เจียงชื่อทานอาหารหนึ่งคำ แล้วเอ่ยพูดอย่างเรียบๆ “ถ้าหากเป็นสองเดือนก่อน ผมคงแนะนำให้เปิดร้านสาขาที่มีขนาดใหญ่ก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ ไม่ค่อยเหมือนเดิมสักเท่าไหร่”
“ทำไมไม่เหมือนเดิม?”
“มีร้านร้านหนึ่งได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำไปแล้ว แย่งตลาดไปก่อนแล้ว ดังนั้นที่คุณมาเขตเจียงหนานคราวนี้ ไม่ใช่มาเตรียมการ แต่ควรจะมาแย่งตลาดต่างหาก แย่งตลาดมาจากมือของคนอื่น”
ฉีเจิ้นเอ่ยถาม “ร้านไหนเข้ามาก่อนงั้นเหรอ?”
“เครื่องประดับเส้ายิน”
เจียงชื่อจำได้ขึ้นใจ คราวก่อนตอนที่ไปงานฝังศพ เถ้าแก่ร้านเครื่องประดับเส้ายินได้ท้าทายอย่างเปิดเผย โดยให้คนมาขวางทางไว้
แค้นครั้งนี้เจียงชื่อยังไม่ลืม
ต่อมาเจียงชื่อได้ให้คนไปสืบดู เถ้าแก่คนปัจจุบันของร้านเครื่องประดับเส้ายินเป็นนักธุรกิจที่ชื่อ “เหวยซือ” คนคนนี้มีสถานะที่พิเศษมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้กระจายธุรกิจไปทั่วทุกมุมโลก ช่วงนี้จู่ๆ เพิ่งมาโผล่ที่เขตเจียงหนาน
เจียงชื่อไม่รู้ว่าตัวเองไปล่วงเกินผู้ชายที่ชื่อเหวยซือได้ยังไง แต่มีสิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้เลย นั่นคือเหวยซือไม่เป็นมิตรกับเขาอย่างมาก!
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยวนหยาเหว่ยต้องการแสดงความเก่งของตัวเอง จึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ประธานฉีครับ ที่จริงผมได้ตรวจสอบมาแล้ว เหวยซือคนนี้ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย สินค้าของพวกเขาเป็นสินค้าราคาถูก ไม่ได้มีคุณภาพสูงเหมือนสินค้าของพวกเรา ไม่ต้องกังวลเลยสักนิด อะไรที่ควรทำก็ทำไปเถอะครับ”
ฉีเจิ้นขมวดคิ้ว “หยาเหว่ย ทำไมคุณถึงได้ดูถูกศัตรูอย่างนี้? ในเมื่อเจียงชื่อเอ่ยถึง แสดงว่าต้องมีเหตุผลแน่นอน”
หยวนหยาเหว่ยไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทำไมเจียงชื่อพูดอะไรก็ถูกไปหมด เขาพูดอะไรก็ผิดไปหมดล่ะ?
ทำไมฉีเจิ้นถึงได้ให้ความสำคัญกับเจียงชื่อขนาดนั้น?
หึ
หยวนหยาเหว่ยทำเป็นหน้าไหว้หลังหลอก ตั้งใจขอโทษ จากนั้นแสร้งทำเป็นสอบถามเจียงชื่อ “หมอเทวดาเจียง ไม่ทราบว่าขั้นต่อไปคุณคิดจะทำยังไงงั้นเหรอ?”
เจียงชื่อตอบตามความจริง “ข่าวใหม่ล่าสุดคือ พื้นที่รกร้างของเมืองตรงนั้นจะสร้างศูนย์การค้าขึ้น ต่อไปจะกลายเป็นจุดเด่นของเขตเจียงหนาน สิ่งที่พวกเราต้องทำ ก็คือติดต่อกับผู้สร้าง แย่งทำเลดีๆ มาให้ได้ เพื่อมีที่ของตัวเองในศูนย์การค้า!”
ฉีเจิ้นตกตะลึงทันที
“หืม มีเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”
“งั้นก็เยี่ยมไปเลย ขอแค่มีร้านของพวกเราอยู่ในศูนย์การค้า จะต้องตั้งหลักได้อย่างแน่นอน”
หยวนหยาเหว่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน ที่จริงข่าวนี้เพิ่งแพร่ออกมาได้ไม่นาน คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มากนัก
เขาก็ทุ่มแรงไปมากกว่าจะได้รู้ข่าวนี้
คิดไม่ถึงว่าเจียงชื่อจะรู้ด้วยเหมือนกัน ดูท่าทาง จะดูถูกไอ้หมอนี่ไม่ได้แล้ว ไอ้หมอนี่ถือว่ามีศักยภาพอยู่บ้าง
แต่ว่า รู้ก็ส่วนรู้ ส่วนจะสามารถหาทำเลดีๆ ในราคาที่เหมาะสมได้หรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
หยวนหยาเหว่ยหัวเราะออกมา แล้วพูดว่า “ประธานฉี บอกคุณตามตรงเลยนะครับ ผมได้ส่งคนไปติดต่อผู้ที่ประมูลงานนี้ได้เอาไว้แล้ว ถ้าหากเป็นไปได้ ผมอยากเชิญเขามาทานข้าวกับพวกเรา ทุกคนจะได้หารือกันต่อหน้า ดีไหมครับ?”
ฉีเจิ้นดีใจเป็นอย่างมาก
ถ้าหากสามารถเชิญหัวหน้าของฝ่ายผู้สร้างมาได้ นั่นถือว่าเป็นข่าวดีที่สุดไปเลยล่ะ
“เชิญ เชิญเดี๋ยวนี้เลย”
“รับทราบครับ!”
หยวนหยาเหว่ยโทรศัพท์ไปหาลูกน้อง ให้เชิญผู้ที่ประมูลการสร้างศูนย์การค้าชนะมาทันที
หลังวางฝ่าย เขาเชิดหน้า มองเจียงชื่อด้วยท่าทีอวดดี
ข่าวสารเขารวดเร็วแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
ในโลกธุรกิจ ต้องอาศัยเส้นสาย เขาสามารถเชิญผู้ชนะประมูลอันดับหนึ่งมาได้ แล้วเจียงชื่อทำได้ไหมล่ะ?
ตอนนี้ หยวนหยาเหว่ยรู้สึกดีอกดีใจมาก ในที่สุดตัวเองก็รู้สึกได้หน้าต่อหน้าฉีเจิ้นสักที!