ตอนที่ 214 หมอกดํา
นอกจากจิ้งจอกสาวจะเคลื่อนไหวเร็ว และว่องไวกว่าแล้วพลังของเธอก็ไม่ได้สูงไปกว่าผม
ดูจากสภาพแล้วเหมือนจิ้งจอกสาวจะเพิ่งกลายร่างได้ไม่นาน ตอนนี้เธอถูกผมกดเอาไว้ในเวลาเดียวกันผมเอื้อมมือลงไปแปะยันต์
จิ้งจอกตัวนั้นตกใจ กรีดร้องออกมาทันที เธอคิดจะหลบยันต์ของผม
แต่เธอจะหลบมันได้ยังไง ผลลัพธ์ “ แปะ ” ยันต์ในมือของผม ก็แปะลงตรงกลางหน้าผากของอีกฝ่ายพอดี
ขณะเดียวกัน ผมก็ยกมือขึ้น สองมือเสกคาถาอย่างรวดเร็ว และในที่สุดผมก็ประสานมือเป็นรูปดาบ
ส่วนจิ้งจอกตัวนั้น กลับเอื้อมมือออกมา เธอคิดจะดึงยันต์บนหัวออก
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง พลังของเธอยังอ่อนกว่าผม เธอจึงไม่มีความสามารถนี้
ถ้าผมไม่ลงมือ อีกเดี๋ยวผมอาจถูกจิ้งจอกตัวนี้ฉีกเป็นชิ้นๆ
ดังนั้น ผมจึงพูดออกมาทันที “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง…”
ผมเพิ่งพูดถึงตรงนี้ ยังไม่ทันพูดคําว่า “ ทําลาย” ออกมาเมื่อคาถาทํางาน ถึงจิ้งจอกตัวนี้ไม่ตายเธอก็ต้องพิการ
แต่สิ่งที่ผมไม่เคยคิดเลยคือ ในวินาทีนั้นเอง จู่ๆหางจิ้งจอกขนาดใหญ่ก็ลอยเข้ามา มันชนเข้ากับตัวผมทันที
“ ปัก ” เรี่ยวแรงมหาศาล ทําให้ตัวผมกระเด็นออกไปทันที
พลังที่มหาศาลนั้น เทียบกับน้ำหนัก 50 กว่ากิโลกรัมของผม ทําให้วินาทีนั้นผมกระเด็นออกไปไกล 3 เมตรกว่า และสุดท้ายก็กระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรง
และ “ ปัก ” ผมยังหล่นลงดินอีกครั้ง
“ โอ๊ย ! เจ็บ !” ผมกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ ผมรู้สึกว่าร่างกายกําลังแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ เสี่ยวฝาน ! ”
“ เหล่าติง ! ?
อาจารย์และเพิ่งเฉ้วหานตะโกนออกมาทันที พวกเขาต่างตกใจ
ผมจับที่หน้าอกเอาไว้ พยายามลุกขึ้นจากพื้น
จนถึงตอนนี้ ผมเพิ่งรู้ว่า เมื่อกี้สิ่งที่ลอยมา ก็คือหางของจิ้งจอกเฒ่า
ตอนนี้ร่างมนุษย์ของจิ้งจอกเฒ่ามีหางออกมา หางอันนั้นทั้งยาวและใหญ่ มันส่ายไปมาไม่หยุด เหมือนกับแส้ยาวๆเส้นหนึ่ง ที่ร้ายกาจอย่างมาก
ส่วนยันต์ที่แปะไว้บนหน้าผากของจิ้งจอกสาว ตอนนี้มันได้หายไปแล้ว บางที่จิ้งจอกเฒ่าอาจคิดวิธีทําให้ยันต์หายไป
เพราะการอยู่ที่นี่ ทําให้จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ทั้งทรงพลังและทําอะไรได้ตามใจคิด
“ กล้าทําร้ายฉัน ฉันจะกัดแก ! ” ขณะที่พูด จิ้งจอกสาวตนนั้นก็พุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง
อาจารย์และคนอื่น ก็ปลีกตัวมาไม่ได้ ทําได้เพียงเตือนอยู่ไกลๆ “ ยังนิ่งหาอะไรอยู่ฮะ รีบหลบซิ !”
เมื่อได้ยินอาจารย์ตะโกนเสียงดัง ผมก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ผมกดความเจ็บที่หน้าอกไว้ รีบถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
ผมมองเหล่าเฟิง อาจารย์ และคนอื่นๆ ที่กําลังติดพันกับการต่อสู้ ช่วงเวลานั้นผมเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ
แต่ผมรู้ดี ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะต้องมีคนบาดเจ็บแน่ ถึงพวกเราชนะแล้ว แต่ก็ต้องมีคนโดนแจ็คพอต…
ผมลังเลต่อไปไม่ได้แล้ว ผมจะต้องรีบเปิดกล่องที่มู่หลงเหยียนให้มา
ถึงผมจะไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่ แต่มันมั่นใจ ว่าเจ้าสิ่งนั้นจะทําให้พวกเราพ้นจากอันตราย หรือทําให้อีกฝ่ายลําบากอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ผมจะกล้าลังเลได้ยังไง
ขณะที่ถอยไปข้างหลัง ผมก็เอื้อมมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบกล่องไม้โบราณออกมา
หลังจากผมหยิบกล่องออกมา ผมก็ไม่คิดเลยสักนิด ปลดล็อค และเปิดกล่องอย่างไม่ลังเล
วินาทีที่กล่องเปิดออก หมอกสีดําก็ปรากฏขึ้น มันระเบิดออกมาจากในกล่อง
“ ปัง ” เมื่อหมอกดํานั้นระเบิดออก มันก็กระจายตัวไปรอบๆ ทําให้ผมที่ถือกล่องอยู่ตกใจในทันที
จู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างฉับพรัน ทําให้ผมตกใจ
บวกกับการที่สติของผมกําลังหวาดระแวงอยู่แล้วผลลัพธ์กล่องเพิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ทันใดนั้นผมก็โยนมันไปที่พื้นตามสัญชาตญาณ
ส่วนตัวผม ก็เริ่มถอยหลังอย่างรวดเร็ว ทิ้งระยะห่างจากหมอกอันดํามืดนั้น
กล่องไม้กล่องนั้น ตอนนี้ดูเหมือนกับปล่องไฟ ที่มีควันสีดําลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ควันสีดํานั้นไม่จางหายไป ทั้งหมดต่างรวมตัวเป็นกระลูก
เมื่ออาจารย์และคนอื่นๆเห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยท่าทางแปลกใจ
อาจารย์ยังพอว่า เพราะรู้ว่ากล่องใบนั้นเป็นสิ่งที่ผีเมียให้กับผมมา เขาจึงเตรียมใจเอาไว้แล้วบ้าง
แต่ท่านนักพรตต์ เหล่าฉินและเพิ่งเฉ่วหาน ตอนนี้สีหน้ากลับเปลี่ยนไปทันที พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เมื่อหันไปมองจิ้งจอกสามตัวอีกครั้ง พวกเขากลับอึ้งยิ่งกว่าพวกอาจารย์
จิ้งจอกสาวที่เคยตามฆ่าผม เมื่อเห็นหมอกดําปรากฏขึ้น เธอกลับหยุดวิ่งทันที วินาทีนั้นเธอมองหมอกสีดําที่กําลังรวมตัวกันด้วยความหวาดกลัว แม้แต่หายใจแรงๆก็ยังไม่กล้า
ส่วนจิ้งจอกอีกสองตัว สีหน้าพวกเขาไม่ต่างกันมาก นอกจากจะต่อสู้แล้ว พวกเขาก็ยังแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาระแวงหมอกดําอย่างต่อเนื่อง
ผมมองหมอกดําจากระยะ 3 เมตร ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่มั่นใจว่าหมอกสีดําคืออะไร
หลังจากหมอกสีดําออกมาได้สองวินาที ฉากแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
ในหมอกสีดํานั้น เหมือนมีบางอย่างกําลังขยับ มันดิ้นไปมาสองสามครั้ง
ผมขมวดคิ้ว เพราะอยากเห็นให้ชัดกว่านี้
ผลลัพธ์ทันใดนั้นหมอกสีดําก็สั่นไหว ลมกระโชกแรงพัดตามมาติดๆ ต้นไม้ใบหญ้าต่างปลิวว่อน
ราวกับสายลมอันลึกลับนี้ ได้ระเบิดออกมา แล้วห่อหุ้มไปทั้งผืนป่า ทําให้คนรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ หลังจากที่แรงกดดันนั้นปรากฏขึ้น จู่ๆในหมอกสีดําก็มีดวงตาสีเขียวเข้มปรากฏขึ้น
เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้น ผมที่ยืนอยู่ข้างๆก็ตกใจทันที
อาจารย์ เหล่าเฟิงและคนอื่น ต่างก็ตกใจอย่างต่อเนื่อง ทุกคนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เมื่อมองย้อนกลับมาทางจิ้งจอกสามตัว ตอนนี้สีหน้าของพวกมันแปลี่ยนไปอย่างมาก พวกมันจ้องดวงตาคู่นั้นอย่างลืมตัว
จิ้งจอกน้อยที่กลายร่างเป็นหญิงสาวนั้น “ บึก ” ได้ลุกเข่าลงกับพื้นทันที เธอตัวสั้น พร้อมตะโกนออกมาเสียงสั่น “ ขอคารวะพระแม่”
ส่วนจิ้งจอกอีกสองตัว เพราะตอนนี้สติหลุด จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ วินาทีนั้นพวกเขาจึงถูกเหล่าเพิ่งและท่านนักพรตตู๋ชนจนล้มลงไปกับพื้น
แต่จิ้งจอกสองตัวนั้นกลับไม่รีบลุกขึ้นต่อต้านหรือวิ่งหนีกลับกันพวกมันยังรีบหมอบลง จากนั้นก็เหมือนกับจิ้งจอกน้อย จ้องดวงตาในหมอกสีดํา คลานไปคุกเข่า และต่างตะโกนออกมาว่า “ ขอคารวะพระแม่… ”
อาจารย์และคนอื่นๆที่คิดจะโจมตีต่อ จู่ๆเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนั้น พวกเขาก็แสดงสีหน้าสงสัย ไม่ลงมือทําอะไรเช่นกัน
ผมงงทันที เมื่อกี้ผมได้ยินไม่ชัด แต่ตอนนี้กลับได้ยินอย่างชัดเจน
อีกฝ่ายตะโกนว่า “ ขอคารวะพระแม่ ” นี่มันผีอะไร
แต่ไม่รอให้พวกเราเข้าใจสถานการณ์ ทันใดนั้นในหมอกสีดํา ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “ พวกเจ้าลงเขามาทําอะไร ?
เสียงของผู้หญิงทั้งคมและหวาน แต่ตอนนั้นมันกลับแผงไปด้วยความโกรธเล็กน้อย
หลังจากจิ้งจอกเฒ่าได้ยินคําพูดนี้ เขาก็ตัวสั่น ตอบกลับด้วยเสียงติดๆขัดๆ “ ข้าน้อยออกมาหามนุษย์ ปกป้องครอบครัวขอรับ ! ”
“ ฮึ ! รู้ก็ดี ! แต่ทําไมต้องต่อสู้กับคนพวกนี้ ” เสียงในหมอกดําดังขึ้นอีกครั้ง
จิ้งจอกเฒ่าหัวโจกไม่กล้ารอช้า เขาเงยหน้าขึ้น ตอบกลับด้วยความหวาดกลัว “ เนื้อในร่างของลูกชายข้าน้อยถูกเผากระดูกถูกทําลาย เป็นเพราะคนพวกนี้ ดังนั้น ดังนั้นข้าน้อยจึงต้องการความยุติธรรม !”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็เข้าใจทันที
ภายในหมอกสีดํา ก็คือจิ้งจอกเฒ่าที่เป็นบอสของบอสอีก
หรืออาจเป็นปีศาจโบราณในหุบเขา ไม่อย่างนั้นจิ้งจอกสามตนนี้ ก็คงไม่เรียกว่า “ พระแม่”
และฟังจากน้ำเสียง เธอน่าจะเป็นปีศาจที่ดีตัวหนึ่ง
จิ้งจอกสามตัวตรงหน้า น่าจะได้รับคําสั่งให้ลงเขา เพื่อตามหาเซียนที่ออกมาจากเขา
อยากจุดธูปขอพร ปกป้องบ้านเซียน
แต่ไม่รู้ว่าทําไม ลูกชายของจิ้งจอกเฒ่ากลับตายได้ เขาทําภารกิจไม่สําเร็จ กลับกันยังมาหาเรื่องพวกเรา
ตอนนี้เห็นจิ้งจอกเฒ่ากําลังพูดจาเหลวไหล คิดจะพูดกลับกลอก จึงเป็นธรรมดาที่ผมจะไม่พอใจ
ผมไม่ลังเล พูดกับบางอย่างที่อยู่ตรงหน้าทันที “ ท่าน ท่านเซียน อย่าไปฟังคําพูดเหลวไหลของเขา ตอนที่พวกเราไปเก็บศพ ลูกของเขาอยู่ในร่างมนุษย์ไม่ใช่ศพจิ้งจอก หลังจากเผาแล้ว พวกเราถึงได้รู้ว่านั้นไม่ใช่ศพมนุษย์ แต่ก็เก็บรักษาเถ้ากระดูกเอาไว้อย่างดี แต่เจ้านี้กลับบุกไปบ้านมนุษย์ตามใจชอบ กัดลุงหลิวของผมบาดเจ็บ อีกนิดเดียวก็จะฆ่าเขาแล้ว ตอนนี้ยังเรียกร้องขออายุไข 20 ปี และสังให้พวกเราไว้อาลัยให้ลูกชายเขาสามปี ไม่อย่างนั้นก็จะให้พวกเราชดใช้ด้วยเลือด ! ”
ผมพูดตามความจริง คิดว่าอีกฝ่ายกําลังบีบบังคับมนุษย์
แต่จิ้งจอกเฒ่ากลับทําสีหน้าหวาดกลัว เขารีบเถียงทันที “ พระแม่ พระแม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ฟังข้าน้อยอธิบาย…”
แต่ดวงตาสีเขียวเข้มนั้น กลับหันมาอย่างรวดเร็ว เธอมองจิ้งจอกสามตน ในเวลาเดียวกันก็พูดอย่างเย็นชา “ หุบปาก ลืมกฏแล้วเหรอ กลับไปที่เขาจิ้งจอกภายในสามวันและรอฟังคําสั่ง”
เมื่อคําพูดนี้หลุดออกมา ดวงตาสีเขียวเข้มก็ปิดลงทันที
หมอกสีดําที่ลอยอยู่ในอากาศ กลับหายเข้าไปในชั่วพริบตา พวกมันกลับเข้าไปกล่องไม้ดังเดิม
หลังจากหมอกสีดํากลับเข้าไป กล่องไม้ที่เคยเปิดอยู่ ก็ปิดลงทันที “ ปัง” เสียงกล่องกระทบกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีฉากแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีก