ได้ยินดังนั้น ดวงตาของจารวีลกวาว ราวกับว่าเธอ กำลังมองเห็นแสงสว่างในช่วงเวลาที่มืดมน
จริงหรอคะ คืองานอะไรคะ!”
งานเกี่ยวกับเลขานุการ เงินเดือนเดือนละ25,000บาท ทํางานห้าวันหยุดสองวัน ช่วงเวลาเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น คุณสนใจไหมครับ” ชายสวมแว่นก้าวเข้ามาใกล้จาร เรื่อยๆ สายตาของเขาลุกโชน ราวกับหมาป่าที่กำลังหิวโหย
ทันใดนั้น ก็มีกำปั้นหนึ่งพุ่งมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของ ชายสวมแว่น ชายสวมแว่นล้มลงบนพื้น แว่นของเขาแตกยับ ใบหน้าฉุนโกรธพลางตะโกนด่าดังลั่น “ไอ้เวรเอ้ย ใคร ต่อยฉันวะ คอยดูเถอะ…
สวมแว่นยังไม่ทันพูดจบ ยศพลก็ยกเท้าเหยียบเข้า ที่ใบหน้าของเขา
แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแกซะเดี๋ยวนี้! กลางวันแสกๆยัง กล้ามาหลอกเด็กผู้หญิง!!”
ยศพลอย่างโหดเหี้ยม เขาทิ้งน้ำหนักลงที่เท้า ขาย สวมแว่นร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
จาร เรียกสติกลับมา เธอรีบปรี่เข้าไปถึงยศพลออก “นี่ คุณทําอะไร คนเขามีน้ำใจจะมาช่วยฉันหางานนะ!”
ยศพลจ้องมองเธออย่างเดือดดาล หางานหรอ! เธอ ไม่เห็นหรือไงว่าอีกนิดมือมันก็จับโดนหน้าอกเธอแล้ว! ” น้ำ เสียงประชดประชันของยศพลหาเอาหน้าแดงด้วยความกระดากอาย
พอได้ยินว่าจะงาน ดีใจจนลืมตัว เธอได้สังเกต ว่าสวมแว่นผิด
ช่างเถอะ ปล่อยเขาไปนะยศพล ยังไงซะ มันเรื่อง ของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง
เอ่ยออกมาพลางกัดริมฝีปากล่างอย่างอดกลั้น
ถึงแม้ตัวเธอจะไร้ประโยชน์ ทั้งหางานไม่ได้สักงาน แต่ เธอไม่ชอบให้ยศพลมาก้าวก่ายชีวิตของเธอ
ยศพลยกเท้าขึ้น ชายสวมแว่นรีบวิ่งหนีอย่างฉุกละหุก
มองยศพลเพียงแวบเดียวพลางหันหลังให้
จารวี! นี่เธอจะจากไปดื้อแบบนี้หรอยศพลกดเสียงต่ำ
จารวิงุนงง เธอหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเขา แล้ว ฉันยังมีอะไรติดค้างคุณอยู่หรอคะ คุณชายยศพล!”
เธอยังติดค้างอะไรฉันงั้นหรอ ยัยโง่นี่ เธอยังติดค้าง ทั้งชีวิตยังไงล่ะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเธออย่างกับไม่มีความ รู้สึกอะไรกับฉันเลยสักนิด เหอะ!
เป็นครั้งแรกที่หัวใจของยศพลรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ ที่ ผ่านมา แต่เขาที่เป็นคนสลัดพวกผู้หญิงให้ออกไปจากชีวิต แต่ครั้งนี้เขากลับถูกเธอสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งยังไม่เหลือ แม้เยื่อใยสักนิด
เขาไม่ชอบใจ ไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงอุ้มจาร พร้อมบีบบังคับให้ไปกับเขาแล้ว
แต่ทว่า ตั้งแต่ที่เธอคิดฆ่าตัวตายคราวนั้น เขาถึงได้รู้ จาร มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากมาย นเรื่อยๆ เขาจึง ไม่กล้าลงมือทําอะไรตามอำเภอใจอีกแล้ว
ข้อตกลงของเรายังเหลืออีกครึ่งเดือน ยศพลกาง สัญญาในมือออก
จารยกมือขึ้นจับหน้าผาก ตามจริง! เธอลืมเรื่องนี้ไป
ซะสนิทเลย
เธอเงียบไปสักพัก จึงช้อนสายตาขึ้นมองเขาพลางเอ่ย “เงิน ติดคุณ ฉันจะทยอยคืนให้ แต่ฉันไม่อยากกลับไปเป็น เมียเก็บของคุณแล้ว”
น้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นกระซิบ มีเพียงยศพลคนเดียว
ที่ได้ยิน
ย้ยผู้หญิงคนนี้ เธอคิดว่าการที่เป็นเมียเก็บของฉันมัน น่าอัปยศอดสูมากนักหรือไง เธอควรรู้ไว้ซะ ว่าคนอย่างท่าน ประธานยศพลน่ะ แค่กระดิกนิ้วก็มีผู้หญิงเป็นมากมายเป็น ขบวนมาแก้ผ้าตรงหน้าพร้อมกระโดดขึ้นเตียงแล้ว
ยศพลกําหมัดแน่น นัยน์ตาทั้งโกรธทั้งโมโห “อืม ฉันจะ
รอเธอคืน”
นํ้าเสียงของเขาทั้งเย้ยหยันทั้งประชดประชัน
ในใจอยากเห็นความกระวนกระวายของเธอนัก
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นจากที่ไหนมา เขา ผู้หญิงที่ไม่เคยสัมผัสความ ยากแบบเธอ ให้ได้สัมผัสบ้างจะได้เห็นคุณค่าของเขา
อ้าวออกจากศูนย์รับสมัครงานอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นสามวัน จารบังคงหางานอย่างไม่หยุด หย่อน แต่เธอคงโชคไม่ดี อย่าว่าแต่งานดีๆที่เหมาะสมกับตัว เองเลย แม้แต่งานขับรถส่งอาหารเธอยังไม่สามารถหาได้
งานอาหารจําเป็นต้องมีรถ แต่เธอไม่รถสักคัน
ส่วนงานอื่นๆก็จําเป็นต้องมีประสบการณ์ มี ประสบการณ์ มหรอ เธอมีแค่ประสบการณ์การอ่านหนังสือ เท่านั้นแหละ จะไปมีประสบการณ์อื่นๆได้อย่างไร ช่าง กลัดกลุ้มใจเสียจริง
ตอนกลางวัน เธอทานอาหารในร้านเล็กๆราคาเพียง จานละสี่สิบบาท เธอทานไปพลางดูโทรทัศน์ที่ร้านอาหาร เปิดไว้
อาหารกลางวันของเธอคือข้าวราดผัดผักกาดขาวแสน ง่ายดาย ไม่มีแม้แต่เนื้อสัตว์สักชิ้น
แต่เธอกลับทานอย่างเอร็ดอร่อย คงเป็นเพราะหิวมาก
จริงๆ
ข่าวด่วนของวันนี้…เวลาประมาณเก้านาฬิกา ขณะที่ คุณมนต์ตรีประธานบริษัทซัวกรุ๊ปจํากัด กำลังเข้าร่วมงาน แบ่งสันปันผลประจําปี ได้ถูกบุคคลปริศนาใช้ปืนน้ำ ยิงเข้าใส่ คาดเดาว่าคือคู่ต่อสู้ทางธุรกิจ โดยการกระทำดัง กล่าวคาดว่าเพื่อประธานมนต์ตรีเกิดความอับอาย และ ในขณะเดียวกันราคาหุ้นของบริษัท กรุ๊ป จํากัด มีแนวน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ”
หัวสมองของจารวิชาวโหลน รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เธอรีบร้อนกดโทรศัพท์ต่อสายไปยังมนต์ตรี
ปลายสายกครับโทรศัพท์ เป็นเสียงของสรี วัล ตั้ง
เล็ดลอดออกมา
สวัสดีค่ะ คู่หมั้นของมนต์ตรีพูดค่ะ มีธุระอะไรหรือเปล่า
จารวิก วางสายโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะ เธอไม่กล้าพอที่จะคุยกับสุรีย์วัลย์
ต้องเป็นยศพลแน่ เพราะเขาเคยพูดว่าเขาไม่มีทาง ปล่อยมนต์ตรีไป ทํายังไงดีนะ..
จาร ทานข้าวไม่ลงแล้ว เธอจึงลูกเดินออกจากร้าน ทันทีโดยที่ยังเหลือข้าวอีกครั้งจาน
แสงอาทิตย์ด้านนอกสว่างสดใส แต่จิตใจของจารวี กลับมืดมน ทํายังไงดีนะ ฉันจะช่วย มนต์ยังไงดี..
เนิ่นนาน ขณะที่จารวีเดินไปเรื่อยๆอย่างสับสน ทันใด นั้นก็มีรถคันหนึ่งวิ่งเฉียดปลายเท้าของเธอไปอย่างรวดเร็ว จารวีตกใจจนแทบสิ้นสติ เธอเพิ่งค้นพบว่าตัวเองนั้นเดินมา หยุดอยู่ที่กลางถนน
มือหนาคู่หนึ่งเอื้อมมือมาดึงเธอให้กลับเข้าข้างทางโดย ไม่บอกกล่าว เมื่อหันกลับไป ดวงตาเธอจึงสบเข้ากับนัยน์ตา ดุดันของยศพล
ทํางานไม่ได้ ก็เลยคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาหรือ ไง ยศพลเอยอย่างประชดประชัน
จาร หลบตาลง ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันแค่เดินใจลอยน่ะ”
จารวิใช้ความคิดสักพักหนึ่งจึงเงยหน้าขึ้นมองยศพล “ฉันคิดว่าฉันคงไม่มีวิธีหาเงินมาคืนคุณแล้ว ฉันก็เลยจะกลับ ไปทําหน้าที่เมียเก็บของคุณอีกครึ่งเดือน
ศพลริมฝีปากกระตุก ในใจของเข้าเต็มไปด้วยความ เดือดดาล เพราะเงินสึนะ เพราะต้องการจะคืนเงินเธอก็เลย อยากจะกลับมาอยู่กับเขางั้นสิ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ยศพลต้องการเลยสักนิด
“เหอะ! ดูๆแล้ว เธอมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่น
สักเท่าไร
ยศพลหันหลังพลางลากจารวีไปด้วย เขาและเธอก้าว เข้าไปในรถ ไม่ทันไรก็ต้องกลับมาอยู่ในอาณาเขตของเขา อีกแล้ว
แล้วแต่เขาจะคิดเถอะ การได้กลับมาอยู่กับเขา เป็นวิธี
เดียวที่จะจ่าย มนต์ได้
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันก็เป็นผู้หญิง ก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงคนอื่น
มาตั้งนานแล้ว..
จารยอกย้อนคำพูดที่เขาพูดใส่เธอ
บนรถ จารกดโทรศัพท์โทรหาอังคณา
“ยัยอ้ง ฉันจะไม่อยู่ชั่วคราวนะ เดี๋ยวอีกครึ่งเดือนฉันกลับ
หลังจากจารอีกดวางสาย ยศพล เหยียบเบรคหยุดรถ อย่างกะทันหัน สายตาดุดันแข็งกร้าวจ้องมองมา จา
ย้ยผู้หญิงคนนี้ เธอคิดว่าเพียงแค่ครึ่งเดือน จะไปจาก เขาจริงๆงั้นหรอ
เธอเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน
จาร!!!
น้ำเสียงของยศพลแข็งกร้าวขึ้นในทันที จารตกใจปน งงงวย อยู่ๆก็ถูกเขาตะคอกใส เธอมองเขาอย่างฉงน “อะไร อีกล่ะ”
ยศพลโกรธจนแทบเสียสติ แต่เธอกลับตีสีหน้าเรียบ เฉยอย่างไม่สะทกสะท้าน
“จารวี! เธอจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม! เธอสมรู้ร่วมคิดกับไอ้ มาเฟียนั้นใช่หรือเปล่า”
“คุณหมายความว่าไง อย่ามากล่าวหาคนอื่นมั่วๆนะ ฉัน ไม่เคยรู้จักกับมาเฟียอะไรทั้งนั้น!!”
“อย่ามาทําไขสือ ถ้าเธอไม่รู้จักมันแล้วออกทะเลไปกับ มันได้ยังไง แถมยังอยู่ด้วยกันทั้งหลายวันขนาดนั้น!”
จารวีอยู่กับเขาเพียงแค่ครึ่งวัน.. ทันใดนั้นเธอก็คิด อะไรออก นี่คุณสะกดรอยตามฉันหรอ!!”
กิโซะ ดูเหมือนว่าความจำของเธอก็ยังดีหนิ ไหน เธอพูดมาซิ ว่าทําให้มันถูกใจเธอขนาดไหน” ยศพสมองเธอ อย่างเยือกเย็น
ความอดทนของจารวิขาดสน เธอโกรธอย่างที่สุด
บศพล ยืนคุณยังพูดบ้าๆแบบนี้อีก ข้อตกลงของเราก็ ยกเลิก ปล่อยฉัน ฉันจะลงรถ!!”
เมื่อยศพลเห็นจารวีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็รู้สึกพอใจ เป็นอย่างมาก อย่างน้อยสิ่งนี้ก็ยืนยันได้ว่า เธอกับไอ้ผู้ชาย คนนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลย
ร่างกายก่าย่าของเขาจู่โจมเข้าหาเธอ จาร กระถดตัว ถอยหนีไปข้างหลัง แต่ก็หนีไม่พ้น
แขนของเธอถูกยศพลพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา
ริมฝีปากร้อนผ่าวของจู่โจมเข้าหากลีบปากเรียวเล็กนุ่ม หย่น เขาฉกฉวยจุมพิตเธออย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง
นานมากแล้ว เขาหิวกระหายกลีบซากุระอันหอมหวาน
นี้ยิ่งนัก
ในที่สุด เขาก็ได้ลิ้มชิมรสมันอย่างเต็มที่ เขารุกล้ำเธอ อย่างรุนแรง กดจูบกลีบปากอันหอมหวานของเธอ แล้ว เล่า
มือหนาของเขายึดกุมต้นคอของเธอไว้ พลางใช้นิ้วมือ ทั้งห้าสอดแทรกเข้าไปยังผมนุ่มสลวย เขาบดจูบเธอหนัก หน่วงขึ้นไปอีก
จาร กูกเขาม จนใบหน้าเลิกเปลี่ยนเป็นสีแดง
เขาใช้ แดุนดันกลับปากนุ่มให้เปิดออก พยายามปลุก เร้าอารมณ์หวาบหวามของเธอให้ตื่นขึ้น ไม่นานนัก จารกิจม ตั้งอยู่ในภวังคีรสจูบของเขา เธอหอบหายใจรุนแรง
ยะ อย่านะ ยศพล … อื้มม
มือหนาของศพล ลูบไล้ไปยังเสื้อเชิ้ตตัวบางของจาร วี พลางดึงมันถอดออกจากข้างล่าง นบน พลับผิวกาย ขาว ราวกับหิมะของร่างเล็กก็ปรากฏแก่สายตา
จุมพิตที่ดุดันของเขาลากไส้ลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็ว
การต่อต้านของจารวีค่อยๆพ่ายแพ้ให้แก่เขา ทั้งสติ
ของเธอก็เริ่มเลือนราง
สองมือเล็กค่อยๆรวบรวมสตีเชือกสุดท้ายปัดป้อง “อย่า
นะ ไม่เอานะ…
“ไม่เอาตรงนี้ หรือว่าไม่เอาตรงนั้นล่ะ”
ยศพลบดจูบลงไปที่กระดูกไหปลาร้าเพื่อกระตุ้น อารมณ์ของเธอ มือหนาของเขาเลื่อนไปยังชายกระโปรง พลางสอดแทรกเข้าไปยังชั้นในตัวเล็กจิ๋ว
ร่างกายนิ่มนวลของเธอถูกเขากดลงบนเบาะ พลันร่าง หนาก็ตามมาคร่อมทับในทันที
เธอคือผู้หญิงของเขา และเขาต้องการเธอ ต้องการเธอ
จนแทบบ้า
ปราการชั้นสุดท้ายของจาร กยศพล อดออก เขา โยนมันไปไว้เบาะหลังอย่างไม่ได้
บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความเร่าร้อน เสียงหอบ หายใจของเขาและเธอค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าอมชมพูของจาร นั้นแสนน่ารัก เธอหรี่ตาน้อยๆ แพรขนตาหนาสั่นไหวไปมา
เธอเสพความสุขสม ยศพลนําพามาสู่ร่างเล็ก ภายใต้
อาณัติของเขา
อดไม่ได้ที่จะต้องบอกว่าเทคนิคบนเตียงของยศพลนั้น ปราดเปรื่องเพียงใด ทุกๆครั้งเขาสามารถทำให้จารวีถึงจุด สูงสุดอย่างอิ่มเอมใจ
ครั้งแล้วครั้งเล่า ทีจาร ตัวสั่นระริก
เหงื่อของยศพลไหลลงจากหน้าผาก หยดลงสู่ผิวกาย ขาวราวหิมะของจาร
“จารวี มองฉันสิ..”
มือหนากอบกุมใบหน้าของเธอ พลางกระซิบบอก
จารวีค่อยๆเปิดเปลือกตาอันเลือนรางของตนขึ้น นัยน์ตาค้าขลับเป็นประกายลึกซึ้งของยศพลเต็มไปด้วย ความปรารถนาทีเอ่อล้น
“ฉันคือใคร!” มือหนากอบกุมสะโพกบางที่นุ่มหยุ่น เขา ค่อยๆขยับตัวเข้าออกช้าๆอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นว่าจารวีไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ สายตาของค
พลกันลบค่า เขาพร่างกาย บ่าของตัวเองทะยานเข้าไปใน
กลีบดอกไม้ของเธอรุนแรงขึ้น
“ อด ออ
ความสุขสมปะทุขึ้นในร่างกายของเธอราวกับเปลวไฟ เรือนร่างอรชอนร้อนวูบวาบ สติอันยุ่งเหยิงจานจะระเบิดออก
เป็นเสี่ยงๆ
รับพูดมา ฉันคือใคร
“อะ..อื้ออ ยะ ยศพล คุณใหญ่มากเลย
จารวีพิมพ์คล้ายคนละเมอ ใบหน้าเล็กสีชมพูสายไป มาภายใต้อาณัติของเขา
บศพลหลับตาพริ้มอย่างพอออกพอใจ เขาเร่งจังหวะ ให้เร็วขึ้น พลางครวญครางอย่างสุขสม สองร่างโอบกอดกัน อย่างแนบแน่น พร้อมทะยานไปสู่ปลายยอด สุขสันต์ร่วมกัน ราวกับว่าไม่มีอะไรจะมาแยกพวกเขาจากกันได้