เขตเมือง สถานีตำรวจ
ภายในห้องประชุมอันกว้างขวาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งกันอยู่สองแถว เจียงชื่อนั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะ
เซี่ยเมิ่งจื้อกัปตันตำรวจปิดประตู ในมือถือเอกสารบางอย่างอยู่พร้อมนั่งอยู่ตำแหน่งลูกน้องเจียงชื่อ เขาเอ่ยโดยตรงว่า: “ผู้บริหารระดับสูง จากการสำรวจสองพ่อลูกตระกูลสือแบบเฉพาะเจาะจงของพวกเรา ได้ประมาณการแผนการดำเนินงานและจุดประสงค์ของพวกเขาคร่าวๆ แล้ว”
เขายื่นเอกสารให้เจียงชื่อดู
“จากพฤติกรรมที่สือควนเข้าร่วมการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ แถมยังแจกจ่ายยาฟรีในที่ประชุมอีกด้วย ทั้งหมดนั้นล้วนมาจากบิลที่มาจากเมืองหลวง”
“จากเบาะแสแล้ว ที่เมืองหลวงมีคุณท่านเศรษฐีผู้หนึ่งป่วยอยู่ ต้องการทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ แต่ว่าอวัยวะที่เหมาะสมกับเขาทั้งในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในประเทศล้วนไม่มี”
“ดังนั้น คนใหญ่คนโตท่านนั้นเลยสั่งบิลกับสองพ่อลูกตระกูลสือ จุดประสงค์ก็เพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ
“สองพ่อลูกตระกูลสือนิ่งเงียบไปนาน คิดว่าอุปสรรคผ่านไปหมดแล้ว ดังนั้นเลยกล้าที่จะทำการทดลองต่อหน้าผู้คนอย่างเปิดเผยแบบนั้น ไม่เห็นชีวิตของนักเรียนอยู่ในสายตาเลย”
ดังนั้นเมื่อสรุปแล้ว จุดสำคัญหลักขอเรื่องนี้ก็คือบิลนั่น
เจียงชื่อถาม: “ทางทังเจียเหวินน่าจะแจ้งตำรวจแล้วใช่ไหม? พวกคุณส่งคนไปตรวจสอบสือควนแล้วหรือยัง?”
“ตรวจสอบแล้วครับ”
“ผลเป็นยังไงบ้าง?”
เซี่ยเมิ่งจื้อมองไปยังพนักงานที่ตรวจสอบฝั่งตรงข้าม “เสี่ยวหยาง เรื่องนั้นนายเป็นคนตรวจสอบ นายรายงานกับผู้บริหารระดับสูงหน่อย”
“ครับ”
เสี่ยวหยางลุกขึ้นยืน “ผู้บริหารระดับสูง ตามการตรวจสอบของเราที่สถานที่จริง สือควนอ้างว่าสูตรยาที่เขาให้ไม่มีปัญหา แต่บริษัทที่ผลิตยาต่างหากที่มีปัญหา แล้วบริษัทผลิตยากลับผลักปัญหาให้หัวหน้าคนหนึ่งในสายผลิตยา บอกว่าหัวหน้าลดวัตถุดิบลงถึงทำให้เกินเรื่องขึ้น”
“หรือหมายความว่า ความรับผิดชอบที่ทำให้เกินเรื่องใหญ่ครั้งนี้ทั้งหมด ถูกผลักไปให้หัวหน้าคนจัดการ”
เจียงชื่อยิ้มเย็นชา
นี่มันเห็นได้ชัดว่าเป็นการวางแผนไว้แล้วอย่างดี สือควนต้องการหลบหลีกการจับกุมของทางตำรวจ ช่างลำบากเสียจริง
เสี่ยวหยางพูดต่อว่า: “แต่ตามการสืบสวนของพวกเรากับหัวหน้าคนนั้น พบว่าเขามีปัญหาใหญ่หลวงมาก พวกเรามีหลักฐานพิสูจน์ ว่าเขาเป็นแค่แพะรับบาป”
“สำหรับการพิสูจน์อีกขั้น ยังอยู่ในการตรวจสอบครับ”
เซี่ยเมิ่งจื้อเอ่ยต่อ: “ผู้บริหารระดับสูง สือควนผู้นี้จะต้องเป็นผู้ร้ายเบื้องหลังแน่นอน ตอนนี้พวกเราควรรีบสอบถามหัวหน้าคนนั้นไหม ให้เขาบอกปัญหาทุกอย่างมาให้ชัดเจน จากนั้นก็จับสองพ่อลูกตระกูลสือปิดคดีตามหลักฐานทั้งหมดที่เรามี?”
เจียงชื่อหรี่ตาลง
นิ้วมือของเขาเคาะที่โต๊ะเบาๆ นิ่งเงียบไปนาน จึงเอ่ยว่า: “ไม่ ไม่ต้องรีบร้อนสอบสวนหัวหน้าคนนั้นหรอก พักเอาไว้ก่อน”
“พักเอาไว้ก่อนงั้นเหรอครับ?”
“ใช่”
เซี่ยเมิ่งจื้อและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในนั้นต่างก็งุนงง ทำไมต้องพักเอาไว้ก่อน? ขอแค่สืบต่อไปอย่างลึกสักนิด จะต้องจับกุมสองพ่อลูกตระกูลสือนั่นแล้วปิดคดีได้แน่นอน
เจียงชื่อเอ่ย: “คดีของสองพ่อลูกตระกูลสือ เป็นแบบกระบวนการเบื้องหลังพวกเขายังมีคนร้ายสมทบอีกเป็นขบวน คนเหล่านี้จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด”
“ดังนั้น พวกเราไม่สามารถแค่จับกุมพวกเขาเท่านั้นได้ ยังต้องจับปลาทุกตัวด้วย ก่อนที่ยังไม่ตรวจสอบพวกคนร้ายทั้งหมดจนชัดเจนได้ ห้ามลงมือ
เซี่ยเมิ่งจื้อพยักหน้า มีเหตุผล
นอกจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สองพ่อลูกตระกูลสือมีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ยังมีคนใหญ่คนโตเบื้องหลังบิลนั่น บุคคลน่าสงสัยนั่นด้วย ตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าเป็นใครกันแน่
มีความจำเป็นต้องตรวจสอบต่อไป
ดังนั้น ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่นเป็นการชั่วคราวก่อน
การเข้าจับกุม ก็พักเอาไว้ก่อนดีที่สุด
เจียงชื่อซักถามต่อว่า: “หัวหน้าเซี่ย คุณบอกว่าจุดประสงค์ในครั้งนี้ของสือควนก็คือเลือกนักศึกษาที่เหมาะสมกับการปลูกถ่ายอวัยวะคนหนึ่ง ถ้างั้นคุณสืบได้หรือยังว่านักศึกษาหรือนักศึกษาหลายคนเป็นใคร?”
เซี่ยเมิ่งจื้อชะงักไป เขายังไม่ได้พิจารณาถึงประเด็นนี้
“ขอโทษครับ ยังเลย”
เจียงชื่อเอ่ยทันที: “เรื่องนี้สำคัญมาก รีบไปจัดการเดี๋ยวนี้ สองพ่อลูกตระกูลสือเมื่อจับจ้องเป้าหมายได้แล้ว ก็จะลงมือทำภายในเวลาอันสั้นที่สุด พวกคุณจะต้องคิดหาทุกวิถีทางในการปกป้องความปลอดภัยของนักศึกษาคนนั้น ห้ามเกิดเรื่องอะไรขึ้นเป็นอันขาด!”
“ครับ!”
เซี่ยเมิ่งจื้อกำลังคิดจะไป เจียงชื่อเอ่ยต่อว่า: “รอเดี๋ยว ผมคิดไปคิดมาแล้ว หลังจากที่พวกคุณสืบทราบเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วให้แจ้งผมทันที ให้ผมออกหน้าปกป้องจะเหมาะสมกว่า ขืนทางตำรวจอย่างพวกคุณโผล่หน้าไป อาจจะทำให้สองพ่อลูกตระกูลสือระแวดระวังขึ้นมาได้”
เซี่ยเมิ่งจื้อพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ”
“อืม ไปจัดการเถอะ”
“รับทราบ”
การประชุมเสร็จสิ้น เซี่ยเมิ่งจื้อพาคนออกจากห้องประชุม เพื่อทำการตรวจสอบทันที
เจียงชื่อนั่งพิงเก้าอี้ พร้อมเอ่ยพึมพำ: “บิลที่มาจากเมืองหลวงงั้นเหรอ? คนใหญ่คนโตเศรษฐีร่ำรวย? เหอะ คนคนนี้คือใครกันแน่นะ?”