บทที่ 423
ตอนเช้า หลังจากเหลียงยู่ตื่นแล้วมองเห็นไป๋ยี่เฟยยังนอนอยู่ เตะเข้าไปหนึ่งทีอย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่นิด “ตื่นได้แล้ว อีกสักครู่อาจารย์จะมา!”
“อีเหี้ยยยยย!” ไป๋ยี่เฟยถูกเตะตื่น โมโหในฉับพลัน “แม่มึงเอ่ยคุณเรียกคนตื่นให้ดีๆไม่เป็นหรือ?”
เขากำลังฝันถึงว่าตนเองกลิ้งอยู่บนเตียงกับภรรยาเขานะ สุดท้ายฝันหวานถูกคนเตะตื่นไม่โมโหจึงจะแปลกประหลาด
สีหน้าของเหลียงยู่ก็เปลี่ยนไปด้วย “ก็อย่างคุณนี้ ฉันว่าฝึกฝนไปหนึ่งเดือนก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน สมควรถูกคนซ้อม!”
พูดจบ เหลียงยู่ ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง ออกไปเลย
ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพนั่งอยู่บนพื้นเพียงลำพังใจลอยไปสักพัก แท้ที่จริงแล้วก็คือกำลังย้อนคิดรักใคร่สุดซึ้งแยกจากกันไม่ได้กับหลี่เสว่อยู่ในฝัน คิดแล้วคิดอีก ถอนหายใจหนึ่งที
เขาคิดถึงหลี่เสว่แล้ว
แต่ไม่ว่าคิดถึงขนาดไหนล้วนไม่ได้เจอ ยังต้องรับการฝึกฝนที่โหดเหี้ยมทารุณไร้มนุษยธรรม
กินอาหารเช้าเสร็จไม่นาน ที่เรียกว่าอาจารย์คนนั้นมาแล้ว
ไป๋ยี่เฟยเห็นผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงสวมใส่เสื้อคลุมตัวนั้นอยู่ แต่ว่าไม่ได้ใส่หมวกกับหน้ากากแล้ว นี่กลับทำให้ไป๋ยี่เฟยตื่นตะลึงไปสักพัก
เพราะว่าเห็นหน้าตาของผู้หญิง ลักษณะเหมือนเพียงแค่สามสิบกว่าปี หน้าตางดงาม บุคลิกดีโดดเด่น ถ้าหากว่าไม่ใช่เคยเห็นพลังของเธอมาก่อน คงยังยากที่จะจินตนาการออกว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความแข็งแกร่งขนาดนี้จริงๆ
“โอ้ว ดูแล้วยังพอใช้ได้” ผู้หญิงเหลือบตามองไป๋ยี่เฟยหนึ่งที
หลังจากเหลียงยู่เห็นผู้หญิงคนนี้เรียกเสียงหนึ่งอย่างเคารพนบนอบว่า “อาจารย์”
ผู้หญิงพยักหน้า จ้องมองไปยังไป๋ยี่เฟยอีก “ทำไมไม่เรียกล่ะ? ไม่มีมารยาทขนาดนี้เหรอ!”
“เรียกว่าอะไรหรือ?” ไป๋ยี่เฟยถามอย่างอึ้งชะงักต่อๆกัน
ผู้หญิงขมวดคิ้วหนึ่งที “เรียกอาจารย์ไง! เมื่อวานยู่เอ๋อไม่ได้บอกกับคุณหรือ?”
“ฉันบอกแล้ว” เหลียงยู่แทรกคำพูดเข้ามาทันที “ตัวเขาไม่ยอมรับเอง”
ผู้หญิงยักคิ้วเล็กน้อย “คุณรู้ไหมว่ามีคนมากมายขนาดไหนอยากจะกราบฉันเป็นอาจารย์? คุณยังไม่อยากจะยอมรับหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยตอบกลับอย่างราบเรียบว่า “คุณไม่เคยผ่านการยินยอมของผม เป็นอาจารย์ของผมตามใจตัวเอง งั้นก็ไม่ได้นับ”
เขารู้ว่าตนเองอ่อนแอ แต่ความคิดยืนหยัดที่จะเจอกับอาจารย์ยอดฝีมือคนหนึ่งแล้วทำให้ตนเองก็กลายเป็นยอดฝีมือด้วยไม่ค่อยแรงกล้า เขาเพียงแค่อยากจะป้องกันตัวก็พอแล้ว
ผู้หญิง ฮึ เสียงเบาๆเสียงหนึ่ง “ถ้าหากว่าไม่ใช่น้องสาวคุณ ฉันจะไม่รับคุณเป็นลูกศิษย์ คุณสมบัติของคุณฉันยังไม่เข้าตา!”
“คุณพูดอะไรนะ?” ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเธออย่างตื่นตะลึง “คุณรู้จักน้องสาวผมหรือ?”
ผู้หญิงไม่ได้พูดมากกว่านี้ “ยังไงก็ตามฉันก็ช่างชอบเธอมากอยู่ ถ้าหากว่าไม่ใช่เนื่องเพราะเธอ คุณคิดว่าฉันจะยุ่งมากเรื่องหรือ? คุณจะตายหรือไม่ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับฉัน!”
“พวกคุณ คิดร้ายแรงเกินไปแล้วใช่หรือไม่?” ไป๋ยี่เฟยทนไม่ได้ที่จะต้องถามประโยคหนึ่ง สองวันนี้สิ่งที่เขาได้ยินมากที่สุดก็คือต้องให้เขากลายเป็นคนแข็งแกร่ง เพราะว่าวันหลังเขาต้องเจอคนที่ยิ่งแข็งแกร่งกว่า เขาต้องตาย!
เขาก็รู้ด้วยว่า เป็นไปไม่ได้ที่เหลียงหมิงเยว่จะเป็นร่มคุ้มครองเขาตลอดเวลา ดังนั้นเขาก็พยายามสร้างอิทธิพลของตนเองอยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่ถึงกับว่าแม้แต่เวลาแค่ไม่กี่เดือนล้วนปกป้องไม่ได้แล้วมั้ง?
และเวลาไม่กี่เดือน เพียงพอที่เขาจะได้ทำเรื่องมากมาย โดยธรรมชาติ เขาก็สามารถฝึกฝนด้วยกันกับไป๋หู่และสวีลั่ง ล้วนไม่จำเป็นต้องเหมือนอย่างนี้ในตอนนี้ ถูกจับมาที่นี่อย่างแปลกประหลาดมาก ยังจะฝึกฝนเขาเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ผู้หญิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเขา ทนไม่ได้ ฮึ เย็นชา หมุนตัวพูดกับเหลียงยู่ว่า “แกออกไปก่อน”
หลังจากเหลียงยู่ออกไป ผู้หญิงจึงจ้องมองไป๋ยี่เฟย พูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า “อ่อนแอตกเป็นเหยื่อ หลักธรรมนี้คุณควรเข้าใจ คุณคิดว่าเรื่องเหล่านั้นที่ตัวคุณเองทำก็สามารถรับรองว่าคุณปลอดภัยแล้วหรือ? คุณประเมินค่าตัวคุณเองสูงเกินไปแล้ว”
“ตระกูลฉุงกับตระกูลเย่เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยคุณไป และเรื่องที่คุณหลอกใช้ยู่เอ๋อ รอฝั่งนี้ผ่านไปแล้ว คุณคิดว่าเหลียงหมิงเยว่จะไม่คิดบัญชีกับคุณหรือ?”
“ยังมี น้องชายของคุณคนนั้น ก็ไม่ใช่เล่นๆด้วยคนหนึ่งเช่นกัน คุณคิดว่าตนเองสามารถต่อสู้กับพวกเขาจริงๆหรือ?”
“คุณในตอนนี้ อ่อนแอเหมือนดั่งมดตัวหนึ่ง แต่คุณกลับคิดว่าตนเองมีความสามารถที่จะฆ่าฉุงโยวเวยได้ ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วใช่ไหม?”
“นี่เป็นความผิดที่ทำให้คุณถึงแก่ชีวิตได้มากที่สุด! ในโลกนี้มียอดฝีมือเต็มไปหมด เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้น เหมือนดั่งวันก่อนอย่างนั้น ถ้าหากว่าพบเจอกับยอดฝีมืออย่างนี้คนหนึ่งจริงๆ แม้แต่โอกาสพูดคุณก็ไม่มี!”
ต่อๆมาทีละคำพูด ไป๋ยี่เฟยใจสั่นระริกขึ้นมา
ไม่ใช่พวกเขาคิดร้ายแรงเกินไป แต่เป็นตนเองคิดง่ายเกินไปแล้ว
ตระกูลฉุง ตระกูลเย่ สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง ไป๋เซี่ยว คนใดๆที่อยู่ในคนเหล่านี้คนหนึ่ง เขาตอนนี้ล้วนไม่สามารถทำให้กระเทือน
ผู้หญิงเห็นสีหน้าของไป๋ยี่เฟยรู้ว่าเขาฟังเข้าหูแล้วก็เลยพูดอีกว่า “จากที่คุณดูมา สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงน่าจะเก่งที่สุดแล้วล่ะ?”
“แท้ที่จริงแล้วมีส่วนหนึ่งในนั้น คืออยู่ที่ข้างนอกของสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง พวกเขาไม่แคร์คนอย่างตระกูลสี่ยิ่งใหญ่ สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงอะไรสักนิด นี่จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด”
พูดจบ ฉับพลันในทันทีไป๋ยี่เฟยนึกถึงคำพูดที่สวีลั่งพูดขึ้นมา ท่านนักพรตคนนั้นก็คืออยู่เหนือกว่าสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง เขาไม่เชื่อฟังอิทธิพลใดๆ กลับมีพลังความสามารถนั้นทำให้คนหวาดกลัว
นึกถึงตรงนี้ ไป๋ยี่เฟยเหงื่อเต็มหลัง
“แต่ว่าผมก็ยังไม่เข้าใจ เพียงแค่เนื่องเพราะน้องสาวผม คุณก็จะฝึกฝนผมหรือ?” ไป๋ยี่เฟยถาม
ผู้หญิงขี้เกียจที่จะอธิบาย “โอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว คุณจะเอาหรือว่าไม่เอา?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดอึ้งชะงักเล็กน้อย จากนั้นกัดฟันทันที “ผมจะเอา!”
เธอพูดถูก โอกาสอย่างนี้หายาก เขาก็ไม่ใช่คนโง่ ย่อมต้องเลือกจะเอาอยู่แล้ว เชื่อว่าหลังจากหนึ่งเดือน เขาจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งกว่าตนเองในตอนนี้ ดังนั้นเผชิญหน้ากับศัตรู อย่างน้อยจะไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำแล้ว
“ดีมาก” ผู้หญิงพยักหน้าอย่างพอใจ “ต่อจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือนก็ฝึกฝนตามยู่เอ๋อ ฉันจะเข้ามาตรวจสอบและชี้แนะบ่อยๆ”
……
ไป๋ยี่เฟยเริ่มการฝึกฝนที่โหดเหี้ยมทารุณไร้มนุษยธรรมในวันใหม่
หลังจากจบในหนึ่งวัน ไป๋ยี่เฟยถึงขนาดรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้วอย่างปาฏิหาริย์ รู้สึกว่ายังมีประโยชน์เล็กน้อย
แน่นอน ถึงแม้ว่าไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นแล้ว แต่ความอ่อนเพลียของร่างกายเป็นเรื่องจริง ทันทีที่ฝึกฝนจบ ไป๋ยี่เฟยกินอาหารเย็นเสร็จ ซุกหัวลงก็หลับแล้ว
เหลียงยู่เตะไป๋ยี่เฟยที่นอนอยู่บนพื้นเตะแล้วเตะอีกอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดี “นอนเหมือนดั่งหมู! นี่เพียงแค่สองวันก็เป็นเช่นนี้แล้ว ข้างหลังต่อไปจะไม่นอนหลับอย่างไม่รู้สึกตัวไปเลยหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ตื่น เหนื่อยเกินไปแล้วจริงๆ เขาเพียงแค่อยากจะพักผ่อน
เหลียงยู่นั่งอยู่ข้างเตียงเพียงลำพัง จ้องมองไป๋ยี่เฟยสักพัก
พูดตามตรง ไป๋ยี่เฟยนำพาความแปลกใหม่ให้กับเธอไม่น้อย ตอนที่เพิ่งได้สัมผัสกับไป๋ยี่เฟย คิดว่าเป็นปีศาจบ้าฆ่าคนคนหนึ่ง จากนั้นก็รู้สึกว่าเป็นลูกผู้ลากมากดีคนหนึ่งอีก ต่อไปอีกได้พบเห็นความจริงไม่ใช่เป็นอย่างนั้นเลย
ตรงกันข้าม ที่ผ่านมาของไป๋ยี่เฟยทำให้คนรักสงสาร ยังทำให้ในใจคนเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ฮึกเหิมที่ยากจะอธิบายได้ เป็นอารมณ์ฮึกเหิมที่อยากจะผลักดันขึ้น
ช่วงสองวันนี้ที่สัมผัสดู บนกายไป๋ยี่เฟยยังมีข้อดีมากมาย ผู้ชายอย่างนี้ เป็นคนที่ดึงดูดสายตาของผู้หญิงอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย
น่าเสียดายนะ เขาแต่งงานไปแล้ว
เพิ่งนึกถึงตรงนี้ เหลียงยู่ก็เลยได้ยินไป๋ยี่เฟยกระซิบเสียงเบาๆอะไรอยู่ เธอก้มตัวลงไปฟังโดยจิตใต้สำนึกอย่างอยากรู้อยากเห็น
“เสว่เอ๋อ…….ภรรยาจ๋า ……”
หลังจากได้ยินชัดเจนแล้ว สีหน้าเหลียงยู่เปลี่ยนไปทันที ฮึ เบาๆเสียงหนึ่ง “คนไม่เอาไหน!”
พูดจบ ตนเองก็กลับไปนอนบนเตียงพักผ่อนแล้ว