“อ้อ มีอีกเรื่องนึงค่ะ เขาให้คนส่งการ์ดมาเรียนเชิญท่าน ประธานไปร่วมงานเลี้ยงด้วยนะคะ” น้ำเสียงปราดเปรื่องของ ทัศนียเอ่ยขึ้น
“ฉันไมไป ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้มนต์ตรีมันจะใช้ อุบายอะไรอีก ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอำมหิต
“ถ้าเช่นนั้น ท่านประธานจะให้กว้านซื้อหุ้นส่วนของบริ ษัท วกรุ๊ปต่อไหมคะ”
“อืม ซื้อต่อไป!! –
“เอ่อคือ.. ท่านประธานคะ ตอนนี้สถานการณ์เงินของเรา ค่อนข้างที่จะตึงเครียด ตอนนี้ดิฉันเลยใช้เงินมัดจําของลูกค้า ออสเตรเลียก่อน ดิฉันเกรงว่าถ้าถึงเวลานั้น…
“ไม่มีก้า ก็แค่เงินร้อยล้าน เงินทุนพวกนั้นโยกย้ายถ่ายเท นิดหน่อยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ยังไงซะใบแจ้งมันก็วิ่งไม่ได้
“รับทราบค่ะ ดิฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้!
จารวีได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา จึงรีบร้อนหาที่ หลบ แต่ทว่าข้าไปเสียแล้ว เธอถูกทัศนีย์เห็นเป็นที่เรียบร้อย
“คุณวิ มาแล้วหรอคะ ท่านประธานกำลังรออยู่พอดีเลย
ค่ะ”
จาร หายใจติดขัด ใบหน้าขึ้นสีแดง เธอย้ำๆอึ้งๆอยู่พัก หนึ่ง จึงยื่นเอกสารให้ทัศนีย์ “คุณช่วยฉันเอาเอกสารไปให้เขาทีนะคะ ตอนนี้ฉันอยากเข้าห้องน้ำนะค่ะ”
คุณ… ทัศนีย์ยังไม่ทันพูดจบ ร่างเล็กของจาร)ก็วิ่งหนึ่ ไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกวางน้อยที่ตื่นตระหนก
จาร พรวดพราดเข้าไปในห้องนํ้า เธอยืนฟังกำแพง พลางหอบหายใจ
ทำยังไงดีนะ! ครั้ง ยศพลกะเอา มนต์ตายแน่ๆเลย
เมนต์ อย่าเป็นอะไรไปนะ ยังไงก็จะไม่ยอมให้ ถูก ยศพลทําให้ บ้านแตกสาแหรกขาดแบบเด็ดขาด
“จาร ”
เสียงของทัศนีย์ดังเข้ามาจากด้านนอก จารวีตกใจจน ขาสั่นทั้งสองข้าง เธอปาด ตาออกจากหางตาพลางตอบรับ กลับไป “ค่ะ สักครู่นะคะ”
เมื่อจิตใจสงบลง เธอจึงเดินออกมาจากห้องนํ้า
ในมือของท้ศน์ ยังคงมีเอกสารกองนั้น “ท่านประธาน สั่งให้คุณเอาเอกสารพวกนี้เข้าไปให้เขาเอง
“เออ คุณเอาไปไม่ได้หรอคะ” จารวีปวดหัว ทำไมจะต้อง เจาะจงเธออยู่เรื่อยเลยนะ แค่ส่งเอกสารยังต้องเรื่องมาก จริงๆเลย!
ทัศนีย์ยักไหล่ พร้อมเอ่ยอย่างหนักแน่น “คุณจารวี! ฉันไม่อยากพูดสองนะคะ คุณรีบไปเถอะ”
ชื่อเรียก’คุณจารวี ‘ คุณทัศนีย์เอ่ยออกมาทําเอาเธอขนลุก “โอเคค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้
จาร หอบเอกสารพลางเดินไปยังห้องทำงานของยศ พลอีกครั้งหนึ่ง
เขากำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรสักอย่าง เมื่อได้ยิน เสียงฝีเท้าของจารวี เขาก็ชี้นิ้วไปยังโซฟาพลางเอยกับเธอ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองรอแปปนึง!
จาร ทําได้เพียงรอต่อไป ทั้งๆที่เธอก็ยังมีเอกสารอีก กองใหญ่ที่ต้องจัดการ
ตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ามาทำงานที่บริษัท เธอไม่รู้มา ก่อนว่ายศพลจะยุ่งถึงเพียงนี้
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม ยศพลยังคงก้มหน้าก้มตา เซ็นต์เอกสาร เขาพลิกอ่านหน้าแล้วหน้าเล่า พลางจรดปลาย ปากกาเซ็นต์ลายเซ็นต์ของตัวเองลงไปอย่างสง่างาม
“เออ ถ้างั้นฉันรอคุณว่างก่อนแล้วค่อยมาอีกรอบนะ”
จารวีลุกขึ้นยืน ยศพลเงยหน้ามองเธอ
“ฉันยังมีงานอีกเยอะที่ต้องทํา “จารอธิบายออกไป
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอไม่ต้องกลับไปทำงานพวกนั้นแล้ว มาทํางานในออฟฟิศฉันแทน
เขาตั้งใจเน้นเสียงตรงคำว่า ‘ทำงาน’ ราวกับต้องการสื่อ ความหมายไปอีกนัยน์หนึ่ง พลันใบหน้าของจารวีก็ขึ้นสีแดง ระเรื่อ
“นี่ คุณยศพล คุณไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยหรอ” จาร
หน้าแดงไปจนถึงใบหู
ทศพล นมือออกไปรับเอกสารจากจารวี พลางเลิก คมสวยได้รูป เธอกำลังคดอะไร มานี่!”
ภายใต้ความงุนงงของจารวี ยศพลกางเอกสารออก พลางชี้นิ้วไปที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษด้านบน “เธอเอา เอกสารพวกนี้ไปแปล แล้วก็จําไว้ว่าต่อไป ามใช้ภาษาจีน ให้ ใช้ภาษาอังกฤษรายงานฉันแทน เข้าใจไหม!!
ตอนนี้จารวีถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ทยศพลไม่ยอมให้ ทัศนีย์เป็นคนเอาเอกสารมาส่ง และต้องให้เธอเอามาส่ง เท่านั้น เป็นเพราะเขาต้องการให้เธอได้ทบทวนภาษาอังกฤษ นี่เอง
“เออ ค่ะ!”
หลังจากที่ความสงสัยหายไป จารวีจึงนั่งลงบนโซฟา ไม่ห่างจากยศพลมากนัก เธอพลิกเปิดเอกสาร พลางอ่าน อย่างตั้งใจ ยศพล พจนานุกรมหนาเตอะสองเล่มมาวางลง ตรงหน้าเธอ “มีอะไรไม่เข้าใจหาในนี้ ไม่ก็ถามฉัน!!
“เออ โอเคค่ะ !! ”
จนกระทั่งถึงเวลาก่อนเลิกงาน จารวีฝันอ่านใบสั่ง สินค้าจนเข้าใจครบทั้งสามฉบับ เธอรอยศพลทํางานเสร็จ แล้วจึงใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยคล่องแคล่ว รายงานผลให้ เขาฟัง
ในเวลาทํางานยศพลตั้งใจมาก เขาตรวจเช็คอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งยังไม่หยอกล้อเธอ
กว่าเขาและเธอจะกลับมาถึงคฤหาสน์ ก็เป็นเวลาสาม
ทุ่มแล้ว
ทันใดนั้นยศพล ยิ้มอย่างร้ายกาจพลางเอ่ย วันนี้ฉัน ช่วยเธอตั้งเยอะ เธอจะขอบคุณฉันยังไง
หัวใจของจารวีเต้นรัว ใบหน้าเล็กนสีแดงระเรื่อ “ฉะ..
ฉันไม่รู้
ยศพลยื่นมือออกไปจิ้มหน้าผากของเธอ “ในหัวของ เธอคิดอะไรอยู่หัะ ฉันแค่อยากกินเกี๊ยว เธอรีบไปห่อให้ฉัน กินเตี๋ยวนี้เลย! “จารยหน้าอย่างน่ารัก “โอเค ฉันจะไป เดี๋ยวนี้! ”
เธอวิ่งไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว โชคดีที่น้าอามไม่ยุ่ง ก็เลยได้ช่วยเธอพอดี น้าอามลงมือนวดแป้ง ทําไส้เกียว และ ห่อมันอย่างคล่องแคล่วว่องไว จากนั้นจึงตั้งหม้อ..
หลังจากเกี้ยวนิ่งสุกแล้ว จารบกไปยังห้องนั่งเล่น เธอ กวาดสายตาไปมาแต่ไม่พบร่างสูงของยศพล เธอจึงเดินขึ้น ไปชั้นสอง เห็นเขาอยู่ในห้องหนังสือและกำลังง่วนอยู่กับงาน ตรงหน้า
ผู้ชายคนนี้นี่ เวลาทำงานดูตั้งอกตั้งใจจริงๆ ไม่ได้ดู ร้ายกาจเหมือนกับผู้ชายลามกที่เธอรู้จัก
เมื่อเวลาผ่านไป จารวีได้ใช้เวลาอยู่ข้างกายเขา ความ รู้สึกและทัศนคติที่เธอมีต่อเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ถ้าหากว่าเขาไม่ทําร้ายพิมนต์ก็คงจะตี จารวีครุ่นคิด อย่างทรมานใจ
มองฉันพอหรือยัง!
เงยหน้ามองเห็นจารวีที่ยืนมองเขาอย่าง พลันใจของเขาก็รู้สึกคลั่งไคล้เธออย่างไม่มีเหตุผล
ในที่สุด ผู้หญิงคนนี้ก็มีใจให้เขาแล้วสินะ บนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่เขาต้องการแล้วไม่ได้
ใบหน้าเล็กเล็กน้อย เธอเรียกสติที่ยุ่งเหยิงของตัว เองกลับมา พลางยิ้มให้เขา “เกี๊ยวแล้วค่ะ คุณจะให้ ฉันยกขึ้นมาหรือจะลงไปกินข้างล่าง
เขามองเห็นจารสวมใส่ผ้ากันเปื้อน ใบหน้าเล็กยังมี เศษแป้งติดอยู่ พลันความอบอุ่นในดวงใจของยศพลก็ทะลัก
ออกมา
คฤหาสน์หลังนี้ ต้องมีอยู่ถึงจะเหมือนบ้าน
ยศพลยีดตัวขึ้นเต็มความสูง เขาเอกสารตรงหน้า เก็บพลางเดินออกมาข้างนอก มือหนาโอบลงบนเอวบางของ
ไปสิ กินด้วยกัน!
เขารู้สึกว่ากลิ่นเกี๊ยวที่จารวีทำนั้นช่างหอมหวาน รสชาติก็แสนอร่อย พอเริ่มลงมือทานก็หยุดไม่ได้
จาร มองเห็นยศพลทานอย่างเอร็ดอร่อย ก็อดคิดไม่ ได้ว่าเขาคงจะหิวมาก! ก็ใช่น่ะสิ เขาก็เป็นคนๆนัง ไม่ใช่หุ่น ยนต์นี่เนอะ ยุ่งทั้งวันขนาดนั้น
นะจารวีรีบหยุดความคิดของตัวเองลง เธอเป็นห่วงเขางั้นหรอ ป่าไปแล้ว! โรคแทรกซ้อน เริบหรือไ นตรายมาก เธอไม่ควรคิดแบบนี้เคยนะจาย
“คุณจะให้ฉันย้ายไปทำงานที่ห้องคุณจริงๆหรอ ฉันว่ามัน ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร
เศพสบ่นคิ้ว เธอไม่ชอบหรอ
จารยิ้มแห้งๆ “ฮ่าๆ ฉันไม่ชอบให้คนอื่นนินทาลับหลัง
คางหาก
บวางตะเกียบลง เราซดหมดแม้กระทั่งน้ำซุปในถ้วย จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบผ้ามาเช็ดปาก
“ฉันให้เวลาเธอคิดก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะไปดูงานที่ ยุโรป สักสามสี่วันถึงจะกลับ พอฉันกลับมาแล้วเธอค่อยบอก ก็ได้
จารยิ้มหวานพลางพยักหน้ารับ ฉันเอาจานไปเก็บ
ก่อนนะ
ยศพล นมือไปรั้งเธอไว้ พลางกระซิบที่ข้างหู สม หายใจของเขาร้อนวูบวาบ “พรุ่งนี้ฉันต้องไปดูงาน งั้นคืนนี้ เธอก็ทําให้ฉันพอใจหน่อยสิ
จารวีพยายามดิ้นให้หลุดจากเขา ทันใดนั้นเขาก็อุ้มเธอ นพาดบ่า แล้วเดินตะบึงตรงไปยังชั้นสอง
ร้าย! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ อีตาบ้า ปล่อยฉัน!”
จารวีทั้งทุบทั้งดีไปยังไหล่ของเขาอย่างสุดกำลัง
เสียงทะเลาะหมอกล้อกันของสองหนุ่มสาว ดังเข้าใบหู ของน้ากาม เดนมองพวกอย่างข่าขัน “เห้อ เด็กพวกนี้ ถ้า หากสามารถมีความสุขด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็คงจะดี
ศพลพุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว เขา วางจาร ลงบนเตียง ใช้เท้าถีบประตูให้ปิด จากนั้นจึงโผ เข้าหาเธออย่างบ้าคลัง เขากตจาร ลงภายใต้อาณัติของ ตนเอง
อื้ออ”
เสียงร้องต่อต้านของจารค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเสียง ครวญครางกระเส่แหบพร่า
เช้าวันที่สอง น้าอามปลกจารให้ตื่น เธอลืมตาขึ้นแล้ว พบว่าผ้าห่ม ข้างตัวนั้นว่างเปล่า
ดูเหมือนว่ายศพลจะออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว
น้าอาม มพลางเอ่ย “คุณจารวี ลุกมาทานข้าวเข้าเถอะ ค่ะ คุณขายออกไปตั้งแต่ตีห้าแล้ว เขากลัวว่าจะทําให้คุณ จารวีดีน ก็เลยไม่ทันได้บอกลาน่ะค่ะ ก่อนออกไปคุณชายยัง กําชับให้พวกเราดูแลคุณจารวีให้ดีด้วยนะคะ”
“อ้อ ขอบคุณค่ะน้าอาม”จาร สวมใส่ชุดนอนคลุมทับ ด้วยเสื้อคลุมอีกชั้น ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องนํ้า
ในห้องรับประทานอาหาร จาร ทานข้าวเข้าไปพลางดู โทรทัศน์ไป
น้าอามบ่นอุบอิบอยู่ข้างใบหูของจารวี เธอไม่รู้สึก รําคาญความขี้บ่น ของน้าอามเลยสักนิด แต่เธอกลับรู้สึกชอบชีวิต อบอุ่นเช่นนี้ จากใจลอย รู้สึกราวกับว่าตนเองได้ กลับบ้านอีกครั้ง
“คุณจารโดย คุณดูสิคะว่าคุณนาย แค่ไหน กว่าสอง คนจะมาอยู่ด้วยกันได้มันไม่ง่ายเลย ต่อก็ไปอย่าทะเลาะกัน อีกเลยนะคะ! ถึงคุณรายจะอารมณ์ร้ายไปบ้าง แต่สิ่งที่เขา ทําให้คุณจารวีนั้นมาจากใจจริงๆนะคะ”
ใบหน้าเล็กเงยขึ้น เธอยิ้มให้น้าฮาม “โอเคค่ะ เอาม! เอ่อ.. ฉันอิ่มแล้วนะคะ
จาร หยิบกระเป๋าขึ้นมา พลางเตรียมตัวก้าวออกจาก บ้าน น้ายามเอ่ยถามอย่างห่วงใย “คุณจารวีจะไปไหนคะ”
“เอ่อ ฉันจะเข้าไปบริษัทสักหน่อยน่ะค่ะ
“แต่นี่มันวันเสาร์นะคะคุณจารวี” น้ำเสียงห่วงใยของน้า อามทําให้จารวีไม่สบายใจ
“เอ่อ ใช่ค่ะ แต่ฉันก็อยากแวะไปดูสักหน่อย น้าอามไม่ ต้องเป็นห่วงนะคะ!
จารวีเดินออกจากประตูอย่างรวดเร็ว
เธอหยุดอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง แล้วจึงตัดสินใจว่าจะ กลับไปที่บ้านพูลสวัสดิ์ ไม่แน่ว่าเธออาจได้เจอพ่อ
ถึงแม้ว่าโอกาสนั้นจะริบหรี่ แต่ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร
จารโบกรถแท็กซี่ตรงไปยังบ้านพูลสวัสดิ์
ถึงแม้เธอจะรู้แล้วว่าเฉลิมชัยเป็นคนเลว แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเก่า จารยังคงรู้สึกเสียใจ
เมื่อก่อนตอน พ่อกับแม่จากไปแล้ว พอพี่ยุนไปรับ เธอกลับมา เธอก็ค่อยๆ รู้สึกว่าคุณลุงคือคนในครอบครัว อีก ทั้งเธอยังตกอยู่ในภวังค์ความสุขแบบครอบครัวตลอดมา
ไม่เหมือนกับตอนนี้ ที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่
เพียงสา ง
ความรู้สึกนี้มันช่างทรมานอย่างแสนสาหัส ไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีคนอยู่ข้างกาย
แม้กระทั่งตอนนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเดินไปทาง ไหน ถึงแม้ว่าใจอยากจะสมัดให้หลุดจากยศพล แต่เธอก็รู้อยู่ แก่ใจว่า ถึงแม้เธอไปจากเขา เธอก็ไม่รู้จะไปที่ไหนอยู่ดี
จาร หันกลับไปมองตามเสียงเรียกอย่างงุนงง รถยนต์ ค้นสีเงินขาวที่ยังคงสดุดตา ปรากฏแก่สายตาของจาร
“พี่มนต์! พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
ยศพลก้าวเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม “พีผ่านมาแถวนี้ บ่อยๆน่ะ พี่แวะมาดูเผื่อว่าจะเจอวีที่นี่” พูดจบ เขาจ้องมอง จารวีด้วยสีหน้า กลัดกลุ้มใจ โทรศัพท์ของว็ปิดเครื่อง ตลอดเลย พี่กลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับ
มนต์ตรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นปนห่วงใย
จารยิ้มบางๆ เผยให้เห็นลักยิ้มที่สองข้างแก้ม “ไม่ เป็นไรค่ะ เอ่อ.. มนต์! วีกําลังอยากคุยกับพี่อยู่พอดีเลยไม่รู้ว่าที่สะดวกหรือเปล่า!
“วันนี้ วันเสาร์ ก็อยากจะพาไปที่ที่หนึ่งเหมือนกัน”
มนต์ต ออกปากชวนอย่างกระตือรือร้น สายตาที่ อบอุ่นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน