การต่อต้านของผู้ชมค่อยๆ หายไป
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ฉู่เล่อถงทำให้ผู้ชมที่เคยต่อต้านเขาได้หันมายอมรับในตัวของเขา ในฐานะพิธีกรคนหนึ่ง พรสวรรค์ของฉู่เล่อถงนั้นน่ากลัวจริงๆ!
หลังงจากนั้น การแสดงก็ได้ดำเนินไปตามปกติ ผู้ชมสนุกกับมัน แล้วจะยังมีใครที่คิดถึงฟางซินหมิงอีก?
และสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเกิดขึ้น
ผู้ชมมากมายไม่เพียงแต่ไม่ต่อต้านฉู่เล่อถง แต่ยังคิดถึงเขาอย่างมาก
เพราะการที่ฟังเพลงอย่างเดียวมันอาจจะน่าเบื่อ แต่มุขของฉู่เล่อถงเป็นเหมือนกับแก้มชั้นดี ทุกๆ ช่วงพักหลังจากฟังเพลงผู้ชมก็ต้องหัวเราะจนท้องแข็ง ซึ่งมันก็ทำให้บรรยากาศในการแสดงครึกครื้นมากขึ้น
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เฉิงดันถิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอกล้ายืนยันเลยว่า ตราบใดที่ยังดำเนินการแสดงอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อการแสดงจบลง ค่าตัวของฉู่เล่อถงจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน อีกอย่างเขาสามารถก้าวไปสู่เป็นพิธีกรแถวหน้าได้อีกด้วย
คงต้องชื่นชมสายตาที่เฉียบคมของเจียงชื่อจริงๆ!
ในขณะที่เจียงชื่อดูการแสดงอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากภรรยาของเขาติงเมิ่งเหยน
“ฮัลโหล เมิ่งเหยน?”
“เจียงชื่อ เคาท์ดาวคืนนี้คุณจะกลับบ้านไหม?”
“ขอโทษทีนะ ผมยังทำงานอยู่เลย คงกลับบ้านดึกหน่อย คุณมีเรื่องเร่งรีบไหม?”
สายตรงข้ามเงียบไปสักพัก
“ไม่มีเรื่องเร่งรีบอะไรหรอก แค่ถามเฉยๆ งั้นคุณทำงานต่อเถอะ ฉันไม่รบกวนล่ะ”
ตื๊ดดด……
เจียงชื่อมองไปที่โทรศัพท์และรู้สึกประหลาดในอย่างกะทันหัน
เฉิงดันถิงส่ายหัวเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าภรรยาของคุณอยากให้คุณกลับบ้านไปอยู่กับเธอนะ”
“หืม?”
“ก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? ใครที่ไม่อยากให้คนรักอยู่ด้วยในคืนเคาท์ดาวล่ะ?”
เฉิงดันถิงแกล้งไอเบาๆ แล้วเสนอความคิดเห็นว่า “งานที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว ประธานเจียง คุณ……จะกลับบ้านก่อนไหม? ไปอยู่กับครอบครัวบ้างก็ดีนะคะ”
เจียงชื่อครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“อีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยกลับก็แล้วกัน ”
“ทำไมต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงล่ะ?”
เจียงชื่อแสร้งทำเหมือนมีความลับแล้วพูดว่า “ถึงเวลาแล้วคุณจะรู้เอง”
ในอีกฟากหนึ่งของเมือง
บ้านเลขที่ 33 ณ หมู่บ้านอพาร์ทเม้นหมิงเยี่ยน
บ้านตะกูลติงในขณะนี้ อาหารเต็มโต๊ะ และครอบครัวของติงเมิ่งเหยนกำลังนั่งรับปนะทานอาหารด้วยกัน
นอกจากตระกูลติงแล้วยังมีเพื่อนร่วมงานเก่าของติงฉี่ซาน หวางจื้อหรงที่พาลูกสาวและลูกเขยมารับประทานอาหารร่วมกันด้วย
สวีชงลูกเขยของหวางจื้อหรง หลังจากครั้งล่าสุดที่ถูกเจียงชื่อหักหน้า เขาก็รู้สึกไม่พอใจจนถึงทุกวันนี้
ครั้งก่อน เจียงชื่อใช้สมุดโน๊ทของถังไป่หู่ และเชิญหลิงเหยาไปร้องเพลง ซึ่งก็ทำให้สวีชงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ดังนั้น นับตั้งแต่วันนั้น สวีชงก็รอวันที่จะได้แก้แค้นมาตลอด
เขารอแล้วรออีก รอจนถึงวันนี้ ในค่ำคืนแห่งวันส่งท้ายปีเก่า แต่น่าเสียดายที่เจียงชื่อไม่ได้มาด้วย เพราะเขายังทำโอทีอยู่ที่บริษัทอยู่เลย!
สวีชงที่เตรียมคำพูดมากมายไว้ แต่สุดท้ายแล้วเขากลับไม่ได้ใช้มัน
แย่จริงๆ!
เมื่อเห็นติงเมิ่งเหยนวางสายด้วยสีหน้าผิดหวัง สวีชงก็รู้ทันทีว่าพวกเขาพูดว่าอะไรกัน จากนั้นในหัวของเขาก็เกิดไอเดียที่ไม่ดีขึ้น
จากนั้นเขาแกล้งไอแล้วพูดอย่างมีเลศนัยว่า “อะแฮ่มๆ เมิ่งเหยน สามีของคุณเจียงชื่อเงินเดือนแค่ 8,000 ไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมเงินเดือนแค่นี้ยังต้องทำโอทีในคืนส่งท้ายปีเก่าด้วย? มันจะลำบากไปหน่อยไหมครับ?”
หวางเฟิ่งหย่าภรรยาของเขาก็พูดอย่างเห็นด้วยว่า “ทำไงได้ล่ะ? พนักงานระดับล่างก็เป็นแบบนี้แหละ ทำงานที่เหนื่อยที่สุด ยิ่งคนที่ไร้ประโยชน์ ยิ่งต้องลำบากกว่าอยู่แล้ว”
ในขณะนี้ สีหน้าของคนในตระกูลติงก็เริ่มแย่ลง
สวีชงยังคงพูดต่อไป “นี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นะ ยังต้องทำโอทีอยู่ที่บริษัทอีก บ้านช่องไม่กลับ ผมว่าต้องมีเรื่องไม่เข้าใจกันระหว่างสามีภรรยาแน่เลย ถึงต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ ใครจะไปรู้ เผลอๆ กำลังเมาแล้วกอดสาวๆ ซ้ายคนขวาคนอยู่ก็ได้ ว่าไหมครับ?!”