ติงเมิ่งเหยนก้าวออกไปอยู่ข้างๆ อย่างไม่พอใจมาก ดูออกว่าเธอค่อนข้างรังเกียจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอมาก แต่เธอไม่ได้พูดออกมาโดยตรง
เจียงชื่อรีบก้าวเดินไป
เสียงฝีเท้าดึงดูดความสนใจของหลายคนที่อยู่ในห้อง ติงเมิ่งเหยนพอเห็นเจียงชื่อก็โล่งใจ ราวกับว่าเธอได้เห็นพระผู้ช่วยให้รอด รีบลุกขึ้นแล้วเดินไป “ที่รักคุณกลับมาแล้ว
“เรียกได้หวานไพเราะมาก โดยเฉพาะ คำว่า’ที่รัก’ จงใจเน้นย้ำให้ชายบนโซฟาได้ยินอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเสียงนี้ทำให้ชายคนนั้นโกรธมาก
เขาเหลือบมองเจียงชื่อสักครู่ และพูดอย่างไม่ใส่ใจ “โอ้ เมิ่งเหยน นี่ก็คือลูกเขยแต่งเข้าบ้านในตำนานของคุณเหรอ? สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ในที่สุดวันนี้ผมก็ได้เจอ”
คำพูดนี้สมควรโดนชกสักหมัด
เจียงชื่อชี้และถามว่า”เขาเป็นใคร?”
ไม่รอติงเมิ่งเหยนตอบ ชายคนนั้นริเริ่มที่จะยืนขึ้นและกระชับชุดสูทของเขา และพูดอย่างภาคภูมิใจ”ผมชื่อเกาเหวินเสียง พ่อของผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากับลุงติง พวกเราสองครอบครัวสนิทสนมกันมากตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นลุงติงยังเคยบอกกับพ่อของผมเสมอว่า ถ้าหากพวกเราสองครอบครัวมีลูกหลาน หากเป็นชายหญิง ก็จะเกี่ยวโยงเป็นญาติแต่งงานกัน ก็จะยิ่งมีความสัมพันธ์เป็นญาติกันมากขึ้น”
ติงเมิ่งเหยนปากไม่พูด แต่สีหน้าแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
มีอย่างที่ไหนต่อหน้าสามีคนอื่นพูดเรื่องแบบนี้ออกมา
เธอพูดอย่างขุ่นเคือง”นั่นแค่ตอนนั้นพ่อของฉันพูดเล่นเฉยๆ ไม่ควรถือเป็นเรื่องจริงจัง” เกาเหวินเสียงส่ายนิ้วไปมา “เฮ้ นี่ไม่ใช่การพูดคุยเฉยๆ นะ ในตอนนั้นลุงติงได้จับมือพ่อของผมอย่างจริงจัง พูดอย่างจริงใจมากนะ”
ในขณะที่พูด เขาหันไปมองติงฉี่ซาน”ใช่ไหม คุณลุง?”
ติงฉี่ซานก็ไม่อยากสนใจเขา
อันที่จริงในตอนนั้นติงฉี่ซาน ต้องการให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับเกาเหวินเสียงเป็นอย่างมาก เพราะตระกูลเกาในตอนนั้นร่ำรวยและมีอำนาจ และเกาเหวินเสียงก็เป็นผู้ที่สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลเกา
หากสามารถเข้าตระกูลเกาได้ ต่อไปก็จะได้สุขสบายรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบ
แต่ใครจะไปรู้ เกาเหวินเสียงแทบจะไม่ชอบติงเมิ่งเหยนเลย หันไปเอาใจลูกสาวผู้มั่งคั่ง ยืมมือครอบครัวของคนอื่นไต่เต้าหาความเจริญก้าวหน้าเพื่อหาเงินได้มากมาย
ต่อมาครอบครัวของฝ่ายหญิงประสบปัญหา เกาเหวินเสียงทิ้งเธออย่างไร้ยางอายและหย่าร้าง
ความอื้อฉาวของเกาเหวินเสียงเป็นที่รู้จักกันดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังจากหย่าร้างไม่กี่ปี ไม่รู้ว่าทำให้เด็กสาวเจ็บปวดไปกี่คน ตลอดเวลาหลายปีมานี้ตระกูลเกาไม่เคยคิดมองตระกูลติงเลย ดังนั้นพวกเขาจึงไปมาหาสู่กันน้อยมาก
แต่วันนี้ มีข้อยกเว้น
ตระกูลเกาก็อยากสร้างโชคลาภในโครงการที่ดินรกร้างทางเหนือของเมือง แต่ตระกูลเกาแทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับติงเฟิงเฉิงเลย หาไปหามา เลยนึกถึงติงฉี่ซาน ติงเมิ่งเหยนหนทางเส้นนี้
หลายปีที่ไม่ได้ติดต่อตระกูลเกา เขา’ถ่อมตัว’มาถึงตระกูลติง คิดผ่านความสัมพันธ์ของติงเมิ่งเหยน จุดประสงค์เพื่อจะติดต่อกับติงเฟิงเฉิง
ในเริ่มแรกเป้าหมายเรียบง่ายมาก
แต่หลังจากที่เกาเหวินเสียงได้เห็นติงเมิ่งเหยน เป้าหมายของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เธอสวยงามมาก
ในวันนี้ติงเมิ่งเหยน ไม่ใช่เด็กกะโปโลเหมือนก่อนแล้ว ความเป็นเด็กหน่อมแน้มหายไปหมดสิ้น เธอผอมเพรียวและสง่างาม และเธอยังมีความพิเศษในการแต่งตัว แม้แต่ดาราระดับโลกก็ประมาณนี้
คนบ้ากามอย่างเกาเหวินเสียงพอเห็นก็ทนไม่ไหวแล้ว ดอกไม้ที่งดงามนี้ ไม่ว่าวิธีไหนก็ต้องเด็ดให้ได้
ติงฉี่ซานเดินเข้ามา เดินไปวางจานผลไม้บนโต๊ะกาแฟแล้วพูดอย่าเฉยเมย “ผมไม่ได้ติดต่อกับพ่อของคุณมาเป็นเวลานาน คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าวันนี้จะมาเยี่ยมอย่างกะทันหัน”
เกาเหวินเสียงยิ้มและนั่งลง “พ่อของผมก็ยุ่งเหมือนกัน ท่านอย่าโกรธเคือง ครั้งนี้มาหาท่าน อันดับแรกเพื่อเยี่ยมสุขภาพของลุงติงเป็นอย่างไงบ้าง ประการที่สองคือเรื่องงาน ผมต้องการให้ท่านช่วยจัดการ ให้ผมได้พบกับติงเฟิงเฉิงสักครั้ง”
“พวกคุณเป็นญาติกัน ได้ลุงติงช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าตระกูลเกาของเราสามารถได้ประโยชน์จากโครงการที่ดินรกร้างทางเหนือของเมืองแน่นอน”
“ลุงติง ไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ปล่อยให้ท่านช่วยโดยเปล่าประโยชน์”
พูดจบ เขาหยิบเช็คออกมา “นี่คือเช็คห้าล้าน ขอแค่ช่วยผมทำการค้าคร้้งนี้สำเร็จ เช็คนี้ก็จะเป็นของท่าน”
เงิน ใครก็รัก แต่ท่าทีของเกาเหวินเสียงทำให้ติงฉี่ซานดีใจไม่ออก
เขาฮืมอย่างเย็นชา “เรื่องรุ่นหลังระหว่างพวกเธอ ผมไม่สะดวกที่จะมีส่วนร่วม คุณคุยกับเมิ่งเหยนกับเจียงชื่อเองเถอะ ผมจะดูทีวีแล้ว”
เขาก็ไม่อยากสนใจ เกาเหวินเสียง
เกาเหวินเสียงเลยหันกลับมามองติงเมิ่งเหยน “ฮ่าฮ่า งั้นก้ไม่มีทางละ เมิ่งเหยนคุณก็ช่วยพี่ชายหน่อยนะ ลุงติงอยากดูทีวีที่บ้าน พวกเราไม่สะดวกคุย ไปหาร้านกาแฟดื่มไปคุยไปด้วยดีไหม?”
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
เขาไม่ได้ถือตัวเองเป็นคนนอก เขาลุกขึ้นและยื่นมือไปทางติงเมิ่งเหยน พร้อมที่จะจูงมือเธอออกไป
อยู่ในบ้านของคนอื่น ต่อหน้าสามีของคนอื่น ทำเรื่องแบบนี้ออกมา นี่คือพฤติกรรมที่ไม่เห็นตระกูลติงอยู่ในสายตาเลย!
ก่อนที่เขาจะสัมผัสมือของติงเมิ่งเหยน เจียงชื่อโบกมือ และตบลงอย่างหนักบนหลังมือของเกาเหวินเสียง
เสียงดังสนั่น!
ด้วยความแข็งแกร่งนั้น กระดูกมือของเขาเกือบจะหัก
“อ้า~~!!!”
เกาเหวินเสียงร้องตะโกน จ้องไปที่เจียงชื่อ “คุณอยากตายเหรอ?”
เจียงชื่อไม่แม้แต่จะมองเขา นั่งลงตรงกลางโซฟา ดึงติงเมิ่งเหยนให้นั่งลง พูดนิ่งๆ “ถ้าจะคุยเรื่องโครงการ คุยที่บ้านก็ได้แล้ว”
“เกาเหวินเสียงชะงักชั่วครู่ หัวเราะเย็นชาแล้วพูดว่า “ทำไม ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเกาะเมียกิน ยังต้องการพูดคุยเกี่ยวกับโครงการกับผมอีกหรือ? คุณเป็นตัวอะไร? ”
ในขณะที่เขาพูด เขามองไปที่ติงฉี่ซาน “ลุงติงการสั่งสอนในบ้านของท่านดูเหมือนไม่ค่อยดีนะ? ทำไมสุนัขที่เลี้ยงอยู่ในบ้านยังเข้าไปในห้องโถงและนั่งบนโซฟาได้ล่ะ?”
ในสายตาของเขา เจียงชื่อเป็นแค่สุนัขที่ตระกูลติงเลี้ยงไว้
ความรู้สึกของเกาเหวินเสียง ติงฉี่ซานและติงเมิ่งเหยนควรจะดูถูกและเกลียดชังเจียงชื่อถึงจะถูก เจียงชื่อควรจะเป็นคนรับใช้ที่ยกน้ำเสิร์ฟชา
แต่ผลที่ตามมาทำให้เขาประหลาดใจมาก
ติงฉี่ซานตอบอย่างเย็นชา”เจียงชื่อเป็นหัวหน้าครอบครัวของเรา ทุกเรื่องก็คุยกับเขาเถอะ”
หัวหน้าครอบครัว? เกาเหวินเสียงหัวเราะ สะบัดก้นนั่งลง และตบเช็คบนโต๊ะ
“คุย? คุยกับคนที่ไม่เคยเปิดหูเปิดตาอย่างคุณ มีอะไรน่าคุย?”
“คุณดูให้ดีนะ นี่คือเช็ค 5 ล้าน ทั้งชีวิตของคุณมีปัญญาหาได้ถึง 5 ล้านไหม?”
“เรื่องที่ตระกูลเกาของเราจะคุย นั่นเป็นโครงการใหญ่ที่มีเงินหลายแสนล้าน เงินเดือนแต่ละเดือนของคุณเท่าไหร่ คุณมีคุณสมบัติอะไรถึงจะมานั่งคุยกับผม?”
นี่คือวิธีการที่เกาเหวินเสียงชอบใช้ที่สุด
จัดการกับคนยากจน เขาใช้เงินฟาดหัวฝั่งตรงข้ามให้ตาย
แต่น่าเสียดายปฏิกิริยาของเจียงชื่อไม่ได้แปลกใจมาก ยิ่งไม่มีความถ่อมตนแม้แต่น้อย
“จำนวนเงินเล็กน้อยแค่5 ล้านคุณยังมีหน้าเอาออกมาเหรอ?”
“ยังโม้เกี่ยวกับเรื่องนี้อีก”
“ตระกูลเกาของพวกคุณขาดการรอบรู้ขนาดนี้เลย?”
ปึก!
เกาเหวินเสียงทุบโต๊ะแล้วยืนขึ้น “เชี่ย ยาจกอย่างมึงยังกล้ามาสั่งสอนกูแล้วเหรอ? รู้มั้ย กูเดือนๆ ไม่ทำอะไร ก็สามารถรับเงินเดือนหลายแสนทุกเดือน มึงสู้เป็นสู้ตายได้เดือนละกี่บาท ? หนึ่งหมื่นมีมั้ย? ยาจก! ! ! “