ตอนที่ 68
ไป๋ยี่เฟยกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ในใจรู้สึกถึงความวิกฤตที่มากขึ้น
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้รีบร้อนที่จะฆ่าไป๋ยี่เฟย และยังพูดต่อไปว่า “อันที่จริงฉันก็เห็นอกเห็นใจแกนะ! ท้ายที่สุดชะตากรรมของพวกเรามันก็คล้ายคลึงกัน!”
ไป๋ยี่เฟยสับสน
“อะไรนะ”
ชายคนนั้นพูดเยาะเย้ย “ฉันเองมันก็เป็นแค่เด็กผู้ชายจากชนบทคนหนึ่งที่ไม่มีเงินและไม่มีอำนาจอะไร หลังจากที่ไปเมืองหลวง ก็แต่งงานกับคนคนหนึ่งของครอบครัวที่ร่ำรวย ในตอนแรก เป็นเพราะฉันมีฝีทางการต่อสู้ที่ดี ยังมีประโยชน์อยู่นิดหน่อย จึงยังพอไปได้ แต่หลังจากนั้น เธอก็ค่อยรังเกียจฉัน ไม่หาเงิน ไม่มีงาน แล้วก็ไม่มีภูมิหลัง สุดท้าย ก็เป็นไปอย่างที่คิดไว้เธอก็ไปติดงอมแงมอยู่กับหลินเซียว!”
ไป๋ยี่เฟยหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกได้ว่าตอนที่คนคนนั้นพูดถึงหลินเซียว ก็มีความอำมหิตเต็มไปทั้งร่าง ทำให้คนรู้สึกหายใจไม่สะดวก และยังทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว!
แต่ไป๋ยี่เฟยยังมีความสงสัยอยู่เล็กน้อย “หลินเซียว ไม่ได้กระโดดตึกตายหรอกหรือ”
“ฮึ นั้นมันก็เป็นเพียงวิธีพูดที่ผู้ช่วยของเขาพูดกับคนภายนอก เพื่อช่วยรักษาหน้าของเขาในวาระสุดท้าย”
ไป๋ยี่เฟยหายใจไม่ออก แม้แต่ระดับยอดฝีมืออย่างหลินเซียวก็ยังถูกทำให้ตายได้ เขาและไป๋หู่อาจจะเหลือเพียงเส้นทางของความตายเพียงเส้นทางเดียว ในกรณีนี้เขาทำได้แค่ปกป้องหลี่เสว่ไว้เท่านั้น!
เมื่อคิดได้ถึงจุดนี้ ไป๋ยี่เฟยก็วางสายโทรศัพท์และจงใจพูดออกไป “อันที่จริงเมื่อกี้นี้ผมไม่ได้โทรหาเขาหรอก แต่โทรแจ้งตำรวจ”
พูดจบ สายตาของผู้ชายคนนั้นก็ดูเย็นชา และพูดว่า “แจ้งตำรวจหรือ สำหรับฉันแล้วตำรวจก็เป็นแค่ขยะ! มีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วฉันจะลงมือแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออก จะลงมือทำต้องมีการเตือนด้วยหรือ เมื่อกี้นี้ทำไมถึงไม่เห็นคุณเตือนอะไรเลย
ไป๋ยี่เฟยไม่กล้าประมาท เขารู้สึกได้ว่าความอดทนของผู้ชายคนนั้นหมดลงแล้ว จึงตัดสินใจแล้วที่จะฆ่าเหยื่อทิ้ง
ไป๋ยี่เฟยกำหมัดแน่น กัดฟัน ในขณะที่ผู้ชายคนนั้นยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาจึงพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“หาที่ตาย!”
ดวงตาของชายคนนั้น เมื่อได้เห็นไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้ามา ไม่ได้ขยับตัวอะไรมาก ค่อยๆหลบไปด้านข้างเล็กน้อย
เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงโน้มตัวเลยไปข้างหน้า ไม่ได้สัมผัสโดนชายคนนั้น จนเกือบจะล้มลงกับพื้น แต่ชายคนนั้นไม่ได้เปิดโอกาสให้เขา ความคอเสื้อด้านหลังของไป๋ยี่เฟยไว้ และหยิบมีดสั้นออกมา
หลี่เสว่ที่ซ่อนตัวอยู่เมื่อได้เห็นการเผชิญหน้ากันของพวกเขาผ่านช่องว่าง ดังนั้น เมื่อได้เห็นว่าชายคนนั้นหยิบมีดสั้นออกมา หลี่เสว่ก็ตะโกนเสียงดัง “อย่านะ!”
จากนั้นหลี่เสว่ก็เปิดเสื่อน้ำมันออก แล้วรีบสิ่งพุ่งเข้ามา
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงของหลี่เสว่ ในใจก็ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล
บางทีอาจจะเป็นเพราะตนเองกำลังเผชิญอยู่กับภัยอันตราย จู่ๆ หลี่เสว่ก็ระเบิดกำลังทั้งหมดที่มี วิ่งไปอย่างรวดเร็ว พยายามที่จะผลักผู้ชายคนนั้นออกไป
แต่ชายคนนั้นใช้สายตาที่เหยียดหยามมองไปยังหลี่เสว่ และมือก็ไม่หยุดที่จะแทงไปที่หลังของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยยังรู้สึกถึงอันตราย ดิ้นรนอย่างหนัก นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยให้เขาดิ้นหลุดไป
ชายคนนั้นตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นใบหน้าก็เคร่งขรึมจนดูน่ากลัว
“ฮี ประเมินแกต่ำไปจริง ๆ” ชายคนนั้นคิดว่าไป๋ยี่เฟยเป็นเพียงคนจำพวกอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง และไม่ต้องใช้กำลังอะไรมากมาย ไม่คิดว่าเขาจะหลุดพ้นไปได้
ทันทีที่ไป๋ยี่เฟยดินหนีออกมาได้ หลี่เสว่ก็วิ่งมาถึงเบื้องหน้าของไป๋ยี่เฟย น้ำเสียงของเธอสั่นอย่างรุนแรง “สามี……”
เสียงเรียก “สามี” ทำให้หัวใจของไป๋ยี่เฟยสั่นสะท้าน
“ผมไม่เป็นอะไร” ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลี่เสว่รู้สึกโล่งใจ หลังจากได้เห็นชายคนนั้น ความกล้าที่มีอยู่เมื่อกี้ก็ได้หายไปแล้ว ในตอนนี้กลายเป็นจับแขนของไป๋ยี่เฟยไว้แน่นด้วยความกลัว
ไป๋ยี่เฟยได้เป็นที่พึ่งให้หลี่เสว่ จึงเดินไปข้างหน้าหลี่เสว่หนึ่งก้าว พูดว่า “เป้าหมายของคุณคือผม ปล่อยเธอไป!”
“ไม่มีใครได้ไปไหนทั้งนั้น!” ตอนที่ชายคนนั้นขึ้นมาในครั้งแรกไม่พบกับหลี่เสว่ แต่เมื่อเขาได้คุยกับไป๋ยี่เฟย ความเฉียบแหลมในฐานะของนักฆ่า เขาได้มองไปรอบ ๆและพบว่ามีความผิดปกติอยู่ตรงมุม ดังนั้นจึงเดาว่าหลี่เสว่คงจะซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น สุดท้ายก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ!
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “เป้าหมายของคุณคือผม ไม่ใช่เธอ! ทำไม นายจ้างจ่ายเงินให้สำหรับสองคนหรือไง”
ชายคนนั้นพูดอย่างเย็นชา “นายจ้างบอกไว้แล้ว เรื่องนี้จะต้องทำอย่างเงียบ ๆ ดังนั้นฉันจะปล่อยเธอไปไม่ได้!”
ไป๋ยี่เฟยได้เห็นชายคนนั้นถือมีดสั้นมุ่งเข้ามา จิตใต้สำนึกก็สั่งให้ผลักหลี่เสว่ออกไป เดิมทีหลี่เสว่ก็ถูกนำไปพัวพัน เขาไม่อาจจะให้เกิดอะไรกับเธอได้ ไม่ต้องพูดถึง หลี่เสว่เป็นภรรยาของตนเอง!
หลี่เสว่ถูกผลักออกไป ขณะที่หันตัวกลับไป มีดสั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้น “พัฟ” ทะลุเข้าไปยังท้องของไป๋ยี่เฟย
“ไป๋ยี่เฟย!” หลี่เสว่ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจกลัว
อย่างไรก็ตาม ไป๋ยี่เฟยกลับไม่รู้สึกถึงความรู้สึกของคนใกล้ตาย เพียงแต่รู้สึกเจ็บเท่านั้น
ทันทีที่ลืมตาขึ้น มีดสั้นเล่มนั้นได้แต่ทะลุเข้าไปเพียงเล็กน้อย และมีมือที่หนานั้นก็ได้จับใบมีดเอาไว้ เพราะความคมของใบมีดจึงทำให้เลือดบนมือหยดลงบนพื้นทีละหยด
“ไป๋หู่!” ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าใจที่ได้รู้สึกว่าจะต้องตายแน่นอนแล้วก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา
เพียงแต่เขาไม่คาดคิด ว่าไป๋หู่จะมารวดเร็วขนาดนี้
คิดไม่ถึงว่ายังมีนักฆ่าคนนั้น ที่ตอนนี้กำลังตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไป๋หู่
ในขณะนี้เช่นกัน ไป๋หู่กำลังกวาดสายตามองอย่างเยือกเย็น เตะเท้าออกไปอย่างแรง ทำให้ชายคนนั้นกระเด็นออกไป
“ป้าง”
กระแทกลงบนพื้น
ชายคนนั้นกำหน้าท้องไว้แล้วลุกขึ้นยืน “นายมาแล้วหรือ ฮึ ก็ไม่มีประโยชน์หรอก! เมื่อกี้นี้แค่ฉันไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ พวกแกก็รอความตายได้เลย!”
พูดจบ ชายคนนั้นก็หยิบมีดสั้นแล้วพุ่งมาอีกครั้ง
ไป๋หู่ก็ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอ พุ่งออกไปข้างหน้าเช่นเดียวกัน
ทางนี้ ไป๋ยี่เฟยได้ถอยหลังไปสองสามก้าว หลี่เสว่ก็รีบวิ่งเข้ามา กอดไป๋ยี่เฟยเอาไว้ พูดอย่างเป็นกังวล “คุณเป็นอย่างไรบ้าง”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า มองไปยังหลี่เสว่ด้วยสายตาที่เป็นกังวล และยังได้โอบไหล่เธอไว้ และพยักหน้า
หลี่เสว่กังวลเกี่ยวกับไป๋ยี่เฟย แต่ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งนี้ ได้แต่พูดอย่างสั่นๆว่า “จะทำอย่างไรดี เลือดออกแล้ว……”
“ทั้งหมดเป็นเพราะฉันไม่ดี ฉันไม่ควรจะพุ่งออกมาแบบนั้น……” หลี่เสว่ตำหนิตนเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าไป๋ยี่เฟยกำลังจะถูกชายคนนั้นฆ่า เธอก็ไม่สามารถจะควบคุมตนเองได้ ตอนนี้เมื่อคิดดู ก็นึกกลัวขึ้นมาภายหลัง
“ไม่เป็นไร” ไป๋ยี่เฟยยกมือขึ้นลูบหัวหลี่เสว่ “เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง……”
ไม่ใช่เขา ก็คงจะไม่ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ในวันนี้หรอกหรือ
หลี่เสว่ส่ายหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับรู้สึกว่าเป็นความผิดของเธอ
ที่นี่ ไป๋หู่กับชายคนนั้นกำลังหยุดนิ่งอยู่หลังจากสู้กันอยู่สองสามยก
ชายคนนั้นขยับตัวเกร็งกล้ามเนื้อ และพูดอย่างช้า ๆ “นายแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดมาก แน่นอน แต่มันก็น้อยมาก!”
ไป๋หู่มองไปยังผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ
เมื่อเห็นแบบนั้นจู่ ๆชายคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “รู้อยู่แล้วว่ามาที่นี่เท่ากับมาตาย ยังจะมาอีกหรือ แกนี่มันภักดีเกินไปหรือเปล่า หรือว่า……”
“ใช่!” ไป๋หู่ไม่เปิดโอกาสให้ชายคนนั้นได้พูดต่อ รีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และต่อยออกไป
นักฆ่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว หลีกศีรษะหลบไป และชกกำปั้น
ไป๋หู่รวดเร็วมาก คว้าข้อมือของนักฆ่าได้อย่างรวดเร็ว ดึงไปข้างหน้า แล้วดันเข่าขึ้น
เมื่อนักฆ่าเห็นดังนั้น จึงใช้แขนอีกข้างหนึ่งของเขาขวางเอาไว้โดยสัญชาตญาณ เข่าก็อยู่บนแขนของเขา เขารู้สึกเจ็บปวด ใบหน้าบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ
ไป๋หู่ใช้จังหวะที่เผลอไป คว้าจับข้อมือไว้ มืออีกข้างหนึ่งก็จับเอวของนักฆ่า แล้วยกตัวนักฆ่าขึ้นมา
“เชี่ย!” ไป๋ยี่เฟยตกใจมากในขณะที่ได้เห็นฉากนี้
หลี่เสว่ก็ตะลึงเช่นกัน
จากนั้นก็มีเสียงดัง “ป้าง” นักฆ่าถูกโยนลงบนพื้นอีกครั้ง
นักฆ่าลุกขึ้นอย่างยากลำบาก และจ้องมองไปยังไป๋หู่ด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้!”
“เรียนกังฟูมาไม่กี่ปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไปได้ถึงระดับนี้!”
เขาเรียนมาตั้งยี่สิบกว่าปี เมื่อเทียบกับคนที่เรียนมาไม่กี่ปี ใครจะเก่งกว่ากัน ไม่ต้องพูดก็น่าจะรู้ แต่ในความเป็นจริง ไป๋หู่กลับเก่งกว่าเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็ว หรือจะเป็นพละกำลัง รวมถึงการต่อสู้ล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าเขา!
ไป๋หู่มองไปยังชายคนนั้น สีหน้าไร้ความรู้สึก “พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ดี แต่น่าเสียดายที่แกไม่มี”
ชายคนนั้นเบิกตากว้าง ไป๋หู่ก็พุ่งไปข้างหน้า
ทันใดนั้น ไป๋หู่ก็เข้าไปใกล้นักฆ่า นักฆ่าก็รีบยื่นมือออกไปทันที ปิดกั้นไว้ตรงหน้าอก จากนั้นก็เหมือนถูกผลักด้วยกำลังที่แข็งแกร่ง
ชายคนนั้นถูกเตะถอยหลังออกไปสองสามเมตร ก่อนที่จะหยุด
ก่อนที่ชายคนนั้นจะตอบโต้กลับ ไป๋หู่ก็ได้มาถึงข้างหน้า คว้าตัวชายคนนั้นไว้ แล้วชกหมัดลงไป