ตอนที่ 54 พูดเกี่ยวกับความรัก
ถ้ามีความแค้นต่อกันจริง แล้วทำไมเขาถึงต้องมาทำดี
กับเธอด้วยล่ะ
ไม่สิ ไม่ได้ดีขนาดนั้น
คงจะเป็นไปได้ว่า ในใจของเขานั้นเกลียดคนบ้านพล สวัสดิ์ จึงเอาลูกสาวของคนบ้านพูลสวัสดิ์มาเป็นของเล่นให้ ตนเอง เพราะฉะนั้น เขาไม่ได้มีความรักต่อเธอ จะมีก็เพียง ความใคร่..
จาร ค่อยๆกลับไปไร้ชีวิตชีวาอีกครั้ง
ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ลมหนาวพัดมากระทบผิวกาย พลันจารวีรู้สึกวังเวงอย่างไรชอบกล
เธอพบว่าตัวเองอยู่บนทุ่งหญ้าแห่งนี้คนเดียว มันเป็น อะไรที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด
ถ้าหากว่ายศพลไม่มารับเธอล่ะ เธอจะทำอย่างไร
จารวีรวบรวมความกล้าพลางลุกขึ้นยืน เธอค่อยๆเดิน กะเผลกๆมุ่งหน้ากลับไปยังทางเดิม เดินไปได้สักครู่ก็หยุด
ยศพลไอ้คนบ้า ดีได้เดี๋ยวเดียวก็กลับไปร้ายกาจอีก แล้ว ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่เคยนึกถึงจิตใจคนอื่น
เมื่อสักครู่ที่อยู่บนหลังม้า เธอรู้สึกว่าระยะทางไม่ได้ ไกลขนาดนี้ แต่พอมาใช้สองขาเดิน ไม่ใช่สิ.. ใช้หนึ่งขาเดิน ทำไม่มันไกลขนาดนี้นะ
จารวีเดินไปสักพัก ท้องฟ้าก็พลันมืดสนิท
เธอล้วงมือเข้าไปควานหาโทรศัพท์ แต่กลับพบแต่
ความว่างเปล่า
คงร่วงลงไปตอนที่เธอขี่ม้าเป็นแน่ จารวีสติแตก ยศพล! ไอ้คนบ้า! ไอ้คนเลว คุณมันเลวจริงๆ!
ครั้งที่แล้วที่จารวีเคยโดนคนเร่ร่อนลวมลาม เธอก็เป็น โรคกลัวความมืดเมื่ออยู่ในที่เปลี่ยว
เมื่อมีความมืดที่ปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ ก็มักจะมีสิ่ง แปลกประหลาดพุ่งออกมาด้วยเสมอ
อู อู ! อีกทั้งความมืดยังชอบทำให้เกิดจินตนาการที่น่า กลัว จารวีรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
เธอไม่กังวลสักนิดว่าเท้าอีกข้างยังไม่หายดี การวิ่ง แบบนี้ทำให้ความเจ็ปวดวกกลับมาอีกครั้ง เธอเจ็บจนเหงื่อ ไหลท่วมตัว
พลันเท้าของเธอก็ไปเกี่ยวกับบางอย่างเข้า ร่างเล็ก ของเธอเอนไปด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีมือคู่หนึ่งยื่นมาคว้าเธอ ไว้จากด้านหลัง
“เดินไม่ได้ก็อย่าวิ่งไปทั่ว”
น้ำเสียงเย้ยหยันของยศพลดังลอดเข้ามา ชั่วพริบตา เดียว จารวีก็ถูกดึงเข้ากับอกแกร่งที่อบอุ่นของเขา
จารวีหันกลับไป พลางยกกำปั้นทุบเข้าที่อกยศพลอ ย่างเต็มแรง เธอทั้งร้องทั้งตีเขา “ยศพล คุณมันเลว คุณทิ้ง ฉันไว้เพราะคุณอยากให้ฉันตายใช่ไหม ไอ้คนเลว !!”
ยศพลพลันออกแรงโอบกอดจารวีไว้อย่างแนบแน่น
ไม่มีการจูบ ไม่มีการขยับตัวใดๆ เขาเพียงกอดเธอไว้
อย่างสุดแรง
ใบหน้าของเขาแนบชิดกับขมับของเธอ คืนมืดที่มีลม พัดโชยมา ดวงดาวพราวระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ขณะนั้น จาร วีเงียบเสียงลง เธอรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงของยศพล พลัน เธอก็รู้สึกมั่งคงในอ้อมกอดของเขา
ผู้ชายคนนี้ เขาเป็นอะไรอีกนะ
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ยศพลถึงยอมปล่อยมือออกจาก
พลันเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ยศพลกดรับสาย
น้ำเสียงที่ดังลอดออกมาจากปลายสายคือเสียงของนิ
จารวี
รัน
“คุณชายครับ ผมหาโทรศัพท์คุณจารวีเจอแล้วนะครับ”
“อืม เอากลับไปที่สโมสรเลย”
ตอนนี้จารวีจึงเพิ่งนึกถึงโทรศัพท์ของตัวเอง “มันไป ร่วงอยู่ที่ไหนหรอ”
ราวกับว่านิรันได้ยินเสียงเอ่ยถามของจารวี เขาตอบ
กลับเธอทันควัน “อยู่ใต้ต้นไม้ครับ”
ยศพลกดวางสายโทรศัพท์ “ยัยคนขี้หลงขี้ลืม
“ใครใช้ให้คุณทิ้งฉันไว้ที่นี่ล่ะ”
“อ้าว จารวี นี่ความกล้าของเธอกลับมาแล้วหรอ ต่อปาก ต่อคำฉันได้แล้วหนิ
“เปล่าซะหน่อย แต่ฉันพูดเรื่องจริง”
ทันใดนั้นยศพลกดจารวีลงบนพื้น พลางกดจูบหนักๆ ลงไปบนริมฝีปากของเธอ ลิ้นร้อนของเขาดุนดันให้ริมฝีปาก เรียวเล็กเผยอออก เขาค่อยๆสอดเรียวลิ้นเข้าไปเชยชิม ความหอมหวานในโพรงปากของเธอ
มือหนาเลื่อนไปรูดซิบกางเกงยีนส์ตัวเล็กจิ๋วลง จารวี พยายามปัดป้อง เธอยื่นมือออกไป พบว่าพื้นที่โดยรอบคือ ทุ่งหญ้าอ่อนนุ่มที่แสนเย็นเฉียบ
“ไม่ได้นะคุณ นี่มันกลางป่านะ”
ใบหน้าของจารวีร้อนผ่าว ยศพลพ่นลมหายใจอย่าง หนักหน่วง มือของเขาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ชายกางเกงของ
เธอ พลางถอดมันออกอย่างชำนาญ
สติของจารวีค่อยๆออกจากร่างอย่างช้า
“อื้ออ ไม่เอานะ…”
ยศพลสอดมือเข้าไปยังชั้นในตัวเล็กจิ๋วของเธอ พลาง บีบคลึงจุดอ่อนไหวนุ่มนวลที่ขาวราวกับหิมะอย่างหยอกล้อ
จารวีหอบหายใจ “ยะ อย่านะ นี่มันข้างนอกนะ”
“งั้นก็มาเล่นเกมกลางป่ากันหน่อยเป็นไง!
ยศพลเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ เมื่อเห็นว่าร่างเล็กของจารวี อ่อนยวบจนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง เขาจึงพลิกตัวขึ้นคร่อม
เธอ
พลางสอดใส่ของเขาเข้าไปในตัวของเธออย่าง ตามใจ ดวงตาของจารวีพร่ามัว ดวงดาวบนท้องฟ้าส่อง ประกายสุกใส ร่างกายกำยำสูงใหญ่ของยศพลขยับเข้าออก ไปมาอย่างเป็นจังหวะ
ยศพลถอดเสื้อคลุมของเขาออก พลางช้อนร่างกาย เปลือยเปล่าของจารวีไปวางลงบนเสื้อคลุม
“เป็นไง หาข้างนอกก็ตื่นเต้นเร้าใจดีใช่ไหมล่ะ”
ยศพลก้มลงขบเม้มไปที่หัวไหล่กลมกลึงเรียบเนียน ลากเรียวลิ้นไปตามผิวพรรณอ่อนนุ่ม เขาครางในลำคอเสียง กระเส่าอย่างอิ่มเอมใจ ราวกับว่าทุ่งหญ้าทั้งผืนนี้เหลือแค่ เขาและเธอ..
เมื่อจารวีตื่นมา ก็พบว่าทั้งร่างของเธอแช่อยู่ในอ่าง
น้ำพุร้อน
อ่างน้ำมีฟองสบู่ปกคลุมอยู่หนาทึบ ทั้งยังโรยไว้ด้วย กลีบกุหลาบ ร่างกายกำยำของเขายังคงแนบชิดอยู่ข้างกาย
ของเธอ
“ทําไมเธอถึงอ่อนแอขนาดนี้ฮะ”
ยศพลเงยหน้าขึ้น ยัยเด็กคนนี้นี่ ทำไมต้องมาสลบ ตอนที่เขากำลังจะถึงจุดนั้นทุกทีเลยนะ
จารวีรีบงอเข่า พลางบดเบียดร่างกายซ่อนไว้ใต้น้ำให้
มากที่สุด
ใครเขาร่างกายอ่อนแอกัน เห็นชัดๆว่าร่างกายของ คุณมันอึดทนเกินไปต่างหาก จะทำนานอะไรขนาดนั้นทุก ครั้ง! ยังกับสิงโตแอฟริกาตัวผู้ ใครจะไปทนไหว
“จารวี เธอรักฉันไหม”
ยศพลช้อนปลายคางของจารวีขึ้น ส่งสายตามองเธอ อย่างลึกซึ้ง จารวีหันหน้าหนี เพื่อให้ปลายคางหลุดออกจาก มือของเขา
“ไม่รัก!”
ระหว่างเขาและเธอคือธุรกิจ เธอได้แต่หวังว่าให้เขา เบื่อเธอเร็วๆ จะได้หลุดพ้นจากพันธนาการบ้าๆนี่สักที
แต่น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนี้หลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ซะแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด มือของยศพลเพิ่มแรงบีบที่คางของเธอ สายตาของเขา แสดงออกถึงความโกรธและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก “สักวันหนึ่ง ฉันจะทำให้เธอรักฉันให้ได้
“คุณมันชอบคิดอะไรเด็กๆ” จารวีเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่าย
“เธอกล้าด่าฉันหรอจารวี เธอจะเชื่อไม่เชื่อแต่ตอนนี้เธอ ก็เป็นของฉันแล้ว”
ยศพลโกรธจนหน้าแดง เขาหันตัวกลับไปอุ้มจารวีวาง ลงบนตัก พลางบดเบียดร่างกายตัวเองให้แนบชิดกับเธอ มากที่สุด
จารวีรู้สึกถึงของแข็งที่ดุนดันสะโพกของเธออย่าง ชัดเจน ใบหน้าเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ “เอ่อ ยศพล เราเลิกคุย เรื่องนี้กันเถอะ”
ดวงตาของยศพลยังคงดุเดือด ทันใดนั้น เขาก็ยกตัว ขึ้นเพื่อให้ตรงส่วนนั้นดุนดันกับร่างกายของเธอ พลางเอ่ย ด้วยเสียงทุ้มต่ำ “จารวี เธอโกหก ถ้าเธอไม่ได้รักฉันแล้ว ทำไมร่างกายเธอถึงตอบสนองได้ดีแบบนี้ล่ะ
” จารวีเขินอายจนอยากจะมุดหนีไปที่ไหนสัก
แห่ง
อะไรคือ ‘ร่างกายตอบสนองได้ดีแบบนี้’ จริงๆมันก็เป็น เพียงการตอบสนองขั้นพื้นฐานของทุกคนนั่นแหละ เขายัง จะคิดว่านี่คือความรักงั้นหรอ ถ้าแค่นี้ยังนับว่าใช่ แล้วที่เขา ไปนอนกับผู้หญิงมากมายก็ไม่เรียกความรักหรือไง
“ยศพล สำหรับคุณแล้วฉันเป็นแค่ของเล่นภายใต้เงิน ทองของคุณไม่ใช่หรือไง ยังจะมีทฤษฎีความรักอะไรนี่อีก”
ความรักงั้นหรอ มันก็แค่เรื่องไร้สาระน่ะ ฉันให้ข้าวเธอ “ กิน ให้ที่นอน ให้เสื้อผ้าเธอใส่ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว เธอยัง ไม่พอใจอีกหรือไง”
ท่าทางที่พูดอย่างมีเหตุผลของเขา ทำเอาจารวีปวด
หัวอีกรอบ
เธอรู้อยู่แล้วว่าพูดเรื่องความรักศีลธรรมอันดีงามกับ คนจิตใจหยาบกระด้างแบบเขา ก็คงไม่ต่างอะไรกับการสีซอ ให้ควายฟัง
“ยศพล คุณนี่หัวโบราณจริงๆเลย โบราณเหมือนกับพวกเศรษฐีใหม่ ความคิดของคุณมีแต่เรื่องกามตัณหาไม่ คำนึงถึงจิตใจ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันก็แค่เมียเก็บของคุณ ระหว่างเราไม่สามารถใช้สิ่งที่ล้ำค่าขนาดนั้นมาพรรณนาได้ หรอก…สิ่งที่เรียกว่าความรักน่ะ
จารวีพลิกตัวไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมจะออกจาก
ห้องน้ำ
แต่ยศพลไวกว่า เขายึดเอวของเธอไว้พลางดึงเธอลง ในน้ำตามเดิม มือของเขาบีบหนักๆไปที่คางของเธอ สายตา เต็มไปด้วยความโมโห
“จารวี เธออยู่บ้านฉัน ใช้ของๆฉัน กินของๆฉัน แล้วเธอ ยังมีหน้ามาพล่ามเรื่องความรักหรอ เธอไม่คิดว่ามันตลกไป หน่อยหรือไง”
“เหอะ งั้นคุณก็ปล่อยฉันไปสิ ฉันก็จะได้ไม่ต้องพึ่งคุณ
อีกต่อไปไง”
ดวงตาของยศพลพลันแข็งกร้าวยิ่งกว่าเดิม เธอมัน ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเลย”
ยศพลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลางพันผ้าเช็ดตัวไว้ รอบเอวเตรียมจะออกจากห้องน้ำ
ทันใดนั้นจารวีก็รู้สึกว่าเท้าของเธอชาแปลบขึ้นมา เธอย่นคิ้วพลางส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด “โอ้ย!”
ยศพลหยุดฝีเท้าลง เขาหันกลับมามองเธอ รีบร้อน
ปลดผ้าเช็ดตัวออกตามเดิม
เขากระโดดเขาไปในอ่าง ช้อนตัวเธอขึ้นมาวางลงที่
ริมอ่าง “เป็นอะไร”
“เท้าฉันเป็นตะคริวน่ะ”
ยศพลขมวดคิ้ว ฝ่ามือที่ร้อนผ่าวของเขาออกแรงนวด คลึงฝ่าเท้าให้เธอ
การนวดคลึงของเขา ส่งผลให้เท้าข้างซ้ายที่ขยับไม่ ได้ของจาร ค่อยๆหายกลับมาเป็นปกติ
“จริงๆเลย เธอนี่ไม่เคยดูแลตัวเองเลยสินะ ทำไมชอบ ทำให้ตัวเองเจ็บตัวอยู่เรื่อย อดทนเก่งจังนะจาร
ยัยผู้หญิงคนนี้ชอบทำตัวราวกับเป็นคู่อริของเขา ชอบ ทำให้ตัวเองทรมานเพื่อที่จะแก้แค้นเขา คงจะมีแต่ผีสาง เท่านั้นถึงจะรู้ ว่าทำไมคนแบบเขาจะต้องมาชอบยัยผู้หญิงที่ ทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อแบบนี้
มองเห็นยศพลมีอารมณ์ฉุนเฉียว จารวีก็หลุดยิ้มออก
“ยิ้มอะไร เดี๋ยวฉันจะหยิกเธอให้ตายคามือเลย
เขาก็ยังคงปากคอเราะร้าย พวกปากกับใจไม่ตรงกัน
จารวีเลิกต่อล้อต่อเถียงกับเขา เธอยื่นมือไปหยิบ ผ้าเช็ดตัว มาพันไว้รอบๆเรือนร่างของตน
ยศพลกระตุกริมฝีปากอย่างไม่ชอบใจ “ยังจะอายอะไร ทั้งตัวของเธอมีตรงไหนที่ฉันยังไม่เห็นอีกหรือไง มีอะไรให้ ปิดอีก”
“นี่คุณ…” เป็นอีกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ทำให้จารวีหมดคำพูด
เขาจะคิดเรื่องที่สะอาดกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงนะ จริงๆเลย เธอใกล้จะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
“ดีขึ้นบ้างหรือยัง” ยศพลยังคงออกแรงนวดคลึง จารวี พยักหน้าพลางยิ้มจนตาหยี
“ดีขึ้นเยอะแล้ว ขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณหรอ” สายตาของยศพลแปรเปลี่ยนเป็นความ เจ้าเล่ห์ พลางเอ่ยแฝงความหมายลึกซึ้ง “งั้นเธอจะขอบคุณ ฉันยังไงล่ะ ใช้ใจหรือใช้ร่างกาย…
จารวีกระตุกมุมปาก ยศพลนี่แทบจะคิดเรื่องดีๆอย่าง อื่นไม่ได้แล้ว “นี่คุณ ฉันเหนื่อยแล้ว อยากนอนเต็มที่”
“ก็ได้”
ยศพลอุ้มจารวีขึ้นพลางเดินเข้าไปในห้อง
ห้องนี้ถูกจัดตกแต่งไว้อย่างอบอุ่น สีของโคมไฟติด ผนังเป็นสีส้มจางๆส่องกระทบกับพื้นพรม กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเทียม ยศพลวางจารวีลงบนเตียง จารวีตะลึงงันเมื่อเธอ พบว่าทั้งสี่ทิศของห้องล้วนแต่เป็นกระจก
เงาของเขาและเธอสะท้อนอย่างชัดเจนในกระจกทุก
บาน
ยศผลกระซิบข้างใบหูของเธอ “เตียงนี้ทำกิจกรรมได้ ด้วยนะ ความสามารถของมันเยอะมากๆ
จารวียังไม่ทันตั้งสติดี พลันก็มีเสียง ปิ้ง! จากนั้นเตียง
ก็ขยับขึ้นมา
ที่นี่มันอะไรกัน มีของแบบนี้ด้วยหรอ
“มานี่สิ มันน่าตื่นเต้นออก เรามาลองเล่นกันดูไหม”
ยศพลกดรีโมทคอนโทรล พลันเตียงใหญ่ก็เปลี่ยนรูป ร่าง จารวีถูกยันขาให้แยกออกจากกัน
“ว้ายย ปล่อยฉันลงนะ นี่มันอะไรกัน
ยศพลก้มตัวลงพลางกดจูบไปทั่วผิวกายแสนอ่อนนุ่ม ของเธอ “เอาสิ ร้องดังๆเลย ฉันชอบ..”
“ยศพลไอ้เลว อย่าพาฉันเล่นของแบบนี้นะ ถ้าคุณชอบ นักก็ไปเล่นกับยัยดาวรุ่ง ยัยเอมี่อะไรของคุณนุ่นสิ พวกเธอคงชอบแน่ๆ”
ยศพลหน้าแดง ดวงตาสะท้อนความต้องการที่มากล้น
เขาหอบหายใจอยู่ที่ข้างกระดูกไหปลาร้าที่งดงาม ของเธอ จังหวะที่เตียงตั้งตรง ส่งผลให้ผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้ม ร่างอรชรร่วงลงบนพื้น
ยศพลลากไล้เรียวลิ้นที่ร้อนผ่าวลงไปตามผิวกายขาว ผุดผ่องของเธอ เขาค่อยๆดูดเม้มตรงเนินสาวของเธออย่าง หยอกเย้า
“อื้อออ”
หน้าของจารวีขึ้นสีแดง ดวงตาสะลึมสะลือ ลมหายใจ ร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากแดงอวบอิ่ม
ร่างกายกำยำของยศพลเริ่มตั้งชูชัน
กระจกทั้งสี่ทิศ สะท้อนภาพบทรักที่ดุเดือดได้อย่าง
ชัดเจนแจ่มแจ้ง
จารวีเบิ่งตาโพลง เธอกระดากอายจนแทบอยากจะ
แทรกแผ่นดินหนี..