สองวันผ่านไปรวดเร็วราวกะพริบตา อีกไม่นาน โครงการประมูลของกรมโยธาธิการและผังเมืองสำหรับพื้นที่ในส่วนรกร้างของเมืองด้านเหนือก็จะถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
วันนี้ ติงเฟิงเฉิงจัดการตัวเองอย่างสะอาดสะอ้าน สวมชุดสูทเรียบร้อยดูภูมิฐาน ให้ความรู้สึกว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูมีความกระตือรือร้นมาก
เขาเดินไปที่ประตูหน้า ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกเขาไว้
“เฟิงเฉิง?”
ติงเฟิงเฉิงหันกลับไปมอง จึงพบว่าคนที่มาไม่ใช่คนนอกที่ไหน แต่เป็นพี่สาวคนโตของเขา – ติงจื่อยวี่!
ทันทีที่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้ ติงเฟิงเฉิงก็โกรธจัด
ที่ตระกูลติงเดินมาจนถึงจุดนี้ ติงจ้งต้องถูกลอยแพจนว่างเปล่าไม่เหลืออะไร ทั้งหมดเป็นเพราะแผนดักของติงจื่อยวี่ทั้งนั้น ผู้หญิงที่ร้ายกาจไม่ต่างจากงูพิษแมงป่องพิษแบบนี้ ควรไสหัวไปตายซะให้พ้นๆ จะเป็นการดีที่สุด
ติงจื่อยวี่ถอดแว่นกันแดด แล้วกวาดสายตาขึ้นๆ ลงๆ มองสำรวจติงเฟิงเฉิงไปรอบหนึ่ง
“โย่ว! วันนี้แต่งตัวเหมือนมนุษย์มนาเค้าได้สักทีนะ ทำไม? แกก็มาร่วมประมูลงั้นเหรอ?”
“ใช่”
“กลับไปซะเถอะ เรื่องประมูลในนามตระกูลติงน่ะ ฉันจะรับผิดชอบเอง ไม่ต้องให้ไอ้สมองหมูอย่างแกยื่นมือมาสอดหรอก!”
ติงเฟิงเฉิงโกรธจัดจนทะลุปรอทแล้ว “เธอว่าฉันเป็นอะไรนะ?!”
“บอกว่าแกมันสมองหมูไง ทำไม? ไม่ยอมรับงั้นเหรอ?” ติงจื่อยวี่พูดด้วยใบหน้าแฝงรอยยิ้มเย้ยหยันว่า: “ถ้าไม่ใช่ไอ้สมองหมู แกจะเสียหุ้นเพราะการพนันได้ยังไง? ถ้าไม่ใช่ไอ้สมองหมู จะขุดหลุมดักปู่ตัวเองจนตกลงไปเฉาตายแบบนี้เหรอ? แกน่ะ มันก็เป็นได้แค่โคลนหย่อมหนึ่งที่ฉาบยังไงก็ไม่ติดผนัง ไร้ความสามารถทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง ไสหัวกลับไปซะเถอะ!”
คำพูดแบบนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนมาได้ยิน ก็คงแทบเป็นบ้าสติแตกกันทั้งนั้น
ถ้าเป็นติงเฟิงเฉิงคนก่อน ไม่แน่ว่าเขาอาจโดดเข้าไปหาเรื่องทะเลาะด้วยแล้ว เขาคิดอยากจะอัดติงจื่อยวี่ให้น่วมสักยกจริงๆ
แต่ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงเจียงชื่อขึ้นมาได้
ถ้าเป็นเจียงชื่อ เขาจะทำยังไง?
แน่นอนว่าเจียงชื่อจะต้องเมินคำพูดเหล่านี้ แล้วยิ้มจางๆ อย่างผ่อนคลาย ทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไรเลย แล้วจดจ่อกับเรื่องที่ตัวเองต้องทำเป็นสำคัญ
“ใช่ ! ฉันจะถูกผู้หญิงคนนี้วางแผนดักจนทำพลาดไม่ได้เด็ดขาด”
“ฉันต้องมีสมาธิจดจ่อกับเรื่องสำคัญของตัวเอง”
เขาเข้ามาเพื่อร่วมประมูล ไม่ใช่มาหาเรื่องทะเลาะ ถ้าเขาลงไม้ลงมือที่นี่ เขาก็จะถูก รปภ. จับโยนออกไปทันที แล้วการประมูลครั้งนี้ที่เขาหมายตาไว้ก็จะเจ๊งไม่เป็นท่า
แยกแยะลำดับความสำคัญ รู้จักอดทนอดกลั้น!
ติงเฟิงเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ” ยายแก่หนังเหี่ยวหน้าเหม็นเอ๊ย! วันนี้ฉันมาประมูลในนามของบริษัทติงเหอ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทหลักของพวกแกซะหน่อย แกไม่มีสิทธิ์มาควบคุมฉัน!”
“ยายแก่หนังเหี่ยวหน้าเหม็น?”
ติงจื่อยวี่กัดฟันกรอด ฝืนอดทนต่อความโกรธเกรี้ยว
เธอยิ้มเย้ยหยันพลางพูดว่า: “บริษัทติงเหอ ? บริษัทที่มีแต่เปลือกกับพนักงานแค่เจ็ดแปดคนนั่นน่ะเหรอ? ฮะๆ เฟิงเฉิง แกนอ้ยวาเหม็นเอ๊ยทติงเหอกยกจริงๆสุดแล้วคิดว่าคนของกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นคนโง่กันหมดรึไง? ถึงจะยอมให้โครงการที่สำคัญขนาดนี้กับบริษัทที่มีแค่เปลือกน่ะ? ยังมีอีกนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่แกต้องไปพึ่งพาบริษัทที่ติงเหมิงเหยนทิ้งไว้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดน่ะ? นี่มันออกจะเป็นเศษสวะไร้ประโยชน์เกินไปหน่อยล่ะมั้ง?”
ติงเฟิงเฉิงยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “สวะไม่สวะมันก็ไม่ได้ไปหนักหัวใครนี่ ยายแก่หนังเหี่ยวใกล้ตายวัยหมดประจำเดือนอย่างป้าน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเหอะ”
พูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินออกไปทันที
ติงจื่อยวี่โกรธจนกระทืบเท้าเร่าๆ
ความแตกต่างที่มากที่สุดระหว่างติงเฟิงเฉิงกับเจียงชื่อคือ ” สกิลการต่อปากต่อคำ” เจียงชื่อสามารถยั้งใจไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียวได้ แต่ติงเฟิงเฉิงทำไม่ได้ แม้ว่าเขาจะอยากข่มกลั้นความโกรธแค่ไหน แต่กับเรื่องการต่อปากต่อคำเท่านั้น ที่เขาจะไม่มีวันยอมแพ้อีกฝ่ายเด็ดขาด
ทั้งสองเดินตามหลังกันเข้าประตูหลักไป ต่างคนต่างก็นั่งลงในตำแหน่งที่นั่งของตน ภายใต้การแนะนำของผู้ดูแลภายในงาน
มีบริษัทมากกว่าสิบบริษัท ที่ต่างพากันทยอยตบเท้าเข้ามาร่วมประมูล แต่ละบริษัทต่างก็มาจากตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจ ทั้งยังทรงพลังในแวดวงของวิสาหกิจขนาดใหญ่ จะเห็นได้ชัดมากว่า แต่ละบริษัทได้เตรียมการมาอย่างเพียบพร้อมจริงๆ
ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ติงเฟิงเฉิงรู้สึกขาดความมั่นใจลงไปทุกทีๆ
รองผู้อำนวยการสาขากรมโยธาธิการและผังเมือง จางถงเหวินพูดขึ้นว่า “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทุกท่านมาเข้าร่วมประมูลโครงการในวันนี้….”
หลังกล่าวคำต้อนรับตามพิธีการเสร็จสิ้นแล้ว ก็เข้าสู่หัวข้อสำคัญโดยตรงทันที
จางถงเหวินพูดว่า: “เรื่องอื่นที่นอกเหนือจากความจำเป็นขอไม่กล่าวถึง ตอนนี้โปรดแสดงความคิดเห็นของคุณตามลำดับหมายเลข ให้อธิบายแผนการเสนอราคาที่จะประมูลที่พวกคุณได้จัดเตรียมมาแล้วอย่างละเอียด โดยเริ่มจากหมายเลข 1″