ศพ – ตอนที่ 270 อาจารย์ต้องห้าม

ตอนที่ 270 อาจารย์ต้องห้าม

ตอนที่ 270 อาจารย์ต้องห้าม

เจิงต้าจือเปลี่ยนประเด็น พูดซ้ําๆอึ้งๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากพูดออกมา

เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนั้น ผมก็พูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาทันที“เป็นอะไร ? ยังไม่อยากพูดออกมาละซิ ? ”

หน้าเจิงต้าจือกระตุกสองสามครั้ง หลังจากนั้นถึงได้ค่อยๆเงยหน้ามองผม “ พูด พูดอะไรละ ? ฉัน ฉันไม่รู้อะไรเลยอาจารย์อะไร…”

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ พวกเราก็เงียบในทันที

เห็นได้ชัดว่าเพิ่งต้าจือกําลังโกหก ไม่รู้อะไรได้ยังไง?เห็นอยู่ชัดๆว่าเขารู้ดีแก่ใจ

แต่เมื่อเห็นท่าทีของเขา เขาเองก็น่าจะกลัว “อาจารย์ ” คนนี้มากทําให้ลืมความกลัวว่าจะโดนเราอัดไป

ถึงได้กล้าพูดโกหกอีกครั้ง

ผมทําหน้านิ่ง พูดต่อว่า “ แล้วแกไม่กลัวเราจะอัดแกจนตายเหรอ ? ”

* กลัว กลัว แต่ แต่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาจารย์นั่นจริงๆพวกท่านพวกท่านปล่อยฉันไปเถอะ ! สิ่งที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว…” เพิ่งต้าจือพูดด้วยความหวาดกลัว

แต่ พวกเราไม่มีความเมตตาต่อเขาเลยสักนิด

เสียงดังฮีแล้วถีบเจิงต้าจืออย่างไม่ลังเล เหล่าเฟิงและหยางเนิ่วที่อยู่ข้างๆก็ทนไม่ไหวนานแล้ว

เมื่อเห็นผมลงมือในเวลานี้ และทุกคนยังเข้ามารุมซ้อมเพิ่งต้าจืออย่างรุนแรง

เจิงต้าจือก็โดนอัดจนร้องเสียงหลงอีกครั้ง “ โอ๊ยโอ๊ย ” เห็นได้ชัดว่าเขากําลังทรมานมาก

แต่พวกเรากลับรู้สึกว่าวิธีลงมือของตัวเองไม่ได้โหดร้ายถึงขนาดนั้นเมื่อคิดถึงพวกผู้หญิงที่โดนเจ้าหมอนี่ทําลาย พวกเราก็ถือว่าลงมือกับเขานุ่มนวลที่สุดแล้ว

“ แกจะพูดออกมาไหมฮะ ? ” หยางเฉ่วกระทืบไปถามไป

แต่เจ้าหมอนี่กลับยังไม่ยอมพูดออกมา มันยังแกล้ง ทําเป็นไม่รู้พูดอะไรไม่ชัดเจนสักอย่างเราจึงไม่รู้จะพูดกับมันยังไงดี

เมื่อเห็นเจ้าหมอนี่ยังปากแข็งถึงขนาดนี้ จึงทําได้เพียง อัดมันต่อไปทําให้มันทรมานจนยอมพูดออกมา

หลังจาดอัดไปประมาณสี่ห้านาที เจ้าหมอนี่ก็ แทบโดนอัดจนวิญญาณจะแตกสลาย แต่มันก็ยังไม่ยอมพูดออกมา

นี่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่คาดคิดมาก่อน คิดไม่ออกจริงๆว่า เจ้าผีกลัวตายตนหนึ่งจะมีความรู้สึกกับ “ อาจารย์ ” คนนี้แบบไหนกันแน่เป็นความกลัวหวาดระแวงเคารพ

หรือเป็นอย่างอื่น ถึงได้ปากแข็งไม่ยอมพูดออกมาแม้แต่คําเดียวแบบนี้

เมื่อเห็นเจิงต้าจือนอนบนพื้นปางตาย ดวงวิญญาณอ่อนแรงพวกเราก็หยุดมือ

หากยังอัดต่อไป วิญญาณของเขาจะต้องแตกสลายจริงๆแน่

“ เหล่าติง ตอนนี้เราจะทํายังไงดี ? ” เหล่าเฟิงพูดเขาเองก็ไม่รู้จะทํายังไง

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ นอกจากเจ้าหมอนี่แล้วตรงนั้นยังมีอีกหนึ่งตัวไม่ใช่เหรอ ? ถามเจ้านี่ไม่ได้งั้นเราก็เปลี่ยนไปถามอีกตัวซิ ! ”

เมื่อเหล่าเพิ่งได้ยินแบบนั้น ก็พยักหน้ารับทันที

จากนั้นก็หันไปมองสภาพที่ไม่ต่างจากตายแล้วของเจิงต้าจือ “ แล้วจะทํายังไงกับเจ้าหมอนี่ละ ?”

เสียงเพิ่งเงียบลง ยังไม่รอให้ผมตอบ หยางเนิ่วที่อยู่ข้างๆก็ชิงพูดว่า “ สิ่งที่เจ้าสัตว์เดรัจฉานี่ทํามันน่ารังเกียจเกินไปไม่ฆ่ามันคงระบายความแค้นให้ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อพวกนั้นได้ยาก !”

หลังจากพูดจบ หยางเนิ่วก็ดึงดาบไม้ออกมาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอมีจิตสังหารอยู่แล้วตอนนี้กําลังจะลงมือฆ่าเจิงต้าจือแล้ว

ผมและเหล่าเฟิงต่างเงียบไปพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

หยางเฉ่วพูดถูก เจ้าเพิ่งต้าจือทําชั่วช้าและน่ารังเกียจเอาไว้มากเกินไป

สําหรับผีลามกแบบนี้ไม่ฆ่ามันคงล้างแค้นให้ผู้หญิงเหล่านั้นได้ยาก

เพิ่งต้าจือเห็นหยางเฉ่วจะลงมือฆ่าเขา จึงตกใจจนหน้าซีดตัวสั่นปากสั่นระริก “ อย่า อย่าฆ่าฉัน ฉัน ฉันสํานึกผิดแล้วจริงๆ ”

หยางเนิ่วพูดหน้าตายด้าน “ สํานึกผิด ? สํานึกผิดแล้วมันล้างบาปที่แกก่อได้เหรอฮะ ? ไปตายซะเถอะ !”

เสียงเพิ่งเงียบลง ดาบของหยางเนิ่วก็ฟันออกไปแล้ว

“ อ้า ! ” เพิ่งต้าจือร้องอย่างโหยหวนดาบไม้แทงทะลุร่างเขาทันที

วินาทีที่เพิ่งต้าจือโดนแทง พลังวิญญาณทั้งหมดก็แตกสลายอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยเสียง “ ปัง” ดังตามมาติดๆ

ผมและเหล่าเพิ่งมองดูทุกอย่างตรงหน้า สีหน้าไร้อารมณ์ผีลามกแบบนี้สมควรตายแล้ว วิญญาณแตกสลายเป็นจุดจบที่มันควรได้รับแล้ว

เพียงแต่ตอนที่วิญญาณของเจิงต้าจือแตกสลายหายไปแล้วนั้นดวงตาอันเฉียบคมของหยางเฉวกลับทําท่าประหลาดใจอยู่พักหนึ่งเธอก้มตัวไปมอง “ นี่คืออะไร ? ”

ขณะพูด หยางเฉ่วก็เหมือนเก็บอะไรบางอย่างขึ้นมา

หยางเฉ่วสังเกตมันอยู่แป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยื่นมา “ พวกนายดูซินี่คืออะไร ? ”

หลังพูดจบหยางเนิ่วก็ยื่นกระดาษแผ่นสีดํามาทางพวก เรา

ผมและเหล่าเฟิงก็สงสัยมาก จึงหันมามองทันที

ผมพบว่าในมือหยางเฉ่ว คือกระดาษรูปคนหนึ่งแผ่น มันมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือสีดําเหมือนสีหมึก

“ เจ้านี่เหมือนจะหล่นลงมาหลังวิญญาณเจิงต้า จือแตกสลายไปแล้ว !” หยางเฉ่วพูด

ผมและเหล่าเฟิงขมวดคิ้ว นําของมาถือไว้ในมือแต่พอมองดูดีๆแล้วเราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นว่า หลังวิญญาณแตกสลายไปแล้วจะมีของหล่นลงมาด้วย

นี่ไม่ใช่แบบที่จะหล่นลงมา หลังจากฆ่ามอนสเตอร์ในเกมได้แล้วสักหน่อย

เหล่าเฟิงส่ายหัว “ ต้องเก็บเจ้านี้ให้ดีๆในเมื่อเราไม่เข้าใจงั้นก็รอให้กลับไปแล้วค่อยเอาไปให้อาจารย์ของฉันกับพวกลุงติงดูอีกทีไม่แน่พวกเขาอาจรู้อะไรบ้างก็ได้ !”

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เราจึงทําได้เพียงเท่านี้

ดังนั้นหยางเนิ่วจึงเอากระดาษสีดํานั่นยื่นให้เหล่าเฟิงจากนั้นเหล่าเฟิงก็เก็บมันอย่างระมัดระวัง

ต่อไปนั้น ก็เหลือแค่ผีผอมสูงที่โดนผนึกเอาไว้บนพื้นแล้ว

ผมจับดาบไม้ค่อยๆเดินเข้าไป เมื่อมาถึงตรงหน้ามันแล้วเหล่าเฟิงก็ไม่ได้ดึงยันต์ที่ผนึกเจ้าหมอนั้นเอาไว้ตรงๆแต่เป็นประสานมือผนึกแก่นพลังหยินเจ้าหมอนั้นเอาไว้ก่อน แล้วถึงดึงยันต์ของเขาออกเพื่อจะได้คุยกับเจ้าหมอนั้นตรงๆ

วินาทีที่ดึงยันต์ออก ผีผู้ชายตนนั้นก็จ้องเราอย่างดุร้าย

ใบหน้าโหดเหี้ยม เห็นพวกเราขวางอยู่ข้างหน้าก็คิดจะฝ่าออกไป

แต่ไม่รอให้เขาได้ลงมือ ดาบในมือของเราสามคนก็พาดอยู่บนคอของเขาแล้ว

ในเวลาเดียวกัน ผีผู้ชายตนนี้ก็รู้ตัวขึ้นมาอย่างกระทันหันว่าตอนนี้ตัวเองเรียกใช้พลังไม่ได้ ไม่สามารถดึงพลังออกมา ทําอะไรได้เลย

สภาพในตอนนี้ของเขาอย่าว่าแต่สู้กับเราเลย แม้แต่เขาจะหนีก็คงไม่มีแรงทําด้วยซ้ํา !

“ พวกแก พวกแกผนึกแก่นพลังของข้า ! ” ผีผู้ชายตนนั้นพูดอย่างดุร้าย

พวกเราไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา และไม่อยากพูดได้สาระกับผู้ตนนี้จึงพูดอย่างเย็นชากับเขาว่า

* บอกเรามา อาจารย์คือใคร ? เขามีชีวิตอยู่ในรูปแบบไหน ? ”

เมื่อผีผู้ชายได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็ไม่ได้ตอบกลับตั้งแต่วนาทีแรกแต่เป็นหันไปมองรอบๆแทน หลังจากนั้นถึงได้ใช้จ มูกดมพักหนึ่ง

จากนั้น ถึงได้ตอบว่า “ พวกแกฆ่าเจ้าโง่เจิงต้าจือแล้วเหรอ ? ”

แม้ผีผู้ชายจะไม่ยอมตอบคําถาม แต่ผมก็ตอบเขาว่า “ ใช่ !ถ้าแกไม่ร่วมมือต่อไปก็จะเป็นตาของแก ! ”

ผีผู้ชายไม่เหมือนกับเฉิงต้าจือ เขาไม่เพียงไม่กลัว แต่ยัง หัวเราะ “ ฮ่าๆ ”อย่างบ้าคลั่ง “ พวกแกสามคนน่ะเหรอ ? จะฆ่าข้าได้จริงๆ ? ”

โอ้โห ! สมองเจ้าผีนี่คงไม่ได้มีปัญหาหรอกมั้ง ? โดนดาบจี้คอขนาดนี้แล้วยังกล้าพูดจาอวดดีอีก

“ ฮีๆ ! คุยโวไม่ละอายใจเลยนะ ” หยางเนิ่วพูดอย่างเย้นชา

ผีผู้ชายไม่สนใจเลยสักนิด จู่ๆมุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ค่อยหลับตาจากนั้นก็พูดว่า “ดูเหมือน ต้องอุ่นเครื่องสักหน่อยแล้วแฮะ ! ”

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ พวกเราก็ค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย

หรือว่า เจ้าผีนี่ยังมีความสามารถอย่างอื่นอีก แต่เขาตกอ ยู่ในสภาพนี้แล้วจะยังทําอะไรได้อีก

ผลลัพธ์เพิ่งคิดถึงตรงนี้ เจ้าผีผู้ชายตนนั้นก็จ้องอย่างดุร้ายตัวสั่นไปหมด

ทันใดนั้นเอง แรงระเบิดของพลังหยินอันทรงพลังก็แพร่กระจายออกมาร่างผีตนนั้น มันทรงพลังมาก

จนพัดเราสามคนกระเด็นออกไปทันที

ไม่รอให้พวกเราได้เข้าไปใกล้อีกครั้ง จู่ๆผีผู้ชาย ก็กรีดร้องออกมาแก่นพลังที่โดนผนึกเอาไว้ก็โดนทํา ลายในทันที

พร้อมกันนั้นตรงหน้าผากก็มีรอยแยก ดวงตาสีขาว โพนลูกหนึ่งปรากฏสู่สายตาของทุกคน

ศพ

ศพ

Status: Ongoing

หมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่รกร้าง พวกมันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าที่เงียบสงัด มันคือสถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนเป็น …..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท