บทที่ 432
บนรถ ไป๋ยี่เฟยโทรหาจางหัวปิน “คุณอยู่ที่ไหนหรือ?” ไป๋ยี่เฟยได้ยินเสียงฝั่งโน้นมีความเจี๊ยวจ๊าวเล็กน้อย ไม่เหมือนอยู่ในสถานที่เงียบสงบดั่งโรงพยาบาลโว่หลงอย่างนั้น
จางหัวปินอยู่ฝั่งโน้นอารมณ์มีความตื่นเต้นเล็กน้อย “หาเจอแล้ว มีกระจกตาที่เข้ากันได้แล้ว ผมกำลังอยู่ระหว่างทางไปโรงพยาบาล”
ไป๋ยี่เฟยหยุดชะงัก เข้าใจแล้ว “อืม คุณไปเองคนเดียวหรือ? พี่สะใภ้ล่ะ? พวกคุณ……..”
จางหัวปิน หัวเราะแหยๆ แฮ่ๆ “จะต้องขอบคุณคุณมาก เธออภัยให้ผมแล้ว ผมพาเธอไปด้วยกัน”
“งั้นก็ดี ระหว่างทางพวกคุณระมัดระวังความปลอดภัยสักหน่อย มีอะไรต้องการให้ช่วยเหลือโทรหาผม ยังมีอีก อย่าทำให้พี่สะใภ้ผิดหวังอีกแล้ว” ไป๋ยี่เฟยพูดเตือนสติ
จางหัวปินพูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ไม่แล้วล่ะ”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้คุณจะพูดอะไรหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่มีอะไรแล้ว เรื่องของพี่สะใภ้สำคัญกว่า เรื่องของผมนี้จัดการไม่ค่อยง่าย สายหน่อยผมจะไปเยี่ยมพวกคุณ”
จางหัวปินลังเลสักพัก “ถ้าไม่ผมกลับไปก่อน ก็ไม่รีบร้อนในเวลานี้เช่นกัน”
“อะไรไม่รีบร้อนในเวลานี้ล่ะ? กระจกตายากจะหาที่เข้ากันได้ คุณไม่รีบหน่อย ยังเลื่อนไปอีก ถ้าหากไม่มีแล้วจะทำยังไงดีหรือ? ฝั่งนี้ผมไม่มีเรื่องอะไรจริงๆ ถ้าหากว่ามีเรื่องอะไรก็จะไม่ให้คุณไปแล้ว”
การยืนหยัดต่อๆกันของไป๋ยี่เฟย ทำให้จางหัวปินได้เพียงแต่เห็นด้วยแล้ว
วางสายแล้ว ไป๋ยี่เฟยกลับถึงโหวจวี๋กรุ๊ป เรียกหลงหลิงหลิงมา
แท้ที่จริงแล้วเขาคงยังไม่มีเรื่องอะไรจริงๆ เพียงแค่จะแน่ใจข้อความในเอกสารสักหน่อยเท่านั้น เรื่องเหล่านี้รอจางหัวปินกลับมาทำก็ได้เช่นกัน
“ไป รับซื้อโรงงานเครื่องประดับแห่งนี้ ด่วน”
ไป๋ยี่เฟยจะซื้อโรงงานเครื่องประดับของเฝิงหย่งก้างแห่งนั้นไว้ เอามาให้บริษัทอัญมณีของหลี่เสว่ใช้พอดี ก่อนหน้านั้นเขาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน น่าจะต้องจัดการโรงงานเครื่องประดับพร้อมกันเสร็จแล้วค่อยเอาให้หลี่เสว่ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเรื่องเหล่านี้ในวันนี้แล้วเช่นกัน
สำหรับเฝิงหย่งก้างฮึ ก่อนหน้านั้นจางหัวปินสืบได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเฝิงหย่งก้าง ตอนนี้ไม่ต้องคิดแล้ว ย่อมเป็นเย่ฮวนแน่นอน
เย่ฮวนหนุนช่วยเฝิงหย่งก้าง คืออยากจะขยายอิทธิพลถึงเมืองเทียนเป่ย ภายนอกดูแล้วอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเขา แต่ตามความจริง ยังอยากจะแบ่งสัดส่วนจากฝั่งนี้ของเขา
เดิมทีไป๋ยี่เฟยไม่อยากแย่งชิงไปมากับคนเหล่านี้ เขาคิดเพียงอยากจะใช้ชีวิตกับหลี่เสว่อย่างสงบสุข แต่หลังจากตั้งแต่ที่เขาเป็นประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปแล้ว ชีวิตก็ไม่เคยสงบสุขเลย
จนถึงในตอนนี้ เขาจมลึกลงไปแล้ว อยากจะถอนตัวก็ถอนตัวไม่ได้เช่นกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะไม่ขอเพียงแต่สงบสุขแล้วเช่นกัน เขาจะจับกุมอำนาจหลักด้วยตนเอง
ไป๋ยี่เฟยโทรหาจางหรงอีก “จางหรง คุณไปช่วยภรรยาผมจัดการบริษัทเป็นเวลาชั่วคราวก่อนสักหน่อย เงินเดือนฝั่งนี้ก็รับตามเดิม”
ความสามารถในการทำงานของจางหรงไม่เลว นี่คือสาเหตุหลักที่ไป๋ยี่เฟยหาจางหรง
หลังจากวางแผนเรื่องเหล่านี้เสร็จ ไป๋ยี่เฟยเคลื่อนตัวไปยังโรงพยาบาลโว่หลง
ไปถึงโรงพยาบาลโว่หลง ไปเจอกับหลิวเสี่ยวอิงอย่างไม่ประหลาดใจสักนิด
“เอ๊ะ ทำไมคุณมาอีกแล้วล่ะ?” หลิวเสี่ยวอิงจ้องมองไป๋ยี่เฟยอย่างอยากรู้อยากเห็น
ไป๋ยี่เฟยลืมตาขาวจ้องมองเธอหนึ่งที “มีธุระ คุณไปทำงานเถอะ!”
หลิวเสี่ยวอิง เชอะ เสียงหนึ่ง “คุณจะทำอะไรหรือ? ฉันสามารถช่วยได้ไหม?”
“ไม่มีเรื่องอะไร” ไป๋ยี่เฟยโบกมือต่อๆกัน “เอ๊ะ ใช่แล้ว เรื่องที่จางหัวปินไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนกับภรรยาเขาคุณรู้ไหม?”
“รู้ คุณอยากจะไปหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “แต่ว่าผมต้องกลับไปบ้านก่อนสักครั้ง คาดว่าต้องเป็นตอนเย็นแล้ว”
“งั้นสู้คุณไปพรุ่งนี้เช้ายังจะดีกว่า” หลิวเสี่ยวอิงพูด ฮึ ฮึ
ทันทีที่ไป๋ยี่เฟยคิด “ก็ใช่ งั้นผมไปพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”
“ถือโอกาสพาฉันไปด้วยล่ะ!” หลิวเสี่ยวอิงเกาะแขนของไป๋ยี่เฟยไว้
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว “คุณจะไปทำอะไรหรือ? คุณไม่อยู่ในโรงพยาบาลให้ดีๆ ไปเพิ่มความยุ่งยากให้ด้วยทำไมล่ะ?”
“ยังไงโรงพยาบาลก็ไม่ค่อยมีคนไข้ด้วยล่ะ คุณขับรถไปคนเดียวก็จะเหงามากใช่หรือไม่ล่ะ?” หลิวเสี่ยวอิงจ้องมองไป๋ยี่เฟยกะพริบตาอย่างบริสุทธิ์ใจ
“ถึงเวลานั้นค่อยพูดเถอะ!” ไป๋ยี่เฟยดึงแขนของตนเองออกมา หลิวเสี่ยวอิงมักจะแตะเนื้อต้องตัวเขา นี่ทำให้เขาอึดอัดมาก
หลิวเสี่ยวอิงเบ้ปากต่อๆกัน ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน
ไป๋ยี่เฟยไปหาเฉินอ้าวเจียว
“ไปหาคนเป็นยังไงแล้วล่ะ?”
เฉินอ้าวเจียวลืมตาขาว “หาได้สามคนเป็นเวลาชั่วคราว คุณคิดว่าซื้อผักกาดขาวหรือ? มีทั่วท้องตลาด”
“นี่ไม่ใช่หาคนได้แล้วหรือ? ผมยังคิดว่าแม้แต่คนเดียวคุณก็ยังหาไม่เจอล่ะ!” ไป๋ยี่เฟยพูดไม่ออก “แต่ว่ายังคงน้อยไปหน่อย ก็ช้าไปหน่อยด้วย”
เฉินอ้าวเจียวพูดอย่างราบเรียบว่า “ต้องการคุณภาพ ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หักหลังคุณด้วย นี่ยากมาก”
“นี่ก็ใช่สิ” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า “ได้ครับ ในใจคุณมีแผนไว้แล้วก็พอ”
หลังจากไป๋ยี่เฟยถามเสร็จจ้องมองเวลาหนึ่งที พอดีเป็นเวลาเลิกงาน ก็เลยขับรถไปยังบริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่ เตรียมตัวที่จะไปรับหลี่เสว่กลับไปพร้อมกัน
พูดได้ว่าไป๋ยี่เฟยซื้อบริษัทแห่งนี้ ยังไม่เคยมาล่ะ
ก็เนื่องเพราะไป๋ยี่เฟยไม่เคยมาเลย ดังนั้นไม่รู้ว่าออฟฟิศของหลี่เสว่กับพนักงานทั่วไปไม่ได้อยู่ในชั้นเดียวกันเลย
ไป๋ยี่เฟยออกจากลิฟต์ ถูกขวางไว้อยู่นอกประตูโดยตรง
เนื่องเพราะเป็นบริษัทอัญมณี ดังนั้นความลับและความปลอดภัยสูงมาก ซ้ายขวาสองข้างของลิฟต์เป็นประตูกระจก อีกทั้ง จะต้องมีบัตรพนักงานจึงจะเปิดได้
ไป๋ยี่เฟยมึนงงหนึ่งที เดินไปหน้าประตูกระจกแผ่นหนึ่ง เคาะแล้วเคาะอีก
โชคดีว่าหน้าประตูมีเคาร์เตอร์หนึ่ง กดปุ่มเปิดปิดเลย
“สวัสดีค่ะท่าน ขอถามหน่อยว่าท่านจะมาหาใครหรือ?”
ไป๋ยี่เฟยมองไปรอบๆหนึ่งที สิ่งแวดล้อมในการทำงานยังไม่เลว ดังนั้นตอบกลับว่า “ผมมาหาผู้จัดการหลี่ของพวกคุณ”
“ผู้จัดการหลี่หรือ?” หน้าเคาร์เตอร์พูดซ้ำอีกรอบ “เป็นผู้จัดการหลี่ผู้จัดการของบริษัทพวกเราหรือ?”
“ใช่ครับ” ไป๋ยี่เฟยพยักหน้า
หน้าเคาร์เตอร์จ้องมองไป๋ยี่เฟยหนึ่งที หน้าตาดำๆ สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดามาก ดูแล้วเหมือนคนหน้าตาธรรมดาจนๆ ไม่หล่อคนหนึ่ง หน้าเคาร์เตอร์คิดว่าคนคนนี้เป็นคนที่ตามจีบผู้จัดการหลี่ด้วยจิตใต้สำนึก
ทุกคนล้วนรู้ว่าหลี่เสว่หน้าตางดงาม ยังเป็นภรรยาของประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ป ก็แค่คนอย่างนี้ที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ก็อยากจะมาเลื่อยขาเก้าอี้ด้วยหรือ?
“ขอถามหน่อยว่าท่านมีการนัดหมายไว้ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว “ผมมารับเธอเลิกงาน จะต้องนัดหมายอะไรล่ะ?”
ในเวลานี้พนักงานหน้าเคาร์เตอร์ยังไม่นึกถึงสถานะของไป๋ยี่เฟย เพียงคิดว่าฝั่งตรงข้ามเป็นโรคหลงผิด ได้แค่พูดจาดีๆว่า “คุณผู้ชาย โดยทั่วไปผู้จัดการหลี่ล้วนเลิกงานกลับบ้านด้วยตนเอง ตัวผู้จัดการหลี่มีรถขับไปเอง”
ไป๋ยี่เฟยไม่เข้าใจคืออะไร “ผมก็มีรถเช่นกันนะ รถของเธอจอดไว้ที่นี่ พรุ่งนี้ผมจะส่งเธอมาก็พอแล้ว”
หน้าเคาร์เตอร์ฟังจนเส้นดำเต็มหัว
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกประหลาดใจ ได้แค่พูดว่า “ออฟฟิศของผู้จัดการหลี่อยู่ที่ไหน ผมจะไปหาเธอโดยตรงเลย”
“ขอโทษจริงๆ ไม่ได้นัดหมายไว้ คือไม่สามารถพบกับผู้จัดการหลี่”
ไป๋ยี่เฟยกลุ้มใจอย่างงั้น ทำไมพบเจอกับภรรยาตนเองยากขนาดนี้ล่ะ? ยังต้องนัดหมายด้วยหรือ?
ในเวลานี้ จางหรงที่เพิ่งทำความคุ้นเคยกับบริษัทเสร็จเดินไปยังหน้าเคาร์เตอร์ทันทีที่มองเห็นไป๋ยี่เฟย วิ่งไปทันทีอย่างประจบ“ท่านประธานกรรมการไป๋ ท่านมาด้วยตนเองหรือ!”
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นจางหรง พยักหน้าเล็กน้อย “อืม คุณทำอะไรอยู่ล่ะ?”
“เพิ่งทำความเข้าใจในบริษัทเสร็จ ท่านประธานกรรมการไป๋ท่านมารับภรรยาหรือ?” จางหรงยิ้มหวานตอบกลับ
หน้าเคาร์เตอร์ที่ฟังการสนทนากันของพวกเขาอยู่เบิกตาโพลงทั้งคู่ในทันที จางหรงที่อยู่ต่อหน้าเขารู้จักว่า คือโหวจวี๋กรุ๊ปส่งมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการหลี่ แต่จางหรงเรียกชายหนุ่มคนนี้ว่า ‘ท่านประธานกรรมการไป๋’!
งั้นเขาจะไม่ใช่ไป๋ยี่เฟยประธานกรรมการโหวจวี๋กรุ๊ปหรือ?
เมื่อกี้เขาบอกว่าจะมารับผู้จัดการหลี่ แย่จริงๆนะ เธอถึงขนาดคิดว่าฝั่งตรงข้ามเป็นคนที่ตามจีบผู้จัดการหลี่ ดังนั้นจึงตั้งใจขวางไว้
ในใจหน้าเคาร์เตอร์หวาดกลัว ประธานกรรมการไป๋จะไม่กล่าวโทษเธอมั้ง? หรือว่าไล่เธอออกโดยตรงล่ะ?