จาร หยิบกระดาษ พับไว้มา อย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เธอค่อยๆมองมัน ไม่นานนักก็ใบหน้าของเธอ แปรเปลี่ยน เป็นความตกตะลึง
รูปแบบของเสื้อผ้าในฤดูใบไม้ผลิ และเสื้อผ้าของฤดู ร้อนที่วางจําหน่ายออกสู่ท้องตลาด ปรากฏแก่สายตา ถึง แม้ว่า บริษัทของจาร จะมีนักออกแบบฝีมือดี แต่ว่าในการ สํารวจในท้องตลาดตอนนี้ กลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ทุกๆปี เสื้อผ้าจากปารีสและที่ผลิตออกมาใหม่ มัก จะถูกนักออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกลอกเลียนแบบ
ดังเสื้อผ้าที่เธอออกแบบมาใหม่ในตอนนี้ แทบจะ เหมือนกันกับบริษัทส่วนใหญ่ในตลาด
โลกทั้งโลกตามกระแสแฟชั่น ถึงแม้เธอพูดได้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้น สามารถทำให้ผู้คนพึงพอใจ แต่พูดโดยรวมก็ คือยังขาดแคลนการทําให้คนรู้สึกแปลกใหม่
แต่การออกแบบที่อยู่ในมือของจารวีตอนนี้เป็นการ ออกแบบที่แปลกใหม่เธอรู้สึกแปลกใจ
เธอพลิกเปิดไปหน้าแล้วหน้าเล่า การจัดให้เข้ากันของ สีสันและลวดลายแทบจะดีพร้อม ซึ่งมันเป็นการผสมผสาน กลิ่นอายของตะวันออกและตะวันตกและรวบรวมเข้าไว้ด้วย กันอย่างเหมาะสม คนมองรู้สึก
แต่น่าเสียดายที่รูปแบบเพียงห้าใบเท่านั้น เพียงไม่ นานจาร ก็ดูจนครบ
คุณต้องการอะไรกันแน่” จารหรี่ตามองเธอ
นิชาภา มอย่างมั่นใจ คุณชอบไหม” อืมชอบสิ เธอจะ ให้ฉันพบกับนักออกแบบคนนี้ด้วยตัวเองได้หรือเปล่า จารวี เอ่ยด้วยน้าเสียงขอร้อง
นิชาภา มพลางเอ่ย” การเจอกันไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ ว่านักออกแบบคนนี้เธอบอกแล้วว่าเธออยากจะลองฝกงานที่ บริษัทของคุณ ส่วนตำแหน่งแน่นอนว่าต้องเป็นหัวหน้าของ แผนกออกแบบ นักออกแบบคนนี้เรียนจบที่ สถาบันความ งาม ปารีส เธอเคยเป็นนักออกแบบระดับสูงของแบรนด์ขา แนล การที่เธอต้องการมาทํางานที่บริษัทของคุณ มันไม่ใช่ เรื่องง่ายเลย ไม่รู้ว่าคุณจะยอมรับหรือเปล่า”
ในใจของชาวจาร พอจะรู้เดาอะไรออกถึง 70-80% จาร รีไหวไหล่ พลางนั่งลงบนโต๊ะทํางานช้าๆ เธอยื่นมือออกไป ตรงหน้าของนิชาภา” นั่งลงก่อนสิ คุณนักออกแบบอาวุโส!”
จารวี ทําไมคุณถึงฉลาดอย่างนี้นะ คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็น ฉัน” “ฉันดูออกจากเสื้อผ้าที่คุณใสมาวันนี้ มันค่อนข้าง คล้ายคลึงกับแบรนด์ชาแนล
ฮ่าๆ ตายจริง ถูกคุณดูออกจนได้ มิน่าล่ะยศพลถึงชอบ คุณขนาดนี้ ผู้หญิงที่ฉลาดแบบคุณสามารถทำให้ผู้ชายเป็น บ้าได้จริงๆ”นิชาภานั่งลง
จะราวีมองเธออย่างจริงจังตั้งใจ”คุณมาถึงบริษัทของฉัน แน่นอนว่าฉันก็ต้องต้อนรับอย่างดี แต่ทว่า ถ้าคุณคิดว่าจะ เข้าใกล้ฉัน เพื่อจะรู้ความเป็นไปของยศพล งั้นคุณ คิดผิด แล้วล่ะค่ะ เพราะฉันไม่มีทางปล่อยผู้ชายของตัวเองให้กับคน งานในบริษัท!”
นิชาภา มอย่างมั่นใจ จาก พวกเราทั้งคู่สวนยังสาว ยังมีเวลาอีกมากมาย พวกเราจะเติบโตไปตามเวลาที่ผ่าน พ้นไป และเมื่อถึงเวลานั้น คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าคุณไม่ เหมาะสมกับบ้านโพธิสูง แต่ว่า ฉันแยกแยะเรื่องงานกับเรื่อง ส่วนตัวได้ งานก็คืองาน ความรู้สึกก็คือความรู้สึก คุณวางใจ เถอะ ฉันสัญญากับคุณ ฉันไม่มีทางทําอะไรที่มันกระทบกับ งาน ฉันเคยพูดแล้วว่าต้องการสงบศึกระหว่างเรา”
จาร สายหัวไปมา คุณแพ้แล้ว
นิชาภากรอกตาไปมา ยังไม่ทันเห็นตอนจบในตอน สุดท้ายเลย คุณยังไม่ได้แต่งงานกัน แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่า ฉันแพ้
จารวีวางแก้วชาในมือลง เธอยืดตัวขึ้น พลางเอ่ย เพราะว่าฉันกับยศพล เรามีลูกด้วยกันแล้วน่ะสิ!!
สายตาของนิชากาวูบไหวเล็กน้อย ช่องโหว่มืด ที่น่า กลัวในใจของเธอถูกเปิดออก ทําให้ความมั่นใจของเธอจาง หายไป
เนิ่นนาน เธอยังคงยิ้มอย่างสงบ นึกว่าเรื่องอะไร คนในบ้าน โพธิสูงของเขาไม่มีทางยอมให้คุณคลอดเด็กคนนี้ออกมา หรอก”
ช่าช่าย่า งั้นฉันจะคอยดู”จารวีลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
อย่างผู้ชนะ
นิชาภากัด ปากล่าง อย่างพยายามสะกดกั้นอารมณ์ ความมั่นอกมั่นใจของเธอ สลายหายไปฉันหมดสิ้น
* ถ้างั้นเขาได้รับปากว่าจะแต่งงานกับคุณหรือเปล่า”
จาระ มออกมา” ยังไงก็ได้ ฉันไม่ได้แคร์เรื่องนั้น แต่เรา อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว ”
นิซากายมออกมาอย่างเจิดจ้า ถ้าหากว่าพวกคุณยังไม่ ได้แต่งงานกัน ฉันก็ยังพอมีโอกาส”
ส่งคุณมาพาคุณมิซากาออกไปที
ความเดือดดาลในใจของจะค่อยๆประทุออกมา เธอก็ เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ยามต้องเผชิญหน้ากับศัตรู ความรัก เธอก็ไม่สามารถยับยั้งอารมณ์ให้ตีไปตลอดไ
นิยาภาไหวไหล่ไปมา พลางสะพายกระเป๋าแล้วเดินจาก ไป บางทีอาจเป็นเพราะความโกรธที่ยังคงอยู่ในหัวใจ ทำให้ เธอจําเดินอย่างรีบร้อน
แม้แต่แบบร่างก็ไม่ได้หยิบไปด้วย
ไม่นานนัก ห้องทํางานก็เหลือเพียงจารวีเพียงคนเดียว เธอสอดประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันอย่างใจลอย
เนิ่นนาน เธอจึงเดินไปที่โต๊ะ และลงมือออกแบบเสื้อผ้าต่อ ทำงานของตัวเองอย่างช้าๆ
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ยศพลขับรถมารับเธอด้วยตัวเอง
จาร หยิบแบบร่างของนิชากาติดมือมาด้วย เธอนั่งข้าง คนขับ พลางเปิดสมุดแบบร่างนี้ให้ยศพลด้วย
ดูสิ ว่าใครเป็นคนร่างแบบร่างเหล่านี้ขึ้นมา”
ยศพลปรายตามองเพียงแวบเดียว แล้วจึงหันไปขับรถ ต่อ” ฉันดูไม่ออก”
นิชาภาเป็นคนวาด”
ยศพลหันหน้ามามองจารวี” ยัยนั่นยังมาหาเธออีกหรอ”
ใช่ เธอมาบอกว่าจะทำการแย่งชิงคุณไปจากฉันอย่าง ยุติธรรม ยศพล คุณบอกฉันสิ ว่าทำไมถึงมีแต่คนแย่งคุณ กันนะ” จารวีรู้สึกไม่สบอารมณ์ ยัยนิชาภาคนนี้ ทําตัว ราวกับดินโคลน ที่ตามติดยศพ ไม่ยอมไปไหน แม้ว่าจาร และเขาจะมีลูกด้วยกัน แต่เธอก็กลับไม่ยอมเลิกลา เธอช่าง ยืนหยัดในความคิดของตนเสียจริง
ศพลบังคับพวงมาลัยอย่างเอ้อระเหย แล้วยังไง ขนาด ไอ้มนตรียังไม่ยอมรามือจากเธอง่ายๆเลย
อย่าพูดเพ้อเจ้อนะ พี่มนต์เขาคืนดีกับคุณสุรีย์วัลย์ตั้ง นานแล้ว ได้ยินมาว่าอีกไม่นานเขาก็จะแต่งงานกัน”
หลายวันมานี้ จารวีติดตามข่าวสารบ้านเมือง เห็นพวก เขาแสดงความเป็นคู่รักออกมาต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นปกติ ธุรกิจของบ้านมนตรีก็ค่อยๆค่อยๆฟื้นตัวขึ้น
ถ้ายึดตามแนวโน้มของเศรษฐกิจที่สูงขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่ นานนี้ พวกเขาก็คงจะแต่งงานกันแล้วล่ะ!
ยศพลแสยะยิ้มที่มุมปาก”ดูเหมือนว่า เธอยังคงเฝ้า ติดตามมันตลอดเลยนะ!”
หึงหวงเธออีกแล้ว!ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ไม่มีเหตุผล เอาซะเลย
จาร ส่งเสียงหัวเราะออกมาขี้หึงจริงๆเลย เรื่องมันผ่าน ไปนานขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่ลืมมันอีก คุณนี่มันเป็นผู้ชายใจน้อยจริงๆ
หมุนพวงมาลัยอย่างฉับพลัน เขาเหยียบ เบรกหยุดรถให้หยุดลงที่ข้างทางอย่างกระทันหัน
ดวงตา คลับของยศพลจ้องมองมายังเธอพูดว่า ใจน้อยนะ?”
จะหัวเราะร่วน” อย่ามัวแต่ก่อความวุ่นวายรีบขับรถ กลับบ้านเร็วเข้า
ยศพลเลิกคิ้วขึ้น มุมปากของเขาแสยะยิ้ม รอยยิ้มที่ชั่ว ร้ายปรากฏออกมาจากใบหน้าของเขา ทันใดนั้น ยศพล ปืน ข้ามฝั่งมายังเบาะของเธอ
นี่คุณจะทําอะไร!!!
“อะไร ฉันจะลงโทษเธอยังไงล่ะ ! เธอกล้าบอก ว่าฉันใจน้อยยังงั้นหรอจารวี เรื่องนี้เธอต้องชดใช้”
จารวีรับเบี่ยงตัวหลบ แต่น่าเสียดายที่เธอถูกเขาจับไว้ อย่างแน่นหนา ร่างทั้งร่างของเธอถูกเค้ากดลงบนเบาะ
จุมพิตที่ร้อนผ่าวของเขาจู่โจมเข้าหาเธอ ตั้งแต่ที่เขาเข้า โรงพยาบาลตอนนั้น ก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว เขาทั้งสองไม่ได้ ใกล้ชิดกันอย่างนี้มานานมาก
ไปที่ใบหูของเธอ เสียงลมหายใจที่หนักหน่วง ผ่านริมฝีปาก และเปียก
พล เรากลับไปทํากันที่บ้านดีกว่าไหม
“จารวี เธอนี่มันน่าไม่อายจริงๆเลย ไม่คิดเลยว่าจะชวนฉัน กลับไปทําที่บ้าน
เสียงของเค้าแหบพร่า เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความ ปรารถนา
เค้ากดเธอลงบนที่นั่งด้านหลังอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปาก ร้อนผ่าว รุกล้ำโพลงปากของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงหายใจหอบถี่ของทั้งสองฝ่าย ดังสลับกันไปมา ฝ่ามือหนาของเขา สอดแทรกเข้าไปในผมนุ่มของเธอ เค้าปลดตะขอในของเธอออก พลางบทจูบอย่างหนัก หน่วง
จารวีถูกเขากดจูบอย่างบ้าระห่า ไม่นานนักสติของเธอก็ เริ่มเลือนลาง
เพียงแค่เขาจุมพิตเธอ ก็ทำให้เธอยอมศิโรราบอยู่ภายใต้ อาณัติของเค้าอย่างว่าง่าย
เค้าขบเม้มใบหูของเธอ พลางลากเกรียวอ่อนนุ่มไป มา ของเหลวในร่างกายของเธอสบฉีดอย่างเต็มที่
มือหนาออกแรงดึงทิ้งเสื้อเชิ้ตปักลายสีดำของเธอขึ้น จนถึงคอระหง พลันผิวกายที่ขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็เผยให้ เห็นอย่างไม่มีอะไรมาบดบัง
อปาน: ยศพล นี่มันบนถนนนะ จะทำตรงนี้ไม่ได้
จาร พยายามยกสองมือขึ้นมาปกปิดหน้าอกสองข้างของ ตนไว้ เธอพยายามหลีกเลี่ยงอย่างขวยเขิน
สถานที่แห่งนี้คือถนนคนเดิน ผู้คนไปไปมามากันอย่างไม่ ขาดสาย บ้างก็เดินเฉียดเข้ามาใกล้ตัวรถของพวกเขา บ้างก
หยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของตัวรถ
มองออกไปจากด้านในเช่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกราวกับกำลัง ถูกคนเดินถนนเหล่านั้นล้อมรอบ
ฮาๆ พวกเขามองไม่เห็นหรอก”
ยศพลกตจูบเธออย่างเอาแต่ใจตัวเอง ราวกับว่าการ กระทําเหล่านี้ทำให้ความปรารถนาของเขารุนแรงยิ่งขึ้น
ใบหน้าที่ร้อนผ่าวของเขา แนบสนิทไปกับผิวนุ่มละมุน ราวกับเด็กทารกของเธอ เขาบดจูบมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความรู้สึกขาวาบ แล่นจากไปลายเท้าของเธอขึ้นมา มัน ค่อยๆจู่โจมเข้าสู่โสตประสาทของเธอ ทำให้ สติของจะราว ค่อยๆเลือนลางอย่างช้าๆ
เขาตึงทิ้งปราการชิ้นสุดท้ายบนตัวของเธอจนขาดวิ่น ยศพลก้มหัวลงไปดูดเม้มบริเวณกลีบกุหลาบเนียนนุ่มสีชมพู ค่อยๆลากไล้เรียวลิ้นไปมา จากนั้นจึงออกแรงดูดเม้ม ราวกับเด็กทารกที่หิวกระหาย เค้าหลงใหลเธอจนไม่อาจ หยุดยั้งการกระทําลง รสชาติหอมหวานจากร่างกายของเธอ ถูกเขาซึมซับเข้าไปในโพรงปาก
ร่างกายของจาร ไป พลัวไปมา ในขณะที่เธอกำลัง สะลึมสะลืออยู่นั้น ร่างกาย ย้าของเขาก็ได้สอดใส่เข้าไป ในตัวของเธออย่างช้าๆ
“เวลาสามเดือนเต็มๆ มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก”
ยศพลหายใจหอบถี่ สองมือของจาร คว้าไว้กับเบาะรถ แน่น ราวกับกลัวว่าตัวเองจะร่วงหล่นลงไป
เธอและเขาแนบชิดกัน จนแทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็น ใคร ไม่มีช่องว่างตรงกลางเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น เธอรู้สึกว่าเบาะที่นั่ง ด้านหลัง เต็มไปด้วยจังหวะโครงเครง ยศพลเป็นคนควบคุม มันช่างน่าอาย…..
ความรู้สึกค่อยๆไกลออกไปจากโลกความเป็นจริงบริเวณ รอบ เหลือไว้เพียงจินตนาการ สายตาของจารวีค่อยๆพร่า
เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเธอดูอ่อนแอ เมื่ออยู่กับเขา
เมื่อเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ทั้งตัวของเธอ อยู่ในวงแขนแกร่ง เขาโอบอุ้มเธอ ราวกับนกน้อยที่หดตัวอยู่ ภายใต้อกแกร่ง
บนร่างกายของเธอถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อสูทของเขา ร่างกายอรชรอ้อนแอนของเธอสามารถรับรู้ได้ถึงวงแขนที่ แข็งแกร่ง
ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ เธอวาดวงแขนเรียวเล็กอบบาท ของเก่า
แขนของคุณยังเจ็บอยู่ไหม?”
ศพล มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องห่วงหรอกว่ามันจะ เจ็บหรือไม่เจ็บ เธอสะสบายไหม รัก!”
ใบหน้าที่งดงามข็นสีแดงระเรื่อ จาร หดคอหลบเข้าไปใน แผงอกกว้าง ไม่สบาย! เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
ยศพลยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน” ไม่สบายงั้นหรอ? งั้นคืน นี้ก็ทําอะไรที่มันเร้าใจกว่านี้หน่อยเป็นไง” “ไม่ได้นะ จารวี รู้สึกกลัว เธอยื่นมือออกไปอย่างยอมจํานน” คุณหมอบอก แล้วว่าสามเดือนแรกทําไม่ได้”
สามเดือนแรกก็ผ่านไปแล้วนี่ ฉันเฝ้านับวันอยู่ วันนี้ครบ สามวันพ่อ ”
จารวีเกลียดเขาจนแทบอยากจะวิ่งชนกำแพงตาย ผู้ชาย คนนี้ลงทุนนับคืนนับวันเพื่อสิ่งนี้เลยเหรอ มิน่าล่ะ เขาเล่น แบบนั้นกับเธอซะจนตัวรถสั่นไปหมด ที่แท้ก็ทนไม่ไหวแล้ว นี่เอง
นี่คุณ คุณนี้มันหน้าด้านชะมัดเลยยศพล!
“จารวี ใจคอเธอจะปล่อยให้ฉันเฉาตายเลยหรือไง?”
ช่วงเวลานี้ ยศพลต้องหาวิธีอื่นมาระบายอารมณ์ มันเป็น อะไรที่ทรมานมาก
เขาโอบกอดผู้หญิงงดงามราวกับดอกไม้แบบเธอไว้ในอ้อมกอดทุกวัน แต่กลับสัมผัสไม่ได้ ความรู้สึกนั้นยอมตาย จะ กว่าอยู่เล่นอีก
แต่ตอนนี้ ในที่สุด สั่งห้ามก็สิ้นสุดลง เขาจะเติมเต็มใน สิ่งที่ขาดหายไปกลับมาให้หนําใจ
ศพลวางจาระวีลงบนเตียง เขาเข้าไปในครัวสักพัก จากนั้นจึงยกอาหารที่ลงมือทําให้จาระวีทานด้วยตนเองออก มา
เขาจะป้อนมันให้แก่จะราวี
“ให้ฉันทานเองเถอะ!”จาร ค่อนข้างอีดอัดใจ ผู้ชายคนนี้ ทําไมถึงขยันนักนะ จะลงมือป้อนข้าวให้เธอทานเองงั้นเห รอ?”
เธอกินข้า ให้ฉันป้อนเธอดีกว่าจะได้เร็วๆ พอกินเสร็จ พวกเราจะได้เริ่มเกมกันต่อ! ”
นีคุณ!!”จารวีแทบจะพ่นข้าวออกมาจากปาก