ติงเฟิงเฉิงวิ่งไปที่ประตูยังตามไปด่าอีกสองสามคำ ถึงจะยอมกลับไปที่บ้านอย่างพึงพอใจ
“นี่มันอะไรกัน?”
“มาขอความช่วยเหลือ ยังวางตัวหยิ่งคิดว่าเป็นจักรพรรดิจริงๆ ละสิ”
“ตระกูลเกา แทบจะกลายเป็นครอบครัวขยะละ ยังจะมาโอ้อวดต่อหน้าตระกูลติงของเรา หน้าไม่อายจริงๆ”
“ในขณะที่ติงเฟิงเฉิงกำลังด่า ดวงตาของติงฉี่ซานก็เผยแววตาที่แปลกๆ ราวกับว่ากำลังกังวลอะไรบางอย่าง
แต่เขาไม่ได้พูด เพียงแค่วางรีโมทลง และไปเตรียมอาหารเย็นกับซูฉินภรรยาของเขา
ระหว่างนั้น ติงเมิ่งเหยนถามด้วยความสงสัย “ที่รัก ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลย ทำไมจู่ๆ บริษัทเครื่องประดับจำนวนมากถึงได้เชิญคุณมาเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อล่ะ? นี่เป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของทุกบริษัทเลยนะ”
อันที่จริง ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเชื่อมโยงกับเงินโดยตรง มันสำคัญมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้คนอื่นเข้ามาแทนที่ง่ายๆ
เจียงชื่ออธิบายด้วยรอยยิ้ม “จริงๆ แล้ว นี่ก็คือเรื่องที่ผมตั้งใจอยากจะบอกคุณ”
เขาตัดสินใจเปิดเผยความจริงกับติงเมิ่งเหยน
“เมื่อเร็วๆ นี้ผมรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่เครื่องประดับดาวฤกษ์ และได้สร้างผลงานที่ประสบความสำเร็จ”
“ดังนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่นักอัญมณีคนอื่นๆ มาเชิญผม”
ติงเมิ่งเหยนตกตะลึงอ้าปากตาค้าง “ที่รัก คุณมีความสามารถนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?ฉันไม่เคยรู้”
เจียงชื่อยักไหล่ “ผมได้เรียนรู้ทักษะเล็กๆ น้อยๆ จากตอนที่ผมเป็นทหาร มักมีบางอย่างที่จะใช้ประโยชน์ได้เมื่อต้องการ หนึ่งในนั้นก็คือการแยกแยะคุณภาพของหินหยาบดีหรือไม่ดี คาดไม่ถึงว่าจะสามารถใช้ประโยชน์ที่ดีเช่นนี้แก่ผมได้”
ติงเฟิงเฉิงยิ้มและพูดอยู่ข้างๆ “สุดยอดมากน้องเขย ตอนนี้คุณรุ่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปรับค่าจ้างไม่กี่พันละ ถึงแม้ทุกวันจะกินๆ นอนๆ อยู่ที่บ้าน ก็สามารถนอนนับเงินจนมือเป็นตะคริวแล้ว มีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์”
เจียงชื่อยิ้มและส่ายศีรษะ
“เงินไม่ได้หาได้ง่ายๆ ”
“คำเชิญมากมายขนาดนี้ แต่ละเรื่องก็เป็นมันฝรั่งที่ร้อนมือทั้งนั้น ประมาทนิดเดียวก็สามารถแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้”
ติงเฟิงเฉิงกะพริบตา “ถ้าเงินเป็นมันฝรั่งที่ร้อนมือ งั้นก็ให้ผมร้อนจนตายดีกว่า!”
“เอาล่ะ พวกเธออย่ามัวแต่นั่งอยู่เลย มากินข้าวกันเถอะ” ซูฉินพูดขึ้น
ครอบครัวนั่งรอบโต๊ะ ต่างหยิบตะเกียบขึ้นมา เพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อย
เดิมคิดว่าติงเมิ่งเหยนตกงาน ครอบครัวของเธอก็คงจะลำบากขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะมีสถานการณ์ดีๆ เกิดขึ้นกะทันหัน จู่ๆ เจียงชื่อก็ได้รับข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ ต่อไปก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐีร้อยล้าน
เช่นนี้แล้ว แม้ว่าติงฉี่ซานจะไม่ได้พึ่งพาบ้านใหญ่ แต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข ดังนั้นเขายิ่งมองเจียงชื่อ เขาก็ยิ่งพอใจมากขึ้น
ติงฉี่ซานคิดในใจ โชคดีที่เกาเหวินเสียงไปพัวพันลูกสาวเศรษฐี และปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานของผม ไม่เช่นนั้นผมคงไม่ได้ลูกเขยที่ดีเช่นเจียงชื่อแน่นอน มนุษย์สัมพันธ์เป็นอันดับหนึ่ง ความสามารถโดดเด่น น่าขำที่ผมเคยจะขับไล่เขาออกไป ตอนนั้นผมตาบอดจริงๆ
ยิ่งคิดยิ่งดีใจ ยิ่งคิดยิ่งมีความสุข
ติงฉี่ซานดื่มอีกสองแก้ว เขาคีบเนื้อใส่ในชามของเจียงชื่อ “มา ชื่อเอ๋อกินมากๆ หน่อย!”
เจียงชื่อในตอนนี้ มีทั้งเงินทองและความสามารถ ดูว่าต่อไปใครกล้าพูดว่าเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่ไร้ประโยชน์อีก !
ทุกคนกำลังกินข้าวอยู่ก็ได้ยินเสียงรถ
ยังไม่ทันวางตะเกียบลง ก็เห็นชายสองคน หนึ่งคนแก่กับหนุ่มอีกหนึ่งคน มาถึงที่ประตู คนหนุ่มก็คือเกาเหวินเสียงที่เพิ่งกุมหัวดิ้นไปเมื่อกี้ ! คนแก่คนนั้นหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับเกาเหวินเสียง
“เพื่อนร่วมชั้นเก่า ในบ้านคึกคักมากเลยเนอะ?” ชายชราเอ่ยปากพูด