บทที่ 72
แต่ทว่าไป๋ยี่เฟยเดินผ่านไป ไม่มองแม้แต่น้อย
รปภ.:“……”
ไป๋ยี่เฟยพาหลี่เสว่กลับโดยการเรียกรถ ไม่ได้ไปโรงพยาบาล และไม่ได้กลับบ้าน แต่เปิดห้องโรงแรมแถวๆนั้น
จากนั้นบอกหลงหลิงหลิงให้ตามหมอมา
ณ ห้องในโรงแรม ไป๋ยี่เฟยนั่งครุ่นคิดบนโซฟา
ครั้งนี้เขาต้องสั่งสอนหลิ่วจาวเฟิงให้ไม่อาจลืมได้ ให้เขาไม่กล้ายุ่งกับหลี่เสว่อีก
แต่หลิ่วจาวเฟิงชอบตัวตนของเขาที่สุดไม่ใช่เหรอ?
เขาจะปล่อยไปงั้นเหรอ!
เขาทำให้บริษัทในชื่อของเขาโดนทำลายไปหมด ทำให้หลิ่วซื่อกรุ๊ปไม่ชอบเขา ทำให้เขาตกลงจากที่สูง!
ตอนนั้นเขายังกล้าแย่งหลี่เสว่?
“ก๊อกๆๆ…..”ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็สกัดความคิดของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยไปเปิดประตู ทันใดนั้นก็งุนงง
หน้าประตูมีผู้หญิงผอมสวยยืนอยู่ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือหญิงงามผู้นี้เป็นเอกลักษณ์มาก ไม่ได้สวยหยาดเยิ้ม ไม่ใช่สะอาดบริสุทธิ์ แต่เป็นความสุขุมรอบรู้
ทำให้ไป๋ยี่เฟยละสายตาไม่ได้ ผู้หญิงรูปร่างดีและท่าทางแบบนี้เห็นได้ไม่บ่อยนัก
“คุณคือ……”ไป๋ยี่เฟยถาม
“หมอ”หญิงงามตอบ และถามขึ้น:“คุณคือไป๋ยี่เฟย?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า จากนั้นหลีกทางให้หมอเข้าไปในห้อง
เมื่อหญิงงามเข้ามาก็เห็นไป๋ยี่เฟยสวมชุดผู้ป่วย และคราบเลือด จึงขมวดคิ้วทันที“บาดเจ็บอยู่ก็ไม่ควรออกไปด้านนอก คนสมัยนี้ไม่รักตัวเองเอาซะเลย!”
ไป๋ยี่เฟยที่โดนดุก็รู้สึกไม่ดี รีบพยักหน้า“ใช่ๆๆ เข้าใจแล้ว”
หญิงงามกระแอม และพูดอย่างรำคาญ:“เอาเถอะ รีบถอดเสื้อผ้าเถอะ!รีบทำจะได้รีบเสร็จ!”
ไป๋ยี่เฟยตกใจตาโต“ห้ะ?”
ถอดเสื้อผ้า?
รีบทำจะได้รีบเสร็จ?
หญิงงามเห็นไป๋ยี่เฟยตกใจมากไม่เข้าใจ ขณะที่กำลังจะพูดก็นึกขึ้นได้ จนหน้าแดงทันที:“คุณคิดอะไร?บอกแล้วไงว่าฉันเป็นหมอ มารักษาคุณ!ถ้าหลิงหลิงไม่บอกให้ฉันมา ฉันก็ไม่มาหรอก!”
ไป๋ยี่เฟยรู้ว่าเข้าใจผิด จึงหัวเราะอย่างเขินอาย“ฮ่าๆ……แบบนี้นี่เอง!”
หญิงงามมองไป๋ยี่เฟยอย่างไม่พอใจ:“เอาเถอะ รีบถอดเสื้อผ้า”
ไป๋ยี่เฟยอึ้ง จากนั้นชี้ไปยังหลี่เสว่ที่อยู่บนเตียง:“ไม่ใช่ ผมให้หมอมาดูอาการภรรยาของผมต่างหาก”
พูดพลางพาหญิงงามเข้ามาในห้อง จากนั้นหญิงงามก็เห็นหลี่เสว่ที่นอนอยู่บนเตียง
เธอมองหน้าตางดงามของหลี่เสว่ แล้วมองไป๋ยี่เฟยอีกที เธอขมวดคิ้วเบาๆ มองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาเหยียดหยาม
มองอยู่ครู่หนึ่ง หญิงงามก็เอ่ยขึ้น:“ในเมื่อเป็นภรรยาของตัวเอง ก็อย่าใช้ของสกปรกแบบนี้ ดีที่ยาชนิดนี้ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อร่างกาย ไม่งั้นคุณต้องเสียใจแน่!”
โชคร้ายตกมาที่ไป๋ยี่เฟย เขาไม่รู้จะพูดยังไง
“ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ได้……”ไป๋ยี่เฟยพยายามอธิบาย
หญิงงามพูดขัดขึ้นมา:“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ ไม่ต้องอธิบาย ฉันไม่อยากรู้เรื่องวุ่นๆของพวกคุณ ฉันเป็นแค่หมอ”
พูดจบเธอก็ออกไปโดยไม่ให้โอกาสไป๋ยี่เฟยอธิบายแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะพูดยังไง แค่หลี่เสว่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
แต่โดนเข้าใจผิดนี้มันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อนๆ
ไม่นานนักสายตาของเขาก็หดหู่ลง
เห็นหลี่เสว่นอนท่าไม่ค่อยดี ไป๋ยี่เฟยจึงเดินไปขอบหน้าต่างแล้วโทรหาหลงหลิงหลิง
“ฉันต้องการข้อมูลของหลิ่วซื่อกรุ๊ปอย่างละเอียด โดยเฉพาะหลิ่วจาวเฟิง”
จากนั้นไป๋ยี่เฟยโทรหาโจวฉวี่เอ๋อ บอกเลขห้องกับเขา:“ช่วยผมดูแลเสว่เอ๋อหน่อย”
“เสว่เอ๋อเป็นอะไร?คุณจะไปไหน?”โจวฉวี่เอ๋อถามอย่างไม่เข้าใจ
“ผม?”ไป๋ยี่เฟยยิ้มบางๆ“ผมจะไปแก้แค้นให้เสว่เอ๋อ”
พูดจบไป๋ยี่เฟยก็วางสายไป จากนั้นเดินไปข้างเตียง จูบหน้าผากหลี่เสว่เบาๆ แล้วออกจากห้องไป
โจวฉวี่เอ๋อที่อยู่ปลายสายตกตะลึง แก้แค้นให้เสว่เอ๋อ?
หลิ่วจาวเฟิงทำร้ายเสว่เอ๋อแบบนี้ หรือว่าไป๋ยี่เฟยจะไปเอาเรื่องหลิ่วจาวเฟิง?
ไม่หรอกมั้ง?ไป๋ยี่เฟยไม่ใช่คนแบบนั้น!
ช่างเถอะ ตัวเองก็รีบไปเถอะ!
“ลางานให้ฉันหน่อย”โจวฉวี่เอ๋อบอกคนข้างๆ จากนั้นรีบออกไปยังโรงแรมที่ไป๋ยี่เฟยบอกทันที
ในขณะเดียวกัน ไป๋ยี่เฟยมาถึงห้องประธานโหวจวี๋กรุ๊ปแล้ว กำลังดูข้อมูล
หลงหลิงหลิงพูดสรุปอย่างง่ายๆ:“หลิ่วจาวเฟิงมีบริษัทในชื่อเขาอยู่สองแห่ง คืออุตสาหกรรมเหล็กหลิ่วซื่อและอุตสาหกรรมการผลิตยาหลิ่วซื่อ นอกจากนี้ เขายังมีโรงแรมในเครืออีก10แห่ง และห้างในเครืออีก10แห่ง”
“ประธานของหลิ่วซื่อคือหลิ่วหลง เขามีลูกชาย3คน คนโตอยู่ต่างประเทศ คนรองหลิ่วเซียวเหยาคุมอสังหาริมทรัพย์ของหลิ่วซื่อกรุ๊ป80% คนสุดท้องก็คือหลิ่วจาวเฟิง”
“ตอนนี้หลิ่วหลงให้อสังหาริมทรัพย์แก่หลิ่วเซียวเหยาและหลิ่วจาวเฟิงเกือบหมด ปกติถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จะให้หลิ่วเซียวเหยากับหลิ่วจาวเฟิงตัดสินใจ”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วและพลิกดูข้อมูล จึงได้รู้ว่าหลิ่วจาวเฟิงไม่ได้มีอำนาจอะไร จะจัดการเขานั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าจะจัดการหลิ่วเซียวเหยา นั้นไม่ง่ายนัก
หลงหลิงหลิงถามด้วยความลังเล:“ประธาน ที่คุณตรวจสอบหลิ่วซื่อก็เพื่อ……”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมา จากนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น:“ฉันจะทำลายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในชื่อหลิ่วจาวเฟิง”
“ห้ะ?”หลงหลิงหลิงถามอย่างประหลาดใจ:“ประธาน คุณคิดให้รอบคอบนะ ถึงแม้กำลังทรัพย์ของหลิ่วซื่อกรุ๊ปไม่เท่าโหวจวี๋ของเรา แต่นั่นเพียงแค่เป็นรองจากพวกเรา เรียกว่าขว้างงูไม่พ้นคอ ยิ่งกว่านั้น หลิ่วซื่อกรุ๊ปยังมีธุรกิจที่ติดต่อกับโหวจวี๋ของเรามากมาย”
ไป๋ยี่เฟยมองหลงหลิงหลิง สายตาค่อยๆเยือกเย็น
หลงหลิงหลิงเห็นถึงกับหวาดกลัว รีบก้มหน้าพูด:“เข้าใจแล้วค่ะประธาน”
พูดจบหลงหลิงหลิงก็รีบออกไป
สายตาไป๋ยี่เฟยเมื่อครู่นั้นน่ากลัวมาก เธอทำงานในวงการนี้มาหลายปี เห็นคนมีอำนาจต่างๆจนชินแล้ว แต่ก็กลัวสายตาของไป๋ยี่เฟยทำให้เธอต้องหุบปาก ไม่พูดอะไรอีก
ไป๋ยี่เฟยก็พูดไปเช่นนั้น แต่สิ่งสำคัญยังคงอยากทำลายหลิ่วจาวเฟิง ส่วนหลิ่วซื่อกรุ๊ป หลิ่วเซียวเหยาคนนี้ไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายๆ ถ้าจะทำลายเขา คงต้องลงแรงน่าดู
นั่งคิดในห้องทำงานครู่หนึ่ง ไป๋ยี่เฟยก็โทรหาหวังโหลว
“อีก2-3วันนัดโหวจวี๋รวมตัวกัน ทำลายธุระกิจในชื่อหลิ่วจาวเฟิงให้หมด”
หวังโหลวสงสัย“หลิ่วจาวเฟิงเป็นคนของหลิ่วซื่อกรุ๊ป ที่คุณทำลายเขาเพราะเกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”
เขาเข้าใจไป๋ยี่เฟยอยู่บ้าง จึงไม่เกลี้ยกล่อมเขาเหมือนหลงหลิงหลิง เพียงแค่รู้สึกว่าหลิ่วจาวเฟิงต้องยั่วโมโหไป๋ยี่เฟยเข้าแน่ๆ ไป๋ยี่เฟยถึงได้คิดทำลายเขา!
ไป๋ยี่เฟยกระแอม พูดเรื่องราวคร่าวๆ และพูดว่า:“ส่วนอื่นๆเมื่อถึงเวลาแล้วนายค่อยมาทำ”