ฝ่ามือเรียวของยศพลลากไล้ไปทั่วทั้งริมฝีปากแดงข่มขืน ของจารวี ลมหายใจของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา มัน สูญเสียการควบคุม
จาร ครวญครางออกมาด้วยเสียงที่ขาดห้วง “จะทำตรงนี้ ไม่ได้นะ”
ยศพลดึงทิ้งเสื้อผ้าของจะราวออก เขาพรมจูบไปทั่วหน้า ท้องแบนราบขาวนวลเนียนของเธอ เค้าลากไล่ริมฝีปากขึ้น ข้างบน
“ยศพล คุณจะชอบลูกของพวกเราไหม?” เสียงของจาร เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
ความสุขที่เดือดพล่านกระจายไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ราวกับมีน้าสาดเข้าที่ตัวของเธอ
รางกายของจารวีสั่นเล็กน้อย เบาหน่อยค่ะ”
สติของเธอค่อยๆเลือนลาง ร่างกายก่าย่าของทศพลกด ทับลงบนตัวของจารวี ราวกับว่าเขากําลังไม่พอใจในท่วงท้ที เชื่องช้าเช่นนี้ เขาใช้แรงจับขาของจาร แยกออกจากกัน
“คุณจารวีคะ คุณจารวิ!!
เสียงเคาะประตูรัวเร็ว ด้งเข้ามาจากด้านนอก
ยศพลไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก น้าอามมาเคาะประตู ทําไมกัน ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังจะเคาะประตูราวกับฟ้าจะถล่มเ
จากละความสนใจจากยศพล เธอจัดการ เสื้อผ้าของตัว เองให้เรียบร้อย แล้วเดินไปยังหน้าประตู
เมื่อเปิดประตู เธอก็เห็นหน้าอามยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่าง ร้อนอกร้อนใจ
“คุณจารวิ คุณชายคะ ขอโทษนะคะที่ดีกขนาดนี้แล้วยัง มารบกวน แต่ว่าเด็กคนนั้นร้องไห้ไม่หยุดเลยค่ะบอกแต่ว่า ต้องการคุณแม่ ฉันปลอบยังไงเขาก็ไม่หยุดร้อง เขาร้องไห้ จนเสียงดังลั่นไปหมดแล้วค่ะ ฉันกลัวว่าถ้าปล่อยให้เขาร้อง แบบนี้จะทำให้เขาป่วย ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงน่ะค่ะ”
น้าอามกระวนกระวายใจจนมือไม้สะเปะสะปะ ยศพลเอ่ย ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถ้ายังร้องอีก ก็จับโยนออกไปข้างนอก
จารวีจ้องมองเขา เธอยิ้มพลางเอ่ย “คุณนอนก่อนเถอะ
เดี๋ยวฉันกลับมา
ยศพลที่อารมณ์กำลังถึงจุดสูงสุดอย่างเต็มที่ เมื่อเห็นว่า จารวีกำลังจะเดินออกไป เขาก็ยื่นมือไปดึงเธอไว้ “นี่ ยัยผู้ หญิงคนนี้นี่”
หน้าของเค้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
จาร สะบัดมือของเขาออก พลางวิ่งออกไปข้างนอก
ยศพลจ้องมองไปที่ด้านหลังของเธอ เขาโกรธจนแทบจะ ระเบิดออกมา
ยัยผู้หญิงคนนี้กำลังทําอะไรอยู่กันแน่ เธอปฏิบัติต่อเจ้าเด็กที่ไม่รู้จักคนนั้น ดีกว่าปฏิบัติต่อเขาเสียอีก ยัยคนไม่มี คุณธรรม
ในห้องนอนแขกที่ชั้นล่าง จูโน่ยังคงร้องไห้ จารวีรีบร้อน เข้าไปอุ้มเขา “จูโนเด็กดี คุณน้าอยู่ตรงนี้แล้วนะ ไม่ต้องร้อง นะจ๊ะ ถ้าเกิดว่ายังร้องอีกหมาป่าจะมากินตับนะรู้ไหม”
เสียงที่อบอุ่นของจารวี บวกกับกลิ่นกายหอมหวาน ทําให้ ความรู้สึกหวีดกลัวของจูโนผ่อนคลายลง
จูโน่โอบรอบคอของจารวีไว้แน่น พร้อมเอ่ยออกมาเสียง เบา “คุณแม่ครับ คุณแม่”
อาจเพราะว่าเสียงของจารวีเหมือนกับเสียงแม่ของเขา ตั้ง
นั้นเขาก็เลยคิดวาจารวีคือแม่ของตน
น้าอามผ่อนลมหายใจออกมา พลางสายหัว “เหนื่อยแย่เลย นะคะคุณจารวี”
จะราหยิ้มบางๆออกมา พลางพยักเพยิดบอกเป็นนัย ให้น้ อามปิดไฟและออกไป
น้าอามพยักหน้ารับ เธอปิดไฟและก้าวไปจากห้อง พร้อม บดึงประตูห้องปิด
“ว้าย คุณชายสาม คุณมายืนทําอะไรตรงนี้คะ ฉันตกใจ หมดเลย
หน้าอามหมุนตัวกลับไป แล้วพบกับยศพลยืนอยู่ที่หน้า ประตู เธอตกใจจนแทบสิ้นสติ
ยุคพลยี ขมวด วอย่างไม่พอใจ “พรุ่งนี้จ้างพี่เลี้ยงเด็ก มาดูแล ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเจ้าเด็กนี่กลับไปไว้ที่เดิม
“โอเคค่ะ คุณชายสาม! น้าอามตอบรับเป็นพัลวัน เมื่อเธอ เห็นยศพลยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ เธอจึงเอ่ยออกมา คุณขาย ตะเด็กคนนั้นคงไม่สงบลงง่ายๆหรอกค่ะ คุณไปนอนก่อน เถอะ คืนนี้คุณจะราวีคงจะนอนอยู่ที่นี่มั้งคะ
“ปนให้มันน้อยๆหน่อย กลับไปได้แล้ว” ยศพลออกปากไล่ น้าอามอย่างไม่เกรงใจ
ไม่ง่ายเลย จารวีจะปลอบเด็กน้อยให้หลับไปได้ในยาม ที่เธอกําลังจะกลับออกไปนั้น แต่เด็กคนนี้รู้สึกตัวง่ายมาก เพียงแค่เธอขยับนิดเดียวเด็กน้อยก็ตื่นในทันที อีกทั้งยังม มือมาโอบรอบคอของจารวีไว้ไม่ยอมปล่อย
ในปากของเด็กน้อยยังพึมพำาร้องเรียกหาแม่
พลันดวงใจของจารวีก็อ่อนยวบ เธอจะกล้าทิ้งให้เขาอยู่ คนเดียวได้อย่างไร
คืนนี้เธอคงต้องนอนเป็นเพื่อนเด็กน้อยคนนี้
เช้าวันที่สอง ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เด็กน้อยจูโน่ยังคงหลับ ไหล รอยยิ้มที่มีความสุขสะท้อนออกมาจากใบหน้าเล็ก
ดวงใจของจะราวีใกล้จะหลอมละลายแล้ว ความรู้สึกของ การเป็นแม่คนมันหอมหวานอย่างนี้นี่เอง
เธอวางเด็กน้อยลงเบาๆ พลางเอื้อมมือไปห่มผ้าให้ แล้ว ค่อยค่อยย่องเดินออกจากห้อง
เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น พบกับร่างสูงของใครบาง คนนอนอยู่บนโซฟา เมื่อเธอเดินเข้าไปมอง ก็พบว่าเป็นเศ พล
เค้านอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟา นี่อย่าบอกนะ ว่าเขารอ เธออยู่ตรงนี้ทั้งคืน?
พลันดวงใจของจาร ก็รู้สึกผิด น้าอา เดินผ่านมาทางนี้ พอดี เธอมองเห็นยศพล แล้วจึงเอ่ยกับจาร “คุณชายรอคุณ จารวีอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเลยค่ะ”
จารวีฉีกยิ้มแห้งๆออกมา “ฉันไม่ได้บอกให้เค้ารอสัก
หน่อย”
เธอหมุนตัวกลับไปพลางปลกยศพลเบาๆ ” นี่คุณ ไปนอน ในห้องดีดีเถอะค่ะ”
ยศพลลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เมื่อมองเห็นจารวี เขาก็ยื่นมือเรียวของตนออกมาดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด จากนั้น
จึงกดเบียดให้เธอนอนด้วยกัน
แต่ทว่าโซฟาไม่ใช่เตียง ถ้านอนคนเดียวยังรู้สึกสบาย แต่ พอนอนสองคนกลับรู้สึกอึดอัด
จารวีนอนมาทั้งคืนแล้ว เธอไม่มีอารมณ์จะนอนต่อ ก็เลย ดิ้นขลุกขลิกเพื่อลุกขึ้น แต่กลับถูกยศพลโอบกอดไว้แน่น “ไม่ให้ไปหรอก ยันผู้หญิงนิสัยไม่ดี ไปอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า ทั้งคืน แต่ไม่ยอมมาดูแลผู้ชายของตัวเอง ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์ ไม่มีคุณธรรม”
รมฝีปากของยศพลพิมพ์คาดโทษจารวีไม่หยุด จารวีเหนื่อยหน่ายใจ ผู้ชายแปลกหน้าอะไรกันเห็นชัดๆว่าเป็น เพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
ตอนทีจารวิเตรียมตัวที่จะโต้ตอบกลับไป เธอก็พบว่ายศ พลยังหลับอยู่ สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นคือละเมอ
จาร กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้แต่ในความฝันผู้ชายคนนี้ บ้งค่าเธออีก นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ
เธอจ้องมองยศพลด้วยรอยยิ้ม
ในยามที่เขาหลับ อวัยวะบนหน้าของเค้าช่างหล่อเหลาน่า มอง เค้าโครงชัดเจน ขนตาทั้งหนาทั้งคําทั้งยาวของเขา เป็น เงา อยู่ระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง
จมูกเป็นส้นตั้งตรง คิ้วหนา คลับ ริมฝีปากบนล่างสีแดง ชุ่ม นปิดแนบสนิท
ในยามที่หลับไหลเช่นนี้ ทำให้เขาดูหล่อเหลาไม่เป็นรอง
โคร
แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง สะท้อนแสงเจิด จ้าอยู่บนใบหน้าของเขา งดงามราวกับรูปปั้น
เธอมองเขาอยู่อย่างนั้นเนินนาน ยิ่งมองก็เริ่มรู้สึกหลง
ไหล
เวลา 9 โมงกว่าๆ ก็มีตำรวจเข้ามาที่บ้าน คาดว่าเขาน่าจะ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้จัดการของฝ่ายบริการลูกค้าที่ห้าง สรรพสินค้าเมื่อวาน ก็เลยพาพ่อแม่ของจูโนมารับลูกของตน กลับไป
แม่ของจูโน่มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายคลึงกับจาร แต่ว่าอายุ ของเธอมากกว่าจาร หน่อย เมื่อเธอได้เจอกับจูโน่ เธอก็กอด ลูกชายของตัวเองพลางร้องไห้โฮออกมา
บนใบหน้าของยศพลไม่มีความรู้สึกใดๆ ราวกับทนรอให้ เจ้าเด็ก รีบกลับไปไม่ไหวแล้ว
“ขอบคุณคุณจารวีมากเลยนะคะ ทีดูแลลูกของฉัน” แม่ของจูโน่ซาบซึ้งในบุญคุณที่จะราวีช่วยดูแลลูกของ เธอให้เป็นอย่างมาก เธอเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้
อย่างคราวคร่าวๆ
เหตุเกิดเพราะพี่เลี้ยงที่เธอจ้างมาดูแลจูโน่ทะเลาะกับ เจ้าของบ้าน ก็เลยต้องการอยากจะแก้แค้น พี่เลี้ยงก็เลย ตั้งใจพาจูโน่ไปปล่อยทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้า
แต่เพราะแม่ของจูโน่แจ้งตำรวจ ตำรวจก็เลยสอบถามพี่ เลี้ยงคนนั้น พี่เลี้ยงก็เลยยอมรับสารภาพทุกอย่าง
ตำรวจรีบไปสอบถามผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้า ที่ห้าง สรรพสินค้าแห่งนั้น หลังจากนั้นก็หาบ้านของจารวีจนพบ
จารวี มให้พลางสายหน้า ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ต่อไป คุณก็ดูแลจูโนให้ดีนะคะ”
“เอ้อคุณคะ แล้วทําไมจูโน่ถึงพูดได้แค่คำว่าพ่อกับแม่ล่ะ คะ?” จารวีเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
แม่ของจูโนยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน “จูโน่ของฉันมี
พัฒนาการทางการพูดค่อนข้างช้านะคะ เขาพูดได้แค่คำง่ายง่าย อย่าง พ่อ แม่ คุณปู่ คุณย่า เหล่านี้นะคะ เด็กอายุรุ่นราว คราวเดียวกันก็พูดได้แค่นี้แหละค่ะ! ขอโทษจริงๆนะคะ ทำให้ พวกคุณต้องยุ่งยาก นี่คือของขวัญ แทนคำขอบคุณค่ะคุณ รับไปเถอะนะคะ”
แม่ของจูโน่หยิบเงินจํานวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า สตางค์ จารวีปฏิเสธเป็นพัลวัน ” ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ
จาร มองเห็นใบหน้าของยศพล ราวกับว่าหน้าของเค้า เป็นอัมพาต เงินแค่ไม่กี่ 10 หยวนนั้น เขาไม่มีวันเห็นมันอยู่ใน สายตา จารวีฉลาดเฉียบแหลมจึงรีบดึงยศพลเข้ามา “จริงๆ แล้วฉันไม่ได้ดูแลจูโน่มากมายหรอกค่ะ คนที่ดูแลจูโนก็คือ ผู้ชายคนนี้ เขาชอบจูโน่มากเลยแหละค่ะ”
ยศพลกำลังจะโต้ตอบกลับไป แต่แม่ของจูโนรีบร้อนเข้า มาเอ่ยขอบคุณเขา ขอบคุณคุณชายยศพลมากๆเลยนะคะ ที่ดูแลลูกของฉัน จูโนมา ลูก มาขอบคุณคุณลุง แล้วบอกลา คุณลุงก่อน”
จูโน่ลังเลสักพัก จากนั้นจึงหอมเข้าไปที่แก้มของยศพล ฟอดใหญ่ เมื่อหอมเสร็จ เด็กน้อยก็ปรบมือหัวเราะชอบใจ
ใบหน้าดโคราเครียดของยศพล ฝืนยิ้มออกมาอย่างยาก ลําบาก รอยยิ้มนั้นดูไม่ได้เอาเสียเลย
เมื่อจูโน่และที่บ้านกลับไปเรียบร้อยแล้ว ยศพลยื่นมือ ออกไปคว้าคอเสื้อของจารวี “จารวี เธอตั้งใจใช่ไหม”
“นี่ คุณอย่าทําหน้าดุดันขนาดนั้นได้ไหม”
จะราวีจ้องมองยศพลด้วยแววตาใสซื่อ เธอเอื้อมมือไปปลกมือของบศพล จับอยู่บนคอเสื้อของตนด้วยใบหน้าไม่รู้
“ก็เห็นชัดๆอยู่ว่าคุณเป็นคนดูแลจูโน่ คุณเป็นคุณลุงที่ดี มากเลยนะยศพล ทําไมถึงไม่ยอมรับล่ะ จริงๆแล้วคุณชอบ เด็กคนนี้มากๆต่างหาก”
“หยุดพูดได้แล้ว ไร้สาระสิ้นดี! เหอะ! เขาไม่ใช่ลงที่ดีสักหน่อย ” ยศพลทำหน้าไม่ถูก
ท่านประธานอย่างเขาจะยอมเป็นพี่เลี้ยงเด็กด้วยเงินไม่ ที่ 100 แค่นั้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของจาร วี เขาก็คงจะ……. แต่จริงๆแล้วเด็กคนนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขา เกลียดชังมากเท่าใดนัก
เขายกมือขึ้นสัมผัสบริเวณที่ถูกจูโน่หอมไปเมื่อสักครู่
เสียงร้องเล็กหวานราวกับตุ๊กตา ดวงตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ร่างกายที่เล็กจิ๋วนั้น
เอ๊ะ หัวสมองของเขาทำไมถึงมีความคิดที่แปลก ประหลาดเช่นมีขึ้นมาได้นะ
“ยศพล จริงๆแล้วคุณชอบเด็กมากๆใช่หรือเปล่าล่ะ”
จารวีตวัดวงแขนขึ้นโอบรอบคอของยศพล เธอเอียงหัว ไปมาพลางส่งยิ้มให้เขา
“เธอกำลังคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่ มีลูกวุ่นวายจะตาย”
ยศพลทําราวกับว่าไม่สนใจ เขาผลักจารออกพลางเดินไปนั่งลงบนโซฟา
พลันเสียงโทรศัพท์ของจารวีก็ดังขึ้น เธอกดรับโทรศัพท์
” แกเป็นยังไงบ้าง ?”
ยศพลจ้องมองจารที่กำลังคุยโทรศัพท์ เธอจึงชูโทรศัพท ข็นพลางเอ่ย “อังคณาโทรมานะ”
ยศพลหันหน้ากลับไป ไม่หันมองเธออีก
จารวีเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ด้านนอก “ฮ่าๆ ยัยอ้ง ฉัน สบายดี เมื่อวานนี้ฉันเก็บเตกได้ด้วยแหละ น่ารักมากๆเลยนะ ใบหน้ารูปไข่กลมๆเล็กๆนั้น ทำให้คนมองหลงใหลได้เลยล่ะ
“ไม่จริงมั้ง แกจะโชคดีอะไรขนาดนั้น เก็บได้แม้กระทั่งเด็ก
“จริงๆนะ แต่ว่าแม่ของเขามารับกลับไปแล้วล่ะ… เออใช ยัยอ้ง แกโทรหาฉันมีอะไรหรือเปล่า?”
“นี่ แกมีเวลาว่างซักวันไหม มากินข้าวด้วยกันหน่อยสิ”
“เอ๊ะ แกเก็บตังค์ได้หรือยังไง ถึงมาชวนฉันกินข้าว
“นี่ แกไว้หน้าฉันหน่อยไหม คุณจาร คนสวย ฉันรู้ว่าตอนนี้ เธอกลายเป็นคุณหญิงของบ้านโพธิสูงแล้ว ฉันอยากจะเลี้ยง ข้าวเธอ ก็เลยโทรมานัดเธอก่อนนี่แหละ”
“นี่ ปากเปราะให้มันน้อยๆหน่อย! ว่าแต่ที่ไหนล่ะ?”
อังคณาบอกเวลาและสถานที่ให้แก่เธอ จารวีตอบตกลงกลับไปยังไงซะเธอก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทํา
เธอเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า พลางเดินเข้าไปยังห้องนั่ง เล่น เมื่อสักครู่นี้เธอยังเห็นยศพลอยู่บนโซฟา แต่ว่าเพียงชั่ว พริบตาเดียวเขาก็หายไปเสียแล้ว