มู่หยางอีถอยหลังด้วยรอยยิ้ม ทิ้งเวทีให้ว่างเปล่า
ตัวเอกของวันนี้ควรออกโรงแล้ว
ทุกคนต่างจดจ่อจนแทบลืมหายใจ ไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่นิดเดียว แม้แต่กะพริบตาก็ยังไม่กล้า จ้องมองไปยังทางเข้าของเวที
กล้องหลายสิบจนถึงร้อยต่างเล็งไปที่ทางเข้า ทุกคนต่างวางนิ้วไปที่ปุ่มชัตเตอร์ พร้อมที่จะกดมันได้ทุกเมื่อ บันทึกช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้เอาไว้
หลังจากที่รอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุดมันก็มาถึง
ตั้งแต่วันที่ผู้บริหารระดับสูงขึ้นรับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ก็ปกปิดตัวตน ทำตัวลึกลับมาก ไม่เคยโผล่หน้าให้เห็นในงานที่เป็นทางการมาก่อน
จนทุกคนคิดว่า ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวมู่หยางอีมาบอกว่าตัวเองเป็นผู้บริหารระดับสูงหรอกมั้ง?
เกิดความสงสัยขึ้นมารอบด้าน ความคาดเดาแบบไหนก็มีหมด
แต่ยังไงผู้บริหารระดับสูงคนนี้ก็ไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า ปล่อยให้พวกเขาทาย ให้พวกเขาร้อนใจ แต่ที่น่าแปลกคือด้วยสภาพแบบนี้ เขากลับสามารถบริหารเขตเจียงหนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วงเวลาปีกว่าที่เขาบริหารมา เขตเจียงหนานได้พัฒนาไปไกลมาก
โครงการใหญ่ๆ มากมายก่อตัวขึ้นอย่างราบรื่น
GDPก็แทบจะพุ่งขึ้นเป็นแนวฉาก วิ่งเร็วอย่างกับติดจรวด!
ในตอนที่ทุกคนคิดว่าความรุ่งโรจน์ของผู้บริหารระดับสูงคนนี้กำลังจะพรั่งพรูออกมา เขากลับเลือกที่จะประกาศเกษียณซะได้ การเลือกวางมือในตอนที่ชีวิตกำลังอยู่บนจุดสูงสุดนั้น ไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้จริงๆ
คนใหญ่คนโตที่ลึกลับคนนี้ มีเรื่องเล่าให้เขียนถึงมากมายจริงๆ
ออกมาเถอะ ผู้บริหารระดับสูง!
ออกมาตามคำเรียกร้องของทุกคน
ภายใต้สายตาของคนนับหมื่น ท่ามกลางแสงสปอตไลต์ที่สาดส่อง ในที่สุดย่างก้าวที่มั่นคงและทรงพลังของผู้บริหารระดับสูงแห่งเขตเจียงหนานก็ได้เหยียบย่ำขึ้นมาบนเวทีเสียที
ทุกๆ ก้าวเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง เหมือนเหยียบย่ำเข้าไปในใจของทุกคน
มาแล้ว ผู้บริหารระดับสูง ออกมาแล้ว!!!
ฉับๆๆ แสงแฟลชนับร้อยนับพันสว่างขึ้นอย่างบ้าคลั่ง บันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้เอาไว้ บันทึกถึงการปรากฏตัวของผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เอาไว้
สายตาทุกคู่ใต้เวทีรวมอยู่ในที่เดียวกัน
และหลายๆ คนก็ยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น เหมือนกับการเห็นไอดอลของตัวเองกำลังเปิดตัวในงานคอนเสิร์ตยังไงอย่างนั้น บ้าคลั่งแต่จริงใจ
ท่ามกลางความคาดหวังและเสียงปรบมือของทุกคน ผู้บริหารระดับสูงได้เดินไปกลางเวทีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ระหว่างที่เดิน เขาก็โบกมือทักทายทุกคนอย่างสุภาพ
เขา ก็คือผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนาน
เขา ก็คือเจียงชื่อ!
ในตอนที่เดินไปถึงกลางเวที และยืนอยู่ตรงหน้าไมค์ เจียงชื่อยังคงสงบมาก ไม่พูดอะไร เอาแต่ยืนยิ้มอย่างสุภาพอยู่ตรงนั้น
แสงแฟลชใต้เวทีสว่างไม่ยอมหยุด เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ลดลง
ในตอนนี้ คนบ้านตระกูลติงทั้งสี่ที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดก็งงเป็นไก่ตาแตก
สองผัวเมียติงฉี่ซานกับซูฉินเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง น้ำลายไหลออกมาก็ยังไม่รู้ว่าต้องเช็ด เสียงใจเต้นเหมือนดั่งประทัดที่จุดในวันตรุษจีน ปึ้งปั้งปึ้งปั้งดังสนั่นไม่ยอมหยุด
เจียงชื่อก็คือผู้บริหารระดับสูง?
ลูกเขยของพวกเขาคือผู้บริหารระดับสูง?
ล้อเล่นอะไรกัน?
ล้อเล่นอะไรกัน??
ล้อเล่นอะไรกัน???!!!
มือสองข้างที่สั่นเทาของติงฉี่ซานไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนแล้ว
เขารู้ว่าเจียงชื่อมีความสามารถ แต่ไม่ว่ายังไงก็นึกไม่ถึงว่าเจียงชื่อจะเก่งขนาดนี้!
พอมาคิดๆ ดู ตั้งแต่ที่เจียงชื่อกลับมา เขาเคยดูถูกลูกเขยคนนี้กี่ครั้งแล้ว? แถมยังเคยบอกให้ลูกสาวหย่าร้างกับเจียงชื่อด้วย!
ถ้าไม่ใช่เพราะความใจกว้างของเจียงชื่อ ครอบครัวของติงฉี่ซานคงจบสิ้นไปนานแล้ว
เมื่อก่อนเขาแค่คิดว่าเจียงชื่อเป็นคนดี ไม่ถือสา มีความสามารถนิดหน่อย แต่ในตอนนี้ เขาได้รู้แล้วว่าเจียงชื่อนั้นเก่งกาจขนาดไหน