พักผ่อนเต็มอิ่มมาทั้งคืน ทำให้ทั้งสองมีเรี่ยวแรง กระปรี้กระเปร่า
ยศพลกดร่างของจารวีไว้ใต้ร่างของเขา จากนั้นก็ยกเข่า ทั้งสองข้างขึ้นบนเตียงเพื่อลดแรงกดไม่ให้กดทับไปที่หน้า ท่องของ เธอ
ตาตี๋ๆของเขามีแววตาที่เปล่งประกายดั่งไฟ
จารวีรู้สึกถึงความร้อนแรงจากลมหายใจของเขาได้อย่าง ชัดเจน ใช้ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวบดไปที่ขาของเธอ เหมือนกั เป็นสัตว์ร้ายที่ใจร้อนและอดใจไม่ไหว
“อ๊ะ ไม่ได้นะ ยศพล เธอลืมที่หมอบอกไปแล้วเหรอ นาย อย่าขยับไปมามั่วซั่วสิ
ยศพลหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ที่หมอบอกเป็นแค่หนึ่งใน หลายๆวิธี ที่จริงมันยังมีอีกหลายหลายวิธีเลยนะ”
ใบหน้าเล็กๆของจารวีเริ่มแดง พอฟังคำพูดที่ไร้ขอบเขต ของเขา เธออดไม่ได้จนอยากมุดหนีไปในถ้ำ
“อะ อ๊ะ… “จารวีผลักออก ยศพลก็เอนกายลงมาจูบ
ริมฝีปากของเขาปิดครอบริมฝีปากแดงสีกุหลาบของเธอ ลมหายใจของคนสองคนค่อยๆรวมเข้ากับลมหายใจของอีก ฝ่าย
จารวีลูบทารกในท้องของเธออย่างประหม่า เกร็งไปหมดทั้งตัว
ยศพลจุบพลางปลดเสื้อผ้าของเธอออก
“อย่ากลัวเลย ที่รัก ฉันไม่เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องของเธอ บาดเจ็บหรอก”
ยศพลพ่นลมหายใจที่ร้อนแรงไปที่หูของเธอ พูดด้วย เสียงแหบพร่า ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
เขาจูบลงไปที่คออันขาวนวลของเธอ แล้วค่อยๆเลื่อนลง ไปข้างล่างช้าๆ
นึกไม่ถึงเลยว่าผิวของยัยผู้หญิงรนหาที่คนนี้จะนุ่มไป หมดทุกตารางนิ้ว ลูบสัมผัสได้อย่างราบรื่นนุ่มนวลมาก
จารวีถูกเขาเล้าโล้มอย่างช้า ๆ ในใจก็เริ่มที่จะมีความ อยากเช่นกัน
“ยกขาขึ้นสิ…”
ยศพลประคองเธอขึ้น จับให้เธอนอนตะแคง แล้วพ่นลม หายใจอันร้อนผ่าวของเขาไปที่ขาอ่อนของเธอ
“ที่รัก ขอฉันเข้าไปหน่อยนะ แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็รีบเอา
ออกมาละ ฉันรับรองได้…
ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชื้นแฉะตรงหน้าเขา เป็นสิ่งล่อใจที่ทรงพลัง ที่ทําให้เขาไม่อาจต้านทานตัณหาได้
ยศพล ไม่ได้นะ ทําแบบนี้ไม่ได้นะ…”
จากวรู้สึกประหม่า ไม่นาน ก็ทรุดตัวลงไปนอน
เพลบั้มขึ้นมาทันที หลังจากนั้นก็ออกห่างจากจาร “ฉันไปอาบนํ้าเย็นก่อนนะ” ทั้งสองคนจูบและสัมผัสนัวเนียกันตั้งแต่เช้าตรู่ จุดที่ควร
จูบก็จบหมดแล้ว จุดที่ควรสัมผัสก็สัมผัสมาพอแล้ว
ขาดไปแค่ขั้นตอนสุดท้าย ยศพลวิ่งไปอาบน้ำอย่างอาลัย
อาวรณ์
จาร เร่งให้เขาเข้าไปอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าแล้วลุกขึ้น เพราะ ไม่รู้ว่าเธอยังนอนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก
ตอนที่ยศพลออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็มีผ้าขนหนูสีขาว พันรอบเอวของเขา
ผมยังเปียก มีหยดน้ำเล็กๆเกาะเหมือนกับคริสตัล ร่างกายส่วนบนที่เซ็กซี่ดูแข็งแกร่ง หยดน้ำเล็กๆตามเรือนร่าง ทําให้ดูเซ็กซี่และเกรี้ยวกราด เอวที่คอด ขาที่เรียวยาว ณ จุด จุดนี้พูดได้เลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่เป็นอย่างมาก
จาร เห็นเข้าก็เกิดอาการเขินจนเครื่องในสั่นคลอนไป
หมด
ยศพลจึงหันไปยิ้มให้เธออย่างชั่วร้าย “อยากจะลองอีก ครั้งปะ
จารวีตกใจจนกระโดดขึ้นโชฟา “ยศพล นี่จะแปดโมง แล้ว นายต้องรีบไปทํางานนะ เดี๋ยวฉันเก็บของเสร็จ ก็จะไป บริษัทด้วยเหมือนกัน”
พอหันมา เเ ท ากัด ลงไปกองอยู่กับพื้น ลาย อ
แพคอนเซ็กซี่ ปรากฏออกมาให้เห็นเบื้องหน้าของการ
“เธอไม่ต้องไปบริษัทน้อง จํากัดชั่วคราว ฉันมอบอำนาจใน การรับผิดชอบให้กับเวทศไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้เขาโทร มาหา เธอ เธออยู่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
ยศพลพูดจบ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย
ชุดสูทที่ถูกตัดให้เหมาะสมกับสรีระของเขา เสื้อเชิ้ตสีดำ ก็ทำให้เขาดูแพง น่าเคารพและดูลึกลับ
เป็นคนที่มีอำนาจและพลังมหาศาล
จารวีเห็นก็รู้สึกเหมือนจะโดนดูดวิญญาณเข้าไป
ยศพลยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ มุ่งหน้าก้าวเท้าไปหาจาร “เมื่อกี้ยังไม่พอเหรอ อยากจะให้ฉันถอดเสื้อผ้าให้เธอดูอีก รอบมั้ย
หน้าของจารวีแดงไปหมด แล้วยื่นมือออกไปดเนคไทให้ เรา “ทําไมต้องจริงจังด้วยล่ะ’
แววตาของยศพลมีประกายที่มีความมืดมน “ตอนที่ยิง ก้นครั้งก่อน ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ เธอก็อย่าออกไปไหนนะ มันอันตรายมาก”
จารวีเงยหน้าขึ้นและมองดูเขาด้วยความสับสน “มีคน กำลังหมายหัวฉันอยู่งั้นเหรอ แต่ฉันไม่มีอะไรให้พวกมันแย่ง ไปนี้ พวกมันกำลังเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า”ใช่ ใครจะปา ตัวเอ้ย ๆ ที่ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ หรือ
จนกระทั่งผู้หญิงที่ไร้สมองแบบเธอ จารองเป็นอย่างมาก
ศพลฉีกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แววตาเป็นประกาย รวมทั้ง สองมือของจาร ไว้แล้วดึงเธอมาอยู่ในอ้อมแขน “ตอนนี้เธอ ไม่ได้มีอะไรที่ไหนล่ะ ในท้องของเธอ มีเลือดเนื้อเชื้อไขของ ฉันอยู่ ยศพลคนนี้เขียวนะ ฉันอยู่ในเมืองเอสมาหลายปี แย่ง ธุรกิจของคนไปแล้วไม่น้อย ในโลกธุรกิจฉันก็ทำให้คนหลาย คนขุ่นเคืองมามาก พวกมันก็คงจะอยากแก้แค้น ทําให้ฉันเจ็บ ปวด
คําอธิบายของยศพลทำให้จารวีรู้สึกโล่งใจ เพราะคำ อธิบายเหล่านี้สมเหตุสมผล
จารวีพยักหน้า มือเล็กๆ ดกระดุมเสื้อเชิ้ตของยศพล “รู้ แล้ว ฉันจะดูแลตัวเองดีๆ นายรีบไปบริษัทได้แล้ว”
บางทีสิ่งต่าง ๆ มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ก็ได้ ยศพลจะ จริงจังมากเกินไปรึเปล่า
ตอนที่จารวีลงจากตึก น้าอามก็วิ่งไล่ตามเงาของยศพล และตะโกนเรียก “คุณขายคะ ไม่ทานมื้อเช้าเหรอคะ..”
จารวีเดินไปถึงหน้าประตู รถของยศพลขับออกไปแล้ว น้าอา สายหัวแล้วเดินกลับเข้าบ้าน
“ช่วงนี้คุณยายยุ่งมาก ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเหรอคะ”
*ไม่เป็นไรค่ะ น้าอาม ให้ฉันทานก็ได้ค่ะ” โดยปกติแล้วยศ พลจะกําชับให้จารวีทานมื้อเช้า แต่ตัวเขาเองจะไม่ทานมื้อ เช้า เขา มักจะทํางานจนถึงกลางดึก ถ้าทำแบบนี้ต่อไปเป็นระยะยาว ล ผลฟสบภาพแน่ๆ
จาร โดยไปคดมา พัก จากนั้น ต่อสายโทรไปที่มือถือ
ของนิรัน
“นิรัน เดียว ถึงบริษัทแล้ว ช่วยออกไปข้อมือเข้าให้ศพล แทนฉันหน่อย”
นิรันกําลังขับรถอยู่ พอรับสายก็ตอบกลับไปทันทีว่า “ได้ ครับ คุณจารวี”
ยศพลหันหน้าไปจ้องเขม็งเขา นิรันวางมือถือลง “คุณชายครับ เป็นสายจากคุณจารวีคับ เธอให้ผมซื้อมื้อเข้า ให้คุณท่านครับ”
ยศพลได้ยินก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ผู้หญิงคนนี้เริ่มจะห่วง เขาขึ้นมาแล้ว
จาร ทานข้าวเช้าเสร็จก็โทรไปหาอังคณา
เธอบอกน้าอามว่าจะไปเที่ยวเล่นบ้านของอังคณา ไปแค่ สองชั่วโมงก็จะกลับมา น้าอามก็พยักหน้าและไม่ได้ขัดขวาง อะไร
ที่จริงแล้วจารวีจะออกไปข้างนอกเลยก็ได้ แต่กลัวแค่ ว่าน้าอามจะโทรไปหายศพล ถ้าเขารู้ก็ต้องระเบิดอารมณ์ รุนแรงแบบฟ้าร้องฟ้าผ่าแน่ๆ เธอไม่อยากให้มีปัญหาก็เลย ต้องเอาอังคณามาเป็นเกราะก่าบัง
‘ร คุณชายมนต์ตรีมาแล้ว ดูสิ…”
ทันทีทีมนต์ตรีหยุดรถข้าง จารวี จารวี บอกลา
อังคณา แล้วเข้าไปในรถของมนต์ตรี จากนั้นหนึ่งที่นั่งข้างคน
มนต์ตรี อารมาเติมาก ดูมีชีวิตชีวามากกว่าช่วงที่ผ่านมา
เยอะมาก
ดูอ่อนโยนและสง่างามเหมือนเคย เสื้อสูทสีเทาอ่อน เสื้อ เช็คสีขาว ทรงผมที่เรียบเป๊ะเข้าทรง
ดวงตาสีนํ้าตาลของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เขาเฟงสติไปกับการขับรถ เขาขับหลบรถที่ขับตามมา โดยหันไปมองข้างหลังบางครั้ง แล้วหันไปยิ้มให้กับจาร
วี ทําไมนิ่งเป็นหินแบบนี้ละ
มนต์ตรีหันไปมองสองสามครั้ง จารวีก็ยังมองตรงไปข้าง หน้าทุกครั้ง ใบหน้าดูงงงวยคล้ายๆกับมีของอะไรหายไป
“พี่มนต์ วีคิดอยู่น่ะ ว่าถ้าวีไม่ได้ปรากฏตัวออกมา พี่กับคุณ สุรีย์วัลย์ก็คงจะแต่งงานกันแล้วใช่มั้ย”
มนต์ตรีนิ่งไปเล็กน้อย แล้วขับรถให้ช้าลง 5 ทําไม คิด แบบนี้ล่ะ โลกนี้ไม่มีคำว่า “ถ้า” หรอกนะ มันควรจะเป็นยังไง ก็เป็นแบบนั้นแหละ”
“วันนั้น ดูหน้าวอลเฟสบุ๊คของ มนต์ เห็นคุณสุรีย์วัลย์ ท่าทางโศกเศร้า วีเลยคิดว่า ถ้าพี่กับหล่อนได้กลับไปอยู่ด้วย กันอีก ก็คงจะวางใจไปได้เยอะ”
มนตรีหันหน้ามา ดวงตาสีน้ำตาลองมองมว – ปาง
ไปละลายตาในดวงตาของเขา มีประกายที่เต็มไปด้วยความ
3 ตัว แต่งงานกับสรีย์วัลย์ จะดีใจเหรอ
อยู่ดีๆมนต์ตรีก็เอ่ยปากถาม เขาจอดรถไว้ข้างถนน แล้ว จ้องมองจารวีอย่างจริงจัง
นี่เป็นคําถามทีไร้ข้อโต้แย้ง จารวีพยักหน้าโดยไม่คิด” แน่สิคะ พี่มนต์ วีไม่อยากให้พี่มนต์โสดไปตลอดชีวิตหรอก
มนต์ตรีนิ่งและประหลาดใจ จากนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน พวกเราไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วค่อยไปสถานีตำรวจเถอะ”
“ได้ค่ะ”
ยังไงก็พามาร้านอาหารแนวตะวันตก แต่ทุกครั้งก็ให้ความ รู้สึกที่ต่างกัน มันเปลี่ยนไปหมดทุกอย่างแล้ว มีแค่สภาพ จิตใจของสองคนนี้ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง
5 ยังจําได้มั้ย ตอนที่เรายังเด็ก… ” มนต์ตรีพูดออกมาอย่าง มีความสุข ใบหน้าเต็มไปด้วยความเพ้อฝัน
จารวีไม่มีความอยากอาหาร “พี่มนต์ เรื่องเมื่อก่อนก็ ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ พวกเราคงไม่มีใครอยากไปนึกถึง มันแล้ว”
มนต์ตรียังพูดไม่ทันจบก็ถูกจารวีพูดขัดจังหวะ
5 วิเปลี่ยนไปแล้ว
มนต์ตรี ดประโยคก่อนหน้านี้ออกมาด้วยความยาก สาบาก จารวีกันหน้าไม่พูดอะไร ใช่ คนเราก็เปลี่ยนไปหมด เมื่อเราโตขึ้นความเข้าใจชีวิตในโลกนี้ของเราก็เปลี่ยนไป อย่างช้าๆ
นี่ไม่ใช่ความผิดของหล่อน
” มนต์ ไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก ก็ยังคงเป็นจารวี วิ แค่…โตแล้ว พี่มนต์ อีหวังว่า จะตาสว่างได้เร็วๆนะ รู้ว่าพี่ ตีกับวี เมื่อก่อน วิเคยคิดว่าการที่พีท่าดีกับวีคือความรัก แต่ ตอนนี้ หลังจากทีวีพบรักแท้แล้ว วีถึงรู้ว่าความรู้สึกระหว่างเรา ไม่ใช่ความรัก แต่มันคือความเชื่อมั่น ความเชื่อใจ ความรู้สึก ที่เกินกว่าความรัก ความรู้สึกระหว่างเรามันไม่ใช่ความรักนะ พีมนต์ มนต์เข้าใจใช่มั้ย”
ดวงตาสีนํ้าตาลของมนต์ตรีจ้องมองจารวีอย่างตกตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าคําพูดที่ทําร้ายจิตใจคน เหล่านี้จะออกมาจากปากเล็กๆของเธอ
ในใจของเขาสั่นไปหมด เขารู้สึกสูญเสียและสิ้นหวังอยู่ ในก้นลึกของหัวใจ แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่ได้แสดง อาการออกมามากนัก
มีดกับส้อมในมือของเขาตัดอาหารแข็งที่อราวกับ เครื่องจักร ตาก็จ้องมองจารวีเป็นเวลานาน
4 วิเคย…ที่พี่จะพูดก็คือ เคยรักพี่บ้างมั้ย ในตอนทีวีตกลงที่ จะแต่งงานกับพี่น่ะ”
การวิ ลองเขา มองเห็นว่าดวงดาทั้งสองของเขา น และมีนายวระยิบระยับในพริบตา
นั่นเขาน้ำตาไหลออกมาเหรอ
เธอพูดอะไรผิดไปจริงเหรอ
* มนต์ ทําไมต้องเอาเรื่องมาโยงกันด้วย ทั้งหมดมันเป็น อดีตไปแล้ว พี่ต้องดูแลคนข้างกายที่รักที่ให้ดีๆ
มนต์ตรี มอย่างไร้วิญญาณ รอยยิ้มของเขา และ จิตจางอย่าง หาอะไรเปรียบไม่ได้ บางทีแม้แต่คำพูดที่จะ ทำให้เขาดีใจ เธอก็คงไม่เต็มใจจะพูดออกมา
เขาจะไม่ถามอีกแล้ว เขาไม่อยากจะทํากริยาที่ไม่ดีต่อ หน้าเธอ ก็ได้ ในเมื่อเธอให้เขาเป็นแค่พี่ชายของเธอ แบบนั้น เขาก็จะทําตามประสงค์ของเธอ
“วี ถ้าวีตั้งใจจะพูดแบบนี้จริงๆ พี่ก็จะไม่ทำให้ลำบากใจ ตั้งแต่นี้ไป พี่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง พี่จะไม่ทำให้ลำบาก ใจหรืออึดอัดใจอีกแล้ว”
พอมนต์ตรีสงบจิตสงบใจได้ เขาก็วางมืดกับส้อมในมือ ลง ทั้งสองคนนั่งร่วมโต๊ะอาหารมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ อาหารตรงหน้ากลับไม่ค่อยหรอไปเลยแม้แต่น้อย
เห็นชัดอยู่ว่าตอนนี้คือฤดูร้อน แต่ว่าทำไมเขานั่งอยู่ตรงนี้ ถึงได้รู้สึกหนาวเหน็บเหมือนอยู่ในฤดูหนาว มนต์ตรีไม่อยาก นั่งอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
“พี่มนต์ วีคิดว่าจริงๆแล้วคุณสุริย์วัลย์ก็ไม่เลวนะ”
มนต์ตรีเช็คบิลเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วยิ้มอ่อนให้เธอ “อั้ม พี่รู้ ว่าวีหมายความว่ายังไง พี่รู้ว่าตัวพี่ควรทํายังไง”