จอมนักรบท้าโลก – บทที่ 872 มองคนผิดเป็นถูก มองคนถูกเป็นผิด

บทที่ 872 มองคนผิดเป็นถูก มองคนถูกเป็นผิด

“แต่ว่าผลที่จะตามมารุนแรงมาก!”

“ลองคิดๆ ดูสิ ร่างกายของของเราถูกใช้งานเกินเลเวลในช่วงเวลาอันสั้น สมรรถภาพของร่างกายก็จะสับสน หลังจากที่แข็งแรงในเวลาอันสั้นผ่านไปแล้ว ก็จะอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก และในช่วงเวลานี้เองไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคต่างๆ ก็จะแฝงด้วยเข้ามาได้”

“ถ้าอาการไม่หนัก ก็เป็นแค่หวัดหรือมีไข้ แต่ถ้ารุนแรง นั่นมันเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ!”

คำพูดนี้ราวกับเป็นเครื่องจุดประกายความคิด ทำเอาคณะอาจารย์และนักศึกษาที่อยู่ในห้องโถงต่างก็ขนลุกขนชันขึ้นมาทันที

บนเวที สีหน้าของสองพ่อลูกตระกูลสือดูไม่จืด

การที่ถูกเปิดเผยสรรพคุณแฝงของยาต่อหน้าผู้คนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอันใด กระทั่งอาจทำให้สูญเสียชื่อเสียงไปได้

เจียงชื่อวางยาลง เขารู้ตั้งนานแล้วว่าคนนิสัยอย่างสือควนไม่มีทางที่จะทำเรื่องที่ถวายจิตวิญญาณต่อสังคมขนาดนั้น และเป็นอย่างที่คิดไม่ผิด สือควนมาที่มหาวิทยาลัยนี้ก็มีเจตนาชั่วแอบแฝงจริงๆ

ภายในห้องโถงกลายเป็นบรรยากาศที่อึดอัดไปทันที

สือควนเอ่ยอันใดไม่ออก สีหน้าแดงก่ำ อยากที่จะแก้ตัวแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากไหน

สือเหวินปิ่งที่อยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา: “เจียงชื่อ คุณเป็นแค่คนขายเครื่องประดับที่ขายหินเพื่อผลกำไรเท่านั้น คุณจะไปมีความรู้ทางการแพทย์ได้ยังไง? อย่ามาคุยโวโอ้อวดอยู่ที่นี่นักเลย!”

“พ่อของฉันเป็นถึงผู้นำในวงการแพทย์นะ ท่านวิจัยตัวยาอย่างละเอียดมาตั้งหลายสิบปี คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างคุณจะมาเทียบได้งั้นเหรอ?”

“คุณรู้หรือไงว่าสัดส่วนขององค์ประกอบยาคือเท่าไรน่ะ มาคุยโวอยู่นี่อยู่ได้?”

สือเหวินปิ่งมองไปยังผู้อำนวยการ ทังเจียเหวิน “อธิการบดีทัง ขอให้ท่านเป็นธรรมด้วยเถอะครับ!”

เจียงชื่อยื่นมือกระตุกแขนเสื้อ มองไปยังทังเจียเหวินเช่นกัน เอ่ยว่า: “อธิการบดีทัง คนเขาให้คุณให้ความเป็นธรรม คุณก็ทำซะหน่อยเถอะครับ”

ทั้งอาจารย์และนักศึกษาต่างก็มองมายังทังเจียเหวิน

มีสายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ หากทังเจียเหวินไม่พูดอะไรสักอย่าง เพื่อเป็นการตัดสิน เกรงว่าคงจะไม่ได้

เขาหยิบตัวยาแล้วลุกขึ้น มองสือควน แล้วก็มองเจียงชื่อ สองตาหรี่ลง ราวกับกำลังคิดวิเคราะห์อันใดอยู่

หลังจากเงียบไปนาน คำถามแรกที่เขาถามก็คือ: “ผู้จัดการเจียง คุณเข้ามาปะปนในที่นั่งอาจารย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์เราได้ยังไงครับ?”

นี่มัน…

เจียงชื่อยิ้มแห้ง นี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับการตัดสินเรื่องตัวยาด้วยหรือ?

แน่นอนว่าเขาคงไม่มีทางที่จะเอ่ยชื่อของตำรวจเซี่ยเมิ่งจื้อออกมาได้ ดังนั้นจึงพูดไปทั่วว่า: “ผมได้ยินมาว่าวันนี้จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการแพทย์ ผมสนใจเรื่องการแพทย์ก็เลยมาโดยไม่ได้รับเชิญครับ”

“มาโดยไม่ได้รับเชิญงั้นเหรอ?” ทังเจียเหวินพยักหน้า ชี้ไปยังประตูว่า: “ถ้างั้นคุณไปได้แล้วละ”

อะไรนะ?

เจียงชื่อขมวดคิ้ว “อธิการบดีทัง นี่คุณกำลังไล่แขกงั้นเหรอ?”

ทังเจียเหวินยิ้ม “หรือว่าผมพูดไม่ชัดเจนพองั้นเหรอ?”

“ถ้างั้นคุณก็ยอมรับในตัวสือควนอย่างนั้นเหรอ?”

“นี่ยังต้องถามอีกเหรอ?”

หยุดไปสักครู่ ทังเจียเหวินเอ่ยต่อ: “หมอสือเป็นผู้นำวงการแพทย์นะ เป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมสูงส่ง ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างลำบากในด้านของการแพทย์มาตั้งหลายสิบปี มีทั้งความรู้มีหลักการที่ลึกล้ำและความสามารถทางการแพทย์”

“แล้วคุณล่ะ? คุณเป็นแค่พ่อค้าขายเครื่องประดับ เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายนี้เลย”

“เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายการแพทย์ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าพูดจากสามหาวมาชี้จุดบกพร่องของยาตัวใหม่ที่หมอสือวิจัยขึ้นมาอย่างยากลำบาก คุณคิดว่าคุณเหมาะสมแล้วเหรอ?”

ในห้องโถงเงียบอีกครั้ง

คราวนี้ สีหน้าของอาจารย์และนักศึกษาทั้งหมดต่างก็ฟื้นกลับมา พร้อมมองไปหาเจียงชื่อด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม

ภายใต้ ‘คำเตือน’ ของทังเจียเหวิน พวกเขาเพิ่งจะรับรู้ว่าเมื่อครู่ตนโง่เขลาเพียงใด ไม่เชื่อในตัวหมอสือที่มีคุณธรรมสูงส่ง มีความสามารถทางการแพทย์ที่ลึกล้ำแต่กลับไปเชื่อนักธุรกิจขายเครื่องประดับคนหนึ่งที่ไม่ข้องเกี่ยวกับทางการแพทย์เลยเนี่ยนะ?

เหอะๆ ช่างโง่เขลาเสียจริง

เมื่อครุ่นคิดอยู่อย่างละเอียด คำพูดเมื่อสักครู่ของเจียงชื่อเหมือนจะมีเหตุผล ทว่าก็เหมือนเป็นบทพูดที่เตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งนานแล้ว

ทังเจียเหวินเอ่ย: “คำพูดเป็นชุดของคุณเมื่อกี้นี้ เหมือนจะมีหลักการมากเลยนะ แต่ความจริงแล้วคำพูดนี้ใช้กับยาทุกชนิดได้ทั้งนั้นแหละ”

“ไม่ต้องคิดเลย จะต้องมีคนเขียนคำพูดเหล่านี้ให้คุณก่อนหน้าแล้วให้คุณท่องไว้ จากนั้นก็มาใส่ร้ายป้ายสีหมอสือต่อหน้าผู้คนสินะ”

“พวกเรารู้ว่าหมอสือแข็งแกร่งไม่ประจบสอพลอคนอื่น จะต้องทำให้ใครหลายคนในวงการแพทย์ไม่ชอบแน่นอน เพราะงั้นถึงได้มีผลตอบแทนอย่างที่เห็นวันนี้”

“แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ทั้งอาจารย์และนักศึกษาของวิทยาลัยแพทยศาสตร์เรา จะยืนอยู่ข้างหมอสือตลอดไป จะต่อสู้กับนักธุรกิจที่เห็นแก่ผลประโยชน์เป็นหลักอย่างพวกคุณจนถึงที่สุด!”

น้ำเสียงดังลั่น แข็งกร้าวน่ายำเกรง

มองออกว่าทังเจียเหวินไม่ได้พูดไปงั้นๆ แต่ต้องการปกป้องสือควนจากใจจริงๆ

พรึ่บๆ ๆ ทั้งอาจารย์และนักศึกษาทั้งห้องโถงต่างก็ลุกยืนขึ้นมา

ทุกคนตะโกนเป็นเสียงพร้อมเพรียงกัน

“ปกป้องหมอสือ ต่อต้านคนคุณธรรมเสื่อมโทรม!”

“ปกป้องหมอสือ ต่อต้านคนคุณธรรมเสื่อมโทรม!!”

“ปกป้องหมอสือ ต่อต้านคนคุณธรรมเสื่อมโทรม!!!”

ผู้ชายคนหนึ่งโยนปากกามาใส่เจียงชื่อ ด่าทอเสียงดัง: “ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด ที่นี่ไม่ต้อนรับแก ไสหัวไป!”

“ไสหัวไปสิ!”

“ไสหัวออกไปจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์เรา!”

คนทั้งห้องโถงเดือดดาลขึ้นมา ทั้งอาจารย์และนักศึกษาต่างก็โยนสมุด ดินสอ ยางลบ พร้อมด่าทอคำที่หยาบคายไปด้วย

พวกเขาไม่อยากเห็นหน้าเจียงชื่ออีกแม้แต่เสี้ยววินาที

ไสหัวไป

รีบไสหัวออกไป!

บนเวที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของสือควนเริ่มที่จะเบิกบานขึ้นแล้ว เขากำลังยิ้มอย่างมีความสุข

ถูกจับได้เรื่องแผนร้ายแล้วจะอย่างไร?

ตราบใดที่ผู้คนทั้งหมดถูกตบตาแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็จะมองไม่เห็นว่าอะไรคือธรรมอะไรคืออธรรม

“เจียงชื่อ แกคิดจะทำลายแผนดีๆ ของฉันงั้นเหรอ?”

“ฝันไปเถอะ!”

จอมนักรบท้าโลก

จอมนักรบท้าโลก

Status: Ongoing

คุณพ่อหายตัวไป น้องชายฆ่าตัวตาย เทพแห่งสงครามกลับมาและสาบานว่าจะต้องเลือดล้างด้วยเลือด…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท