บทที่517
ภัตตาคารนั้นอยู่ชั้นบน มันใหญ่มาก เห็นแล้วนึกว่าเป็นงานเลี้ยงซะอีก
เพื่อทำให้คนพวกนี้รู้สึกพอใจ นอกจากอาหารนานาชนิดแล้ว ยังมีอาหารตะวันตกอีก ไม่เสียแรงที่สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงลงมือเอง ยิ่งใหญ่จริงๆ
หลี่เสว่และคนอื่นๆ ไม่ชอบอาหารตะวันตก หลังสั่งอาหารเสร็จก็พากันไปนั่งกินที่โต๊ะ
“พี่ครับ งานในรอบนี้จะเสร็จเมื่อไหร่เหรอครับ?” เฉินห้าวกินข้าวไปถามไป
ไป๋ยี่เฟยลองคำนวณเวลาดู “วันนี้น่าจะเสร็จ”
“ครับ พี่ครับ ผมคิดว่าครั้งนี้พี่มีสิทธิ์ที่จะชนะมากเลยนะครับ!” พอเฉินห้าวนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ไป๋ยี่เฟยได้คริสตัลกรุ๊ปของหวังโหลวมาอยู่ในมือ บวกกับโรงพยาบาลสองแห่งนั้นอีก ด้วยทรัพย์สินขนาดนี้เห็นทีจะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแล้วที่จะเทียบเขาได้
หลี่เสว่ที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินอย่างนั้นพอได้ยินอย่างนั้นก็พูดขึ้นว่า “ให้ฉันโอนฝูรุ่ยจิวเวลรี่ให้คุณด้วยเอามั้ยคะ?”
“” ไม่เป็นไรครับ” ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้าพร้อมกับอมยิ้ม “โอนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วครับ อีกอย่าง แค่มีคริสตัลกรุ๊ปก็เกินพอแล้วครับ”
หลี่เสว่ยพยักหน้า จากนั้นก็กินข้าวต่อ
ในตอนนั้นเอง ในภัตตาคารก็ได้มีชายหนุ่มที่นั่งรถเข็นคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขามองไปรอบๆ ห้อง แล้วพบกับพวกไป๋ยี่เฟยเข้า จากนั้นเขาก็รีบเข็นตัวเองเข้าไปหาทันที
“ไป๋ยี่เฟย! หลี่เสว่!”
หลี่เสว่เงยหน้าขึ้นแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่เข้ามา “คุณมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?”
หลี่ฝานมองทุกคนด้วยสายตาที่ไม่ให้เกียรติ จากนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ก็ต้องมาเลือกตั้งนะสิ! แล้วพวกเธอล่ะมาทำไม? มีแต่ขยะทั้งนั้น ยังมีหน้ามาที่นี่อีก?”
ตั้งแต่ที่ขึ้นเรือมา หลี่ฝานก็อยู่ในห้องพักตลอด เพราะเขารู้ว่าคิวของตัวเองอยู่ท้ายๆ เขาจึงไม่ได้ออกมา และไม่รู้ด้วยว่าตอนเช้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “หลี่ฝาน คุณแม่งลืมเรื่องคราวก่อนไปแล้วเหรอ? ผมขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย!”
คราวก่อนที่หลีฝานร่วมมือกับเย่อ้ายมาเล่นงานโหวจวี๋กรุ๊ป เขาแค่เห็นแก่นายท่านหลี่ถึงได้ยอมปล่อยหลี่ฝานไป แต่ถ้าครั้งนี้ หลี่ฝานยังจะรนหาที่ตายอีก เขาก็ไม่มีทางปล่อยไว้แน่นอน!
หลี่ฝานดูไม่สนใจเลย แถมยังหัวเราะเยาะไป๋ยี่เฟยอีก “ไป๋ยี่เฟย แกคิดว่าแกเป็นใคร? ไม่มีโหวจวี๋แล้วแกก็ไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น!”
“ไม่สิ พวกแกขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง?” จู่ๆ หลี่ฝานก็นึกถึงจุดนี้ขึ้นมา เมื่อไม่มีโหวจวี๋กรุ๊ป ไป๋ยี่เฟยก็ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะขึ้นมาบนนี้ได้
“แน่นอนอยู่แล้ว ก็ต้องมีบัตรเชิญนะสิ!” เฉินห้าวพูดแย้งขึ้นมา “ไอ้หน้าโง่!”
ไอ้หลี่ฝานนี่หาเรื่องไป๋ยี่เฟยครั้งแล้วครั้งเล่า เฉินห้าวรู้สึกหมั่นไส้มานานแล้ว
หลี่ฝานสีหน้าซีดเชียว ชี้หน้าเฉินห้าวแล้วต่อว่าออกมา “แล้วแกล่ะเป็นใคร? กล้ามาพูดจาแบบนี้กับฉันได้ยังไง? รู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร? เดี๋ยวฉันก็สั่งให้คนมาจับแกโยนออกไปซะนี่!”
คนที่มองดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ พอได้ยินหลี่ฝานพูดแบบนั้นออกมา ต่างก็พากันมองเขาด้วยสายตาที่ดูแคลน ต่อให้ไม่มีเรื่องแบบเมื่อเช้าเกิดขึ้นกับไป๋ยี่เฟย ด้วยฐานะของไป๋ยี่เฟยตอนนี้ก็ไม่ใช่คนที่บอกว่าจะไล่ก็ไล่ได้ง่ายๆ หรอกมั้ง?
สายตาของทุกคนที่แสดงออกมามันยากที่จะปกปิด ชั่วขณะหนึ่งหลี่ฝานก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก พฤติกรรมที่ว่างท่าใหญ่โตเมื่อกี้ก็หายไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่วายที่จะหาเรื่องไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย แกควรเจียมตัวไว้บ้าง แล้วนั่งดูอย่างว่าง่ายนะว่าประธานเย่เขาเอาตำแหน่งประธานสหพันธ์ธุรกิจมาได้ยังไง!”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้น เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หันไปเป็นหมารับใช้ของเย่ฮวนแล้วเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ตอนที่หลี่ฝานรวมหัวกับเย่อ้ายมาเล่นงานโหวจวี๋กรุ๊ป เขาก็เป็นคนของเย่อ้าย มาตอนนี้ก็กลายเป็นลูกน้องของเย่ฮวนไปแล้ว สรุปแล้ว ขอแค่ใครสามารถทำให้ไป๋ยี่เฟยพ่ายแพ้ได้ เขาก็จะไปอยู่กับคนๆ นั้นได้ตลอดทุกเมื่อ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ตาม
“แกด่าฉันเหรอ?” หลี่ฝานมองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว “แกมีสิทธิ์อะไรมาด่าฉัน? ไอ้คนไร้ค่า! แก……”
“พอได้แล้วค่ะ!” หลี่เสว่ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว “หลี่ฝาน เขาเป็นสามีของฉัน และเป็นน้องเขยของคุณ แล้วคุณมาพูดจาแบบนี้กับเขาได้ยังไง?”
“ถุย!” หลี่ฝานถุยน้ำลายลงพื้นอย่างไม่ให้เกียรติ “ใครแม่งยอมรับน้องเขยแบบนี้กัน? อีกอย่าง ฉันไปยอมรับว่าเป็นพี่ชายของเธอตอนไหน? อย่าคิดว่า นายท่านยอมรับพวกเธอแล้วฉันจะยอมรับด้วยนะ!”
“ชาตินี้ข้าไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด! ถึงตายก็ไม่ยอม!”
หลี่ฝานยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น เดิมที่เขาก็เป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลี่อย่างดีๆ อยู่แล้ว แถมยังเป็นหลานที่ นายท่านรักใคร่ที่สุดด้วย แต่พอมีไป๋ยี่เฟยเข้ามา เขาก็กลายเป็นตัวอะไรไม่รู้
ไม่เพียงไม่มีตระกูลหลี่ ยังต้องมาถูกหักขาอีก ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมันมาจากคนในครอบครัวไป๋ยี่เฟยทั้งนั้น
แต่ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เขายังคงเป็นประธานกรรมการของตระกูลหลี่ ยังคงได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้
ไป๋ยี่เฟยหรี่ตาลง ตอนนี้หลี่ฝานควรอยู่ในโรงพักสิถึงจะถูก จะต้องมีคนประกันตัวเขาออกมาแน่ๆ และยังคืนกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปให้เขาไปด้วย มันถึงทำให้หลี่ฝานได้ใจถึงขนาดนี้
ไม่ต้องคิดให้ปวดหัว คนๆ นั้นจะต้องเป็นเย่ฮวนอย่างไม่ต้องสงสัยไป๋ยี่เฟยไม่ค่อยเข้าใจนัก คนไร้ค่าอย่างหลี่ฝาน จะเสียแรงช่วยเขาออกมาจากคุกทำไมกัน? แถมยังคืนกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปให้เขาอีก หรืออาจทำไปเพื่อการเลือกตั้งในครั้งนี้กัน?
หลี่เสว่ที่กำลังจะโต้กลับ ก็ถูกไป๋ยี่เฟยห้ามเอาไว้ก่อน “หมามันเห่าไปเรื่อย อย่าไปใส่ใจมันเลยครับ”
คำพูดนี้ทำให้หลี่ฝานระเบิดออกมา “ไป๋ยี่เฟย!”
ระหว่างที่พูด หลี่ฝานก็บังคับรถเข็นของตัวเองให้เข้าไปหายไป๋ยี่เฟย เหมือนเขาลืมบอดี้การ์ดของไป๋ยี่เฟยไปแล้วประสบการณ์ที่เคยถูกไป๋ยี่เฟยกระทืบ
ตอนที่หลี่ฝานยังไม่ทันเข้าถึงตัวไป๋ยี่เฟย เขาก็ถูกไป๋หู่ขวางเอาไว้ก่อน ไป๋หู่ถีบขาออกไป หลี่ฝานกับรถเข็นของเขาไหลออกไปไกลกว่าจะหยุดลง
นี่ไป๋หู่ถือว่าเมตตาแล้วนะ
หลี่ฝานไหลออกไปไกล ระหว่างนั้นยังหมุนตัวไปหลายรอบด้วย เขามึนงงไปพักหนึ่ง พอตั้งสติได้ เขาก็จะพูดอะไรออกมา แต่เย่ฮวนก็เข้ามาก่อน
“หลี่ฝาน!” พอเย่ฮวนเดินมาถึงประตู ก็เห็นเหตุการณ์ข้างในเข้า พอรู้ว่าหลี่ฝานเข้าไปหาเรื่องไป๋ยี่เฟยอย่างไม่เจียมตัวสีหน้าของเขาก็ดูไม่ดีเอามากๆ
พอหลี่ฝานเห็นว่าเย่ฮวนมาถึงแล้ว เขาก็มีความมั่นใจขึ้นมาทันที “ประธานเย่ คุณดูไอ้สวะไป๋ยี่เฟยนั่นสิครับ ไม่รู้ว่ามันขึ้นมาบนเรือนี้ได้ยังไง แถมยังใช้ความรุนแรงอีก!”
“หุบปาก!” เย่ฮวนสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เขาขึ้นมาด้วยบัตรเชิญยังไงล่ะ! อย่ามาทำให้ผมขายหน้านะ!”
“อะไรนะครับ?” หลี่ฝานอึ้งไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “มันเป็นไปได้ยังไง? มันไปเอาบัตรเชิญมาจากไหน?”
เย่ฮวนทำเสียงฮึดฮัด “หวังโหลวเป็นคนให้”
“เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่บอก ตอนนี้ประธานกรรมการของคริสตัลกรุ๊ปไม่ใช่หวังโหลวแล้ว แต่เป็นไป๋ยี่เฟยต่างหาก! 1
หลี่ฝานตาค้างไปทันที ตกใจจนไม่รู้จะตกใจยังไงแล้ว
มันเรื่องอะไรกัน?
ทำไมคริสตัลกรุ๊ปถึงกลายเป็นของไป๋ยี่เฟยไปได้ล่ะ?
หวังโหลวกับหลิ่วจาวเฟิงกำลังร่วมมือกันทำลายโหวจวี๋กรุ๊ปอยู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วจู่ๆ ทำไมถึงหันมาหักหลังกันได้ล่ะ?
หลี่ฝานไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนเย่ฮวน ก็ไม่มีทางอธิบายให้เขารู้อยู่แล้ว แค่เตือนเขาไม่กี่คำแล้วก็เดินออกจากภัตตาคารไป
หลี่ฝานอึ้งอยู่กับที่ ผ่านไปตั้งนานก็ยังไม่ได้สติ
พอพวกไป๋ยี่เฟยเห็นเย่ฮวนมาถึง ก็คิดว่าเขาจะทำอะไรบ้างซะอีก แต่พอตักเตือนหลี่ฝานเสร็จเขาก็จากไปเลย จากนั้นพวกเขาก็หันไปมองหลี่ฝานที่กำลังอึ้งอยู่ ก็หมดอารมณ์แล้วหันมากินข้าวต่อ
ตอนที่หลี่ฝานตั้งสติได้ พวกไป๋ยี่เฟยก็ได้เดินออกจากภัตตาคารไปแล้ว
หลี่เสว่เอาอาหารติดมือไปให้โจวฉวี่เอ๋อด้วยนิดหน่อย ส่วนไป๋ยี่เฟยก็เดินไปที่ดาดฟ้าคนเดียว
ไป๋ยี่เฟยมองไปยังท้องทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วนึกถึงสองคนเมื่อกี้
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนั้นเชี่ยวชาญในการปลอมตัว แถมยังสามารถเรียนแบบน้ำเสียงและลักษณะนิสัยของที่ที่ปลอมตัวได้ จุดนี้มันช่างน่ากังวลเหลือเกิน ถ้าไม่ทันระวัง คนข้างตัวของตัวเองก็จะไม่ใช่คนๆ นั่นอีกแล้ว
ครั้งหนึ่งเป็นโจวฉวี่เอ๋อ อีกครั้งก็เฉินห้าว ถ้าไม่ใช่เพราะเขาสนิทกับสองคนนี้ละก็มันคงเป็นเรื่องยากที่เขาจะรู้ตัว
ว่าแต่ใครกันที่เป็นคนส่งสองคนนี้มา?
เหมือนเขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะว่ามีใครที่มีความสามารถในการปลอมตัวแบบนี้?
ไป๋ยี่เฟยได้ส่งคนไปสืบหาเรื่องนี้แล้ว และหวังว่าจะได้ข้อมูลโดยเร็ว
……
หลังช่วงพักเที่ยง การเลือกตั้งรอบแรกก็ได้ดำเนินต่อไป
ใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย เลือกตั้งรอบแรกถึงได้จบลง หลังผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบอย่างเป็นธรรมแล้ว สุดท้ายก็เลือกผู้เข้ารอบในรอบสองอีกหนึ่งร้อยบริษัท