บทที่188
ตัวเองมีทางรอดแล้ว ไป๋ยี่เฟยดีใจมาก
หนิววั่งเห็นเช่นนี้ก็พูดขึ้นมาว่า “มีการควบคุมของหมอหลิวแล้ว ร่างกายของคุณจะดีขึ้นเยอะ ฉันก็หายห่วงแล้ว”
จริงๆแล้ววัตถุประสงค์ที่หนิววั่งมาที่นี่ไม่ได้ใหญ่ เพียงแต่ไป๋ยี่เฟยอยากให้หนิววั่งหายห่วงเท่านั้นเอง
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าแล้วถามอีกว่า “อาการป่วยของเสว่เอ๋อสามารถรักษาได้ไหม?
หนิววั่งหยุดชะงัก “นี่ยุ่งยากมาก”
หลิวเสี่ยวอิงก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “จริงๆฉันจับชีพจรให้เธอ สถานการณ์ของเธอคือถูกผลกระทบของยา เพียงแค่ต้องขับยาก็ได้แล้ว แต่ขั้นตอนยุ่งยากมากแถมเธอจะเจ็บปวดทรมานมากอีก”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หลิวเสี่ยวอิงก็จัดเก็บเข็มเสร็จ ไป๋ยี่เฟยถึงถามขึ้นมาว่า “หมอส่วนตัว ต้องการพิจารณาดูสักหน่อยไหม?เงินเดือนและสวัสดิการแล้วแต่คุณ”
หลิวเสี่ยวอิงได้ยินก็ส่งเสียงชิ ตอนที่หลงหลิงหลิงกำลังนึกว่าหลิวเสี่ยวอิงจะไม่รับปากหลิวเสี่ยวอิงก็พูดขึ้นมาว่า “ดูคุณน่าสงสารขนาดนี้ ฉันรับปากจะพยายามทำอย่างสุดความสามารถแล้วกัน! ”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “งั้นรู้สึกเป็นเกียรติและโชคดีของผมจริงๆ”
หลิวเสี่ยวอิงส่งเสียงเหอะ “ฉันหิวแล้ว หลิงหลิง ไปเถอะ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน”
“พูดจบก็ดึงหลงหลิงหลิงที่งงงวยอยู่ไป
ไป๋ยี่เฟยยิ้มแล้ว ไม่เพียงแต่เป็นเพราะหลิวเสี่ยวอิงรับปากเขาเป็นหมอส่วนตัว นอกจากนี้เป็นเพราะเขารู้สึกว่าร่างกายตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเท่าเมื่อก่อนแล้ว
ต้องยอมรับว่าวิชาแพทย์ของหลิวเสี่ยวอิงเก่งกาจมากจริงๆ
ร่างกายดีแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ควรจัดการเรื่องของโหวจวี๋กรุ๊ป สองวันนี้เป็นเพราะว่าหลี่เสว่หายไป เรื่องงานของโหวจวี๋กรุ๊ปทั้งหมดก็กองสุมขี้นมา เขาจำเป็นต้องรีบจัดการให้เสร็จ
……
“หลิงหลิง ตอนนี้พวกเราน่าจะนับว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วสินะ?”หลิวเสี่ยวอิงกินไปด้วยถามไปด้วย
หลงหลิงหลิงพยักหน้า “แน่นอนสิ ยินดีต้อนรับเธอเข้าโหวจวี๋กรุ๊ป”
หลิวเสี่ยวอิงหัวเราะแหะแหะ “ได้ยินมาว่าเงินเดือนโหวจวี๋กรุ๊ปสูงมาก”
หลงหลิงหลิงมองบนแล้วพูดขึ้นมาว่า “ถ้างั้นเธอไม่มีอนาคตหรอ? เธอเป็นหมอส่วนตัว เงินเดือนและสวัสดิการไม่เหมือนกัน”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินประธานพูดว่า ต้องการลงทุนโรงพยาบาล ฉันคิดว่า หลังจากนี้เธอยังต้องมีประโยชน์มากแน่นอน”
“จริงหรอ? นี่มันดีเกินไปแล้ว!”
จริงๆแล้วหลิวเสี่ยวอิงไม่ยอมเป็นหมอส่วนตัว แต่รู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยคนนี้น่าสนใจมาก บวกกับพิษในร่างกายฝ่ายตรงข้ามทำให้เธอมีความยืนกรานอยู่ดังนั้นถึงได้รับปากไป
ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยต้องการลงทุนโรงพยาบาล ถ้างั้นหลังจากนี้เธอสามารถไม่เป็นหมอส่วนตัวได้ ทำตามความฝันของเธอต่อไป
หลงหลิงหลิงเห็นหลิวเสี่ยวอิงเป็นเช่นนี้ สายตาก็เปล่งประกาย
ถ้าเธอจำไม่ผิด หลิวเสี่ยวอิงเป็นคนที่มีหลักการยึดถือคนหนึ่ง เส้นตายของเธอก็คือหมอส่วนตัว
แต่เป็นเพราะว่าไป๋ยี่เฟย เธอถึงทำลายเส้นตายของเธอเอง
แน่นอน นี่เป็นเรื่องที่ดี มีหลิวเสี่ยวอิงอยู่ ร่างกายของไป๋ยี่เฟยก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว
ตอนบ่าย ตอนที่ไป๋ยี่เฟยยุ่งวุ่นวายอยู่ก็ได้รับสายของฉินหัว
“เมื่อวานสองคนนั้น พูดว่าพวกเขาช่วยนายตามหาคุณนายไป๋เจอแล้ว ดังนั้นต้องการให้นายทำตามสัญญาตอบแทนพวกเขา”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินแววตาก็เคร่งขรึม “พวกเขาไม่เหมาะ!”
ฉินหัวก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน “แต่ว่าพวกเขาอยู่โรงพักโวยวายหนักมาก ถ้างั้นนายมาหน่อยไหม?”
ไป๋ยี่เฟยคลึงหว่างคิ้ว “ได้ เดี๋ยวฉันไป”
มาถึงโรงพักฉินหัวพาไป๋ยี่เฟยมาสถานที่เยี่ยมผู้ป่วยโดยเฉพาะ
แผ่นกระจกกั้นอยู่ ผู้ชายสองคนนั้นสวมชุดเรือนจำ หลังจากที่เห็นไป๋ยี่เฟยก็ตื่นเต้นมาก
“ประธานไป๋!”
ไป๋ยี่เฟยส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ ต้องการเงินพันล้านนั่น?”
“ประธานไป๋ พวกเราเจอคุณนายไป๋จริงๆ เพียงแค่สถานการณ์พิเศษนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“ใช่แล้วประธานไป๋ เชื่อว่าประธานไป๋เป็นคนที่รักษาคำพูด”
ทั้งสองมองไปยังไป๋ยี่เฟย ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกาย พันล้านอ่า!
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะเยาะ
ทั้งสองไม่ทราบสาเหตุ
“ฉันมาบอกพวกนาย ทำไมพวกนายถึงเจอภรรยาฉัน”
“เดิมทีพวกนายไม่รู้ว่าภรรยาฉันอยู่ที่ไหน พวกนายเพียงแต่รับคำสั่งของคนอื่นไปทำร้ายผู้หญิงให้เสียหาย บังเอิญผู้หญิงหนึ่งในนั้นเป็นภรรยาฉันเท่านั้นเอง”
“พันล้านทำให้พวกนายเปลี่ยนใจแล้ว ดังนั้นพวกนายถึงใช้ดุลพินิจไม่ทำอะไรภรรยาฉัน แต่ไม่กล่าวปฏิเสธ เรื่องที่พวกนายต้องการทำมันผิดกฎหมาย”
“ดังนั้น พวกนายไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งแต่แรก แถมยังต้องการเงินพันล้านนี้กับฉันอีก!”
“สุดท้าย ขอเตือนพวกนายประโยคหนึ่งหน่อย ระวังวันไหนที่ถูกคนบีบบังคับคือภรรยาของพวกนายเอง!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ไม่มองพวกเขาอีกเลยแล้วเดินจากไป
ผู้ชายสองคนนั้นมึนงงอยู่ที่เดิม ผ่านไปนานถึงได้ยินเสียงด่าทอ
“ได้! ก็คือไม่อยากให้เงิน!”
ประธานโหวจวี๋กรุ๊ป! แม่งเอ้ยก็คือสุภาพบุรุษจอมปลอมที่วางมาด!”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะพูดยังไง ถึงยังไงพันล้านนี้เขาก็ไม่ให้ ที่น่าเสียดายเพียงหนึ่งเดียวคือไม่สามารถต่อยพวกเขาได้อีก
ฉินหัวเห็นไป๋ยี่เฟยออกมาแล้วก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
“จัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเรื่องอะไร ฉันกลับไปก่อนนะ”
“อืม”ฉินหัวพยักหน้า สายเข้าพอดีก็เลยรับ
เพียงแค่หลังจากที่วางสายเสร็จ สีหน้าฉินหัวก็ดูไม่ดีเล็กน้อย เขามองไปที่ ไป๋ยี่เฟยอีกครั้ง ไป๋ยี่เฟยได้เดินออกไปจากโรงพักแล้ว
ฉินหัวรีบตามออกไป “ไป๋ยี่เฟย เดี๋ยวก่อน!”
ไป๋ยี่เฟยกำลังจะเปิดประตูรถ ได้ยินเสียงของฉินหัวก็หันไปมอง “ยังมีเรื่องอีก?”
ฉินหัวพยักหน้า พูดอย่างจริงจังว่า “เมื่อกี้ได้รับสายเฉินห้าวขโมยของถูกจับคาที่แล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฉินหัวพูดอธิบายง่ายๆว่า “เมื่อกี้มีคนแจ้งความ พูดว่าเขาขโมยโทรศัพท์ถูกจับคาที่กำลังมาโรงพัก คนที่แจ้งความนั้นคือ…..หลิ่วอู๋ฉง”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็หรี่ตา “หลิ่วอู๋ฉง…..”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เฉินห้าวและหลิ่วอู๋ฉงก็มาถึงโรงพัก
หลิ่วอู๋ฉงเห็นไป๋ยี่เฟยก็จ้องมองไปที่เขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่
และเฉินห้าว คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกจับและยังถูกพามาโรงพักที่คิดไม่ถึงเลยคือเห็นบอสอยู่โรงพัก
“บอส…..”เฉินห้าวหน้าแดง บอสพึ่งจะพูดกับเขา ปฏิบัติหน้าที่ต้องจิตใจซื่อสัตย์ไม่คดงอ ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าเป็นเพราะขโมยโทรศัพท์ถึงถูกจับไว้และยังถูกบอสเห็นอีกนี่ทำให้เฉินห้าวอับอายขายหน้ามาก ไม่กล้าสู้หน้าบอส
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดอะไร ฉินหัวยืนอยู่ข้างๆสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
เรื่องราวโดยประมาณก็คือเดินอยู่บนถนนควานโทรศัพท์และไม่มีจุดที่พิเศษ
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าเคร่งขรึม เฉินห้าวน่าจะไปตรวจสอบหลิ่วอู๋ฉงดังนั้นถึงได้คิดไปขโมยโทรศัพท์เขา เพียงแต่ไม่ระวังถึงถูกจับ
หลิ่วอู๋ฉงปริปากพูด “คุณตำรวจ เจ้าขโมยคนนี้พฤติกรรมชั่วร้าย ต้องจับมาสั่งสอนดีๆ ไม่งั้นเดินอยู่บนถนนใหญ่ใครก็ไม่กล้าควักโทรศัพท์ออกมา?”
“นี่เป็นปกติ”ฉินหัวตอบหลังจากนั้นก็จ้องมองไปยังเฉินห้าว “นายตามฉันมา”
เฉินห้าวถูกฉินหัวพาออกไป ตอนที่เดินก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยเพียงแค่ส่ายหัวเบาๆบอกใบ้เขาห้ามบุ่มบ่ามเฉินห้าวเห็นสถานการณ์ก็ถอนหายใจ เขานึกว่าบอสไม่อยากเก็บเขาไว้แล้ว!
ทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว ที่นี่เหลือเพียงแค่หลิ่วอู๋ฉงและไป๋ยี่เฟย