ศพ
ตอนที่ 309 ซื้อโลง
จู่ๆก็เห็นในรถเข็นมีโลงศพเหล็กหนึ่งโลงผมจึงเงียบไปพักหนึ่ง
หือ ! ผมสงสัยในใจ
ในเถาเปามีทุกอย่างจริงๆ ของแบบนี้ก็ยังมีขาย
แต่มู่หลงเหยียนจะซื้อเจ้านี้ไปทําอะไร ? เธออยากเปลี่ยนโลง
เหรอ ?
แต่ก็ไม่ถูกซิ โลงมีหลากหลายรูปแบบ วัสดุที่ใช้ทําก็แตกต่างหลากหลาย
แต่จะใช้ยังไง ? ศพอะไรควรใช้โลงแบบไหน ? ทําขึ้นมาจากอะไร ? งานแกะสลักเป็นลวดลายแบบไหน ?
ในนี้กลับเขียนไว้อย่างละเอียด หรือแม้แต่มีข้อห้ามมากมายบ่งบอกไว้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะพวกโลงที่ทํามาจากโลหะชนิดต่างๆ เช่น ทองแดงเหล็กและทองเป็นต้น ต้องดูรายละเอียดให้เยอะกว่าเพื่อน
โลงทองแดง ปกติจะใช้สยบศพ ศพที่โดนปราบพยศส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกผีดิบ หรือไม่ก็ศพที่แปรสภาพไปแล้ว
ส่วนโลงทองคนธรรมดาไม่มีทางได้ใช้ และไม่อนุญาตให้คนธรรมดาใช้ด้วยส่วนใหญ่จะเป็นพวกเชื้อ
พระวงศ์หรือคนสําคัญเท่านั้นที่ใช้ได้
แต่โลงเหล็กนี้ มีปัญหาเยอะเลยละ
เพราะโลงเหล็กมีคุณสมบัติพิเศษใช้กักขังวิญญาณ หรือจะพูดอีกแบบคือคนที่ใช้โลงพวกนี้ มักเป็นผีร้ายหรือผีชั่วทั้งนั้น
วิญญาณร้ายพวกนี้ หากไม่ใช่คนที่ทําบาปมหันต์ ก็ต้องถูกคนบังคับขังเอาไว้ข้างใน
ทําให้วิญญาณไม่มีทางได้ไปเกิดใหม่ต้องทนทุกข์อยู่ในโลงตลอดกาล
และคนขายโลงก็เข้าใจขายพอสมควรด้วย เขายังเขียนในรายละเอียดสินค้าว่า คนรักหักหลัง คนแก่เอาใจยาก ลูกหลานอกตัญญพี่น้องลวงโลกโอกาสของคุณมาถึงแล้ว ซื้อโลงนี้ ไปผนึกวิญญาณ ไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด โดนขังอยู่ในโลง ทุกข์ทรมานไปชั่วกัปชั่วกัลป์
ขณะมองคําแนะนําของโลกเหล็ก หน้าผมก็อดกระตุกไม่ได้
พวกพ่อค้าสมัยนี้ไร้ยางอายจริงๆ ทําสารพัดวิธี โลงประเภทนี้ก็ยังเอาออกมาขายมั่วๆได้ นี่มันไม่ได้กําลังแช่งคนอื่นอยู่หรือไง
และยังชี้ช่องทางแก้แค้นให้พวกที่มีเจตนาไม่ดีด้วย แถมจํานวนที่ขายออกไปยังมีไม่น้อย มีมากกว่า 20 โลงด้วย
หรือจะพูดอีกอย่างคือ ตอนนี้มีคนมากกว่ายี่สิบคนกําลังทรมานอยู่ ถูกขังวิญญาณเอาไว้ในโลงเหล็ก
แต่ทําไมยัยมู่หลงเหยียน ถึงอยากซื้อโลงเหล็กขึ้นมาละ ? เธอคงไม่ได้ว่างจนเซ็ง เลยอยากขังตัวเองไว้ในโลงเหล็กเล่นๆหรอกนะ
ผมรู้สึกสงสัยอย่างแรง ขณะเดียวกันผมก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ป้ายวิญญาณบนโต๊ะบูชา “ น้องศพ เธอจะซื้อโลงเหล็กไปทําไม เธอไม่รู้เหรอว่าเจ้าสิ่งนี้เอาไว้ขังวิญญาณ ”
เสียงของผมเพิ่งเงียบลง เสียงมู่หลงเหยียนก็แทรกขึ้นมาทันที “ อ๋อ ! ฉันรู้แล้วน่า ”
“ เธอรู้แล้วก็ยังจะซื้ออีกเหรอ ”ผมไม่เข้าใจ
“ ซื้อซิ ต้องซื้อแน่นอน เก็บเอาไว้ให้นายไง ! ” มู่หลงเหยียนพูดด้วยน้ําเสียงสบายๆ
พอได้ยินคําพูดนี้ ในหัวของผมก็มีเสียงดัง “ เวิ่ง”
ฮะ ? เก็บเอาไว้ให้ฉัน เก็บเอาไว้ทําไม ? หรือเธอคิดจะฆ่าสามีตัวเองแล้วขังวิญญาณฉันไว้ในโลงนั้นเหรอ ?
หน้าผมเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเล็กน้อยผลลัพธ์ “ ฮะ ” ยัยมู่หลงเหยียนดันกลั่นหัวเราะไม่อยู่
“ ดูสภาพตาขาวของนายซิ ฉันล้อนายเล่นน่า ! ฉันจะเอาโลงเหล็กนี้ไปใช้นะ ส่วนเอาไปทําอะไรนายก็ไม่ต้องถามแล้วนะก่อนหน้านี้เห็นบ้านนายทําแต่โลงไม้ วัสดุทําโลงเหล็กก็ไม่มี ถึงจะอยากได้แต่นายก็ไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าจะหาวิธีเอากลับ มาด้วยตัวเอง สุดท้ายคราวนี้นายดันหาเงินกลับมาได้เยอะ
เลยให้นายซื้อให้ก่อนหนึ่งโลง พอถึงเวลาแล้วฉันจะคืนเป็นอย่างอื่นให้นายนะ !”
เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้นผมก็อึ้งไปเล็กน้อย
ในเมื่อมู่หลงเหยียนรู้คุณสมบัติพิเศษของโลงเหล็กแล้ว และยังไม่อยากให้ผมถามอีก ผมก็เลยไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
แต่พยักหน้าให้ป้ายวิญญาณแทน “ ได้ งั้นเดี๋ยวฉันจะซื้อให้เธอก็แล้วกัน ! ”
“ โอเค ! เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ! รอให้ของมาถึงแล้วจําเอาไว้นายต้องส่งมาให้ฉันที่ปาปุยหม่านะ ! ” พอพูดจบ อากาศเย็นรอบตัวก็หายไปรอบๆก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ผมรู้ว่ามู่หลงเหยียนไปแล้ว จึงหมุนตัวกลับไปที่ห้องนอน
ช่วงสองสามวันนี้ไม่ได้พักผ่อนดีๆเลยวันนี้เราก็ไม่คิดจะเปิดร้าน
ส่วนอาจารย์ก็กลับไปนอนให้ห้องนานแล้ว ดังนั้นหลังจากกลับไปถึงห้องผมก็เริ่มนอนเพิ่มทันที….
ผ่านไปชั่วพริบตาเทศกาลกวงกุ้นก็มาถึงแล้ว ผมทําตามคําขอของมู่หลงเหยียนซื้อของทั้งหมดในรถเข็นให้เธอ
ราคารวมทั้งหมด 8,600 กว่าหยวน แต่วันนี้ลดราคา ผมเลยจ่ายไปแค่เกือบสามพันเท่านั้น
หลังจากซื้อของไปจํานวนมาก ในที่สุดผมก็จัดการเรื่องของมู่หลงเหยียนเสร็จ
แต่เส้นตายสามเดือนของพี่เหล่าเฟิงกลับใกล้มาถึงขึ้นเรื่อยๆ
หรือจะพูดว่า เหล่าเพิ่งเริ่มมีอันตรายขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าหาแก่นหยินแดงไม่เจอตามกําหนด เหล่าเฟิงก็อาจต้องไว้อาลัยกับการโดนยึดร่าง
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ อย่าว่าแต่แก่นหยินแดงเลยแม้แต่ผีชุดแดงสักตนเราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปหาจากที่ไหน
พอลองคํานวณเวลาดูแล้ว เราเหลือเวลาไม่ถึงเดือนแล้ว
ระหว่างนั้นผมก็เตือนเหล่าเฟิงแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเหล่าเฟิงก็จนปัญญาเช่นกัน
แก่นหยินแดงสิ่งนี้ เป็นของที่พบเจอได้แต่ไม่อาจเรียกมันมาได้
มันหายากสุดๆ ถึงแม้พวกเราจะเจอผีชุดแดงแล้ว แต่ก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเก็บแก่นหยินแดงมาได้
ถึงเก็บมาได้ ก็คงต้องแลกมาด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง
เพราะหาผีชุดแดงไม่เจอ พวกเราเลยได้แต่พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
ผ่านไปไม่ทันรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เรื่องผีตานีผ่านไปเป็นสิบวันแล้ว
ระหว่างนี้เราก็กลับไปดูผู้ว่าจ้างเช่นกัน ครอบครัวคุณหลงและคุณซุนใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข
คุณชายสองคนนั้นก็เริ่มฟื้นตัวกลับมาเรื่อยๆ
ส่วนของที่ผมซื้อในเทศกาลกวงกุ้น ก็ค่อยได้รับที่ละชิ้นสองชิ้น
เมื่อกี้นี่เอง ที่ผมได้รับโทรศัพท์สายสุดท้าย หรือก็คือโลงเหล็กโลงนั้น
พนักงานส่งของบอกให้ผมไปรับสินค้าที่จุดส่งของในตัวตําบลและยังบอกว่าตัวของหนักมาก
ดังนั้นผมเลยรีบเข้าไปที่จุดส่งของทันที พอผมเห็นของแล้วกลับพบว่าเจ้านี่ต่างจากที่ผมคิดเอาไว้มาก
โลงศพไม่ได้มีขนาดเท่าของปกติ แต่มีขนาดประมาณหนึ่งเมตรสาม สูงไม่ถึงหกสิบเซนติเมตร
ถึงจะเป็นโลงเปล่า แต่มันก็น่าจะหนักประมาณ 60 กว่าโล
ตอนถือค่อนข้างลําบากเลย แต่ผมก็แบกกลับไปได้
พอผมแบกกลับมาถึงบ้าน อาจารย์ก็ถามว่าผมแบกอะไรมา
ผมเช็ดเหงื่อ ตอบกลับพร้อมเสียงหอบหายใจ “ นี่เป็นโลงเหล็กที่น้องศพอยากได้ ! ”
พออาจารย์ได้ยินคําว่าเป็นโลงเหล็ก ก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วหันไปมองป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียนทันที
“ เมียแกรู้ไหมว่าโลงเหล็กใช้กักขังวิญญาณ ”
ผมพยักหน้า “ ผมถามเธอแล้ว เธอบอกว่ารู้ แถมยังว่าเธอจะใช้และไม่ให้ผมถามไปมากกว่านี้อีกต่างหาก ! ”
“ อ่อเป็นแบบนี้นี่เอง!” อาจารย์บ่นพึมพํา
หลังจากนั้นก็เดินไปข้างหน้าโลง มองมันสองสามครั้งจากนั้นก็บอกให้ผมแกะพลาสติกที่หุ้มเอาไว้
ผมไปหามีดมานึงเล่ม ตัดถุงที่ปิดผนึกออก
ด้านในพลาสติกที่หุ้มก็จะเห็นโลงเหล็กโลงหนึ่งอยู่ด้านในด้านนอกโลงถูกห่อด้วยแผ่นกันกระแทกอีกชั้นหนึ่ง
หลังจากแกะแผ่นกันกระแทกออกแล้ว ก็จะเห็นโลงที่มีรูปลักษณ์คล้ายในอินเตอร์เน็ต ตัวโลงเป็นสีดํา
เป็นโลงฟีนิกซ์โลงหนึ่ง
ตัวโลงมีลวดลายนกฟีนิกซ์เดี่ยว รอบๆประดับด้วยลายพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดอกไม้และลวดลายอื่นๆ
ดูสวยมากเลยทีเดียว
อาจารย์มองดูครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ใช้ไม้บรรทัดวัดอีกสองสามรอบ แล้วถึงได้พูดขึ้นมาว่า
“ นี่เป็นโลงฟีนิกซ์ สัดส่วนที่ทําออกมาถือว่าดีมาก จะต้องเป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญแน่ๆ ”
“ อาจารย์ ทําไมโลงนี่ถึงได้เล็กขนาดนี้ละ ? คงไม่ได้เอาไว้ใส่เด็กทารกหรอกนะ ? ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ ไม่ นี่ต่างหากถึงจะเป็นโลงเหล็กดั่งเดิม ช้าก่อน ขอฉันดูอีกหน่อย!” ขณะพูดอาจารย์ก็เหมือนจะพบสิ่งใหม่อีกครั้ง เขาเริ่มสํารวจโลงอย่างละเอียดอีกรอบ หลังจากนั้นยังดึงไม้บรรทัดออกมาวัด
ผ่านไปสักพัก อาจารย์ก็ใช้น้ําเสียงแปลกใจเล็กน้อย “ เกือบมองข้ามไปแล้ว นี่ไม่ใช่โลงฟีนิกซ์ธรรมดา
แต่เป็นโลงฟีนิกซ์มองจันทร์ที่หาดูได้ยากถูกหลอมออกมาด้วย เหล็กที่ดีที่สุด สัดส่วนเท่ากับโลงกักขังวิญญาณชั้นทองยาวประมาณสามสิบเก้านิ้วครึ่ง ยากนักที่วิญญาณจะกลับไปหากินที่บ้านได้สูงประมาณ 21 นิ้วยากที่จะทําลายล้างได้ โลงดี โลงดี… ”
ขณะพูด อาจารย์ก็ดูจะชอบมาก เอื้อมมือไปลูบโลงเหล็กไม่ยอมปล่อย
ผมทําหน้าอึดอัดใจอยู่ข้างๆ แต่ก็ยังถามเขาว่า “ อาจารย์ นี่เป็นโลงกักขังวิญญาณนะ ! โลงนี้จะทําร้ายคน เป็นของที่ทําให้ใค รคนนั้นไม่ได้ไปผุดไปเกิดแล้วมันจะเป็นของดีได้ยังไง ? ”
ดูเหมือนอาจารย์จะอารมณ์ดีมาก เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น เขาก็ยกยิ้มที่มุมปาก “ คนมีอ้วนมีผอม โลงก็มีดีมีเลวเช่นกัน ใช้ไม่ดี ก็ ทําร้ายคนอื่นตนเองหรือแม้แต่ลามไปถึงลูกหลาน แต่ถ้าใช้ในทางที่ดีไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็จะมีความสุขและอายุยืนอย่างต่อเนื่องเมียแกนี่เก่งจริงๆกล้ามากแต่สิ่งที่ทําให้แปลกใจที่สุด
ยังเป็นโลงฟีนิกซ์มองจันทร์ อาจารย์เริ่มอยากจะเก็บโลงฟีนิกซ์โลงนี้เอาไว้ใช้เองแล้ว…”