ตอนที่ 93
ผู้จัดการส่วนตัวของสวี่เชี่ยนก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว มือชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยพลาง ขณะเดียวกันก็พูดอย่างผยอง “ผู้จัดการเสิ่น ผู้รับผิดชอบโครงการของลูกค้าบอกให้พวกเราออกไป คุณว่าเราควรทำยังไงดี”
พูดจบ เสิ่นฝานขมวดคิ้วขึ้น
“คุณเป็นใคร คุณเป็นคนบอกให้คุณสวี่เชี่ยนออกไปเหรอ”เสิ่นฝานเดินมาหน้าไป๋ยี่เฟย เขาเพิ่งเคยเจอไป๋ยี่เฟยครั้งแรก เลยไม่รู้จักตัวตนของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจเสิ่นฝาน
ตอนนี้เองที่เสิ่นฝานสังเกตเห็นว่าไป๋ยี่เฟยจับมือหลี่เสว่ไว้แน่น ก็หรี่ลงตาทันที
พูดก็พูดหลี่เสว่ความสามารถก็ไม่ได้เหนือคนอื่น สาขาที่เรียนมาก็ไม่ตรง ตามกฎแล้วบริษัทโฆษณาซื่อจี้ไม่ควรจะรับเขาไว้ แต่พอดีตอนสัมภาษณ์ ถูกตาเสิ่นฝาน
ความสวยของหลี่เสว่ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ ที่เสิ่นฝานเลือกเพราะรู้สึกชอบพอ
ในที่ทำงานมีกฎที่สามารถหลบหลีกได้ ฉะนั้นการที่เสิ่นฝานรับหลี่เสว่เข้ามาเพราะมีจุดประสงค์ส่วนตัวด้วย
ตอนนี้เห็นหลี่เสว่จับมือกับไป๋ยี่เฟยไว้แน่นขนาดนี้ ก็รู้สึกไม่พอใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นศัตรูกับไป๋ยี่เฟย
“พ่อหนุ่ม คุณน่าจะรู้ว่าบบริษัทโฆษณาซื่อจี้อยู่ในเครือโหวจวี๋กรุ๊ป ตอนนี้โหวจวี๋ให้ความสำคัญกับโฆษณาตัวนี้มาก คุณมาทำแบบนี้ เกรงว่าข้าวก็จะไม่มีให้กิน”
ไป๋ยี่เฟยสังเกตเห็นเสิ่นฝานมองหลี่เสว่ด้วยสายตาหื่นนานแล้ว เลยหันเอาตัวบังหลี่เสว่และพูดว่า “คุณเป็นใคร มีสิทธ์อะไรมาพูดกับผม”
คำพูดของไป๋ยี่เฟยทำให้เสิ่นฝานโมโหมาก “ผมเป็นใครเหรอ ได้ ผมจะบอกคุณนะ ผมเป็นผู้จัดการของบริษัทโฆษณาซื่อจี้ คุณเป็นแค่ผู้รับผิดชอบโฆษณา คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มาพูดกับผม”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินดังนั้นก็ยกคิ้วขึ้น และพูดอย่างสุขุมว่า “ถ้าหากคุณเป็นผู้จัดการ พูดคำไหนคำนั้นสินะ งั้นคุณรีบไล่สองคนนี้ออกไปที”
“คุณว่าอะไรนะ”เสิ่นฝานเกรงว่าตัวเองจะฟังผิด
ผู้จัดการส่วนตัวของสวี่เชี่ยนฟังดังนั้น ทนไม่ได้ที่จะพ่นคำพูดหยาบคายออกมา “ไอ้สวะ แกต่างหากที่สมควรออกไป”
ไป๋ยี่เฟยฮึๆเบาๆ “ ผมเป็นคนรับผิดชอบการโฆษณานี้ การออกแบบ ควบคุมคุณภาพของโฆษณาและปิดงาน อำนาจตัดสินใจอยู่ที่ผมคนเดียวเท่านั้น”
เสิ่นฝานได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ “คุณบ้าไม่แล้วเหรอ คุณสวี่เชี่ยน เป็นใคร เขาเป็นดาราใหญ่ พิธีกรชื่อดัง คุณกล้ามีเรื่องด้วยเหรอ ไม่ต้องพูดถึงคุณ ต่อให้เป็นผู้บริหารระดับสูงของโหวจวี๋กรุ๊ปมา ก็ต้องเกรงอกเกรงใจ ”
“ถ้าคุณยังไม่หยุด ผู้บริหารระดับสูงโหวจวี๋กรุ๊ปรู้เข้า คุณอาจโดนไล่ออกออกนะ”
ไป๋ยี่เฟยพูดแบบไม่แยแส “แล้วไง”
“ห๊ะ” เสิ่นฝานโมโหจนขำ “ได้ วันนี้ผมจะทำให้คุณได้ตายอย่างชัดเจน”
พูดจบ เสิ่นฝานหยิบมือถือขึ้นมาโทร
“ฮัลโหล ผู้ช่วยหลง บริษัทโฆษณาซื่อจี้กำลังถ่ายโฆษณากัน แต่คนของโหวจวี๋กรุ๊ปกำลังก่อเรื่องอยู่ หวังว่าคุณจะเข้ามาจัดการด้วยตัวเอง”
วางโทรศัพท์ เสิ่นฝานรู้สึกผยอง “คอยดูเถอะ รอผู้ช่วยหลงเข้ามา คุณก็ไม่มีที่ให้ขยับตัวแล้ว”
ไป๋ยี่เฟยนิ่งสงบ ไม่มีท่าทีอะไร
คนรอบข้างมองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาวิงวอนให้ยอมแพ้ เพื่อผู้หญิงคนเดียว ต้องยอมทำลายอนาคตของตัวเอง ไม่คุ้มค่าสักนิด
สวี่เชี่ยนเป็นดาราใหญ่ เชิญตัวยาก ทางโหวจวี๋กรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ ไม่ใช่ที่จะมีปัญหาได้ด้วย
ตอนนี้สวี่เชี่ยนกับผู้จัดการส่วนตัวยืนมองด้วยสายตาเย้ยหยัน ท่าทีหยิ่งผยอง สายตาที่มองไป๋ยี่เฟยมีแต่การดูถูกเหยียดหยาม
ผ่านไป20นาที หลงหลิงหลิงก็ขับรถมาถึงหน้างาน
พอหลงหลิงหลิงมาถึง ทุกคนก็เปิดทางให้เข้าไปอัตโนมัติ
เสิ่นฝานเห็นหลงหลิงหลิงในชุดทำงานเป็นทางการ จากที่ยืนยืดอกตรง ก็โค้งตัวเข้าไปต้อนรับ “ผู้ช่วยหลง คุณมาแล้ว”
หลงหลิงหลิงมีสีหน้าไม่พอใจ ถามหน้าเคร่งขรึม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เสิ่นฝานรีบรายงาน “ เป็นแบบนี้นะครับ พนักงานคนใหม่ของเราทำความผิดนิดหน่อย คุณสวี่เชี่ยน ตักเตือนด้วยความหวังดีสองสามประโยค อยู่ดีๆผู้รับผิดชอบโฆษณาของโหวจวี๋กรุ๊ปกลับจะมาไล่คุณสวี่เชี่ยนออก นี่ไม่ทำให้กระทบการถ่ายทำของเราเหรอ ผู้ช่วยหลงคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้…….”
หลงหลิงหลิงฟังไป พลางมองตามไปทางที่เสิ่นฝานชี้ มองเห็นไป๋ยี่เฟยที่ยืนอยู่ตรงนั้น
หลงหลิงหลิงใจเต้นรัว
จากนั้นยังเห็นหลี่เสว่ที่ยืนอยู่ข้างไป๋ยี่เฟย พวกเขายืนจับมือกันแน่น ตอนนี้เข้าใจสาเหตุที่ไป๋ยี่เฟยเข้ามาบริษัทโฆษณาซื่อจี้ทันที แต่ฉะนั้น ในใจก็รู้สึกจี๊ด อัดอั้น
ผู้จัดการส่วนตัวของสวี่เชี่ยนก็เดินเข้ามา พูดกับหลงหลิงหลิงว่า “ผู้ช่วยหลง คุณก็รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว คนๆนี้ยโสโอหังมาก ดึงดันให้พวกเราออกไป กับคุณสวี่เชี่ยนยิ่งไม่ให้เกียรติ”
“ปกติคุณสวี่เชี่ยนของพวกเราก็งานยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเสียที่นี่ ฉะนั้น ถ้าไม่สามารถให้การตัดสินที่พวกเราพอใจได้ พวกเราก็จะไม่ถ่ายแล้ว”
หลงหลิงหลิงได้ยินดังนั้น หันไปมองผู้จัดการส่วนตัวอย่างเย็นชา “งั้นก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว”
“ห๊ะ”
ทุกคนต่างตกตะลึง
ผู้จัดการของสวี่เชี่ยนก็ตะลึงไปพักหนึ่ง ถามต่ออย่างไม่เชื่อว่า “ผู้ช่วยหลง คุณแน่ใจนะ”
หลงหลิงหลิงพูดอย่างสุขุมว่า “ฉันแน่ใจ ฉันต้องการให้พวกคุณไสหัวไป”
คำพูดนี้เยื่อใยสักนิดก็ไม่มี
สวี่เชี่ยนและผู้จัดการส่วนตัวสีหน้าเสีย คิดไม่ถึงเลยว่าหลงหลิงหลิงจะพูดแบบนี้
ทางด้านเสิ่นฝานยิ่งคิดไม่ถึงว่าหลงหลิงหลิงจะจัดการแบบนี้ เขาอึ้งตาค้าง
จากนั้นเสิ่นฝานก็เข้าไปใกล้หลงหลิงหลิง ดูลนลาน กระซิบว่า “ผู้ช่วยหลง สวี่เชี่ยนเป็นคนที่ผู้ถือหุ้นจางเชิญมา คุณจะลองไตร่ตรองอีกหน่อยไหม”
ผู้ถือหุ้นจางเป็นกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ป ผู้ช่วยหลงเป็นผู้ช่วยของท่านประธาน ต่างผิดใจไม่ได้ทั้งสองฝั่ง
ด้านสวี่เชี่ยนก็โมโหสุดขีดแล้ว ตั้งแต่เข้าวงการมา ก็ไม่เคยเจอเรื่องคับแค้นใจแบบนี้ ยิ่งไม่เคยมีคนยโสโอหังกับเขาแบบนี้
ผู้จัดการส่วนตัวรู้ทันความคิดของสวี่เชี่ยนในตอนนี้ รีบจัดการโทรหาผู้ถือหุ้นจางพัลวัน
วางสายแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวก็จ้องมองไปที่หลงหลิงหลิงอย่างเฉยชา พูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี “ผู้ช่วยอะไร เรื่องเล็กๆก็ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นนังตัวเล็กมาจากไหน ทำวางมาดกลั่นแกล้งคนอื่น พูดตรงๆก็แค่ผู้ช่วยคนหนึ่ง ประธานโหวจวี๋กรุ๊ปพูดคำเดียวเธอก็กระเด็นออกจากบริษัทได้แล้ว ”
สีหน้าของหลงหลิงหลิงไม่ดีหลังจากได้ยินเรื่องนี้ สายตาก็เย็นชาลง
ผู้คนรอบข้างก็เริ่มกังวล คราวนี้ต้องแย่แน่ๆ
กรณีดาราใกล้ชิดกับเศรษฐีเป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่มีใครพูดอะไร แต่ตอนนี้วุ่นวายแล้ว เพราะพนักงานใหม่คนหนึ่ง ทำให้ต้องผิดใจกับสวี่เชี่ยนและต้องผิดใจกับกรรมการของโหวจวี๋ คราวนี้ทำให้ผู้ช่วยหลงพลอยเดือดร้อนไปด้วย และก็อาจจะโดนไล่ออกก็ได้
หลี่เสว่ก็คิดถึงจุดนี้ ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นในใจ
เรื่องนี้เป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ แถมอาจจะทำให้ไป๋ยี่เฟยและเพื่อนนักเรียนของเธอต้องตกงาน
สักพักจางหรงก็มาถึง
จางหรงมาถึงก็ไม่ได้มองหน้าใคร หันไปด่าหลงหลิงหลิงอย่างเดียว
“ผู้ช่วยหลง นี่มันคืออะไร คุณกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของกรรมการเหรอ กรรมการบริษัทไม่มีความหมายในสายตาคุณหรือ แค่ผมหาคนมาถ่ายโฆษณาคนนึงคุณก็ต้องมายุ่งวุ่นวาย
สวี่เชี่ยนเดินเข้าไปยืนข้างๆจางหรงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “พี่จาง พี่ดูพนักงานสองคนของบริษัทพี่สิ ต่างก็อยากจะรังแกฉัน”