ศาสตราจารย์หลิวไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนที่หลังจากเจอศิษย์รักที่แสนเก่งกาจของเธอแล้วจะปฏิเสธได้ลงคอ
เรื่องอีเมลศาสตราจารย์หลิวไม่มีหลักฐานว่าหลุ่ยเสี่ยวฉาแกล้งเสี่ยวเชี่ยน แต่เธอเชื่อว่าจะต้องมีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดแน่ ไม่อย่างนั้นเฉินเสี่ยวเชี่ยนศิษย์รักของเธอจะถูกปฏิเสธได้ยังไง?
พอนึกถึงท่าทางเสี่ยวเชี่ยนตอนคุยโทรศัพท์ที่พยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วศาสตราจารย์หลิวก็ทั้งโกรธทั้งขำ
“เฉินเสี่ยวเชี่ยนทำอะไรให้คุณอารมณ์ดีได้ขนาดนี้อีกแล้วเหรอ?” หัวหน้าใหญ่กลับบ้านมาเห็นภรรยามีสีหน้าแบบนี้ก็รู้เลยว่ามีแค่ศิษย์รักคนนั้นเท่านั้นถึงจะทำให้ภรรยาเขายิ้มแบบนี้ได้
“เด็กคนนี้ร้ายกาจมาก เสียวหลี่รับงานส่วนตัวแล้วแอบใช้เด็กไปแจกใบปลิวในเมือง โดนยัยเสี่ยวปืนเหล็กเล่นงานเข้า รวมหัวกับเสี่ยวลี่ลูกเราเอารถเทศกิจไปโกยเด็กพวกนั้นเชิญไปนั่งกินแตงโมที่สำนักงาน ตอนที่เสี่ยวลี่โทรมารายงานบอกว่าเสียวหลี่หน้าเสียมาก ฉันเดาว่าคงจนปัญญาไม่รู้จะทำไงกับยัยเสี่ยวปืนเหล็กได้”
เสี่ยวเชี่ยนพูดถูก หลังจากเถ้าแก่ใหญ่รู้เรื่องแล้วก็แอบสะใจ ปากก็แค่ตำหนิเสี่ยวเชี่ยนพอเป็นพิธีเท่านั้น
“ฮ่าๆ ลูกไม้นี้ใช้ได้ แบบนี้สิกำจัดต้นตออย่างแท้จริง วิธีคล้ายๆกับอวี๋หมิงหลาง สมกับเป็นผัวเมียกันจริงๆ อืม นี่แหละผลจากการสั่งสอนของผม”
หัวหน้าใหญ่พลอยอารมณ์ดีไปด้วย ศาสตราจารย์หลิวมองบน “คุณจะบอกว่าอวี๋ไข่เหล็กเหมือนคุณฉันไม่ว่าอะไร เพราะเขาเป็นทหารที่คุณฝึกมา แต่เสี่ยวปืนเหล็กเหมือนฉัน มีทัศนคติที่ถูกต้องเหมือนฉันต่างหาก”
“โอเคๆ เหมือนคุณหมด”
“แต่เด็กคนนี้ก็มีข้อเสีย ความเจ้าเล่ห์แบบนี้เอาไปใช้กับคนอื่นยังไม่เท่าไร แต่ช่วงนี้เขาเอามาใช้กับฉัน”
“…จะเป็นไปได้ไง?” หัวหน้าใหญ่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนเคารพภรรยาของเขามาก ถ้าเธอจะเล่นงานใครไม่มีทางทำกับอาจารย์ตัวเองแน่
“ยัยตัวแสบนี่ไม่อยากไปเรียนต่างเมือง แอบเล่นตุกติกแล้วโยนความผิดให้คนอื่น…”
ศาสตราจารย์หลิวเล่าเรื่องที่ตัวเองเดาว่าเสี่ยวเชี่ยนวางแผนหลอกใช้หลุ่ยเสี่ยวฉาให้สามีฟัง หัวหน้าใหญ่นึกสงสัย
“ทำไมคุณฟันธงว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนวางแผนล่ะ คนเก่งๆถูกคนอื่นอิจฉาก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าเป็นคนอื่นนะฉันเชื่อ แต่ถ้าบอกว่ายัยเสี่ยวปืนเหล็กโง่ถึงขนาดปล่อยให้ถูกคนแกล้งแบบนั้นล่ะก็ ตีให้ตายฉันก็ไม่เชื่อ ยัยเด็กคนนี้ฉลาดเป็นกรด คนอย่างหลุ่ยเสี่ยวฉาน่ะเหรอจะทำอะไรได้? น่าเสียดายจริงๆที่ไม่เหลือหลักฐานอะไรไว้ ไปถามยัยตัวแสบก็ไม่มีทางยอมรับหรอก”
สมกับเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเสี่ยวเชี่ยนหลายปี มองปัญหาอย่างรอบด้าน
“เด็กคนนี้ น่าสนใจจริง…” หัวหน้าใหญ่รู้สึกสนุกไปด้วย
มาลองคิดดูดีๆ ลูกไม้ที่เสี่ยวเชี่ยนยืมมือคนอื่นลงมือก็คล้ายกับเรื่องเล่นงานเถ้าแก่เล็กจนทำให้ทุกคนต้องไปนั่งกินแตงโมที่สำนักงานเทศกิจ ศาสตราจารย์หลิวพอจะเดาได้ว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่อยากให้ดูจงใจเกินไปเลยให้โอกาสหลุ่ยเสี่ยวฉา แต่ไม่มีหลักฐาน เสี่ยวเชี่ยนก็ทำตัวพลิ้วเหมือนปลาไหลเฉไฉไปเรื่อย ถึงคนอื่นจะรู้แล้วไงล่ะ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี
“ถ้าเด็กคนนี้คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมแพ้ก็ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เด็กเมื่อวานซืนคิดจะวัดรอยเท้าคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างฉันเหรอ? เดี๋ยวฉันจะเอาคืนให้หน้าหงาย ทุกปีเหล่าชีจะกลับไปไหว้บรรพบุรุษที่ข้าวซัน ถึงตอนนั้นสองคนนี้ได้เจอกันแน่ ตอนนี้ฉันยังไม่บอกหรอกว่าจะให้ไปไหน ไม่งั้นยัยตัวแสบไปสืบล่วงหน้าแล้วเบี้ยวฉันแน่ ฮ่าๆๆ”
ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดบอกเลย
“จะให้เสี่ยวเชี่ยนไปไหนนะ? ข้าวซัน?” หัวหน้าใหญ่จับใจความสำคัญได้
“ใช่ ทำไมเหรอ?”
“…อวี๋หมิงหลางพาทหารใหม่ไปฝึกที่ข้าวซันแล้ว เมื่อก่อนการคัดเลือกทหารกับการซ้อมรบจะทำในเมืองสองครั้ง แต่เบื้องบนบอกว่ากลัวรบกวนชาวบ้าน ต่อมาเลยให้ย้ายเข้าไปทำในภูเขา สองคนนี้นี่สรุปมีวาสนาต่อกันไหมนะ อยู่ใกล้กันขนาดนั้นแต่กลับไม่ได้เจอกัน”
“เรื่องจู๋จี๋ของคนรักกันน่ะมีเวลาให้ทำเยอะแยะ ตอนนี้เรื่องเรียนสำคัญกว่า ยังไงซะนั่นก็สามี ช้าเร็วไงก็ต้องได้เจอกัน”
ศาสตราจารย์หลิวดันแว่นตา ครั้งนี้เธอต้องดันศิษย์รักออกไปให้ได้
เสี่ยวเชี่ยนยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกอาจารย์หลอกแล้ว เธอกำลังคิดเรื่องรุ่นพี่เสี่ยวฮวา
นิสัยปากร้ายใจดีของอาจารย์ทำเสี่ยวเชี่ยนปวดหัวมาก
ยามที่จิตใจส่วนดีต้องมาเจอกับผลประโยชน์ ฝ่ายที่บาดเจ็บก็คือจิตใจส่วนดี การเอาคนๆหนึ่งมาใส่ใจเท่านั้นที่จะรู้สึกเป็นทุกข์จากการถูกหักหลัง
ถ้าเป็นอาจารย์ทั่วไปมีหรือจะเป็นอย่างอาจารย์เธอ? อาจารย์ระดับนี้ต่อให้ไม่สนใจนักศึกษาก็ไม่ผิดอะไร ตอนนี้เถ้าแก่ใหญ่ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้กันหมดไม่ใช่เหรอ?
อาจารย์เอาใจใส่เด็กตัวเองทุกคน ตั้งใจดูแลคอยคิดแทนให้ตลอด เวลาถูกหักหลังถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น เสี่ยวเชี่ยนยิ่งรู้สึกไม่โอเคกับพฤติกรรมของหลิวเสี่ยวฮวามากกว่าเดิม
เธอไปที่คอมพิวเตอร์เสิร์ชหาโพสต์ของหลิวเสี่ยวฮวา ไม่นานก็เจอ เสี่ยวฮวาโพสต์ลงในเว็บบอร์ดที่ดังสุดในประเทศ คนใช้งานเยอะมาก มีคนมาทิ้งข้อความไว้รออัปเดต หลายเว็บบอร์ดอยากเพิ่มยอดคนมาดูบ้างก็แชร์ออกไป เสี่ยวเชี่ยนอ่านผ่านๆ เหมือนกับที่อาจารย์พูดไม่มีผิด จองหองเหลือเกิน
รุ่นพี่เสี่ยวฮวาเขียนให้กำลังใจดึงดูดให้คนมาอ่านมากมาย แถมยังเขียนสรรเสริญตัวเองซะสวยหรู แต่คนที่คร่ำหวอดในวงการมานานอย่างเสี่ยวเชี่ยนแค่ดูก็มองปัญหาออก
ข้อความที่เขียนในโพสต์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ารุ่นพี่เสี่ยวฮวาได้แหกกฎเรื่องการรักษาระยะห่างระหว่างหมอกับคนไข้ ทำตัวสนิทแบบนี้ไม่เหมาะกับการรักษา
โรคภาวะบุคลิกผิดปกติชนิดก้ำกึ่งสร้างปัญหาให้จิตแพทย์มากที่สุดก็คือการเอาแน่เอานอนไม่ได้ในการรักษา ผู้ป่วยกลัวการถูกทอดทิ้งเป็นอย่างมาก ปรารถนาอยากได้ความรักความเอาใจใส่ แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวการได้รับความรัก ระแวงทุกสิ่งบนโลกใบนี้ อารมณ์สองขั้ว ถ้าจิตแพทย์ทำตัวใกล้ชิดมากเกินไปจะเกิดเรื่องได้ง่าย
ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังวิเคราะห์บทความของหลิวเสี่ยวฮวาอยู่นั้นก็มีคนส่งข้อความมาในคิวคิว
กุหลาบผัดเผ็ด: ประธานเชี่ยนอยู่ไหม
เสี่ยวเชี่ยนเปิดอ่าน เป็นแชทกลุ่มคนที่อาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มเดียวกัน คนที่ส่งข้อความมาเป็นรุ่นพี่ผู้หญิง
ปกติไม่มีการไปมาหาสู่ระหว่างลูกศิษย์ด้วยกันเท่าไร เพราะรุ่นพี่คนนี้สนิทกับรุ่นพี่เสี่ยวฮวา พอรู้ว่ารุ่นพี่เสี่ยวฮวาไม่ถูกกับเสี่ยวเชี่ยน รุ่นพี่คนนี้จึงไม่มีเบอร์เสี่ยวเชี่ยน ทำได้แค่ใช้วิธีนี้ติดต่อมา
เหม่ยเหวย: มีอะไรคะ?
กุหลาบผัดเผ็ด: พี่เสี่ยวฮวาเกิดเรื่องแล้ว เธอพอจะช่วยเขาได้ไหม? อย่าบอกเถ้าแก่ใหญ่นะ ขอร้องล่ะ
นิ้วของเสี่ยวเชี่ยนกดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
เหม่ยเหวย: คนไข้ภาวะผิดปกติชนิดก้ำกึ่งของเขาเกิดปัญหาแล้วเหรอคะ?
กุหลาบผัดเผ็ด: หา เธอรู้แล้วเหรอ ใช่ เกิดเรื่องแล้ว คนไข้ของเขากรีดข้อมือตัวเอง พี่เสี่ยวฮวาจะเป็นบ้าแล้ว…
ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนเพิ่งคุยโทรศัพท์กับเถ้าแก่ใหญ่เสร็จ ในใจเธอก็คิดไว้แล้วว่ารุ่นพี่เสี่ยวฮวาเอาเคสนี้ไม่อยู่หรอก แต่ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องไวขนาดนี้
รุ่นพี่คนนี้พิมพ์เรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็วให้เสี่ยวเชี่ยนอ่าน
เสี่ยวเชี่ยนอ่านแล้วก็หน้านิ่ว กรีดข้อมือฆ่าตัวตาย เห็นทีจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว เหตุการณ์ที่เถ้าแก่ใหญ่กลัวที่สุดมาไวกว่าที่เธอคิด