“บูม!”
ลู่เชี่ยนมองหงจุนที่เดินจากไปอย่างเหม่อลอย และอดไม่ได้ที่จะนั่งลงพื้นแล้วร้องไห้ออกมา
“เขาต้องเกลียดฉันแน่ๆ!”
ลู่เหมียวเหมียวไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธอยังไง ทำได้เพียงนั่งลงข้างๆเธอและกอดเธอไว้
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาถอนหายใจและรู้สึกสับสน
จู่ๆเขาก็คิดขึ้นมา คนเราต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากเพียงใด เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองตายอย่างอนาถและยังสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ได้?
สมมุติว่าเป็นเขา เขาคงทำไม่ได้
ถ้าเป็นหลี่เสว่ ไป๋หยุนเผิงหรืออู๋กุ้ยเซียงคนในคนหนึ่งในนี้ ถ้าพวกเธอถูกฆ่าต่อหน้าเขา เขาอาจจะเสียสติและพุ่งเข้าไปต่อสู้กับศัตรูเพื่อแก้แค้นให้พวกเธอ
แต่เมื่อสักครู่ หงจุนอดกลั้นได้จริงๆ
เขาเห็นพ่อของตัวเองโดนมีดยาวแทงจนเสียชีวิต นอกจากตกตะลึงในช่วงแรกที่เห็น หลังจากนั้นเขาไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมาเลย ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยสักหยด
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจิตใจของหงจุนเข้มแข็งและสงบมากแค่ไหน แค่นี้ก็เห็นได้ชัดเจน ว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัวแค่ไหน
เขาคงรู้สึกผิดปกติ ก็เลยรีบวิ่งกลับมาเพียงคนเดียว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไป๋ยี่เฟยจึงต้องพูดกับลู่เชี่ยนว่า:“สุดท้ายคุณกับเขาก็คงเป็นแค่คนแปลกหน้า รีบปล่อยวางได้แล้ว”
ลู่เชี่ยนร้องไห้แล้วเงยหน้าขึ้นมามองไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูด:“ศัตรูของเขาคือฉัน ไม่ใช่เธอ”
“สำหรับศัตรูของเธอ ถ้าคุณยังคงคิดเหมือนเดิม งั้นก็คงจะเหลือแค่ฉันคนเดียว”
เสียงร้องไห้ของลู่เชี่ยนเริ่มเบาลง มองหน้าไป๋ยี่เฟยอย่างเงียบๆ
ลู่เหมียวเหมียวมองไปที่ไป๋ยี่เฟย ดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างออก จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างเงียบๆ
คนอื่นๆก็ไม่พูดอะไร ทำให้ห้องโถงเงียบสงัด
ในขณะนี้ เฉินห้าวเดินเข้ามา จากนั้นเขายื่นใบเสร็จให้ไป๋ยี่เฟย“พี่ชาย คุณดูนี่สิ”
“ฉันเจอสิ่งนี้ในห้องนอนของหงฟ่าน” เฉินห้าวชี้ไปที่ใบเสร็จและพูด:“ฉันเห็นปัญหาบางอย่างในนี้”
ไป๋ยี่เฟยก้มศีรษะแล้วมอง พบว่ามันเป็นรายการสินค้า และราคาสินค้า มันมีมูลค่าพันล้าน!
หลังจากเห็นมูลค่าสินค้าแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็ขมวดคิ้วทันทีและสั่งว่า:“รีบไปหาของนั้นเดียวนี้”
“ได้ครับ พี่ชาย”เฉินห้าวพยักหน้า จากนั้นพาคนชุดดำไปหลายคน แล้วจับตัวคนของตระกูลหงไปหนึ่งคนและถาม:“ห้องเก็บสมบัติอยู่ที่ไหน?”
คนๆนั้นหวาดกลัวมากๆ เขาไม่กล้าขัดขืน ดังนั้นเขาก็เลยพาเฉินห้าวและชายชุดดำไปที่ห้องเก็บสมบัติ
ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็กลับมา
ในมือของเฉินห้าวถืออิฐทองคำไว้หลายก้อน เดินไปข้างหน้าไป๋ยี่เฟยและยื่นให้เขา
ไป๋ยี่เฟยจับอิฐทองขึ้นมาดูอย่างละเอียด แล้วสัมผัสลวดลายบนนั้น จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
นี่คืออิฐทองคำจากคลังเก็บทองที่สาม
ตั้งนานมาแล้ว เขาเพียงคนเดียวที่เคยเอาอิฐทองคำจากคลังเก็บทองที่สามออกมา และเขาเคยใช้มันเพียงครั้งเดียว และเขาจ่ายอิฐทองคำครั้งนั้นมูลค่าหนึ่งพันล้านพอดี
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว จากนั้นหันหน้าไปมองสวีลั่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา และพูดกับเฉินห้าวเบาๆว่า:“เก็บเป็นความลับไว้ก่อน”
เฉินห้าวเข้าใจในทันทีและพยักหน้า
“ติ่งๆๆ……”
เสียงโทรศัพท์ของไป๋ยี่เฟยก็ดังขึ้น เขาหยิบออกมาและรับสายทันที
คนที่โทรมาเป็นชายชุดดำ“พี่ไป๋ คนของตระกูลหงกับเต้าจ่างและพรรคพวกกำลังกลับมา”
“ฉันรู้แล้ว”
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยวางสายโทรศัพท์ก็พูดกับทุกคนว่า:“รีบเก็บของเดียวนี้ เตรียมตัวถอยทัพ”
หลังจากได้รับคำสั่งทุกคนที่เตรียมตัวทันที
ลู่เชี่ยนได้สติ เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆกำลังถอยทัพ เธอก็คิดว่าพวกเขาหวาดกลัว เขาดูถูกเหยียบหยามไป๋ยี่เฟยอยู่ในใจ“ฉันคิดว่าพวกคุณจะแข็งแกร่งซะอีก?ถ้าต้องเผชิญหน้าและต่อสู้กันจริงๆ คุณก็ยังกลัวตระกูลหงอยู่ดี”
ไป๋ยี่เฟยเหลือบหมองหน้าเธอ แต่ก็ไม่อธิบายอะไร จากนั้นก็ช่วยทุกคนเก็บกวาดและถอยออกจากตระกูลหงไป
ลู่เชี่ยนเดินตามหลังพวกเขาแล้วเดินออกไปจากตระกูลหง แต่ลู่เชี่ยนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อไป๋ยี่เฟยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ถึงแม้ว่าคุณจะช่วยล้างแค้นให้พวกเรา แต่พวกเราสองพี่น้องก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้ง”
“เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นก็เพราะคุณ ถ้าไม่ใช่คุณ ตระกูลของเราก็คงไม่เกิดเรื่องนั้นแน่นอน”
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นอิฐทองคำมูลค่าพันล้าน ทำให้เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงกังวลใจมาก และในเวลานี้ลู่เชี่ยนยังคงพูดแบบนี้กับเขา ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
เมื่อเขาเดินออกมาจากประตูของคฤหาสน์ ไป๋ยี่เฟยก็อดไม่ไหว หันหลังแล้วตะโกนใส่ลู่เชี่ยนว่า:“พอได้แล้ว!ฉันเคยพูดแล้ว เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นเพราะฉันจริงๆ ฉันไม่เคยคิดจะปฏิเสธ”
“และฉันก็เคยพูดไว้ พวกเธอสามารถมาหาฉันเพื่อแก้แค้น รอฉันจัดการเรื่องทั้งหมดจนเสร็จ พวกเธอจะมาหาฉันเมื่อไรก็ได้”
“แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นเธอรีบหุบปากและเงียบเดียวนี้!”
เมื่อพูดคำเหล่านี้จบ ไป๋ยี่เฟยพาคนของตัวเองเดินจากไป
ลู่เชี่ยนตกตะลึงและยืนอยู่กับที่
ตั้งแต่เห็นไป๋ยี่เฟยมา เธอไม่เคยเห็นไป๋ยี่เฟยโกรธจัดขนาดนี้ บวกกับเขาที่ดูเป็นคนสงบและใจเย็น ทำให้เธอนึกว่าไป๋ยี่เฟยเป็นคนนิสัยดี และเขาก็รู้สึกผิดต่อพวกเธอ
ดังนั้นเมื่อไป๋ยี่เฟยอดไม่ไหวปะทุอารมณ์ออกมา สายตาของเขาที่มองเธอเย็นชามากๆ ทำให้ลู่เชี่ยนตกใจจนอึ้งไปเลย
ลู่เหมียวเหมียวเห็นดังนั้นก็รีบจับมือของลู่เชี่ยนทันทีและพูดเบาๆว่า:“พี่สาว เขา……”
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรออกมา จู่ๆเฉินห้าวก็เดินกลับมา พูดกับลู่เชี่ยนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ทั้งๆที่ตัวเองเป็นเพียงกบในกะลา ยังอยากหัวเราะเยาะคนอื่น ในสายตาของคนอื่น มันคงเป็นเรื่องน่าขัน”
เมื่อลู่เชี่ยนได้ยินก็จ้องมองเฉินห้าวด้วยความโกรธ
เฉินห้าวทนไม่ได้ที่คนอื่นจะพูดกับไป๋ยี่เฟยแบบนั้น เพราะเขารู้ว่าไป๋ยี่เฟยเป็นคนดี ดังนั้นเขาทนไม่ไหวก็เลยเดินกลับมา
“เธอคิดว่าพี่ชายของฉันกลัวตระกูลหงจริงๆเหรอ?สำหรับพี่ชายของฉันตระกูลหงมันกระจอกมากๆ!”
“วันนี้ฉันจะบอกให้คุณทราบ ถ้าต้องต่อสู้ด้วยชีวิตพี่ชายฉันไม่เคยกลัวอยู่แล้ว และกำลังพลทั้งหมดขอพวกเราที่มีอยู่จริงๆ มันเหนือจินตนาการของคุณ ถึงแม้ว่าตระกูลหงกับเต้าจ่างร่วมมือกัน ก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาชนะกำลังพลที่มีอยู่จริงๆของพวกเราได้”
“อยากรู้ไหมว่าทำไมพี่ชายของฉันถึงไม่เผชิญหน้าและต่อสู้กับพวกเขา?”
เฉินห้าวชี้ไปที่พวกเธอ และชี้ไปยังคนที่เหลืออยู่ จากนั้นชี้ไปยังกลุ่มลูกน้องที่อยู่ข้างหน้าและพูด:“เป็นเพราะพวกเธอ พวกเขา และกลุ่มลูกน้องที่อยู่ด้านหน้าและก็ฉันด้วย”
“ถ้าต้องเผชิญหน้าและต่อสู้กันจริงๆ ทุกคนอาจจะตายก็ได้ คุณอาจจะพูดว่าทุกคนไม่กลัวตายอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฉันอยากจะพูดคือ พี่ชายฉัน กลัวพวกเราตาย”
“เขาไม่กลัวตัวเองต้องตาย แต่กลัวพวกเราและลูกน้องพวกนี้ต้องตายไปด้วย!”
“เอาลูกน้องของตัวเองมาตายที่นี่ พี่ชายของฉันไม่ทำแน่ๆ!”
“หลังจากนี้คุณก็ดูให้ดีๆแล้วกัน ดูว่าพี่ชายของฉันจะล้มล้างสังคมอันมืดมิดของหลันเต่ายังไง
ลู่เชี่ยนตกตะลึงและอึ้งไปเลย
เธอไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เฉินห้าวพูด เพราะสังคมที่เธอเป็นอยู่ ชีวิตของคนมันไร่ค่า และชีวิตของผู้หญิงยิ่งไร่ค่ามากกว่า
ตั้งแต่เธอแต่งเข้าตระกูลหง เธอรู้สึกได้ถึงการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน และเธอก็เห็นกับตาตัวเอง ในสายตาของตระกูลหงชีวิตคนใช้มันไร่ค่าจริงๆ
ในสายตาของคนใช้ตระกูลหง ชีวิตคนธรรมดาทั่วไปก็ไร่ค่าเหมือนกัน
แต่เฉินห้าวพูด ไป๋ยี่เฟยเห็นคุณค่าชีวิตของลูกน้องตัวเอง
ทำให้เธอไม่สามารถเข้าใจได้
จากนั้น ลู่เชี่ยนมองเฉินห้าวและถามด้วยความสงสัย:“เขาต้องการล้มล้างสังคมมืดมิดของหลันเต่า มันเป็นไปได้เหรอ?ทั้งๆที่เขาเป็นคนห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ได้เหมือนคนที่จะทำการใหญ่!และคนของตระกูลหงก็ไม่เหมือนเขา!”
“ดังนั้นตระกูลหงถึงได้โดนพวกเราฆ่าล้างไง”เฉินห้าวพูดอย่างเย็นชา
ลู่เชี่ยนพูดไม่ออก
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตระกูลหงซึ่งเธอคิดว่าไม่อาจล่มสลายได้ ตอนนี้โดนไป๋ยี่เฟยฆ่าล้างไปแล้ว
หงฟ่านกับหงฉีโดนฆ่าจนเสียชีวิต เหลือแค่หงจุนคนเดียว ตอนนี้ก็เหมือนศพเดินได้
เธอไม่สามารถหาคำมาโต้แย้งได้
แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจ“เพราะอะไร?”
ในเวลานี้จางหัวปินเดินกลับมาหาเฉินห้าว เมื่อได้ยินคำถามนี้ ก็ตอบด้วยรอยยิ้ม:“เป็นเพราะเขาเห็นความสำคัญของพวกเรา ทำให้พวกเราเต็มใจที่จะติดตามเขา”
นี่คือเหตุผลว่าทำไมไป๋ยี่เฟยที่มีพลังไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ข้างกายของเขากลับมียอดฝีมือมากมายยอมติดตาม
สำหรับตระกูลหง ทั้งหมดเป็นเพียงคนใช้ของตระกูล พวกเขาไม่กล้าต่อต้าน ทำให้พวกเขายอมจำนนแต่โดยดี
……
เมื่อเต้าจ่างและคนอื่นๆกลับมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลหง พบว่ามันว่างเปล่าไม่มีคนอยู่แล้ว