บทที่ 426
พูดเสร็จ หญิงเสื้อคลุมเดินออกไปเลย ส่วนเหลียงยู่เดินลงเขาเป็นเพื่อนกับไป๋ยี่เฟย
หลังจากลงเขา ไป๋ยี่เฟยแยกกันกับเหลียงยู่ ในที่สุดเขาก็ได้มือถือของตนเองแล้ว เขาอยากโทรหาหลี่เสว่เป็นคนแรก แต่ว่าเขาก็อยากจะสร้างความตื่นตกใจด้วยความดีใจให้แก่เธอด้วย สุดท้ายก็ติดต่อไป๋หู่ก่อน
ไป๋หู่ขับรถเข้ามา ทันทีที่มองเห็นไป๋ยี่เฟย คิดว่าตนเองจำผิดคนแล้ว ไป๋ยี่เฟยไม่เพียงแค่ดำไปหน่อย ลักษณะพลังที่อยู่บนกายก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วย
……
บริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่ออฟฟิศผู้จัดการ
หนิวจินส่งเอกสารมาชุดหนึ่ง ส่งให้กับหลี่เสว่ พูดอย่างกังวลว่า “ประธานหลี่ เกิดเรื่องแล้ว”
“อะไรหรือ?” หลี่เสว่เงยหน้าขึ้น เธอกำลังจัดการเอกสารอยู่ “คุณบอกว่าเกิดเรื่องอะไรแล้วหรือ?”
หนิวจินมีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย “คือเป็นแบบนี้ล่ะ บริษัทไม่ใช่ได้ร่วมงานกับโรงงานข้างนอกผลิตอัญมณีมาโดยตลอดหรือ? มีโรงงานแห่งหนึ่งใช้วัตถุดิบอัญมณีที่คุณภาพต่ำ อีกทั้งแอบตัดทอนวัสดุ ทำให้ลูกค้าหลังจากสวมใส่อยู่บนกายแล้วเกิดอาการแพ้บ้าง”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” หลี่เสว่ขมวดคิ้ว “เวลาก่อนหน้านั้นที่ร่วมงานกันไม่ได้ไปตรวจสอบสถานที่จริงในโรงงานหรือ? ยังมีวัตถุดิบเหล่านั้น พวกเราไม่ใช่เซ็นสัญญาแล้วหรือ? พวกเขายังกล้าใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพต่ำหรือ?”
“นี่……สภาพการณ์ทั้งหมดยังไม่ชัดเจน แต่ตอนนี้ได้รับการฟ้องร้องของลูกค้ามากมาย บอกว่าพวกเราใช้อัญมณีคุณภาพต่ำมาหลอกเงิน เป็นบริษัทใจดำ” หนิวจินพูดอย่างลำบากใจ
หลี่เสว่ได้ยินคำพูดนี้หนักอึ้งขึ้นมา “อย่างนี้ คุณประกาศออกไปก่อน ในระยะหนึ่งเดือนนี้ลูกค้าที่ซื้ออัญมณีของเราทั้งหมดคืนเงินเต็มจำนวน อีกทั้งแถมแหวนเงินคู่หนึ่งเป็นการชดเชย จำไว้ ต้องเป็นแหวนเงินที่แท้จริง”
“จากนั้นส่งประกาศขอโทษกับลูกค้า แถลงการณ์ถึงสาเหตุของเรื่องในครั้งนี้……..”
หลี่เสว่ยังพูดไม่จบ หนิวจินตัดคำว่า “ประธานหลี่นี่เป็นสาเหตุที่ผมจะมาหาคุณพอดี ตอนที่เซนต์สัญญากับโรงงาน ทางโรงงานเพิ่มอีกข้อหนึ่งด้วยตนเอง: สิทธิการอธิบายทั้งหมดเป็นของโรงงาน”
“อะไรนะ?” หลี่เสว่เบิกตาโพลงทั้งคู่ “สัญญาที่สำคัญขนาดนี้ ในเวลานั้นทำไมไม่ได้อ่านให้ชัดเจนล่ะ?”
หนิวจินเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากเช็ดแล้วเช็ด0.0.อีก “สัญญานี้เป็นก่อนหน้านั้นรองประธานหวังเซนต์ไว้ คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา…….ประธานหลี่ ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ?”
หลี่เสว่ขยี้ระหว่างคิ้ว ขยี้แล้วขยี้อีก ถอนหายใจอีกหนึ่งที “ไปติดต่อคนของโรงงานฝั่งโน้นสักหน่อย ฉันเข้าไปด้วยตนเองสักครั้ง”
“ครับ ประธานหลี่” หนิวจินขานรับทันที
หลี่เสว่พูดอีกว่า “สิ่งที่ฉันบอกเมื่อกี้ก็ต้องไปทำด้วย ไม่ว่าเรื่องนี้ตกลงเป็นยังไงกันแน่ลูกค้าเพียงเห็นแค่ผลเท่านั้น ดังนั้น จะต้องให้คำอธิบายที่พึงพอใจกับลูกค้า”
ยังคิดว่าตนเองสามารถทำทุกอย่างให้เรียบร้อย กลับอยู่ในเวลาสั้นๆหนึ่งเดือนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา
แท้ที่จริงแล้วเรื่องนี้กลับไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรมากกับหลี่เสว่ ถึงยังไงก็เป็นสัญญาที่หวังเทาเซนต์ไว้ก่อนหน้านั้น เขาไม่ได้สังเกตถึงสิ่งเหล่านั้นสักนิด ดังนั้นจึงทำให้บริษัทตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากในตอนนี้
หลี่เสว่จัดการขบวนความคิดสักหน่อย จัดเก็บง่ายๆเล็กน้อย ก็ไปหาหนิวจินเลย
หนิวจินก็วางแผนเรื่องให้เสร็จแล้วด้วย “ประธานหลี่ ติดต่อประธานเฝิงของโรงงานฝั่งโน้นได้แล้ว นัดไว้ว่าอีกสักครู่จะไปกินข้าวที่โรงแรมเทียนเป่ย”
จากนั้น คนทั้งสองไปถึงโรงแรมเทียนเป่ยด้วยกัน
ชั้นสอง ในห้องพิเศษที่จองไว้ล่วงหน้า หลี่เสว่เข้าไปด้วยกันกับหนิวจิน ก็ได้เห็นประธานเฝิงที่พูดอยู่ในปากหนิวจิน รวมกับเซียวหรงเทาคนคนหนึ่งที่เธอรู้จัก !
“คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไงหรือ?” หลี่เสว่ใบหน้าเย็นชา เธอยังจำได้ว่าในตอนโน้นเซียวหรงเทาเหยียดหยามไป๋ยี่เฟยยังไง ยุให้รำตำให้รั่วระหว่างความรักของเธอกับไป๋ยี่เฟยยังไง
เซียวหรงเทายิ้มแล้วยิ้มอีก “ประธานหลี่อย่าพูดเช่นนี้เลย ผมอยู่ที่นี่แน่นอนจะเป็นเพื่อนของประธานเฝิงอยู่แล้ว”
ประธานเฝิงอายุประมาณสี่สิบกว่าปี สวมใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัว แต่เนื่องเพราะหุ่นเปลี่ยนไป อ้วนลงพุงเห็นได้ชัดเป็นพิเศษ บนใบหน้ายังมีริ้วรอย สายตาแฝงไว้ด้วยพลังโจรเล็กน้อย
“คุณก็คือประธานหลี่หรือ! ช่างยินดี ยินดีจริงๆนะ!” ประธานเฝิงยิ้มหวานเดินเข้ามา ยื่นมือออกไปจับมือกับหลี่เสว่
หลี่เสว่พยักหน้าอย่างราบเรียบ ก็ยื่นมือออกไปด้วย “ประธานเฝิง สวัสดีค่ะ”
สายตาของประธานเฝิงวนเวียนอยู่บนใบหน้ากับคอของหลี่เสว่ มือที่จับไว้ไม่ได้ปล่อยออกมาโดยตลอด
หลี่เสว่รู้สึกถึงความผิดปกติ ใช้แรงดึงมือของตนเองออก ในใจขยะแขยงขึ้นมา “ประธานเฝิง พวกเราพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจกันเถอะ!”
“โอเค พูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ พูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ” สายตาของประธานเฝิงกลายเป็นบ้ากามแล้ว
เซียวหรงเทาอยู่ที่นั่นก็บริการขึ้นมาแล้ว คนทั้งสี่นั่งตักอาหารด้วยกัน ระหว่างการรออาหาร หลี่เสว่พุ่งตรงไปยังประเด็นหลัก “ประธานเฝิง ก่อนหน้านั้นที่เขียนสัญญากับคุณเป็นรองผู้จัดการของบริษัทฉัน ตอนนี้ถูกไล่ออกแล้ว พวกเราคิดว่า ประธานเฝิงจะต้องให้คำอธิบายกับพวกเราหรือไม่”
“วัตถุดิบคุณภาพต่ำเหล่านั้น จะทำให้ร่างกายของลูกค้าเกิดการแพ้”
ประธานเฝิงพูดอย่างไม่สนใจสักนิด “ไอ้หยะ ประธานหลี่ คุณฟังผมพูด ทุกคนล้วนต้องการที่จะหาเงิน วัตถุดิบคุณภาพต่ำอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แท้ที่จริงแล้วคนที่แพ้เหล่านั้นก็เพียงแค่สาเหตุด้านสมรรถภาพทางกายเท่านั้น ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบ”
“ประธานหลี่ คุณคิดดูสิ คุณเอาทองไปขาย แต่ตามความเป็นจริง เพียงแค่ทองเคลือบ ในข้างในนี้ประหยัดต้นทุนมากน้อยเท่าไหร่ และมีผลกำไรมากน้อยเท่าไหร่อีก คิดว่าประธานหลี่น่าจะเข้าใจอย่างมากล่ะ?”
หลี่เสว่ได้ยินคำพูดเหล่านี้หน้าบึ้งในทันที “ประธานเฝิง ทำธุรกิจผลกำไรเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่จำเป็นต้องสูญเสียผลประโยชน์ของคนอื่นเขามาให้ตนเองได้รับผลประโยชน์ อีกทั้ง คุณทำเช่นนี้ คือไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์”
“ถ้าหากว่าประธานเฝิงยืนหยัดที่จะทำเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ได้แค่ยกเลิกสัญญา ยุติความสัมพันธ์ในการร่วมงานระหว่างพวกเรา”
สีหน้าของประธานเฝิงขึงลับเล็กน้อย เซียวหรงเทาออกมาทันที เสียงดังพูดว่า “ประธานหลี่ คุณอย่าไม่รู้ดีชั่ว นี่คือโอกาสที่คุณจะได้เงิน คุณไม่เอา คนอื่นจะเอา!”
หลี่เสว่หัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “ฮึ โอกาสที่จะได้เงินหรือ? คุณคิดว่าฉันต้องการหรือ?”
เซียวหรงเทาหยุดชะงัก ทันทีที่เขาตื่นเต้น ลืมไปแล้วว่าสามีของหลี่เสว่คือไป๋ยี่เฟย แต่ไป๋ยี่เฟยในตอนนี้……
“คุณคิดว่าคุณมีสามีเป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปคนหนึ่ง ก็สามารถจะได้เงินอย่างมั่นคงใช่หรือไม่? คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!” เซียวหรงเทาพูดอย่างเหยียดหยาม
ในเวลานี้ ประธานเฝิงอึ้งชะงัก “คุณพูดอะไรนะ? สามีของเธอเป็นใครหรือ?”
เซียวหรงเทามองออกถึงความคิดของประธานเฝิง ดังนั้นตอบกลับว่า “ประธานเฝิง สามีของเธอเป็นไป๋ยี่เฟยประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ป”
“ไอ้ควย!” ประธานเฝิงด่าคำหยาบ “แม่มึงเอ่ยงั้นยังให้ผมทำเช่นนี้หรือ?”
ตอนเริ่มแรกที่ทำเรื่องนี้เขาล้วนไม่รู้ว่าสถานะของสามีหลี่เสว่ ดังนั้นจึงกล้าทำเช่นนี้ เมื่อกี้ยังคิดอยู่ว่าอีกสักครู่สามารถลิ้มรสสาวสวยให้ดีๆล่ะ! คราวนี้แย่แล้ว แม่มึงเอ่ยก่อกวนกับบุคคลยิ่งใหญ่แล้ว
เซียวหรงเทาพูดอย่างไม่สนใจสักนิดว่า “ประธานเฝิง อย่ากระวนกระวายใจเลย ผมยังพูดไม่จบล่ะ”
“มีอะไรรีบพูด!” ตอนนี้ประธานเฝิงแทบอยากจะออกจากที่นี่ในทันทีใจจะขาด
“ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปจริงๆ แต่ประเด็นสำคัญคือเขาหายตัวไปหนึ่งเดือนแล้ว ตามที่ผมได้รู้มา ไป๋ยี่เฟยฆ่าคุณชายของตระกูลฉุงในตระกูลใหญ่ทั้งสี่ ทั้งยังล่วงเกินตระกูลเย่ด้วย ตอนนี้ถูกคนมากมายตามฆ่า ในการหายตัวหนึ่งเดือนนี้ ใครจะพูดได้แม่นว่าเขาหลบอยู่ที่ไหน หรือว่า…….แล้ว”
ตาของประธานเฝิงสว่างขึ้นทันที จ้องมองไปยังหลี่เสว่
หลังจากหลี่เสว่ได้ยินคำพูดของเซียวหรงเทา “คุณอย่าพูดเหลวไหล!ไป๋ยี่เฟยปลอดภัยมาก!”
“ปลอดภัยหรือ? ถ้าปลอดภัยทำไมเขาไม่ปรากฏตัวล่ะ? ยังหายตัวไปหนึ่งเดือนเต็มๆหรือ?” เซียวหรงเทา ฮึ เบาๆเสียงหนึ่ง “ถ้าหากว่าไม่เป็นไรละก็ คุณโทรหาเขาอยู่ต่อหน้าพวกเราล่ะ!” “หากว่าเขาได้รับสาย ผมก็จะเชื่อว่าเขาปลอดภัยดี!”
หลี่เสว่หยุดชะงักเล็กน้อย เธอไม่กล้าโทร เพราะว่าเธอรู้ โทรศัพท์ติดต่อไป๋ยี่เฟยไม่ได้สักนิด
“ดูสิ ประธานเฝิง เธอไม่กล้าโทร พูดได้ชัดว่าตัวเธอเองโทรไปแล้วหลายรอบ แต่ว่าติดต่อไป๋ยี่เฟยไม่ได้มาโดยตลอด!” เซียวหรงเทาพูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
นึกถึงว่าตอนโน้นเขาจึงเป็นพระเอกของชั้นเรียน ใครจะรู้ล่ะทันทีที่ไป๋ยี่เฟยมา แย่งจุดอันโดดเด่นของเขาไปหมด ยังตบเขาอยู่ต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น ก็เนื่องเพราะคำพูดของเขาคำเดียว ตระกูลของพวกเขาบอกว่าจะล้มละลายก็ล้มละลายแล้ว
เขาไม่สมัครใจ ทั้งหมดนี้ ล้วนเนื่องเพราะไป๋ยี่เฟย ดังนั้นเขาจะแก้แค้นไป๋ยี่เฟย ทำให้เขารู้ว่าล่วงเกินเขาแล้ว จะไม่มีชีวิตอยู่ได้ดีขนาดนั้นล่ะ!
อันดับแรก เขาจะลงมือกับภรรยาของเขาก่อน!
ประธานเฝิงเห็นสภาพนี้มีลักษณะพลังในทันที “ประธานหลี่ อย่างอื่นอะไรก็ไม่ต้องพูดแล้ว คุณจะให้ผมออกมาอธิบาย งั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าล่ะ ถ้าหากคุณนอนกับผมคืนหนึ่ง ผมกลับสามารถพิจารณาๆได้”
หลี่เสว่กัดริมฝีปาก จากนั้นโมโหพูดว่า “เป็นไปไม่ได้!”