จบแล้ว มันจบสิ้นแล้ว
“ไม่ จะทิ้งหุ้นของบริษัทไปไม่ได้”
ติงเฟิงเฉิงมองไปยังพี่ไห่ด้วยความตกใจ “เอาหุ้นของผมคืนมานะ เอาคืนมา!”
“ต้องขออภัยด้วยครับคุณชายติง ถ้าคุณอยากได้หุ้นคืน ก็ต้องเอาเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านมาแลกครับ”
“หนึ่งพันห้าร้อยล้าน? แต่คุณให้ผมมาแค่ห้าร้อยล้านเองนะ”
“อดีตมันก็เป็นเรื่องของอดีต ตอนนี้มันก็เป็นเรื่องของตอนนี้ อีกอย่าง ต่อให้เป็นแค่ห้าร้อยล้าน แล้วคุณมีปัญญามาจ่ายมั้ยล่ะ?”
ติงเฟิงเฉิงถึงกับช็อกไปเลย
เขา ไม่มีปัญญาจ่าย
ติงเฟิงเฉิงในตอนนี้เหมือนกำลังตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง มันหนาวไปจนถึงกระดูก หมดแรงไปทั้งตัว
เขามีความรู้สึกเหมือนกับตัวเองโดนหลอก
พอมาคิดดูดีๆ รู้สึกเหมือนเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการที่ตัวเองขาดสติไปชั่วขณะเท่านั้น ไม่มีใครบังคับให้เขาทำ
พี่ไห่ไม่ได้เป็นคนบังคับให้เขาเอาหุ้นไปจำนองสักหน่อย
ตุบ
ติงเฟิงเฉิงที่เป็นชายชาตรี คุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กน้อย เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งใจ
ในคืนวันนั้น ติงเฟิงเฉิงไม่รู้ว่าตัวเองนั้นออกมาจากเมืองเล่นได้ยังไง เขารู้แค่ว่าเหมือนท้องฟ้ากำลังจะพังทลายลงมาเท่านั้น
เนื่องจากติงเฟิงเฉิงไม่ค่อยมีสติ ติงจื่อยวี่จึงพาติงเฟิงเฉิงกลับไปคนเดียว ส่งเขากลับไปบำรุงที่บ้าน
ติงเมิ่งเหยนกับเจียงชื่อโบกแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วกลับบ้านอย่างไม่พอใจ
ภายในรถ
ติงเมิ่งเหยนยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ “ทั้งๆ ที่วันนี้เราออกมาเที่ยวเล่นแท้ๆ แล้วทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”
เจียงชื่อตอบไปอย่างเรียบเฉย “แต่ออกมาเที่ยวเล่นเหรอครับ? ตั้งแต่เริ่มมันก็เป็นแผนที่ติงเฟิงเฉิงวางไว้แล้ว เขาอยากใช้เมืองเล่นดึงเงินกับหุ้นของคุณให้เข้าไปอยู่ในแผนด้วย แต่ไม่ว่าจะวางแผนยังไง เขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะโดนเล่นงานไปด้วย”
ติงเมิ่งเหยนขมวดคิ้วแล้วพูดไปว่า “คุณคะ คุณว่าทำไมดวงของพี่รองคืนนี้ถึงได้ซวยขนาดนั้นคะ? หรือจะบอกว่าฝีมือการเล่นไพ่ของคุณมันสุดยอดมากๆ คะ? แล้วทำไมตอนท้ายพวกเราถึงได้ชนะตลอดเลยคะ?”
ปัญหานี้ เจียงชื่อได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว
เขาตอบไปว่า “ไม่ใช่ว่าฝีมือการเล่นไพ่ของผมดีหรอก ความจริงนอกจากไพ่สามใบแล้ว ไพ่แบบอื่นๆ ผมก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรเลย แต่ก็ยังชนะมาได้ตลอด”
“แต่คุณสังเกตเห็นรึเปล่า ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่ชนะ คนอื่นๆ ก็ชนะเหมือนกัน”
“มีแค่ติงเฟิงเฉิงเท่านั้นที่แพ้อยู่คนเดียว”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้า “รู้สึกว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย นอกจากพี่รองแล้ว คนอื่นต่างก็โชคดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็ยังชนะได้ตั้งหลายแสน”
คนหนึ่งเสียเงิน ส่วนคนอื่นๆ ได้กันหมด นี่มันต้องมีปัญหาแน่นอน
หลังเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเจียงชื่อก็พูดออกมาอย่างจริงจังและลึกซึ้งว่า “ยังมีอีกจุดหนึ่ง เดิมทีตอนที่ติงเฟิงเฉิงเล่นจนเสียสามสิบล้านหมดนั้นเรื่องมันก็ควรจบได้แล้ว ต้องรีบหยุดยั้งสูญเสียในทันที มันก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนนั้นติงจื่อยวี่กลับพูดเสริมขึ้นมา จนทำให้ติงเฟิงเฉิงเอาหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ออกมาจำนอง”
ติงเมิ่งเหยนจ้องหน้าเจียงชื่อด้วยความตกใจ “คุณคะ ที่คุณจะสื่อคือ ……พี่ใหญ่เธอตั้งใจวางกับดักใส่พี่รองอย่างนั้นเหรอคะ?”
“มีความเป็นไปได้มาก”
“ไม่หรอกมั้งคะ? ที่ผ่านมาสองคนนั้นก็เป็นดั่งกลิ่นเหม็นสาบที่หมกอยู่ด้วยกัน เป็นคนชั่วที่สุมหัวอยู่ด้วยกัน เป็นหมาป่าที่คอยร่วมมือกัน เป็นมดกับหนูที่อยู่ในหม้อเดียวกัน เป็นตั๊กแตนที่เกาะอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน ไม่มีทางที่จะทำร้ายกันได้หรอกมั้ง?”
“อันนี้ผมก็ไม่มั่นใจนะ บางที ติงเฟิงเฉิงอาจจะไปทำอะไรให้ติงจื่อยวี่โกรธเข้าก็ได้ ?”
“มันจะเป็นไปได้เหรอคะ?”
“มีความเป็นไปได้สูงเลยครับ” เจียงชื่อบอก “ถ้าผมเดาไม่ผิดนะ จริงๆ เราไม่ได้ดวงดีหรอก หรือไม่ใช่เพราะติงเฟิงเฉิงดวงซวย ที่เขาแพ้ขนาดนั้น ต้องเป็นเพราะพี่ไห่ของเมืองเล่นโกงแน่นอน หรือก็คือการโกงของมืออาชีพนั่นเอง!”
พี่ไห่กับติงจื่อยวี่ร่วมมือกัน หลอกเอาหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของติงเฟิงเฉิงไป
พอคิดถึงตรงนี้ ทั้งคู่ก็ตัวสั่นขึ้นมาโดยที่ไม่ได้หนาว
ตอนแรกยังคิดว่าติงจื่อยวี่กับติงเฟิงเฉิงเป็นพวกเดียวกันซะอีก และติงเมิ่งเหยนก็เป็นเป้าหมายร่วมกันของพวกเขา แล้วใครจะไปคิดล่ะว่าพวกเขาจะหันมากัดกันเองซะได้?
ฝนที่ตกมาเป็นสายเลือด กำลังจะมาเยือนแล้ว