แม้ว่าอยู่ในมหาสมุทรนี้กระโดดลงไปอย่างนี้ โดยทั่วไปเท่ากับไปหาความตาย แต่เทียบกับให้ไป๋ยี่เฟยลงมือผลลัพธ์ที่เขากระโดดลงไปเองจะดีกว่าเยอะเลย อย่างน้อยจะไม่ได้ตายอย่างเศร้าสลดเช่นดั่งเพื่อนฝูงเขาคนนั้น
“ตู้ม!”
เหล่าโจวกระโดดลงไปในมหาสมุทร
ต่อเรื่องนี้ไป๋ยี่เฟยไม่กังวลเลยสักนิด เพียงแค่อุ้มหลิวเสียขึ้นมา พูดกับกัปตันเรือว่า “ที่เหลือคุณจัดการเองสักหน่อย ความเสียหายเหล่านี้ผมจะชดเชยให้คุณเอง”
“ไม่ต้องชดเชย” กัปตันเรือพูด “นี่เดิมทีก็คือความผิดของพวกเขาอยู่แล้ว”
หลังจากพูดจบ กัปตันเรือจ้องมองคนที่เหลืออีกหลายคนหนึ่งที หลายคนนั้นก็เลยรีบยกศพสองท่อนที่อยู่บนเรือนั้นขึ้นมาโยนลงไปในทะเล
ส่วนไป๋ยี่เฟยอุ้มหลิวเสียไว้คิดว่าจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องผู้โดยสาร
แต่ว่าตอนที่เขาเดินถึงข้างหน้าต่าง มองไปโดยไม่ได้เจตนาทันใดนั้นเบิกตาโพลงทั้งคู่
ก็อยู่ที่ไม่ไกลมีสิ่งของสองอย่างเหมือนดั่งภูเขาใหญ่ พุ่งออกจากน้ำอย่างดุเดือดจากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนลงไปในน้ำอีก
นี่คือสัตว์ร้ายในทะเล
ก่อนหน้านั้นเขาเคยเห็นมาก่อน
“เร็ว! เป็นสัตว์ร้ายในทะเล!”
“เพิ่มความเร็วจนสุดมุ่งไปยังข้างขวา!”
เสียงคำสั่งของกัปตันเรือดังขึ้น
แม้ว่าสัตว์ร้ายในทะเลรูปร่างขนาดยักษ์ แต่ความเร็วของพวกมันไม่เร็วนัก อีกทั้งระยะห่างค่อนข้างไกล เพียงแค่เรือกลไฟขับได้เร็ว น่าจะไล่ตามไม่ทัน
ไป๋ยี่เฟยวางใจแล้ว สำหรับเหล่าโจวจะมีสภาพเป็นเช่นใด เขาไม่ห่วงใยเลยสักนิด
เขาอุ้มหลิวเสียกลับไปในห้องผู้โดยสาร ให้เธอนอนอยู่บนเตียง
จ้องมองหลิวเสียที่หลับสนิทอยู่ ดวงตาของไป๋ยี่เฟยปรากฏสายตาที่อ่อนโยนออกมา “น้องสาว พี่จะไปแล้ว”
……
ท้องฟ้ามืดลงมาหมดแล้ว มหาสมุทรที่มืดมิดทำให้คนมีความรู้สึกที่ลึกล้ำน่ากลัวอย่างหนึ่ง
แต่ว่าอยู่ในสายตาของไป๋ยี่เฟยยังเป็นกลางวันแสกๆเหมือนเดิม
ไป๋ยี่เฟยยืนรับลมทะเลสูบบุหรี่อยู่บนดาดฟ้าเรือ
กัปตันเรือเดินออกมาจากห้องผู้โดยสาร ในมือถือเหล้าขวดหนึ่ง ทั้งยื่นให้ไป๋ยี่เฟยทั้งพูดว่า “ดื่มเหล้าไหม?”
ไป๋ยี่เฟยยื่นมือรับมา ดื่มไปคำหนึ่ง
ทันใดนั้นลำคอส่งความรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมา เหล้านี่แรงมาก
กัปตันเรือยิ้มอยู่ถามเขาว่า “ฝีมือเก่งกล้าขนาดนั้น น่าจะไม่ใช่คนธรรมดามั้ง?”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองมหาสมุทร พูดอย่างเย็นชาว่า “ถึงยังไงล้วนเป็นคน เป็นคนล้วนหนีไม่พ้นเกิดแก่เจ็บตาย”
กัปตันเรือยิ้มแล้วยิ้มอีก “คุณผู้ชายพูดถูกแล้ว แต่ว่าคุณผู้ชายช่วยผมจัดการความยุ่งยากไปแล้ว อยู่ที่นี่ยังต้องขอบคุณคุณผู้ชาย”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูด
กัปตันเรือลังๆเลๆพูดอีกว่า “คุณผู้ชาย ท่านดูผม……”
ยังไม่รอให้กัปตันเรือพูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ตัดคำเขาเลย ส่ายหัวพูดว่า “คุณไม่มีพรสวรรค์ ไม่เหมาะสม”
ผู้ชายล้วนเลื่อมใสศรัทธากับผู้เก่งกล้าอยู่แล้ว ก็กระหายที่จะกลายเป็นผู้เก่งกล้าเช่นกัน
ดังนั้นหลังจากกัปตันเรือได้เห็นพลังความสามารถของไป๋ยี่เฟยแบบนั้น เขาเต็มเปี่ยมด้วยความตื่นเต้นกับเลือดเดือดพลุ่งพล่าน เขาก็อยากจะกลายเป็นคนที่เก่งกล้าอย่างไป๋ยี่เฟยแบบนี้
แต่ถูกไป๋ยี่เฟยว่าไม่เหมาะสม ไม่มีพรสวรรค์ เขาไม่ยอมอย่างมาก “แต่ผม……”
ไป๋ยี่เฟยยังคงตัดคำของเขาไปเลย “ผมอยู่ได้ไม่กี่วันแล้ว อย่ามารบกวนผม ”
กัปตันเรืออึ้งชะงักแล้วอึ้งชะงักอีก จากนั้นยิ้มขมพูดว่า “งั้นก็ได้ล่ะ ทำให้คุณผู้ชายลำบากใจแล้ว” หลังจากพูดจบเขาก็หมุนตัวออกไปเลย
ส่วนเรื่องที่เขาไม่รู้ ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเขา พูดเสียงเบาๆประโยคหนึ่งว่า “คนอย่างคุณแบบนี้ เป็นแบบที่แม้ผมอิจฉาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถรับมาได้”
เมื่อกี้เขาลงมืออีกแล้ว เรียกใช้พลังอ้านจิ้งของตนเองอีกครั้ง ทำให้ร่างกายของเขาทรุดลงอีก เขาสามารถรู้สึกได้ชัดว่าประสิทธิภาพทางกายในแต่ละส่วนของเขายิ่งล้มเหลวเร็วขึ้นแล้ว
……
การโยกไปโยกมาสั่นสะเทือนที่ไม่เบาโยกจนหลิวเสียตื่นแล้ว
หลิวเสียลุกขึ้นมานั่ง พบเห็นว่าที่อยู่บนหัวของเธอถึงขนาดเป็นแผ่นเหล็กแผ่นหนึ่ง และเธอนอนอยู่บนเตียงเดี่ยวที่เล็กมากเตียงหนึ่ง
พอหมุนลูกตามองอีกที มองเห็นคนขับรถที่อยู่ข้างหน้า มองผ่านหน้าต่างรถสามารถมองเห็นทางที่ขรุขระไม่ราบเรียบข้างหน้า เธอจึงพบเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่แถวข้างหลังของรถบรรทุกคันหนึ่ง
และในรถนอกจากเธอแล้ว ยังมีคนขับรถคนหนึ่งกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
หลิวเสียมีความหวาดกลัวเล็กน้อย “พวกคุณเป็นใครเหรอ? พี่ไป๋ล่ะ?”
อยู่ในชั่วพริบตาเดียวนี้ อยู่ดีๆเธอนึกถึงการรายงานข่าวบางอย่างที่แต่ก่อนเคยเห็นมา ตัวอย่างเช่นนักศึกษาหญิงที่สวยงามถูกขายไปในเขตภูเขา จากนั้นคลอดลูกให้กับผู้ชายแก่ๆที่อยู่ในเขตภูเขาเหล่านั้น
ในตอนนี้ฉากนี้ก็เหมือนเป็นพิเศษที่จะไปยังเขตภูเขา ดังนั้นหลิวเสียยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว ร่างกายอดไม่ได้ที่จะหดไปยังข้างหลังหดแล้วหดอีก
และผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เห็นเธอตื่นแล้ว ก็เลยหันหลังไปยิ้มอยู่พูดว่า “น้องสาวตื่นแล้วเหรอ?”
เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนี้ได้ชัด ทันใดนั้นหลิวเสียตะลึงงันเลย
หล่อมากล่ะ!
ในใจหลิวเสีย อุทานอย่างตื่นตะลึงหนึ่งที่
ผู้ชายยิ้มอยู่พูดว่า “ผมชื่อฉางเชี่ยว เป็นเพื่อนของไป๋ยี่เฟย เขาให้ผมไปรับพวกคุณอยู่ข้างทะเล ตอนที่ไปรับพวกคุณเห็นคุณยังนอนหลับอย่างสนิทมาก เขาไม่ได้ให้ผมปลุกคุณ”
ตอนนี้หลิวเสียถูกหน้าตาของฉางเชี่ยวหลอมจนว้าวุ่นนิดหนึ่ง บวกกับคำพูดของฉางเชี่ยว เธอยิ่งสับสนแล้ว
ผ่านไปสักพักเธอจึงถามว่า “งั้น……พี่ชายฉันล่ะ?”
“ยังมีธุระต้องไปทำ ให้ผมพาคุณกลับไปก่อน” ฉางเชี่ยวยิ้มอยู่ตอบกลับ
หลังจากหลิวเสียได้ยินแล้ว เบ้ปากต่อๆกันอย่างไม่พอใจ “ทำไมเป็นอย่างนี้อีกแล้วล่ะ?”
การกระทำในตอนนี้ของไป๋ยี่เฟยเช่นดั่งกับไอ้หัวล้านหลิวพี่ชายเธอ พบเจอกับเรื่องก็มีแต่ทิ้งเธอไว้ ไม่เคยคิดจะพาเธอไปด้วยเลย
ในเวลานี้ อยู่ดีๆเธอนึกถึงไป๋ยี่เฟยที่ให้เธอส่งวิดีโออันหนึ่งแก่พี่สะใภ้ ในเวลานั้นเธอยังไม่ทันได้ดูล่ะ ก็นอนหลับไปแล้ว
ดังนั้นเธอรีบเอามือถือออกมา พอเปิดดู พบเห็นว่ามีวิดีโอเพิ่มมาอีกอันหนึ่ง
เธอสะเปะสะปะเปิดออกมาอันหนึ่ง ปรากฏใบหน้าของไป๋ยี่เฟยออกมาทันที
“อยู่ที่ก่อนชีวิตจะจบลงสามารถรับน้องสาวอย่างแกคนหนึ่ง อยู่เป็นเพื่อนผมช่วงหนึ่ง ผมดีใจมาก ไม่มีอะไรตอบแทนแก ก็ให้สิ่งที่เอามาใช้ได้แก่แกสักหน่อยเถอะ”
“ในกระเป๋าแกมีการ์ดใบหนึ่งที่ผมให้กับแก ข้างในมีสองพันล้าน พอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งชีวิตนี้ของแกแล้ว”
“พี่ชายไม่มีอะไรอย่างอื่นที่จะมอบให้แกได้แล้ว ก็มีเพียงแค่เงิน จงอย่าปฏิเสธ”
“ยังมีอีกก็คือ วิดีโออันแรกรบกวนแกส่งให้ภรรยาของผม ก็คือหลี่เสว่ น้องสาว ขอบคุณมากแล้ว”
หลังจากดูวิดีโอจบ หลิวเสียล้วนตะลึงงันทั้งตัวเลย
และฉางเชี่ยวก็หันหลังกลับฉับพลันในทันทีเช่นกัน “นี่เป็นอะไรเหรอ? ไป๋ยี่เฟยหมายความว่าอะไร?”
ตอนที่หลิวเสียเปิดวิดีโอออกไม่ได้ใส่หูฟังเลย เสียงเปิดออกไปแล้ว
หลิวเสียเหม่อลอยไปพักหนึ่ง จากนั้นเธอรีบเปิดวิดีโออันแรกออกอีก ในวิดีโอเป็นใบหน้าของไป๋ยี่เฟยเหมือนเดิม
ภาพเบื้องหลังในครั้งนี้ของเขาเป็นมหาสมุทร น่าจะอัดตอนหลังจากที่ขึ้นเรือ
“ภรรยาจ๋า ขอโทษ!”
“ตอนที่คุณเห็นวิดีโอนี้ ผมไปแล้ว ไม่ใช่ไม่เอาพวกคุณเลย คือ…..ไม่อยู่แล้ว”
“ภรรยาจ๋า ผมยังตัดใจทิ้งคุณกับลูกไม่ลงอย่างมาก แต่ว่า……ขอโทษ ผมไม่มีทางอยู่เป็นเพื่อนพวกคุณแล้ว”
“แม้ว่ามีความเสียดายมากมาย แต่ว่า ผมตายแล้วก็ดี สิ่งเหล่านี้เดิมทีก็เป็นการวางแผนร้ายอย่างหนึ่งอยู่แล้ว ผมตายแล้ว พวกเขาก็จะไม่พุ่งเป้าไปยังพวกคุณอีกเลย พวกเราจึงจะสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขได้อย่างแท้จริง”
“หลังจากผมตายแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของผมล้วนให้คุณหมด คุณอยากจะทำอะไรก็ไปทำอย่างนั้น ถ้าหากว่าไม่อยากบริหารจัดการบริษัทก็มอบให้หวังโหลวกับหลิงหลิงไปบริหารจัดการเถอะ เงินเหล่านั้นที่ผมเหลือไว้ให้ก็พอค่าใช้จ่ายทั้งชีวิตของพวกคุณแล้ว”
“พวกพี่น้องเหล่านั้นของผม ให้พวกเขาเลือกเอาเองเถอะ ยินยอมที่จะอยู่ต่อก็อยู่ต่อ คนที่ไม่ยินยอมที่จะอยู่ต่อ ผมเตรียมเงินส่วนหนึ่งให้กับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้นมีแต่จะรบกวนภรรยาจ๋าคุณช่วยจัดการแล้ว”
“ภรรยาจ๋า…….”
ตอนที่พูดถึงตรงนี้ อยู่ดีๆไป๋ยี่เฟยก้มหัวลง เงียบไปนานมาก จึงเงยหน้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ปรากฏรอยยิ้มที่เจ็บปวดรวดร้าวออกมาหนึ่งที “ภรรยาจ๋า คุณยังเยาว์วัยสวยขนาดนั้น หลังจากผมตายแล้ว ยังไงก็ต้องมีคนคนหนึ่งดูแลคุณ ดังนั้น คุณหาคู่ใหม่อีกเถอะ”
“สำหรับเสี่ยวอิง ก็อย่าบอกกับเธอว่าผมตายแล้ว ยกโรงพยาบาลโว่หลงให้กับเธอ”
“ขอโทษ ผมขอโทษพวกคุณ”
“ถ้าหากมีชาติหน้า…….ผม……..”
“ช่างเถอะ ไม่ทำให้หนักอึ้งขนาดนั้นแล้ว ก็อย่างนี้ล่ะ”