ตระกูลของมนต์ตรีและตระกูลสุรีย์วัลย์ถือเป็นตระกูลที่ มีชื่อเสียงต้นๆ เมืองร ฉะนั้นแล้วงานแต่งสุริยวัลย์กับมนต์ ตรีจัดใหญ่เหมือนกัน
เมื่อเทียบกับงานแต่งครั้งที่แล้วของมนต์ตรีกับจาร ถือว่างานแต่งครั้งนั้นถ่อมตัวไปไม่น้อย
ยียตรงหน้าประตูโรงแรม จารมองป้ายค่ายินดีกับพวก เขารักกันไปนานๆ รูปโป่งหลากหลายสีจัดไว้หน้าประตู อย่างสวยงาม
มองสถานการณ์แบบนี้แล้ว สมองจาร พลางมีภาพงาน แต่งไม่สำเร็จของตัวเองและมนต์ตรีปรากฏขึ้น ในใจพลางมี ความเศร้าพุ่งเข้าไป
“เหม่ออะไร? าตอนนี้เธอไม่อยากเข้าไป ฉันจะพาเธอ ออกไปทันทีเลย ยศพลมองเธอไว้แปลกๆ
จารวี มอย่างอ่อนโยน “นายรอฉันข้างนอกเถอะ! ”
ยศพลมองนาฬิกาหยกบนข้อมือ “ครึ่งชั่วโมงนะ ห้าม เกินแม้แต่นาทีเดียว ไม่อย่างนั้นฉันพุ่งเข้าไปแน่
จารวี ออกมา พลาง ไหล่เขา “รู้แล้วหน้า ขี้บ่นจังนะ ฉันเข้าไปแล้ว เดี๋ยวเจอกัน”
บศพลมือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง เขาเงยหน้าขึ้นมองตรง หน้าหน้าต่างชั้นสองอย่างไม่ได้ตั้งใจ เห็นเงาหนึ่งที่ทำให้ เขาต้องขมวดคิ้วแน่นจารวี งกระโปรงขึ้นแล้วเดินขึ้นบันได จากนั้นค่อยๆเดิน
ไปกลางงานแต่ง
“เอ่ย จารวี บังเอิญจังเลย ไม่คิดจะเจคุณที่นี่”
นิชาภาปรากฏตัวขึ้นในสายตาจาร
เธอสวมชุดราตรีสีชมพูกอดอก หุ่นเซ็กซี่ ดูโอเคทุก อย่าง ผมเซฟหมวนโดนัทไว้สูงๆ ไม่มีความใสซื่อในปกติ สักนิด
ในมือถือกระเป๋าที่มีหนึ่งๆ ยืนตรงหน้าจาร
จารวี ง “เธอตามฉันเหรอ?”
แปลกจัง ทําไมฉันต้องตาเธอด้วย?ฉันเป็นเพื่อยสนิทเจ้า สาว หรือเป็นเพื่อนสนิทเธอเหมือนกัน?”
จารยิ้มเบาๆ แบบนี้นี่เอง ไปก่อนแล้ว
นิชากากดเสียงต่ำพูดขึ้นกะทันหัน “เธอคงไม่ใช่จะมาหา เจ้าบ่าวนะ? ทําไมยศพลไม่มากับเธอด้วย ?”
จารวีตอนนี้ไม่มีความรู้สึกดีอะไรต่อนิชาภาแล้ว “หลีก ไปหน่อย!”
นิชากาถอนหายใจยาวๆ “จารวี ฉันบอกเธอนะ เธอ แพ้แน่นอน”
พูดจบพลางยิ้มแปลกๆใส่เธอแล้วค่อยๆจากไป
จาร ต้องเธอไว้ สายตาเปลี่ยนเป็นล็กมาก
“จาร…”
เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นมา จารวีหันหันกลับไป ร่าง ชยรพปรากฎขึ้นตรงหน้าเธอ
จารวิตกใจ เธอยิ้มเบาๆ “ไม่คิดเลยจริงๆ คุณยังมีหน้า มาร่วมงานแต่ง มนต์อีก”
ชยรพไม่คิดว่าจารวีจะเยาะเย้ยตัวเองอย่างๆไม่เหลือหน้า
ให้
ใบหน้ามีความละอายเกรงพุ่งเข้ามา “ฉันไม่ได้มาร่วม งาน ฉันคือ มาหาเธอ ฉันไปที่บ้านยศพลหลายรอบก็ไม่ เจอ เลยมาลองดูที่นี่ว่าเธออยู่หรือเปล่า”
จารยิ้มเย็นๆ แสดงว่าคุณโชคดีจัง!แต่เห็นได้ชัดพอว่า ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ
“จารวี เธออย่าทําแบบนี้ได้ไหม เมื่อก่อนพ่อท่าผิด พอ ไม่ควรทําแบบนั้นกับเธอ พ่อรู้ผิดแล้ว ให้อภัยพ่อดี ไหม?”ชยรพพูดด้วยน้ำเสียงถอยตนนัก
“ขยรพ… จารวีเปลี่ยนเป็นเสียงแหลม “ชยรพ คุณไม่ใช่ พ่อฉัน!”
“จารวี เธออย่าพูดแบบนี้ ถึงแม้เธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ ความรักที่ฉันมีต่อเธอไม่เคยปลอม ตั้งแต่เธอคลอดลงมา ฉันก็ใส่ใจเธอแบบนั้น… “ขยรพดูอย่างน่าสงสาร
“พอแล้วช รพ ฉันไม่มีสายเลือดคุณ คุณไม่จําเป็น ต้องทําตัวน่าสงสารต่อหน้าฉัน ฉันไม่รับคุณ ไม่มีวัน แน่นอน…”จาร เปลี่ยนเสียงจนแหลม เมื่อคําพูด ออกมา เธอเองยังรู้สึกแปลกประหลาด
ย ร เก็บเสียงขึ้น พลางหันเดินผ่านไปอย่างผิดหวัง
ร่างทีจากไปอย่างไร้ค่านั้น เหมือนเป็นตราปั๊ม ปั๊มลง ในใจลึกๆจารวีไปแล้ว
ตั้งแต่นี้ไป ทั้งชีวิตนี้จะเป็นความทรงจำสุดท้าย
เห็นชยรพยิ่งเดินยิ่งไกล นํ้าตาจารวีพลางไหลรินลงมา อย่างควบคุมไม่อยู่ ทั้งสองมือเธอผสานไว้ ริมฝีปากกัดไว้ แน่น กันน้าตา อยากไหลออกมา
ทําไม ทําไมในใจถึงได้เกลียดเขามากขนาดนั้น!!
เพราะการตายของแม่ หรือการขาดความรักจากพ่อ
ตั้งแต่เด็ก?
จนกว่าร่างชยรพค่อยๆหายไปจากประตูโรงแรม จารวี
ยังคงเหม่อลอย
นานพอสมควรจารวีถึงรู้สึกผิดปกติ เพราะรอบๆเริ่มมี เสียงกระซิบนินทาขึ้นมา
เธอดึงสติกลับ รีบเช็ดน้ำตา แล้วหายใจเข้าลึกๆ เพื่อ ให้ตัวเองสงบลง แล้วค่อยๆเดินออกไป
จากการรุมมองของคน เธอเห็นร่างมนต์ตรีในสายตา
มนต์ตรีตกใจบ้าง จาก เธอมาได้ไงฉันไม่ได้ ทั้งๆที เขาไม่ได้เชิญเธอ!!
เขาหันมาอย่างตกใจ มองสุริยวัลย์ข้างๆ “เธอให้เขามา เหรอ?”
สุริยาลปบั้ม “ใช่ไง ทําไม เธอไม่อยากให้เขามายืน หรือไง ?เขาเป็นน้องสาวเธอนะ?”
ใบหน้าเรียบดูอ่อนโยนมนต์ตรีเริ่มมีความตรึงเครียดขึ้น มา เขาปล่อยแขนออก ออกจากสรี วัลย์ แล้วเดินไปหา จาร ก้าวยาวๆ
จาร สวนชุดราตรียาวที่นําเงิน ทั้งคนเหมือนเป็นดอกไม้ ในฤดูใบไม้ผลิ ให้คนต้องจ้องมอง
เธอยิ้มเกรงๆ เพียงแค่ขยับเล็กน้อย ก็จะอยู่ในสายตา
“จารวี เธอมายังไงครับ?”
รู้ทีหนึ่ง สองคนพลางเดินถึงตรงหน้าแล้ว
มนต์ตรียื่นมือไปหาเธอ แล้วค่อยๆดึงกลับ
สายตานั้นเหมือนได้กลับไปตั้งวันแต่งงานในครั้งนั้น ณ ครั้งนั้น เขาเป็นเจ้าบ่าว และเธอเป็นเจ้าสาว
เพียงเหลือแค่นิดเดียว ทั้งสองคนก็จะเป็นสามีภรรยากัน
แล้ว
แต่ว่าฟ้ามักจะเล่นคนแบบนี้ ให้เธอห่างความสุข เธอยัง อยู่ เขายังอยู่ เพียงแต่กลับไปไม่ได้แล้ว
เธอปั้มสดใสดั่งดอกไม้ สายตาอ่อนโยนใสๆ เธอยังอยู่ เขาก็ยังอยู่เพียงแต่กลับไปไม่ได้แล้ว !
“มนต์ ยินดีด้วยนะคะ ขอให้รักกันไปนานๆ
จารยิ้มเบาๆ แล้วเอาของขวัญที่เธอเลือกอย่างตั้งใจ ออกมา
นั่นเป็นกล่องรูปหัวใจสองรูป เพื่อมีความหมายหัวใจตรง กันไปตลอด
นี่เป็นสิ่งที่เธอหวัง เธอหวังให้ความสัมพันธ์พวกเขาไม่มี อะไรขาดเคลื่อน
รอยยิ้มอ่อนโยนมนต์ตรีเปลี่ยนเป็นลำบากทันที ในใจ เธอนั้นได้วางเขาลงไปนานแล้ว
ผู้หญิงนะ ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนใจง่ายๆ ความ สัมพันธ์สิบกว่าปี การตามจีบสิบกว่าปี ความฝันสิบกว่าปี ได้แตกสลายไปในวินาทีเดียว
“จารวี เธอจะโทษฉันไหม?”มนต์ตรียังมีใจที่เพ้อคิด บางทีเธออาจจะเพื่อหวังให้เขามีชีวิตที่ดี
โทษคุณ? ไม่แน่นอน มนต์เป็นเพื่อน ที่สุดของฉัน วัน นี้ แต่งงาน ฉันดีใจแทนพี่ เราสองคนต่างหาความสุขตัว เองเจอแล้ว แบบนี้ถึงเป็นการจบที่สมบูรณ์ที่สุด”
เธอ มอย่างดีใจมาก ความสุขนั้นไม่ฝืนใจ
ห้องมีแต่ผู้หญิงที่มีความสุขจริงๆ ถึงจะมีรอยยิ้มแบบนี้ มนต์ตรีรู้สึกตัวเองเป็นloser ตัวจริง แฟถึงที่สุด
มนต์ตรีมองกล่องรูปหัวใจในมือจารวี เขาไม่ยอมยื่นมือ
ไปรับ
จู่ๆ มีมือหนึ่งดึงออกมาแล้วรับของขวัญจาร
“อุ้ย รูปหัวใจคู่ ฉันชอบที่สุดแล้ว ขอบคุณนะ จาร วี เธอช่างรอบคอบจัง ฉันจะเอากลับไปแคว้นหัวเตียง มัน แสดงถึงความรักเดียวใจหนึ่งเดียวกัน รักกันชั่วนิรันดร จากนั้นท้องเด็กน้อยสักคน…
สุริย์ไม่ได้เก็บความรู้สึกดีใจตัวเองเลยแต่นิด เธอยื่นมือ ควงแขนมนต์ตรีไว้ จากนั้นจึงไปที่ตัวมนต์ตรี แสดงความ รักหวานออกมา
“อ้อ คํายินดิฉันลงมาถึงแล้ว ฉันไปก่อนแล้ว”
จาร รู้สึกใกล้หมดเวลาครึ่งชั่วโมงแล้ว ภารกิจเธอ สําเร็จก็คงจะไปได้
สุริยวิล ขวางหน้าไว้ “อุ้ย ในเมื่อมาสมเหล้ามงคล จะ กลับเร็วแบบนี้ได้ไง มาๆๆ นั่งฝั่งนี้เถอะ!รอให้ดื่มเหล้าเสร็จ ค่อยไปก็ได้!!
ใบหน้ามนต์ตรียังคงยิ้มนิ่งๆ แต่การยิ้มแบบนี้ไปนาน เขาก็มีความเหน็บเหนื่อยเหมือนกัน
เขารับ สงสุรีย์ออก “จาง ถ้าเธอมีธุระกไปก่อนได้
พิธีต่อมา มีมากมาย เขาไม่อยากให้จารอยู่ที่นี้นั่น เกิน เขาไม่ชอบความรู้ยนนี้
ให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบดูตัวเองแต่งงานกับหญิงที่ไม่ชอบ คนหนึ่ง!
เขารู้สึกเหนื่อยมาก!!
จารวิพยักหน้า “โทษทีนะคุณสุริย์วัลย์ ฉันยังมีธุระ ไป
ก่อนแล้ว!!
“สร ถอนหายใจทีหนึ่ง ยังเตรียมตัวไปรั้งอีก แต่ มนต์ตรีจับแขนเธอไว้ แล้วดึงเธอกลับมา
“มนต์ตรี เธอน้าแล้ว เธอจะใช้แรงมากแบบนี้ได้ไง
ทําเอาฉันเจ็บแล้ว…”
มนต์ตรีดึงมือสุรีย์วัลย์ด้วยสีหน้านิ่งไม่เปลี่ยน แล้วดึง เธอเข้ามาห้องจากนั้นปิดประตู
“สุริย์วัลย์ ทําไมเธอต้องเชิญเขามา?”
“ทําไมฉันจะทําไม่ได้? เขาเป็นน้องสาวแท้ๆเธอไม่ใช่?หรือ ระหว่างพวกเธอยังมีอะไรไม่ดีไม่ร้าย?”
สุริย์วัลโต้แย้งกลับอย่างหยุด
มนต์ตรีจับแขนสุรีย์วัลย์แน่น สายตาน่ากลัวขึ้นมา
นานไปสักพัก เขาถึงค่อยๆปล่อยออก “ฟังไว้น สุริย
วัลย์ ถึงแม้เธอจะแต่งงานกับฉันแต่เธอคงเข้าดูว่าฉันไม่ชอบ ให้คนอื่นเข้ามายุ่งเรื่องของตัวเอง ไม่อย่างนั้น ผลที่ตามมา เธอรู้ดี”
“มนต์ตรี เธอไม่ชอบฉันเหรอ?”สุรีย์วัลยรู้สึกหงุดหงิดมาก เธอคิดอะไร?เธอแค่เชิญจาร มาร่วมงานแต่ง ทําไมเขาต้อง โกรธขนาดนั้นด้วย?
มนต์ตรีจ้องเธอไว้แน่น นานไปสมควร เขาหันกลับไป อย่างไร้อารมณ์ ดึงประตูแล้วออกไป
สุริย์วัลย์อยู่ในห้องคนเดียว นิ่งเฉยไป เหมือนที่ผ่านมา เขาปล่อยเธอไปแบบนั้น แล้วเดินออกไป
และครั้งนี้ อาจจะรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว บางทีในใจเขา อาจจะไม่มีส่วนของเธอเลย!
จาร รับเดินออกจากโรงแรม ยืนมองที่หน้าประตู กลับ ไม่เห็นร่างยศพลแล้ว
ผู้ชายคนนี้วิ่งไปไหนแล้ว ไหนบอกว่าครึ่งชั่วโมงไง? จารวี เอามือถือออกมาดู ครึ่งชั่วโมง ดี ไม่ได้พลาดเลย
จาร มองไปแล้วเดินออกจากประตู เดินไปทางจอดรถ
จากการเดินไปพลางได้ยินเสียงก้าวเดินของผู้หญิงและ เสียงตะโกนแทบต่ำของผู้ขายประสานกันไว้ กำลังเข้าไป ทางรถRolls Royce สีดำของยศพล
จารวีกัวใจเต้นแรง มีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้น เธอคอยยื่นหน้าไปมอง
ภาพตรงหน้าทําให้เธอต้องเปิดโลกเปิดตา
ยศพลกําลังกดนิชาภาไว้ประตูรส เขากดเธอไว้แน่นๆ บางทีเสียงฝีเท้าของ