ตอนที่ 45 ชีวิตที่เจ็บปวด
จารวีลืมตาตื่นขึ้นมา ในตาของเธอเต็มไปด้วยความ
โศกเศร้าเจ็บปวด
จู่ๆเธอก็ดึงสายน้ำเกลือออกจากมือของตนเอง และ เดินเท้าเปล่าลงจากเตียงคนไข้
ยศพลหันกลับมา พร้อมกับยื่นมือไปคว้าเอวเธอไว้ได้
“จารวี เธอทำบ้าอะไรเนี่ย?
จารวีท่าทางเหมือนกำลังฝันละเมออยู่ “ฉันจะไปหา
“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว เธอไม่ได้สติมาตั้งหนึ่งวันเต็มๆ จะไปหาพี่เธอได้ยังไง รีบกลับขึ้นไปพักบนเตียงเดี๋ยวนี้”
ยศพลไม่เพียงแค่พูดเปล่า ยังอุ้มเธอขึ้นมา และพากลับ
ไปนอนที่เตียง
แต่เธอร้ายกาจมาก เดินลงมาจากเตียง และรีบวิ่งไปที่ ประตูอย่างรวดเร็ว
ยศพลคว้าเอวเธอไว้ได้อีกครั้ง และกดเสียงต่ำพูดกับ เธอ “พี่เธอตายแล้ว ตายไปแล้ว เข้าใจไหมจารวี ได้สติสัก
ทัน
พี่ตายแล้ว!!
“ไม่จริง คุณหลอกฉัน ฉันจะไปหาพี่ พี่ยังไม่ตาย พี่จะ ตายได้ยังไง?”
ร่างกายของเธอเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ยื่นมือ ออกไปผลักยศพล เหมือนกับแมวป่าตัวน้อยที่กำลังบ้าคลั่ง
“จารวี พี่เธอตายแล้ว เขาเป็นโรคหัวใจมาตั้งหลายปี แล้ว มีชีวิตมาได้ถึงตอนนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว”
ยศพลรู้สึกหัวเสียมาก คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเล็กๆ แบบเธอจะมีแรงต่อต้านเยอะขนาดนี้
จารวีเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ก็ค่อยๆผ่อนแรงลง ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น มือทั้งสองข้างสอดไว้ในผมของตัว เอง พร้อมกับปล่อยโฮออกมา
ยศพลยืนอยู่ที่เดิม ไม่สนว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน
ร้องไปเถอะ ร้องออกมาแล้วมันจะดีขึ้นเอง
ผ่านไปสักพัก จารวีก็รู้สึกถึงอ้อมกอดที่แนบแน่น
หน้าอกอันแข็งแกร่งของยศพล เติมพลังและความ
อบอุ่นให้แก่เธอ
เขาค่อยๆเอามือลูบไปที่ผมเธอเบาๆ คิดไม่ถึงว่าปลายนิ้วของเขาจะให้ความรู้สึกอ่อนโยนได้ขนาดนี้ “จารวี จุดเด่น ของเธอก็คืออดทนเก่ง? แต่พอเจอเรื่องแค่นี้เธอก็ทนไม่ ไหวแล้วหรอ?
จารวีค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขา
ดวงตาคู่สวยที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักแดง เหมือนกับกระต่ายตัวน้อยๆ ยศพลเห็นแล้วก็ฉีกยิ้มเล็กน้อย
“พาฉันไปหาพี่หน่อยนะ” จารวีลองพยายามดูอีกครั้ง
ยศพลส่ายหน้ากลับในทันที “ไม่ได้ คนตายไปแล้ว จะ ไปให้ได้อะไรขึ้นมา”
“ยศพล ฉันอยากไปหาพี่ ถ้าคุณไม่ให้ฉันไป ฉันจะ เกลียดคุณไปตลอดชีวิต
ยศพลมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ไร้ความรู้สึกใดๆ
“ยศพล คุณมันเลว คุณมันแย่ ปล่อยฉัน ฉันจะไปหาพี่
ผ่านไปไม่นาน ยศพลก็เอ่ยปากออกมา
“โอเค!!”
เขาคงทนไม่ได้ ถ้าเธอจะเกลียดเขาไปตลอดชีวิต
ในห้องดับจิตของสถานบำบัดผู้ป่วยทางจิต บุรุษพยาบาลดึงตู้แช่ศพออกมา จารวีจับมือของยศพลไว้ ทั้งๆที่
มีอยังสั่นไม่หยุด
ยศพลยื่นมือมาดึงจารวี “ไม่ต้องดูแล้ว เรากลับกัน
เถอะ!”
จารวีใช้แรงสะบัดมือของยศพลทิ้ง
ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วหยุดอยู่ข้างๆเตียง บน เตียงแช่เย็นนี้ เป็นพี่สาวเธอจริงๆน่ะหรือ?
ยศพลเอื้อมมือไปจับไว้ที่หัวไหล่ของเธอ “ไม่ต้องดู
จารวีเอามือดึงผ้าขาวที่คลุมอยู่ข้างบนศพลงมา
ก็เห็นใบหน้าที่ซูบผอมและขาวซีดของยุพิน ตอนที่ยัง มีชีวิตอยู่ ยุพินที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเธอค่อนข้างขาว ผุดผ่อง หลังจากตายแล้ว ก็เห็นได้ชัดถึงความเงียบสงบ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท
พี่!!
จารวีดึงมือที่เย็นเฉียบคู่นั้นมาจับไว้อย่างสั้นๆ “พี่…..
น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของจารวี เธอจับมือของ ยุพินมาแนบไว้กับหน้าของตัวเอง “พี่ วีขอโทษ วีขอถอนคำ พูดทุกอย่าง วี่ยกโทษให้พี่แล้ว วียกโทษให้ วีไม่เคยโทษพี่
เลย ไม่เคยเลย…..
เสียงร้องไห้ของจารวีค่อยๆขาดหายไป บุรุษพยาบาล ที่อยู่ตรงนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมา
พี่ !! วีขอโทษ พี่คือครอบครัวเพียงคนเดียวของวี วีจะ
โทษพี่ได้อย่างไร!!
แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าจารวีจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน ยุพิ นก็ไม่มีวันได้ยินมันอีกแล้ว เธอจากไปพร้อมกับความรักอัน เต็มเปี่ยมที่มีต่อยศพล
ยศพลส่งสายตาบอกบุรุษพยาบาลเป็นนัยๆ พร้อมกับ ยื่นมือไปโอบกอดจารวีแล้วพาเธอเดินออกมาด้านนอก
จารวีร้องไห้ดั่งคนหัวใจสลาย ดวงตาของยศพลก็ยิ่ง
มืดมน
“ปัง! ” เสียงดังออกมา บ่งบอกว่าตู้แช่ศพได้ถูกเก็บเข้า ที่เดิมอีกครั้ง จารวีมึนงงไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าต่อจากนี้ไป เธอ กับพี่จะต้องจากกันไปตลอดกาล ไม่มีทางได้เจอกันอีก แล้ว……
เธอเอามือทุบตีไปบนร่างกายของยศพลไม่หยุด ยศ พลทำเพียงแค่กัดฟันทน และพาเธอเดินต่อไป
เขาต้องพยายามหลายต่อหลายครั้งกว่าจะพาเธอขึ้น มาบนรถได้ สุดท้ายจารวีก็ร้องไห้จนสลบไป
ในงานศพของยุพิน จารวีใส่ชุดกระโปรงสั้นสีดำ ท่าที สงบนิ่งไม่มีแม้แต่เสียงใดๆเล็ดลอดออกมา
ไม่มีคนมาร่วมงานศพเลย ตลอดชีวิตของยุพินเหมือน ถูกเขียนจุดจบไว้อยู่แล้ว
มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน และจากไปอย่างเดียวดาย
สิ่งปลอบใจที่มีค่าอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ ก่อนตาย เธอเฝ้าปรารถนาที่จะได้รับรักจากยศพล หลังจากตายไป แล้ว ยศพลก็เป็นคนที่ส่งศพเธอด้วยตัวของเขาเอง
ยศพลสวมใส่ชุดสูทสีดำ ยืนอยู่เงียบๆข้างจารวี ฟัง บาทหลวงประกาศเป็นครั้งสุดท้าย
การตายของยุพิน ถือเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจของจารวี
เป็นอย่างมาก
แม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่เธอก็ไม่มีทางสลัด ความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานใจนี้ไปได้
เธอไม่กินไม่นอน ไม่พูดไม่จา ซึมเศร้าลงไปเรื่อยๆ
ไม่ว่ายศพลจะพยายามพูดอะไรกับเธอก็ตาม เธอก็จะ ทำแค่เพียงนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา ไม่ออกความคิดเห็น
“จารวี เธอนี่มันโง่จริงๆ ยุพินตายไปแล้ว เขาตายไปแล้ว เธออยากจะตายตามเขาไปหรือไง” ยศพลตวาดดังลั่น
แต่การที่ไม่มีการตอบสนองใดๆ
ศพ กระชากชุดสูทของตัวเองออก จับหน้าของเธอ เอาไว้แล้วจูบอย่างรุนแรง ราวกับคนบ้าคลั่ง
แต่เธอก็ยังคงนั่งนิ่ง ไม่มีแม้กระทั่งการต่อต้านใดๆ ศาลปล่อยมือออก แล้วค่อยไปที่โซฟาอย่างโมโห
จากเธอจะทำตัวหมดอาลัยตายอยากไปแบบนี้เรื่อยๆ
ยศพลรู้สึกหัวเสีย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องบ้า
คลังเพราะผู้หญิง
ในห้องนอน จารวียืนเหม่อลอยอยู่ที่หน้าต่าง มองไป ที่มหาสมุทร ไกลสุดลูกหูลูกตา รอบตัวเธอโอบล้อมไปด้วย
ความคุ้นเศร้า
น้ำยามวิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในห้องนอน
“คุณจารโคะ คุณจารวี เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
การค่อยๆหันหลังกลับมา มองไปที่น้าอาม “มีอะไร
บินใกล้จะถูกคุณชายที่ตายแล้วค่ะ ครั้งที่แล้วที่มี รับทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน พาคุณไปส่งที่สถานบำบัดผู้ป่วยทางจิต ก็เลยกลายเป็นแหล่ะค่ะ”
จาร รีบเดินออกจากห้องนอนตามหลังน้าอามไป
ตอนที่เดินลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงของแส้ที่ใช้ตี ควบคู่ไปกับเสียงหายใจที่ติดขัดเบาๆ
จาร ค่อยๆจับบันไดเดินลงไป ก็เห็นส่วนกลางของ
ห้องรับแขก
นิรันเปลือยเปล่าท่อนบน คุกเข่าอยู่บนพื้น บนร่างกาย เขาเต็มไปด้วยรอยแส้ฟาดอย่างทารุณ พรมราคาแพง ถูก อาบไปด้วยคราบเลือดของเขา
ยศพลนั่งอยู่บนโซฟา เนคไทหลุดรุ่ย ในมือถือไวน์ แดงกระดูกกรอกลงไปในปาก
เขานั่งอยู่ตรงข้ามของนิรัน ในดวงตาเต็มไปด้วย อารมณ์ขุ่นหมอง ด้านข้างมีบอดี้การ์ดและคนรับใช้ยืนเรียง แถวอยู่เต็มไปหมด ดูๆไปแล้วน่าจะมากันหมดทั้งคฤหาสน์ เลย
ทุกคนล้วนสั่นระริกราวกับจั๊กจั่นตัวน้อยๆ สีหน้าบ่ง บอกถึงความหวาดกลัว
ข้างๆนิรัน มีบอดี้การ์ดร่างกายกำยำคนหนึ่งยืนอยู่ ใน มือถือแส้ฟาดไปที่นิรัน
ทุกๆครั้งที่แม้ถูกดึงกลับมา ก็จะมีผิวหนังและหยด เลือดหลุดติดออกมาด้วย
นิรันเป็นผู้ชายแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะเจ็บจนสีหน้าบิด เบี้ยว ก็ไม่ร้องออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากที่ตีไปอีกหลายครั้ง ยศพลก็ชำเลืองตามอง
ไปที่นิรันแล้วถามว่า
“รู้ใช่ไหมว่าฉันตีนายทำไม?”
นิรันเสียงแหบแห้ง ตอบกลับอย่างยากลำบาก
“คะ ครับ คุณชายก็ถูกแล้วครับ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะ ผมทำตัวมีอำนาจและพาคุณจารวีไปส่งที่นั่น พี่สาวของคุณ จารวีก็อาจจะไม่ตาย คุณจารวีก็จะไม่กลายเป็นแบบนี้ เรื่องที่ เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดผมเองครับ ผมสมควรตาย
“อืม พอไม่มีกฎก็ขาดความเป็นระเบียบ ในเมื่อนาย เข้าใจดีแล้ว งั้นฉันก็จะทำให้นายสมหวังอย่างที่ต้องการ”
“ธวลิต ไปหยิบปืนมา
ปืน!! จารวีเมื่อได้ยินก็ตกใจ นิรันมีความผิดก็เพราะเธอ
เพียงแค่ความผิดพลาดครั้งนี้ถึงกับต้องชดใช้ด้วย
ชีวิต
ไม่ได้ จารวีรีบวิ่งลงจากบันไดพุ่งเข้าไปห้าม
“ไม่ได้นะ อย่านะ!! อย่า!!”
ยศพลเห็นจารวีรีบวิ่งบุ่มบ่ามพุ่งเข้ามาหา ริมฝีปากรูป สวยก็ยกยิ้มเยาะอย่างพอใจ
แม่สาวน้อยคนนี้ เป็นคนจิตใจดี ไม่ชอบทำให้คนอื่น เดือดร้อน ! นี่ก็คือจุดอ่อนของตัวเธอ
เขารีบปรับสีหน้าให้เข้าที่
ในเมื่อเริ่มเกมส์ขึ้นแล้ว ก็ต้องเล่นให้จบ ไม่อย่างนั้น แม่สาวน้อยคนนี้ได้กลับไปทำตัวเหมือนคนไร้วิญญาณอีก
แน่
ยศพลหรี่ตามองอย่างร้ายกาจ พูดอย่างไม่ปรานี “ธ ลิต ไปหยิบปืนมา ไม่ได้ยินหรือไง”
ธวลิตรู้สึกแปลกใจ ปกติแล้วคุณชายจะเป็นคนหยิบ
ปืนด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่วันนี้กลับให้เขาเป็นคนไปหยิบ โอเค หยิบก็หยิบ เขารีบกลับไปที่ห้อง หยิบกระบอกปืนมา ส่งให้ยศพล
จาร รีบเข้ามาขวาง
“ยศพล อย่าฆ่าเขา มันไม่ใช่ความผิดเขา ฉันผิดเอง ฉัน เป็นคนบังคับให้เขาไป ถ้าคุณจะลงโทษก็ลงโทษฉันเถอะ!”
ยศพลเล่นปืนที่อยู่ในมือ และเอียงคอมองไปที่จาร
“ฉันไม่สน เพราะยังไงเขาก็เป็นคนขับรถพาเธอไปเจอ ยุพิน เลยทำให้เธอเหมือนกับคนไร้วิญญาณแบบนี้ ฉันเห็น แล้วก็รู้สึกรำคาญใจ ถ้าไม่ฆ่าเขาฉันก็ไม่หายหงุดหงิด
จารวีขมวดคิ้วเข้าหากัน ยื่นมือเข้าไปห้ามเขา
“ฉันไม่ได้เหมือนคนไร้วิญญาณสักหน่อย ยศพล คุณ ปล่อยเขาไปได้ไหม?”
ยศพลจ้องมองไปที่จารวีอย่างมีเลศนัย “ฉันจะแน่ใจ ได้ยังไง ว่าเธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีก?”
จารวีเหม่อลอยสักพัก ก็รวบรวมสติกลับมา “คุณ ต้องการให้ฉันทำยังไง?”
ปากโค้งสวยของยศพลยิ้มออกมาเล็กน้อย “จูบฉัน จูบ
แบบแนบแน่น”
จารวีสงสัยอยู่ชั่วครู่ มองไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วย บอดี้การ์ดและคนรับใช้ ก็หน้าแดงแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ แต่ ต้องให้พวกเขาออกไปให้หมด”
ยศพลโบกมือไล่ พวกแม่บ้านและบอดี้การ์ดก็พากัน เดินออกจากประตูใหญ่ไป
จารวีชี้ไปที่ธวลิตกับนิรัน “พวกเขาก็ด้วย
“ไม่ได้ เธอต้องจูบฉันก่อน ฉันถึงจะปล่อยเขาไป
ยศพลยังคงนิสัยบ้าอำนาจอยู่เหมือนเดิม
จารวีกัดปากตัวเอง เดินหน้าแดงไปหยุดอยู่ตรงด้าน หน้าของยศพล ดวงตาเต็มไปด้วยความเขินอาย เธอเข้า ใกล้เขาอย่างช้าๆ
ปากที่นิ่มนวลของเธอ ดั่งกับปีกของผีเสื้อ ค่อยๆหยุด
อยู่บนริมฝีปากเขา
เธอจูบอย่างระมัดระวัง ค่อยขยับอยู่บนริมฝีปากเขาที
ละนิด
เธอเรียนรู้มาจากท่าทีแต่ก่อนของเขา ลิ้นเล็กๆที่แดง ระเรื่อของเธอ ค่อยๆสอดเข้าปากในริมฝีปากเขาอย่างเงอะๆ
งะๆ
แล้วต้องทํายังไงต่อล่ะ?
ในใจยศพลถูกปลุกขึ้นด้วยไฟราคะอย่างรวดเร็ว เขา เอามือประคองท้ายทอยของเธอไว้ไม่ให้ขยับ นิ้วมือก็สอด เข้าไปในเส้นผมของเธอ และจูบไปที่ริมฝีปากอย่างหนัก หน่วง หลังจากนั้นก็กดเธอลงบนโซฟา
นิรันส่งสายตาบอกธวลิตเป็นนัยๆ ทั้งสองคนก็แอบ
หนีออกไปอย่างเงียบๆ
ยศพลจูบจนจารวีหน้าแดง เริ่มหายใจหอบ ในห้อง รับแขกเหลือแค่พวกเขาสองคนแล้ว
มือของยศพลค่อยๆเลื่อนเข้าไปที่ใต้กระโปรงของเธอ ลูบไล้และออกแรงบีบคลึงไปบนหน้าท้อง หลังจากนั้นเขาก็ เอามือเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ
จารวีถูกเขาจูบจนอ่อนระทวย หมดเรี่ยวแรงที่จะ
ต้านทาน
นอนตาปรืออยู่บนโซฟา ปล่อยให้เขาเสพสุขต่อไป….