ทุกคนถึงกับเงียบไป
ไม่มีใครส่งเสียอีก
จนกระทั่งผ่านไปยี่สิบวินาที หยางกวางกับเซี่ยจื้อเหม่ยก็หัวเราะขึ้นมา
“ใช้ได้เลยนะ เมิ่งเหยน วิสัยทัศน์ของเธอยอดเยี่ยมมากจริงๆ!”
“ห้าสิบล้าน หึ ๆ ๆ คนอย่างมัน เก็บเงินทั้งชีวิตก็ไม่มีปัญญาซื้อได้หรอกมั้ง?”
หยางกวางส่ายหัวแล้วพูดต่อ “เมิ่งเหยนเอ๋ย ถ้าเธอไม่ได้ตาบอดแล้วยอมแต่งงานกับผม ตอนนี้คุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ตามใจชอบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“แต่เสียดายนะ ไม่มีคำว่า ‘ถ้าหาก’ ในชีวิตจริงหรอก เธอจะเสียใจก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี”
ผู้จัดการร้านก็จงใจถามเจียงชื่อว่า “คุณผู้ชายครับ คุณสะดวกจ่ายเงินสดหรือรูดการ์ดดีครับ?”
ติงเมิ่งเหยนถึงกับทำตัวไม่ถูก
เธอกลัวจะต้องเสียหน้า แต่ดูเหมือนว่ายิ่งกลัวก็ยิ่งต้องเจอ รถราคาห้าสิบล้านแบบนี้ ต่อให้ขายเจียงชื่อไปทั้งคนก็ไม่มีปัญญาซื้อได้หรอก!
“ช่างมันเถอะ”
ติงเมิ่งเหยนดึงแขนของเจียงชื่อเพื่อจะออกไปจากโชว์รูม
“รูดการ์ด”
แม้จะเป็นเสียงพูดเบาๆ เป็นคำพูดเรียบง่ายเพียงสองคำ แต่มันสามารถดึงดูสายตาของทุกคนมองไปที่เจียงชื่อ
รูดการ์ด?
ผู้จัดการร้านคิดว่าตัวเองหูฝาดไป เขาจึงถามซ้ำอีกครั้ง “ว่าไงนะ?”
“ผมบอกว่า รูดการ์ด”
ซึ่งหมายความว่าเจียงชื่อตัดสินใจซื้อรถคันนี้แล้ว!
เขามีปัญญาซื้อรถคันนี้จริงหรือ?
หยางกวางไม่เชื่อและพูดอย่างประชดประชันอีกครั้ง “นี่คุณ อย่าเสแสร้งไปเลย มันไม่ได้อะไรหรอก”
เจียงชื่อยิ้มจางๆ และหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นออกไป
“นี่ครับ การ์ด ห้าสิบล้านใช่ไหม? รูดตอนนี้เลย”
ซึ่งครั้งนี้ก็ทำให้หยางกวางต้องเป็นคนทำตัวไม่ถูก
เพราะฝั่งตรงข้ามหยิบการ์ดออกมาแล้ว และยังบอกให้รูดการ์ดตอนนี้ด้วย ดูจากความมั่นใจแล้ว เปอร์เซ็นต์สูงมากที่เขาจะมีปัญญาซื้อรถเฟอร์รารีคันนี้ได้
หยางกวางยังดูถูกคนอื่นมาตั้งแต่เริ่มแรก แต่ดูเหมือนว่าเป็นการตบหน้าตัวเองซะมากกว่า
“ที่รัก!”
เซี่ยจื้อเหม่ยก็ตระหนักด้วยว่าสถานการณ์ชักไม่ดีเข้าแล้ว ถ้าเจียงชื่อมีเงินห้าสิบล้านซื้อรถคันนี้จริงๆ พวกเธอสามีภรรยาทั้งสองจะเอาหน้าไปไว้ไหนอีก?
แต่ในเวลานี้ หยางกวางเดินเข้ามาและพูดว่า “ผมจะซื้อรถคันนี้”
หืม???
สายตาจองทุกคนมองไปที่หยางกวางและสงสัยว่าครั้งนี้เขาจะมาไม้ไหนอีก?
ซึ่งความคิดของหยางกวางนั้นง่ายมาก ไม่ว่าจะยังไง วันนี้เขาจะปล่อยให้คน ‘เสแสร้ง’ อย่างเจียงชื่อสำเร็จไม่ได้ ถ้าหากเจียงชื่อซื้อรถคันละห้าสิบล้านนี้ไป หยางกวางอย่างเขาต้องไม่เหลือศักดิ์ศรีอย่างแน่นอน
ดังนั้น ต่อให้เขาต้องเป็นคนซื้อรถคันนี้แทน เขาก็จะปล่อยให้ถึงมือของเจียงชื่อไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ด้วยวิธีนี้ เขาจะอ้างได้ว่ารถที่เขาซื้อนั้นแพงกว่ารถของอีกฝ่าย และเขาก็จะรวยกว่าเจียงชื่ออีกด้วย
เงินห้าสิบล้านสำหรับหยางกวางนั้นไม่ใช่เงินก้อนเล็กเลย
แต่ถ้าใช้เงินทั้งหมดที่มีก็อาจจะพอซื้อได้
ในเวลานี้ติงเมิ่งเหยนขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจว่า “รถคันนี้เราเห็นก่อนนะ เรื่องอะไรคุณถึงซื้อก่อนได้?”
หยางกวางหัวเราะและตอบว่า “ผู้จัดการครับ ไหนคุณบอกมาสิ๊ ว่ารถคันนี้คุณจะขายให้ใคร?”
ผู้จัดการร้านมองไปที่เจียงชื่อแล้วมองไปที่หยางกวางและได้บทสรุปอย่างรวดเร็ว
“ต้องขายให้คุณหยางอย่างแน่นอนสิครับ”
“นี่คุณ!!!” ติงเมิ่งเหยนพูดด้วยความโกรธ “เรื่องอะไร? ฉันเป็นคนเลือกก่อนนะ!”
ผู้จัดการร้านยิ้มพูดอย่างเย้ยหยันว่า “คุณเลือกก่อนแล้วทำไมครับ? มีข้อบังคับของรัฐหรือข้อบังคับทางกฎหมายบันทึกไว้ไหมครับ?”
เป็นคำพูดที่ไร้ซึ่งเหตุผลจริงๆ
ติงเมิ่งเหยนมองออกว่าผู้จัดการร้านกับหยางกวางไม่มีทีท่าว่าจะยอมเธออย่างแน่นอน และต่อให้เธอพูดมากไปกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
หยางกวางยักไหล่ “เมิ่งเหยน คุณโกรธเหรอ? แต่ไม่มีประโยชน์หรอกนะ ใครให้ผู้ชายของคุณไร้น้ำยาแบบนี้ล่ะ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”