บทที่ 243
ที่ด้านนอก ไป๋ยี่เฟยมาที่ห้องของหลี่เสว่
หลี่เสว่ยังไม่ตื่น เพียงแต่ไม่ได้หลับอย่างสบายใจนัก คิ้วขมวดน้อยๆ ท่าทางดูเป็นกังวลอย่างมาก
โจวฉวี่เอ๋อกับหลิวเสี่ยวอิงยืนอยู่หน้าประตูห้อง ไม่ได้เข้ามา
สงบได้เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว
ผ่านไปไม่นาน เสียงคำรามของหลิวจื่อหยุนก็ทำลายความเงียบลง
“หลี่ฝาน” คุณ! ทำไมคุณถึงมีสภาพแบบนี้?” หลิวจื่อหยุนมองหลี่ฝานที่เดินเข้าห้องผู้มาอย่างตกใจ
หลี่ฝานสวมชุดลำลอง ในมือถือตะกร้าผลไม้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้คนตกใจคือ เขานั่งอยู่บนรถเข็น
ก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยไปหาไอ้หัวล้านหลิว บอกให้เขาตีหลี่ฝานให้ขาหัก ตอนนี้หลี่ฝานทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้แค่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น
หลี่ฝานสีหน้าเย็นเยียบ “เหอะ! ที่ผมมีสภาพแบบนี้ ยังไม่ใช่เพราะโดนเจ้าสุนัขไป๋ยี่เฟยทำร้ายอีกเหรอ คุณยังจะมาถามอีกเหรอว่าทำไมผมถึงมีสภาพแบบนี้?” หลิวจื่อหยุนนิ่งงันไป
หลี่ฝานส่งเสียงเหอะออกมา “ได้ยินว่าหลี่เฉียงตงถูกคนตี? ฉันมาดูว่า……ถูกตีตายหรือยัง?”
จะพูดว่าหลี่ฝานเกลียดครอบครัวหลี่เฉียงตงเข้ากระดูกก็ว่าได้ พอรู้ว่าหลี่เฉียงตงถูกคนตี จึงอดจะตื่นเต้นดีใจไม่ได้ ถึงกับให้คนเข็นตัวเองมายังโรงพยาบาล เขาต้องการเห็นหลี่เฉียงตงด้วยตาตนเอง แล้วถือโอกาสมาสมน้ำหน้าเขาอีกที
คนที่เข็นเขามาตอนนี้เป็นแม่นมคนหนึ่งที่คอยดูแลหลี่ฝานมาตลอด หลี่ฝานต้องการอะไร เธอไม่มีทางปฏิเสธ
“คุณพูดเหลวไหลอะไร?” หลิวจื่อหยุนถลึงตามองหลี่ฝานอย่างโกรธเคือง “พวกเราไม่ได้อยากให้คุณมา รีบออกไปเดี๋ยวนี้!”
หลี่ฝานเห็นหลี่เฉียงตงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้แล้ว ในใจก็สดชื่นปลอดโปร่ง “โอ้ โหดร้ายขนาดนี้เชียว? ทำไมถึงไม่เห็นคนตีจนกระดูกหักหรือพิการเลยล่ะ?”
พูดถึงตรงนี้ ความเกลียดชังในใจหลี่ฝานก็พุ่งสูงเสียดฟ้า
เขาถูกคนตีอย่างแรงจนขาหัก ยืนไม่ได้อีกแล้ว
หลี่เฉียงตงไม่มีแรงจะมาโต้เถียงกับคนอัปลักษณ์อย่างหลี่ฝาน เขาจึงหลับตา เมื่อมองไม่เห็นใจก็ไม่หงุดหงิด
นายท่านหลี่ในใจนึกถึงแต่หลี่เฉียงตง พอเห็นภาพเช่นนี้ หน้าก็พลันงอง้ำลงทันที กล่าวกับหลี่ฝานว่า “แกออกไปเดี๋ยวนี้!”
เวลานี้หลี่ฝานเพิ่งจะเห็นว่านายท่านหลี่ก็อยู่ด้วย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน แถมยังพูดถากถางกลับไปเสียด้วยว่า “ตอนนี้คุณปู่ไม่กลัวเสียหน้าแล้วหรือ? แถมยังวิ่งมาเฝ้าคนเป็นการเฉพาะอีกด้วย?”
“จริงด้วย เพราะอย่างไรปู่ก็อาศัยอยู่ที่วิลล่าหลันโปกั่ง ยังตามไปหาประโยชน์ได้อยู่!”
หลี่ฝาน!” หลิวจื่อหยุนแผดเสียงลั่น “เขาเป็นปู่คุณนะ!”
หลี่ฝานไม่ใส่ใจ “อ้อ ปู่แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? ปล่อยหลานแท้ๆ ของตัวเองไม่ดูดำดูดี คอยแต่ไปสนใจคนบ้านนอกคนหนึ่ง!”
“แก!” หลิวจื่อหยุนยกมือคิดจะตบหลี่ฝาน แต่มีบางคนเร็วกว่าเขา
“เพี๊ยะ!”
มีฝ่ามือหนึ่งตบไปบนหน้าหลี่ฝาน
หลี่ฝานกุมหน้าพลางมองไป เป็นคนที่เขาเกลียดชังที่สุด ไป๋ยี่เฟย!
“ไป๋ยี่เฟย! แกทำร้ายฉันอีกแล้ว?”
ไป๋ยี่เฟยคร้านจะโต้เถียงกับคนปัญญาอ่อนเช่นนี้ เขาจึงไม่พูดอะไร เดินขึ้นไปจะตบอีกฉาด
แม่นมที่อยู่ด้านหลังหลี่ฝานเห็นเหตุการณ์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตกใจจนถอยไปอยู่ด้านข้าง จึงทำให้เกิดช่องว่างมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มโอกาสให้ไป๋ยี่เฟยได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่
ไป๋ยี่เฟยตบหลี่ฝานไปหลายที เนื่องจากหลี่ฝานนั่งอยู่บนรถเข็น จึงไม่มีแรงตอบโต้ แถมแรงตบยังส่งผลให้รถเข็นพาเขาถอยหลังไปเรื่อยๆ จนผ่านปากประตูไปแล้ว
“ไป๋ยี่เฟย! แก……”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!” ไป๋ยี่เฟยตบอีกครั้ง “เอาแต่พูดเหลวไหลทั้งวัน อย่างกับคนปัญญาอ่อน!”
หลี่ฝานด่าเสียงดัง “กูขอแช่งให้มึงตายทั้งบ้าน!”
“เพี๊ยะ!”
“ฉัน……”
“เพี๊ยะ!”
หลิวจื่อหยุนและคนที่เหลือที่อยู่อีกด้านต่างมองอย่างทึ่มทื่อ
พยาบาลที่ได้ยินเสียงต่างรีบทยอยกันมาขวางไว้ ไป๋ยี่เฟยกวาดตามองแต่ละคน ทำคนตกใจจนไม่กล้าเข้ามา
หลี่ฝานถูกไป๋ยี่เฟยตบจนหวาดกลัว จึงโวยวายเสียงดังว่า “ไป๋ยี่เฟย ที่นี่เป็นโรงพยาบาล แกทำตัววุ่นวายแบบนี้ ฉันจะฟ้องแก!”
“ฟ้องบรรพบุรุษแกสิ!” ไป๋ยี่เฟยตบอีกฉาด
ไป๋ยี่เฟยรำคาญรถเข็นของหลี่ฝานที่พาหลี่ฝานออกมา จึงใช้เท้าเลื่อนรถเข็นไปอีกหน่อย ด้านหลังหลี่ฝานคือกำแพง รถเข็นคิดจะถอยก็ถอยไม่ได้อีก
“แกขาหักไปแล้วยังไม่หยุดอีก จะต้องให้ฉันฆ่าแก แกถึงจะหยุดใช่ไหม?”
“ครอบครัวฉันเกี่ยวข้องกับแกแล้วยังไง? แกมีสิทธิมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล? แถมยังมาแช่งครอบครัวฉันอีก? ปู่ยอมรับพวกเราแล้ว หากทั้งครอบครัวก็รวมแกด้วยเช่นกัน!”
หลี่ฝานถลึงตา “ใครเป็นครอบครัวเดียวกับแก แกก็แค่หมาตัวหนึ่ง!”
ไม่พูดไม่ได้ หลี่ฝานรนหาที่ตายจริงๆ
เดิมทีไป๋ยี่เฟยก็โกรธมากอยู่แล้ว หากเขายังยั่วโมโหแบบนี้ งั้นก็อย่าโทษไป๋ยี่เฟยแล้วกัน
หลี่ฝานเพิ่งจะพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ใช้เท้าข้างหนึ่งถีบไปที่ท้องของหลี่ฝาน รถเข็นกระแทกกับกำแพงด้านหลังอย่างรุนแรง เกิดเสียง “พลั่ก” ดังขึ้น
ในเวลานี้เอง ฉินหัวก็พาตำรวจสองนายมาถึง
หลังพยาบาลเห็นตำรวจก็เหมือนเห็นพระมาโปรด “คุณตำรวจคะ รีบห้ามเขาเร็ว เดี๋ยวมีคนตาย!”
ฉินหัวชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็ถอยหลังไปสองก้าวทันที โดยไม่พูดอะไรสักคำ
นายตำรวจคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์จึงถามว่า “หัวหน้าฉิน นี่……ไม่ห้ามเหรอครับ?”
ฉินหัวส่ายหน้า
ไป๋ยี่เฟยเห็นเขาเป็นเพื่อน เขาย่อมจะเห็นไป๋ยี่เฟยเป็นเพื่อนเช่นกัน ในฐานะเพื่อน ไม่ว่าเขาจะทำอาชีพอะไร ก็ควรยืนอยู่ข้างเดียวกับไป๋ยี่เฟย
ต่อให้เป็นสิ่งที่ผิด เขาก็ควรยืนอยู่ข้างเดียวกับไป๋ยี่เฟยเช่นกัน ผิดก็แบกรับด้วยกันได้ แต่ไม่ใช่ใช้ฐานะเพื่อนมาทึกทักเอาเองว่าเป็นเพื่อนที่ดี
คนเราเกิดมา ใครไม่เคยทำผิดกันบ้าง?
เขาเป็นตำรวจน่ะใช่ ในใจเองก็มีความยุติธรรมเช่นกัน แต่นี่กับเพื่อนเขาจะไม่ห้าม
ตอนไป๋ยี่เฟยเห็นฉินหัวถอยหลัง ก็หมุนตัวซ้อมหลี่ฝานต่อ เดี๋ยวเตะ เดี๋ยวต่อย สรุปคือเขาใช้แรงที่มีไปจนหมด
ผ่านไปไม่กี่นาที ไป๋ยี่เฟยก็หยุดมือลง หลี่ฝานเองก็สลบไปแล้ว
ไป๋ยี่เฟยหอบหายใจแรง ร่างกายดูอ่อนล้ามากกว่าเดิม แต่เขารู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ฉินหัวเดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว “ระบายอารมณ์เสร็จแล้ว?”
“เสร็จแล้ว”
ฉินหัวพยักหน้า “ตอนนี้พูดจาดีๆ ได้แล้วสินะ”