แต่ความจริงนั้นเขาคิดผิดไปแล้ว เพราะซุนจ้ายเย้นไม่ได้เป็นคนไม่รักชีวิตของสหายของตน แต่ไม่รักชีวิตของพวกเขามากกว่า
เพราะในสายตาของซุนจ้ายเย้นนั้น พวกเขาไม่ใช่สหายของเขาเลย
เขาอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้พวกเขาตายด้วยซ้ำ
เมื่อเดินไปถึงที่กรงเหล็กนั้น ซุนจ้ายเย้นมองไปที่เจียงชื่อ และเจียงชื่อก็มองไปที่เขา
ซุนจ้ายเย้นยิ้มอย่างขมขื่น “ผมยังจำได้ว่าเราเพิ่งช่วยเหลือผู้คนด้วยกันในวันนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าไม่กี่วันต่อมาเราก็ต้องเป็นศัตรูกันแล้ว ช่างน่าเสียใจจริงๆ นะครับ”
เจียงชื่อพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คนอย่างคุณไปยุ่งเกี่ยวกับซุนหย่งเจินได้ยังไงกัน?”
ซุนหย่งเจินยิ้มพูด “เหอะๆ เพราะเขาคือซุนจ้ายเย้น น้องชายแท้ๆ ของผมไงล่ะ คงคิดไม่ถึงสินะ?”
เจียงชื่อส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
“ถึงว่า”
“แยกผมออกจากคนของผม ตัดขาดช่องทางการติดต่อของผม จากนั้นให้คนแปดคนมารับเคาะ แล้วยังให้ซีเหมินจุ้นออกมาเป็นเหยื่อล่อในตอนที่ผมขาดสติอีกด้วย”
“แล้วผมจะไม่ติดกับได้ยังไงล่ะ?”
“แผนการที่ฉลาดหนักแหลมแบบนี้ คงไม่ใช่คนโง่อย่างซุนหย่งเจินจะคิดได้อย่างแน่นอน”
ซุนหย่งเจินขมวดคิ้ว แม้จะอารมณ์เสียมาก แต่……ดูเหมือนว่าสิ่งที่เจียงชื่อพูดนั้นเป็นความจริง
เขาจึงได้แต่ยิ้มและไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในโลกใบนี้แทบจะไม่มีคนฉลาดกว่าซุนจ้ายเย้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาไม่ฉลาดเท่าซุนจ้ายเย้น
จากนั้นซุนจ้ายเย้นหยิบกล่องเถ้ากระดูกออกมาและพูดว่า “เจียงชื่อ คุณเป็นคนดีนะ ฉะนั้นการที่ต้องฆ่าคุณนั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายของผมจริงๆ แต่มีเรื่องหนึ่งที่คุณสามารถวางใจได้คือ เถ้ากระดูกที่ถูกเททิ้งก่อนหน้านี้ที่จริงแล้วเป็นเถ้ากระดูกของสุนัขป่า ส่วนเถ้ากระดูกของน้องชายคุณเจียงโม่ยังอยู่ที่ผม”
“หลังจากคุณตายแล้ว ผมจะฝังเถ้ากระดูกของคุณไว้กับน้องชายคุณ ให้พวกคุณได้อยู่ด้วยกัน”
“นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำเพื่อคุณได้”
“ถือว่าเป็นการตอบแทนสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคุณก็แล้วกันนะ”
เมื่อรู้ว่าเถ้ากระดูกของน้องชายยังอยู่ เจียงชื่อก็รู้สึกโล่งอก ความเกลียดชังในใจก็ค่อยๆ จางลง และแววตาของเขาก็กลับอยู่ภาวะที่มีสติอีกครั้ง
ซุนหย่งเจินส่ายหัวแล้วชักปืนออกมาจากเอวของเขา
จากนั้นขึ้นลำกระสุนและพร้อมยิง
“เอาล่ะ เลิกไร้สาระได้แล้ว”
“เจียงชื่อ ชีวิตคุณจบลงเพียงเท่านี้ ชาติหน้าทำตัวดีๆ บ้าง อย่ามาท้าทายซุนหย่งเจินคนนี้อีก”
“เพราะคุณ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมเลย!”
ในขณะที่เขากำลังจะลั่นไก ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจากด้านหลัง
“ประธานซุนครับ แย่แล้วครับ มีคนบุกเข้ามาจากทางเข้าทั้งสองทางเลยครับ!”
“ไงนะ?” ซุนหย่งเจินถามด้วยความประหลาดใจ “มากันกี่คน!”
“สองคนครับ เข้ามาทางทิศเหนือและทิศใต้ ทิศละคนครับ”
ซุนหย่งเจินถอนหายใจ “ตกใจหมด ก็แค่สองคน หาคนไปจัดการพวกมันก็สิ้นเรื่อง”
“แต่ประธานซุนครับ ดูเหมือนสองคนนั้นจะพอมีฝีมือเลยนะครับ”
“เก่งแค่ไหนก็แค่คนสองคน เรียกทุกคนในโรงงานออกไปให้หมด แค่สองคนจะสู้ไม่ไหวได้ยังไง?”
“รับทราบครับ”
ลูกน้องเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ซุนจ้ายเย้นได้แต่ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เจียงชื่อ “ผมตัดการเชื่อมต่อของคุณแล้วนะ ทำไมยังมีคนตามมาถึงที่ได้?”
เจียงชื่อยิ้มจางๆ และแลบลิ้นออกมา
มีชิปอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเท่าเล็บมืออยู่ที่ปลายลิ้นของเขา มันคือเครื่องติดตาม!
ดูเหมือนว่าเจียงชื่อได้ระบุตำแหน่งของเขาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว และลูกน้องของเขาก็รู้ตำแหน่งนี้อย่างชัดเจนแล้วด้วย
ซุนจ้ายเย้นขมวดคิ้วแน่นขึ้น เขาเริ่มรู้สึกไม่ดี ดูเหมือนว่า……เจียงชื่อตั้งใจมาติดกับที่นี่?