บทที่ 22
ไป๋ยี่เฟยถือไมค์โครโฟนอยู่ และกวาดสายตามองทุกคน และพูดเสียงทุ้มว่า “ผม ไป๋ยี่เฟย! เป็นสามีของ เสว่เอ๋อ วันนี้ที่นี่จะบอกคนที่อยากได้ภรรยาของผมอย่างชัดเจนว่า เธอไม่ใช่คนที่พวกคุณอยากได้! ไม่งั้น ผมจะทำให้พวกคุณเสียใจที่อยู่บนโลกใบนี้!”
คำพูดป่าเถื่อนประโยคนี้ ทำให้ หลี่เสว่งุนงง
คนที่อยู่ข้างล่างเวทีก็งงเหมือนกัน
ไม่เพียงแค่นี้ สายตาของ ไป๋ยี่เฟยยังคงจ้อง หลิ่วจาวเฟิงตลอด แววตาเป็นการเตือนอย่างชัดเจน
หลิ่วจาวเฟิงเห็นแบบนี้อยากหาที่ทะลุออกไปใจแทบขาด
เรื่องเมื่อกี้ทำให้เขาอึดอัด ตอนนี้ทุกคนยังมองตามสายตา ไป๋ยี่เฟย เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้ง
โถ่เอ๊ย ถ้าหากให้พ่อเขารู้ว่าเขากำลังตามจีบผู้หญิงที่มีสามีแล้ว เขาคงถูกด่าตายแน่ๆ!
หลังจากนิ่งอึ้งไป มีบางคนก็เรียกสติกลับมาได้
“ประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปไม่ใช่ชอบ หลี่เสว่ไปแล้วเหรอ? ไป๋ยี่เฟยทำไมยังอวดดีขนาดนี้?”
ก็ไม่แน่นะ! บางทีอาจจะเพราะว่า ไป๋ยี่เฟยและประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปมีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นเลยดูแล หลี่เสว่แบบนี้?”
“มีเหตุผลนะ!”
ดังนั้นในขณะนี้ ยังมีคนถามผู้จัดการใหญ่ “ของขวัญยังส่งอยู่ไหม?”
“ส่ง! ต้องส่งให้แน่!”
“แต่ว่าฉลองวันเกิด แถมยัง…..” แถมยังเป็นผู้หญิง พวกเขาให้ของขวัญแบบนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่?
ประธานใหญ่ควักบัตรเครดิตออกมาหนึ่งใบทันที “รีบเอาไปเปลี่ยนอันใหม่! เอาแพงกว่านี้อีก!”
“ครับครับครับ…..”
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว หลายครั้งที่ท่านประธานใหญ่ให้คนแอบไปซื้อของขวัญใหม่
อีกด้าน หลี่ฝานเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็เกือบบีบแก้วเหล้าในมือจนแตก!
เมื่อก่อนเขาดูถูก หลี่เสว่ขนาดนั้น หลี่เสว่อยู่ในบ้านพวกเขา แต่ว่าก็เป็นแค่คนที่ไม่ได้สำคัญอะไร!
ตอนนี้ล่ะ!
ทุกคนอยากประจบประแจงเธอ!
หลังจากพรุ่งนี้ หลี่เสว่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ หลี่ซื่อกรุ๊ป ต่อหน้าของ หลี่เสว่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!
แน่นอน ต้องมีคนดีใจยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู และก็คือ หลิวจื่อหยุน แม่ของหลี่เสว่
หลิวจื่อหยุนมองเห็นท่าทางของประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปเช่นนี้ ก็ดีใจจนออกนอกหน้า!
ท่านประธานของ โหวจวี๋กรุ๊ปน่ะ!
นั่นคือคนที่ หลิ่วจาวเฟิงเทียบไม่ได้เลยสักนิด!
ความคิดที่เธออยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนั้นยิ่งผิดไปใหญ่
เธอควรจะให้ เสว่เอ๋อไปคบหากับท่านประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปมากกว่านี้
ไม่แน่หลังจากนี้ เสว่เอ๋อเป็นภรรยาของท่านประธาน เธอก็จะเป็นแม่ยายของท่านประธานสินะ!
ตอนนี้ ไป๋ยี่เฟยหยิบกุญแจสองดอกออกจากกระเป๋าของตัวเอง
“เสว่เอ๋อ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ผมอยากจะส่งของขวัญให้คุณสองชิ้น”
ไป๋ยี่เฟยเอาลูกกุญแจดอกแรกส่งไปในมือของ หลี่เสว่ที่ยังนิ่งอยู่ “ชิ้นแรก รถมาเซราติหนึ่งคัน”
“มาเซราติ?” หลี่เสว่ตกใจจนตาโต
ไป๋ยี่เฟยอมยิ้ม “อืม รถของคุณเก่าเกินไป สมควรเปลี่ยนคันใหม่ได้แล้ว”
หลี่เสว่รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา เขาละเอียดขนาดนี้ และยังใส่ใจเธอตลอด
คนที่อยู่ข้างล่างเวทีตกใจกันหมดแล้ว
“ไม่ใช่บอกว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกจนๆ เหรอ? ซื้อรถมาเซราติได้?”
หลี่ฝานและ หลิ่วจาวเฟิงจ้อง ไป๋ยี่เฟยอย่างแน่นิ่ง ที่จริงแล้วไป๋ยี่เฟยเอาเงินมาจากไหนกันแน่?
บนเวที ไป๋ยี่เฟยก็เอากุญแจดอกที่สองยื่นให้ หลี่เสว่ “ชิ้นที่สอง บ้านพัก หลันโปกั่ง”
อะไรนะ?
บ้านพัก หลันโปกั่ง!
ทุกคนสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดไปแล้ว!
หลิวจื่อหยุนยิ่งโอ้อวดตัวเองมากขึ้น จู่ๆ ก็พูดออกมาด้วยความดีใจ “เป็นความจริงเหรอ?”
โจวฉวี่เอ๋อก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่มาเซราติหรอกเหรอ? เขาไปซื้อ บ้านพัก หลันโปกั่งตอนไหนกัน?
ไม่ นี่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ที่สำคัญคือ ไป๋ยี่เฟยซื้อบ้านพัก หลันโปกั่งได้ยังไง?
รถมาเซราติแค่คันเดียวก็พอแล้ว ยังมีบ้านพัก หลันโปกั่งอีก!
หลี่เสว่ถือกุญแจด้วยความสั่น น้ำเสียงก็สั่นขึ้นเหมือนหัน “นี่……คือคุณซื้อเอง?”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างอบอุ่น “ครับ ชอบไหม?”
หลี่เสว่กะพริบตาโง่ๆ มึนงงไปหมดแล้ว
วันนี้เซอร์ไพรส์มาต่อต่อกัน ทำให้เธอมึนหัว เหมือนกำลังอยู่บนก้อนเมฆ รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง
คนด้านล่างเวทียิ่งคึกคักมากกว่าเดิม!
“ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? ที่เขาซื้อคือบ้านพัก หลันโปกั่ง?”
“บ้านพัก หลันโปกั่งหนึ่งหลังก็แค่ไม่กี่ล้านแหละมั้ง?”
“เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มจนๆ จะซื้อมาเซราติและบ้านพัก หลันโปกั่งได้ยังไง?”
“……”
หลิวจื่อหยุนดีใจจนทนไม่ไหว และตกใจจนไม่ไหว “ลูกเขยสวะคนนี้ซื้อบ้านพักได้? ไม่ได้หลอกพวกเรานะ?”
หลี่เฉียงตงมองอยู่อีกฝั่งหนึ่ง อารมณ์ยิ่งสับสน
สีหน้าของ หลิ่วจาวเฟิงไม่ดีจนขั้นสุด เกลียดจนกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ไอ้สวะคนนี้สมควรตาย! เอาเงินจากที่ไหนมาซื้อบ้านพักกันแน่นะ?”
ตอนนี้ จู่ๆ หลี่ฝานก็ลุกขึ้นมา พูดเสียงดังว่า “พวกคุณอย่าไปเชื่อ ไป๋ยี่เฟย เขาก็แค่อยากแกล้งเสแสร้ง! ใครจะไม่รู้ฐานะทางบ้านเขาบ้าง อย่าพูดว่าบ้านพักเลย แม้แต่บ้านธรรมดายังซื้อไม่ได้! เมื่อก่อนเขามายืมเงินผมสามแสนเพื่อให้น้องสาวผ่าตัด เขาซื้อมาเซราติและบ้านพักไม่ได้อย่างแน่นอน และกุญแจพวกนั้นเป็นของปลอมแน่นอน!”
คนที่รู้เรื่องต่างพากันพยักหน้า
“เหมือนจะใช่! เลิกเสแสร้งที่นี่ได้แล้ว?”
“ใช่สิ! ไป๋ยี่เฟยมีเงินซื้อขนาดนี้ได้ยังไง?”
“งั้นผมเสียเปรียบ ของขวัญก็ต้องเลือกใหม่ แถมยังต้องเสียเงินเพิ่มอีกกว่าหนึ่งแสน!”
“……”
ตอนนี้สีหน้าของคนในห้องประชุมก็เริ่มเปลี่ยนไป
หลิวจื่อหยุนมอง ไป๋ยี่เฟยก็อยากจะขึ้นไปตบเขาสักสองที
สีหน้าของ หลิ่วจาวเฟิงกลับดีขึ้นมาก คิดไปก็ใช่ ไป๋ยี่เฟยเด็กหนุ่มจนๆ คนนี้ เอาเงินมาจากไหน ทั้งซื้อรถทั้งซื้อบ้าน? ไม่ใช่ในจินตนาการหรอกมั้ง?
ไป๋ยี่เฟยก็ยิ้มออกมา “คนโง่!”
เมื่อ หลี่ฝานถูกด่าว่า” โง่” ก็ระเบิดทันที “ไป๋ยี่เฟย! แกมันตีสองหน้า แกยังอยากจะหลอกทุกคนอีก แกไม่ดูสารรูปตัวเองเลย อย่าพูดถึงมาเซราติและบ้านพัก หลันโปกั่งเลย แม้แต่รถคันใหญ่คนเดียวแกยังซื้อไม่ได้ แม้แต่บ้านธรรมดาๆ ก็ซื้อไม่ไว ยังมีหน้ามาหลอกลวงที่นี่อีก?”
“ที่นี่มีใครไม่อยู่ในระดับสูงบ้าง แกคิดว่าแกพูดไปมั่ว หยิบกุญแจปลอมๆ สองดอกมา แล้วทุกคนจะเชื่องั้นเหรอ?”
หลี่ฝานด่าไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ ทุกคนที่อยู่ในงานก็ประจบประแจงขึ้น ทุกคนฟังแล้วก็พยักหน้ารับ
ตอนนี้ หลงหลิงหลิงก็เดินขึ้นเวทีอย่างเหมาะเจาะ และพูดกับทุกคนว่า “ขอโทษนะคะ ขอขัดจังหวะนายหลี่สักนิด ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของโหวจวี๋กรุ๊ป บ้านพักหลันโปกั่งอยู่ในสังกัดของโหวจวี๋กรุ๊ป ลูกกุญแจของจริงของปลอมฉันยังแยกออกค่ะ ฉันจะบอกทุกคนอีกครั้งนะคะว่า นี่คือของจริง!”
พูดจบ ทุกคนก็นิ่งอึ้งไป
ของจริง?
เป็นของจริงจริงๆ!
หลี่ฝานถามอย่างไม่เชื่อ “ถ้าหากเป็นของจริง งั้นเธอก็เอาเอกสารทรัพย์สินบ้านเรือนออกมาให้ดูสิ!”
ไป๋ยี่เฟยมอง หลี่ฝานอย่างเหยียดหยาม ยังไม่วางใจจริงๆ อีก!
ต่อหน้าทุกคน ไป๋ยี่เฟยก็หยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าตัวเอง และยื่นให้ หลี่เสว่ “เสว่เอ๋อ นี่คือของคุณทั้งหมด”
หลี่เสว่รับมานิ่งๆ และเปิดดู “เป็นของจริง!”
ข้างบนยังมีตราของหลันโปกั่ง นี่คือสิ่งที่ทำขึ้นมาไม่ได้
เสียงของ หลี่เสว่ไม่ดัง แต่ว่าตอนที่ทุกคนกำลังเงียบ ทุกคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน
หลงหลิงหลิงยังพูดอีกว่า “หรือว่าคำพูดของฉันมันเชื่อไม่ได้?”
ใครก็รู้ว่าเธอเป็นผู้ช่วยของท่านประธาน โหวจวี๋กรุ๊ป คำพูดย่อมจริงแน่นอน!
ตอนนี้ทุกคนตกใจไปหมดแล้ว และยังงุนงงไปหมดด้วย
นี่แม่งเป็นเรื่องจริงจริงๆ!
บทที่23
หลี่ฝานมองเอกสารในมือของ หลี่เสว่อย่างไม่เชื่อ บวกกับคำพูดของ หลงหลิงหลิง เขาเหมือนกับถูกฟ้าผ่าลง ตกใจจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้ว
“นี่…..จะเป็นไปได้ยังไง?”
หลิ่วจาวเฟิงยิ่งกำหมัดแน่นกว่าเดิม และจ้อง ไป๋ยี่เฟยอย่างดุร้าย
หลิวจื่อหยุนกลับดีใจจนตีหลังของ หลี่เฉียงตง หลี่เฉียงตงไม่ทันระวัง ก็เกือบถูกตีจนล้มไปข้างหน้า
“ฮ่าฮ่า…..สวะคนนี้ยังถือว่าเป็นคนอยู่บ้างแล้ว!”
สายตาที่ทุกคนมอง ไป๋ยี่เฟยก็เปลี่ยนไป ในเมื่อซื้อบ้านที่ หลันโปกั่งได้ แถมยังมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับผู้ช่วยท่านประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปอีก งั้นเขาก็เป็นคนที่มีเรื่องด้วยไม่ได้!
รอ หลี่ฝานเรียกสติกลับมา เห็นสายตาของทุกคนเหมือนมองคนโง่มองมาที่เขา ใบหน้าของ หลี่ฝานก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แทบอยากจะหาที่ทะลุเข้าไป
นายท่านก็รู้สึกว่าวันนี้เสียหน้าไปหมดแล้ว เหลือบมองหลานชาย ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา “แกยังไม่ไสหัวไปอีก ยืนอยู่ตรงนี้ทำไม? ยืนขายหน้าต่อเหรอ?”
“คุณปู่!” หลี่ฝานมองปู่ตัวเองอย่างไม่เชื่อ
นายท่านไม่ได้ทำให้สีหน้าของเขาดีขึ้นเลย เพียงแค่กระแอมเย็นชาออกมา
หลี่ฝานจำเป็นต้องเดินออกไปท่ามกลางสายตาเย้ยหยันของทุกคน
“ไป๋ยี่เฟย! ฉันกับแกอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้หรอก!”
แค่ หลี่ฝานเดินออกมา ทุกคนก็เริ่มส่งของขวัญต่างๆ นานา ให้ หลี่เสว่ ทำให้ หลี่เสว่รู้สึกได้รับความรัก และยิ่งทำให้ หลิวจื่อหยุนที่อยู่ด้านข้างยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู
รอจนถึงงานเลี้ยงสุดท้าย ไป๋ยี่เฟยก็สั่ง หลงหลิงหลิงไว้อีกไม่กี่ประโยค หลงหลิงหลิงพูดกับ นายท่านว่า “ไข่มุกราตรีราคาไม่เบา ถ้าหากคุณหญิง หลี่เสว่ไม่ถือสาล่ะก็ งั้นก็ให้ โหวจวี๋กรุ๊ปดูแลแทนก่อนนะคะ”
หลี่เสว่พยักหน้ารับไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เธอไม่รู้จักประธาน โหวจวี๋กรุ๊ป ความจริงของขวัญราคาแพงขนาดนี้เธอก็รู้สึกไม่อยากรับไว้
ไม่นานงานเลี้ยงก็จบลง
ของขวัญที่ หลี่เสว่ได้รับถูกยัดใส่ในรถที่พวกเขาขับมาจนเต็มไปหมดแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ ไป๋ยี่เฟยก็ให้คนมาขับรถมาเซราติกลับไป
ตอนที่ หลิวจื่อหยุนเห็นรถมาเซราติก็ดีใจไม่หยุด แถมยังจูงมือ หลี่เฉียงตงให้นั่งรถมาเซราติด้วยกัน แต่ ไป๋ยี่เฟย กลับถูก หลิวจื่อหยุนให้ไปขับรถยนต์ฉางอัน
ตอนกำลังจะไป ด้านหลังก็มีเสียง นายท่านดังขึ้น
“เสว่เอ๋อ……เฉียงตง……”
ก็หมุนตัวไปมอง หลังจากนั้นใบหน้าก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร
นายท่านถามอย่างละอายใจ “เสว่เอ๋อ เฉียงตง เมื่อก่อนเป็นผมที่ไม่ดีเอง หลังจากวันนี้ผมจะไม่ลำเอียงอีกแล้ว เสว่เอ๋อ,เฉียงตง ผมก็มีความลำบากใจเหมือนกัน!”
หลิวจื่อหยุนเห็นแบบนั้นก็กระแอมออกมา “นายท่านมีความลำบากใจอะไร? คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว ทุกอย่างไม่ใช่คุณพูดแล้วทุกคนต้องฟังหรอกเหรอ แค่คำพูดไม่กี่ประโยคยังมีความลำบากใจอะไรอีก?”
นายท่านฟังจบก็อึดอัดถึงขีดสุด
หลี่เฉียงตงเหลือบมอง หลิวจื่อหยุน และพูดว่า “เลิกพูดได้แล้ว”
หลิวจื่อหยุนจ้อง หลี่เฉียงตง “ทำไมจะพูดไม่ได้ หรือว่าฉันพูดผิดงั้นเหรอ?”
เมื่อก่อน หลิวจื่อหยุนไม่กล้าพูดแบบนี้ แต่ผ่านเรื่องคืนนี้ไป ท่านประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปแสดงความหมายชัดเจนขนาดนี้ ให้ความกล้าเธอมาเต็มที่
นายท่านยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก “เมื่อก่อนพ่อทำผิด หลังจากนี้พ่อจะแก้ และไม่ลำเอียงอีกแน่นอน!”
หลิวจื่อหยุนกระแอมออกมา ไป๋ยี่เฟยก็เลยดึง หลี่เสว่เข้าไปนั่งในรถมาเซราติ “พวกเราไปกันได้แล้ว ไปดูบ้านกัน”
“ใช่! บ้านพัก!” หลิวจื่อหยุนได้ยินแบบนี้ก็ดีใจจนหยุดไม่อยู่ และรีบดึง หลี่เฉียงตงเข้ามานั่งในรถ
ไป๋ยี่เฟยก็พา โจวฉวี่เอ๋อ และรถอีกสองคันไปที่บ้านพัก
พอมาถึงในเขตบ้าน หลันโปกั่ง หลิวจื่อหยุนก็พูดเร่งขึ้น “อยู่ที่ไหน? รีบชี้ทาง!”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างจนใจ “เดินตรงไปข้างหน้า หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้วค่ะ”
หลิวจื่อหยุนแย่งกุญแจที่อยู่ในมือ หลี่เสว่มา ดึง หลี่เฉียงตงและรีบเดินไปข้างหน้า
โจวฉวี่เอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “คุณป้าจะรีบทำไม? บ้านวิ่งไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”
หลี่เสว่ก็รู้สึกเกรงใจ “แม่ไม่เคยอยู่ในบ้านแบบนี้ ดังนั้นเลยตื่นเต้นเล็กน้อย”
“เหอะเหอะ ผมรู้ ผมก็ตื่นเต้น! แต่นี่คือบ้าน หลันโปกั่งนะ! “โจวฉวี่เอ๋อยิ้มและตอบออกมา
หลี่เสว่ก็อมยิ้ม หลังจากนั้นก็มอง ไป๋ยี่เฟย และอธิบายว่า “ฉันไม่รู้จักกับประธาน โหวจวี๋กรุ๊ป ดังนั้นเลยรู้เลยค่ะว่าทำไมเขาทำแบบนี้”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มและพูด “ผมรู้ ผมเชื่อคุณ”
หลี่เสว่เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจออกมา
โจวฉวี่เอ๋อกลอกตาและพูดว่า “ประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปเป็นใครกันแน่? เธอบอกว่าเธอไม่รู้จัก แล้วทำไมเขาต้องให้ของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้?”
หลี่เสว่ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”
“ใช่สิ คุณทั้งซื้อรถมาเซราติทั้งซื้อบ้าน คุณเอาเงินมาจากไหนกันแน่?” โจวฉวี่เอ๋อ ถามด้วยความสงสัย
หลี่เสว่ก็มองที่เขาเหมือนกัน
ไป๋ยี่เฟยอธิบายอย่างลังเล “อืม ผมไปยืมเงินเพื่อนมา”
“……”
โจวฉวี่เอ๋อตวาดว่า “คุณไม่ได้บอกว่าคุณถูกลอตเตอรี่หรอกเหรอ?”
หลี่เสว่สงสัย “แกรู้ได้ยังไง?”
โจวฉวี่เอ๋อเรียกสติกลับมาได้ ไป๋ยี่เฟยก็รีบพูดขึ้นทันที “เมื่อก่อนเตรียมรถแข่งให้คุณแล้ว ก็ไปเจอเขาพอดี เพื่อที่จะเซอไพรส์คุณ เลยไม่ได้บอกคุณเรื่องนี้”
หลี่เสว่เข้าใจ เลยจ้อง โจวฉวี่เอ๋อ “อืม!”
ไป๋ยี่เฟยเห็นท่าทางของพวกเธอยังจะถามเรื่องนี้ต่อไป ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุย “พวกเรารีบไปดูบ้านกันเถอะ!”
โจวฉวี่เอ๋อได้ยินแบบนี้ก็ดึง หลี่เสว่เลยไปข้างหน้าอย่างแฮปปี้ “ใช่ ผมยังไม่เคยเห็นเลย!”
หลี่เสว่มอง ไป๋ยี่เฟย ที่ถูก โจวฉวี่เอ๋อดึงไป
ไป๋ยี่เฟยก็ส่ายหน้ายิ้มไม่หยุด คิดถึงไข่มุกราตรี ไป๋หยุนเผิงก็โทรเข้ามา” ได้รับของขวัญแล้ว ขอบคุณมาก”
ไป๋หยุนเผิงตอบกลับ “ได้รับก็ดี”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียง ไป๋หยุนเผิงเหมือนจะเหนื่อยมาก ก็ถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไป? รู้สึกว่าแกดูเหนื่อย”
ไป๋หยุนเผิงถอนหายใจออกมา “ไม่มีอะไร แกอยู่ที่เมืองเทียนเป่ยดีๆ เถอะ”
“เจอเรื่องลำบากอะไรแล้วใช่ไหม?” ไป๋ยี่เฟยได้ยินน้ำเสียงไม่ค่อยดี ก็รู้สึกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ไป๋หยุนเผิงฟังจบก็พูดขึ้นว่า “ตอนนี้เรื่องพวกนี้แกยังจัดการไม่ได้ นอกจากแก…..”
“นอกจากอะไร?” ไป๋ยี่เฟยถามขึ้น
ไป๋หยุนเผิงพูดต่อว่า “นอกจากแกจะทำให้ โหวจวี๋กรุ๊ปพัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเมือง”
ไป๋ยี่เฟย: “……”
วางสายโทรศัพท์ไป ไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้
ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้…..
เฮ้อ!
ไม่ยากก็คงจะเสแสร้ง แต่เขาเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าเขาทำได้
อีกด้านหนึ่ง หลิวจื่อหยุนเปิดบ้านเรียบร้อยแล้ว เดินดูรอบๆ อย่างมีความสุข
บ้านมีทั้งหมดสี่ขั้น ชั้นแรกเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องสมุด ชั้นที่สองเป็นห้องรับแขก ชั้นที่สามคือที่พักอาศัย ชั้นที่สี่คือห้องออกกำลังกาย และยังมีสระว่ายน้ำสระใหญ่
โจวฉวี่เอ๋อไปที่ห้องออกกำลังกายแล้ว หลี่เสว่ก็ไปหา หลิวจื่อหยุนและหลี่เฉียงตงที่อยู่ตรงสระน้ำ
หลิวจื่อหยุนเห็นว่า หลี่เสว่มาแล้ว ก็ดึง หลี่เสว่มาถามว่า “เสว่เอ๋อ ห้องพวกนี้แกคิดว่าจะทำยังไง?”
“จะทำยังไงอะไร?” หลี่เสว่ไม่เข้าใจคำพูดของ หลิวจื่อหยุน
หลิวจื่อหยุนพูดต่อว่า “เสว่เอ๋อ เอาบ้านนี้เปลี่ยนเป็นชื่อพ่อแม่ เข้าใจไหม?”
“ทำไมคะ? ไป๋ยี่เฟยเป็นคนซื้อ” หลี่เสว่มองแม่ตัวเองอย่างงงๆ
หลิวจื่อหยุนจ้องหน้า “แกโง่รึเปล่า? ไม่ช้าไม่นานแกก็ต้องหย่ากับ ไป๋ยี่เฟย ถ้าเขียนชื่อพวกเรา ตอนที่หย่ากัน เขาก็มาแบ่งบ้านนี้ไม่ได้! หลังจากนั้นบ้านนี้ก็จะเป็นของพวกเรา!”
“ฉันไม่! ฉันไม่หย่ากับ ไป๋ยี่เฟยหรอกค่ะ!” หลี่เสว่พูดออกมาอย่างดื้อรั้น
หลิวจื่อหยุนหน้านิ่วคิ้วขมวด “แกมันเป็นเด็กไม่มีสมอง ไป๋ยี่เฟยเจ้าสวะคนนี้มันมีอะไรดี? แกไม่เห็นวันนี้ที่ท่านประธาน โหวจวี๋กรุ๊ปดีกับแกขนาดนี้หรอกเหรอ? ถึงแม้ไม่ได้เจอเขา แต่ว่าเขาเอาหุ้นให้แก แถมยังให้ไข่มุกราตรีอีก ใครดีใครเลวแกแยกแยะออกไหม?”
หลี่เสว่สีหน้าไม่พอใจ “แม่! แต่ว่านี่……”
“แต่ว่าแต่ว่าอะไร? ฟังแม่นะ บ้านเปลี่ยนเป็นชื่อพวกเรา!” หลิวจื่อหยุนพูดออกมา