เมื่อสินค้าประมูลถูกนำออกมาเรื่อย ๆ บรรยากาศของงานประมูลก็ครึกครื้นมากขึ้น
หลังจากทั้งห้ารายการแรกถูกประมูลไปแล้ว พิธีกรก็นำรายการประมูลชิ้นที่หกออกมาให้ทุกคนดู นั่นก็คือสร้อยคอหยก
สิ่งสำคัญคือสร้อยคอนี้ยังมีความหมายที่ลึกซึ้ง ในตำนานเล่าขานกันว่าชายชราวัย 90 คนหนึ่งได้ซื้อให้ภรรยาของเขาในสมัยหนุ่มๆ แต่หลังจากภรรยาเสียชีวิตแล้ว ชายชราคนนั้นก็ได้ขายสร้อยคอนี้ออกไป
ต่อมาสร้อยคอเส้นนี้ได้เปลี่ยนเจ้าของไปหลายต่อหลายคน และในที่สุดก็ตกอยู่ในมือขององค์กรฟ้าน้ำ
นี่คือสร้อยคอมรกตที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก
ราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้าน
ซึ่งการเพิ่มราคาในแต่ละครั้งจะต้องไม่น้อยกว่า 5 แสน
เมื่อเห็นสร้อยคอหยกเส้นนี้และหลังจากฟังคำอธิบายของมันแล้ว เจียงชื่อก็ตกตะลึงไปสิบกว่าวินาที
ทำไมสร้อยเส้นนี้ถึงคุ้นเคยนัก? เรื่องราวของมันก็เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน?
เมื่อนึกคิดอย่างละเอียดแล้ว เขาก็จำได้ว่ามันเป็นสร้อยคอที่เขาซื้อให้กับภรรยาของเขาติงเมิ่งเหยนในการเดินทางไปทำธุระกับเธอครั้งแรก
แต่สร้อยคอเส้นนั้นอยู่กับติงเมิ่งเหยนนะ แล้วทำไมถึงเปลี่ยนเจ้าของไปหลายต่อหลายคนแล้วมาเป็นขององค์กรฟ้าน้ำได้?
สรุปได้อย่างเดียวคือสร้อยคอที่อยู่ตรงหน้าเส้นนี้เป็นของปลอม
เจียงชื่อส่ายหัวอย่างเหลือทน ดูเหมือนว่าสินค้าในมือขององค์กรฟ้าน้ำก็ไม่ได้เป็นของแท้ทั้งนั้น สินค้าจะดีหรือไม่ยังต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล
เนื่องจากเป็นสร้อยคอที่สื่อถึงความรัก มันจึงกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนมากมายในงานประมูลแห่งนี้
แม้พวกเขาไม่สนใจสร้อยคอหยก แต่ไม่มีใครอยากปฏิเสธที่จะซื้อสร้อยคอแบบนี้ให้กับคนรักเป็นของขวัญอยู่แล้ว
รวมไปถึงสือเหวินปิ่ง
เขาหันหลังมองไปที่เจียงชื่อแล้วพูดอย่างเสียดสีว่า “นี่มันสร้อยคอที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักนะ มันเป็นพรที่จริงใจที่สุดสำหรับความรัก แล้วคุณไม่คิดจะซื้อให้คนที่คุณรักบ้างเหรอ?”
เจียงชื่อได้แต่ยิ้มตอบ
เบลลิสก็พูดอย่างเสียดสีว่า “ที่รัก อย่าทำให้คนอื่นลำบากใจสิ ดูสภาพอย่างเขาแล้วจะมีปัญญาซื้อของขวัญราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไงคะ?”
สือเหวินปิ่งลูบผมของเบลลิสเบาๆ “เจ้าหญิงน้อยของผม ผมจะซื้อสร้อยคอเส้นนี้ให้คุณเองนะ!”
ในขณะที่พูดอยู่ เขายังไม่ลืมที่จะมองไปที่ซินยุ่นแล้วแสดงสีหน้าประชดประชัน
ที่ผ่านมาสือเหวินปิ่งเข้าใจผิดมาตลอดว่าซินยุ่นเป็นแฟนของเจียงชื่อ ดังนั้นเขาจึงอิจฉาเจียงชื่อและยังแสดงความไม่พอใจกับซินยุ่นที่เธอ ‘เลือกผิดคน’
เขาต้องการพิสูจน์ในทุกด้านว่าเขานั้นดีกว่าเจียงชื่อ
แต่อันที่จริง ความสัมพันธ์ของเจียงชื่อกับซินยุ่นก็ไม่ได้มีอะไรที่มากไปกว่านี้
จากนั้นสือเหวินปิ่งยกมือขึ้นและเสนอราคาออกไป “ผมให้ สี่ล้านห้าแสน”
พิธีกรพยักหน้าตอบ “สุภาพบุรุษท่านนี้ยินดีจ่ายให้กับสร้อยคอหยกเส้นนี้ในราคาสี่ล้านห้าแสนแล้ว ไม่ทราบว่ามีท่านไหนยินดีจะเสนอราคาที่สูงกว่านี้ไหมครับ?”
ที่ประชุมเงียบลงทันที
ซื้อสร้อยคอเส้นเดียวในราคาสี่ล้านห้าแสน มันอาจจะแพงไปหน่อย รวมไปถึงคนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจมันอยู่แล้ว ดังนั้นราคาที่แพงขึ้นจึงไม่มีใครสนใจอีก
แต่แล้ว ในมุมห้องก็มีเสียงที่แผ่วเบาดังขึ้น
“ผมให้ หกล้าน”
เป็นเสียงของเจียงชื่อ!
สายตาของทุกคนกวาดมองไปที่เขาทันที
ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือซินยุ่น หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรง เป็นไปได้ไหมที่เจียงชื่อจะซื้อสร้อยคอเส้นนี้เพื่อแสดงความรักกับเธอ?
ไม่ ไม่มีทาง เจียงชื่อมีภรรยาแล้ว
แต่……ถ้าเจียงชื่อทรยศต่อภรรยาของเขาเพื่อแสดงความรักกับเธอล่ะ?
เธอจะยอมรับ?
หรือจะปฏิเสธดี?
ในขณะที่เจียงชื่อไม่ได้พูดอะไร ซินยุ่นก็สับสนกับความรู้สึกของตัวเอง สำหรับผู้หญิงที่เย็นชาอย่างเธอนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายคนหนึ่งมาทำให้เธอหวั่นไหว
สือเหวินปิ่งขมวดคิ้วแล้วหันมองไปที่เจียงชื่อ “ไอ้หนู แกหมายความว่าไง?”