอู๋ไปเรียบร้อย
ไหนจะเรื่องผู้ชายฟีนิกซ์ของหลิวเหมย ถูกประธานเชี่ยนเล่นงานจนตอนนี้ไม่เป็นอันทำอะไร คิดแต่จะมาขอคืนดีกับหลิวเหมยแต่กลับถูกอวี๋หมิงหลางจัดการ ทรมานจนแทบทนไม่ไหว
คนที่มาหาเรื่องประธานเชี่ยนไม่มีใครจบสวย ต่อให้ไม่ได้มาหาเรื่องแบบตัวต่อตัวก็ตาม หากรังแกคนข้างกายประธานเชี่ยน ประธานเชี่ยนก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน นี่เป็นข้อสรุปที่อาข่าได้จากการสังเกตประธานเชี่ยนอย่างใกล้ชิด
อาข่าเคยแอบดักฟังประธานเชี่ยน เธอสังหรณ์ใจว่าต้องถูกประธานเชี่ยนตามล้างแค้นแน่ แต่จนถึงตอนนี้ประธานเชี่ยนก็ยังไม่ลงมือ บอสให้เธอไปขอโทษตรงๆ อาข่ารู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะโดนตบกลับมา จากนั้นอวี๋หมิงหลางก็จะซัดเธอจนน่วม
แต่อาข่าไม่คิดเลยว่า ตอนที่เธอเป็นฝ่ายชวนเสี่ยวเชี่ยนไปกินข้าวก่อนนั้น คำตอบของเสี่ยวเชี่ยนคือ—
“ไปสิ”
อาข่าตกใจ ยอมไปง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ
“ทำไม ไม่อยากเหรอ”
“อยากสิ ฉันอยากไปอยู่แล้ว” อาข่ารีบพยักหน้าใหญ่
สืออวี้กับต้าอีเพื่อนสนิทเสี่ยวเชี่ยนทั้งสองคนไม่อยู่ในมหาวิทยาลัย เสี่ยวเชี่ยนเองก็ไม่ชอบกินข้าวคนเดียว ช่วงหลายวันนี้เธอเห็นอาข่าอยากเข้ามาหาแต่ก็ดูไม่กล้าเข้ามา เธอรู้สึกขำมาก อยากจะแกล้งอีกสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าวันนี้อาข่าจะกล้าแล้ว
ถึงจะไม่ทราบประวัติของสาวผมทองคนนี้ แต่ตอนนี้ประธานเชี่ยนรู้สึกว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย และก็อยากจะรอดูด้วยว่าใครเป็นคนส่งอาข่ามา แกล้งอาข่าเล่นก็สนุกดี โดยเฉพาะเวลาเห็นอาข่าดูลุกลี้ลุกลนไม่กล้าพูด สีหน้าเวลาที่อยากเข้าใกล้เธอแต่ก็กลัว
ทั้งสองคนไปที่ร้านชาบูของไห่เจาเพื่อนสมัยเด็กของอวี๋หมิงหลางที่เปิดอยู่แถวมหาวิทยาลัย อาข่าตัดสินใจว่าจะชวนคุยสัพเพเหระก่อนจากนั้นค่อยวกเข้าประเด็น
“ปิดเทอมหน้าร้อนเธอวางแผนไงเหรอ ทำไมเถ้าแก่ใหญ่ไม่เห็นหาที่ฝึกงานให้เธอเลย”
“ฉันคิดว่าเธอรู้แล้วเสียอีก” เสี่ยวเชี่ยนพูดพลางยิ้มเล็กน้อย
“ฉันเลิกดักฟังเธอนานแล้ว เสี่ยวเฉียงของเธอฉลาดเป็นบ้า ตอนนี้หูฉันยังปวดอยู่เลย” อาข่ายอมสารภาพออกมาเอง
เธอคิดไว้ว่าถ้าประธานเชี่ยนจะเอาหม้อชาบูคว่ำใส่หัวเธอจนหน้าเสียโฉมเธอก็จะยอมรับชะตากรรม
เสี่ยวเชี่ยนวางตะเกียบลงแล้วหันไปมองอาข่าหน้านิ่งๆ
“ยอมรับแล้วเหรอ คิดว่าจะทำไก๋ไปได้นานสักแค่ไหน”
“อยากทำแต่ก็ทำไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าเธอก็แสบไม่เบา ฉันดักฟังคนอื่นมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนดักฟังฉันกลับ”
บอสหักเงินเดือนเธอเพราะเรื่องนี้ด้วย อาข่าช้ำใจสุดๆ
เธอประเมินไอคิวของเสี่ยวเฉียงกับเสียวเหม่ยต่ำเกินไป ตัวตนสปายของเธอถึงได้ถูกเปิดเผยไวขนาดนี้
“ใครให้เธอมาดักฟังฉัน”
“อาเหม็ดไง ตอนนี้เขาถูกซ่งชิงอู๋พาตัวกลับไปแล้ว ไม่มีใครให้เงินฉันแล้ว ฉันก็เลยไม่ต้องดักฟังเธออีก”
“เธอไม่ใช่คนของอาเหม็ด” เสี่ยวเชี่ยนจำได้อวี๋หมิงหลางเคยบอกว่า อาข่าน่าจะยังมีคนอยู่เบื้องหลังอีก
“เธอฉลาดขนาดนี้จะไม่มีเพื่อนคบนะ” อาข่าแต่งเรื่องต่อไปไม่ได้แล้ว เสี่ยวเชี่ยนฉลาดเกินไป
“ฉันจะบอกความจริงกับเธอนะประธานเชี่ยน มีคนส่งฉันให้มาปกป้องเธอจริงๆ บอสของฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่ฉันก็บอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร ฉันขอรับรองด้วยชีวิตของฉัน เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายจริงๆ ฉันเองก็ไม่มี”
“วันๆแอบดักฟังฉันในบ้านยังจะบอกว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย”
“เธอก็น่าจะรู้ หลังจากที่ซุปเปอร์ทหารหน่วยรบพิเศษบ้านเธอจับได้ฉันก็ไม่ได้แอบดักฟังอีก ตอนนี้บอสก็เลิกให้ฉันจับตาดูเธอแล้วด้วย แค่ให้ฉันคอยปกป้องเธอไม่ให้ถูกทำร้ายแค่นั้นก็พอแล้ว”
หลังจากที่อาข่าได้พูดออกไปแล้วก็รู้สึกโล่งอก
ในที่สุดเธอก็พูดออกไป
“ฉันบอกเธอไม่ได้ว่าบอสฉันเป็นใคร แต่ฉันรับประกันได้ว่าบอสของฉันไม่มีเจตนาร้าย ต่อไปฉันไม่มีทางดักฟังเธออีก แค่คอยปกป้องเธอเงียบๆ ถ้าเธอเกลียดฉัน งั้นฉันจะปกป้องเธออย่างลับๆ ถ้าเธอไม่ให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำก่อนหน้านี้ งั้นเธอจะลงโทษฉันยังไงก็ได้”
ลงโทษแล้วเธอก็จะยังคงอยู่ข้างกายคอยปกป้องเสี่ยวเชี่ยน
“บอสให้เงินเธอเท่าไร ฉันให้สองเท่าแล้วบอกมาว่าเขาเป็นใคร บอกแล้วฉันจะยกโทษให้”
เสี่ยวเชี่ยนลองใจอาข่า
“ขอโทษด้วย มีแค่นี้ไม่ได้หรอก”
“เธอคิดว่าฉันจ่ายไม่ไหว”
“ไม่ใช่นะ ประธานเชี่ยนฉันไม่อยากปิดบังเธอ ฉันจะพูดความจริง ก่อนหน้านี้ฉันเป็นสปายคอยสืบข้อมูลสำคัญให้ประเทศ แต่พอฉันคิดได้ว่าชีวิตคนเราไม่ควรมีแค่นี้ฉันก็เลยลาออก ตอนที่ถูกตามฆ่าบอสได้ช่วยฉันไว้ เงินเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุดบนโลกใบนี้ แต่ก็มีเรื่องบุญคุณที่สำคัญกว่าเงินที่ฉันจะลืมไม่ได้”
อาข่าพูดจบก็ลุกขึ้นโค้งตัวให้เสี่ยวเชี่ยน
“ฉันพูดในสิ่งที่พูดได้ไปแล้ว ฉันขอโทษเธอจากใจจริง ฉันขอยอมรับการลงโทษทุกอย่าง ได้โปรดยกโทษในสิ่งที่ฉันทำลงไป”
เอาเลย น้ำซุปร้อนๆหรืออะไรก็แล้วแต่ เธอเตรียมใจพร้อมแล้ว
“ถ้าต่อไปกล้าดักฟังฉันอีกฉันจะให้เสี่ยวเฉียงซัดให้น่วมเลย ผู้ชายของฉันนักเลงมาก แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่เว้น เอาล่ะ เลิกโค้งให้ฉันได้แล้ว ทำอย่างกับอำลาศพ นั่งกินมื้อนี้เธอเลี้ยงนะ”
ประโยคที่ดูเป็นกันเองแบบนี้น่าสยองยิ่งกว่าถูกน้ำชาบูราดหัว อาข่าจ้องเสี่ยวเชี่ยนด้วยความตกใจ
“เธอ เธอ เธอ ให้อภัยฉันแล้วเหรอ”
“ก็ไม่เชิง เพียงแต่ฉันเป็นคนที่แยกแยะชัดเจนเรื่องชมเชยหรือลงโทษ เธอดักฟังฉัน ฉันโกรธมาก แต่โทษนี้ขอเอาไปลงที่เจ้านายเธอ ต่อไปถ้าได้เจอฉันเอาเขาตายแน่”
บอสที่อยู่แดนไกลจามออกมาหนึ่งที ใครบ่นถึงเขา
“บอสของฉันไม่ใช่คนเลวจริงๆ…อันที่จริงเขาน่าสงสารนะ…” อาข่าคิดได้ว่าตัวเองไม่ควรพูดเรื่องนี้เยอะจึงหุบปากพลางมองเสี่ยวเชี่ยนด้วยแววตาขอความเห็นใจ
“ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นคนเลวหรือเปล่า แต่เขาสั่งให้คนมาตามติดฉัน แถมยังสั่งให้ดักฟังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของฉัน บัญชีนี้ฉันจำไว้ขึ้นใจแล้ว”
“ประธานเชี่ยน ทำไมเธอไม่ว่าฉันล่ะ นี่เป็นความผิดฉันนะ”
“เธอได้รับคำสั่งมา เธอเลือกไม่ได้ เธอดักฟังเรื่องส่วนตัวของฉันก็จริง แต่ได้ทำเรื่องที่ถูกต้องถึงสองเรื่อง ดังนั้นฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เอาความเรื่องก่อนหน้านี้ ประเด็นคือ ต่อไปเธอห้ามดักฟังฉันกับสามีคุยกันอีกไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม”
“พวกเธอสองคนจะคุยอะไรกันได้…มีแต่เรื่อง18+—อะแฮ่ม ก่อนหน้านี้ฉันฟังแค่ช่วงแรกแล้วก็เลิกฟัง”
เธอก็มีจรรยาบรรณนะ ไม่ได้แอบฟังเรื่องบนเตียงของผัวเมียจนจบหรอก อย่างเช่นฟิตปั๋งงี้ ของใหญ่งี้ ก็แค่ไม่ทันระวังได้ยินไปนิดหน่อย ยิ่งอากาศร้อนๆด้วยเลือดกำเดาแทบพุ่ง
อาข่ารู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตของเสี่ยวเชี่ยนจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“ประธานเชี่ยน ว่าแต่ฉันทำเรื่องที่ถูกต้องอะไรเหรอ บอกหน่อยสิ ต่อไปฉันจะได้ทำมันเพื่อชดเชย”