ศพ – ตอนที่ 335 วิชาร่างจริงห้าชีวิต

ตอนที่ 335 วิชาร่างจริงห้าชีวิต
ตอนที่ 335 วิชาร่างจริงห้าชีวิต
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจ้าแมวตัวนี้จะร้ายกาจถึงขนาดนี้
ไม่รู้จริงๆว่าเจ้าแมวตัวนี้จะแข็งแกร่งกว่าเมื่อกี้ที่เท่าตัว แต่สิ่งที่ทําให้เรารับไม่ไหวที่สุดคือ เจ้าแมวตัวนี้ยังแยกร่างออกมาได้อีก
เจ้าแมวพวกนี้เหมือนเจ้าปีศาจแมวนั่นเป๊ะ แต่ละตัวต่างดุร้าย และยังเข้าขากันได้ดีอีกต่างหาก
อุ้งเท้าแต่ละข้างต่างมีพละกําลังมหาศาล ไม่มีทางที่เราจะต้านไหว มันร้ายกาจจนผิดปกติ
ตอนนี้พวกเราห้าคน กําลังสู้กับแมวแต่ละตัว
และพวกมันยังมีหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ เพิ่งสู้กันได้สองนาที พวกเราก็แยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร
ตอนแรกเรากําลังตกใจ ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ท่านนักพรตตู๋กลับพูดขึ้นมาในเวลานี้ “ไม่ต้องตกใจ นี่เป็นแค่การอําพรางตาของเจ้าแมวนี่ มันต้องใช้วิชามารบางอย่างทําให้พวกเราสับสน เจ้าเดรัจฉานนี่ไม่ใช่แบคทีเรีย มันไม่มีทางแยกร่างได้แน่ๆ !”
เสียงตะโกนของท่านนักพรตตู๋ ทําให้ทุกคนได้สติกลับมาอีกครั้ง เหมือนได้กินยาสงบใจเข้าไปเม็ดหนึ่ง
ท่านนักพรตคู่พูดถูก ในหมู่แมวห้าตัวนี้ ต้องมีเพียงแค่ตัวเดียวที่เป็นร่างจริง ส่วนอีกสี่ตัวเป็นแค่ตัวปลอม
มันจะต้องเป็นวิชามารบางอย่างของเจ้าปีศาจแมวนี่ เพียงแต่พอพวกเราต้องมนต์แล้ว ก็ยากที่จะสลัดออกได้ เลยทําให้พวกเราคิดว่าเจ้าแมวห้าตัวนี้เป็นของจริงทั้งหมด
ตอนนี้พวกเรามั่นใจได้แค่นี้ พอใจเริ่มสงบขึ้นมาเล็กน้อย ก็มองออกว่าเป็นแค่วิชาพรางตา
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่สิ่งที่พวกเราเห็นและรับรู้ได้ ก็ดูเหมือนจริงมาก
หากปล่อยให้มีช่องโหว่เล็กน้อย ก็อาจได้รับบาดเจ็บได้
พวกเราสู้กับแมวคนละตัว จนเวลาผ่านไปสิบกว่านาที ในเวลานี้เห็นได้ชัดว่าพวกเราเริ่มเหนื่อยแล้ว
และยังดูไม่ออกว่าตัวไหนคือตัวจริงฃ
เดิมที่ร่างกายของพี่เฟิงก็บาดเจ็บอยู่แล้ว และยังไม่หายดี ในเวลานี้ยังเข้าไปต่อสู้อย่างดุเดือด แผลที่หน้าอกจึงเริ่มปริ และมีเลือดสดๆไหลออกมาแล้ว
สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นคือ จนถึงตอนนี้ เราก็ยังหาวิธีทําลายวิชาพรางตาไม่ได้
“เมียว” มันร้องออกมาอีกครั้ง อุ้งเท้าของเจ้า แมวแก่กวาดไปทางเหล่าฉัน
เหล่าฉินหลบไม่ทัน เขาโดนซัดเข้าไปเต็มๆ
“แควก” ไหล่ของเหล่าฉันโดนข่วนหลายแผล เลือดสดๆ ไหลหยดออกมาทันที
“เหล่าฉัน !” อาจารย์ตะโกน
“ศิษย์พี่ !” ท่านนักพรตคู่ก็รีบพุ่งเข้ามา เอื้อมมือไปประคองตัวเหล่าฉันเอาไว้ และโจมตีไล่เจ้าแมวตัวนั้นให้ออกไปทันที
“สมควรตาย ประมาทไปหน่อย อ่างแกไม่ต้องมาสนใจฉัน รีบคิดวิธีทําลายวิชาพรางตาของมันเร็ว !” เหล่าฉันพูดเสียงดัง
แต่ท่านนักพรตตู๋กลับทําหน้าลําบากใจ ท่านนักพรตตู๋และอาจารย์ก็ลองหาทางทําลายวิชาพรางตานั้นหลายวิธีแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผลเลยสักธี
ในเวลานี้เจ้าแมวเฒ่าตัวนั้นกลับหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่าฮ่า” “ไร้น้ํายา ข้าเป็นภาพลวงตาในสายตาพวกเจ้า และเป็นตัวจริงในสายตาพวกเจ้าด้วย !”
หลังจากพูดจบ แมวห้าตัวนั้นก็ร้องออกมาพร้อมกัน
“เบี้ยว !”
คราวนี้เสียงของดังก้องป่า แพร่พลังปีศาจเป็นระลอก และในเวลาเดียวกันก็กําลังจะลงมือกับพวกเราอีกครั้ง
พวกเราทําได้แค่ตั้งรับ คิดไม่ออกจริงๆว่าควรทํายังไง
ห้ารุมหนึ่ง ตอนนี้กลับโดนเจ้านั้นข่มซะแล้ว แถมยังเหมือนจะโดนอีกฝ่ายฆ่ายกทีมอีกด้วย
แต่จะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นได้ยังไง ผมคิดไม่หยุด จะมีวิธีอะไรบางที่สามารถแก้สถานการณ์นี้ได้
การบล็อกการโจมตีเมื่อกี้ ทําให้ผมเริ่มรู้สึกว่าแขนจะชาแล้ว พอเห็นเจ้าแมวแก่เตรียมตัวจะเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
ผมก็กัดฟัน จะทํายังไงดี จะทํายังไงถึงจะทําลายการพรางตาของเจ้าปีศาจแมวนี้ได้
ในขณะที่ผมกําลังคิดหนัก จู่ๆในสมองก็มีแสงแวบขึ้นมา
ใช่แล้ว ผมมีกระดิ่งทองแดงอยู่นี่นา
ก่อนหน้านนี้กระดิ่งทองแดงช่วยสยบผีชุดเหลีองได้พอสมควร ถ้าใช้กระดิ่งกับเจ้าปีศาจแมว มันอาจจะได้ผลก็ได้
หากอีกฝ่ายเปิดเผยช่องโหว่ออกมา บางทีพวกเราอาจจะหาตัวจริงของมันเจอ ทําลายวิชามารของอีกฝ่าย
และคลายวิชาพรางตาตรงหน้าพวกเราก็ได้
แม้นี้จะเป็นแค่ความคิดของผม แต่ยังไงตอนนี้ก็ต้องลองทําดูก่อน
ผมไม่ลังเล รีบหยิบกระดิ่งออกมา และแกะเทปกาวในกระดิ่งอย่างรวดเร็ว
มองไปที่เจ้าปีศาจแมวที่กําลังพุ่งเข้ามาแล้ว ผมก็เริ่มสั่นกระดิ่งทันที
“กริ้งกริ้งกริ้ง” กระดิ่งทองแดงอันนี้เป็นสมบัติลับที่หลงเหยียนให้ผมเอาไว้
ตอนที่ผมเพิ่งเริ่มสั่น มันก็เปล่งเสียงดังฟังชัดผิดปกติ
และในขณะที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น เจ้าแมวห้าตัวที่กําลังพุ่งเข้ามา ก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด และยังตัวสั่นไปพักหนึ่งด้วย หรือแม้แต่พองขนคอ ออกมา
ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นคือ จู่ๆผมก็พบว่าเจ้าแมวแก่ตรงหน้า เบี่ยงตัวหลบพักหนึ่ง ตัวมันโปร่งใสขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที
เจ้าแมวแก่เป็นสัตว์ประหลาด เจ้าสัตว์ประหลาดแบบนี้ไม่ใช้ผีเร่ร่อน พวกมันมีร่างกาย แล้วจะโปร่งแสงได้ยังไง
แม้จะโปร่งแสงเพียงแวบหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่สั้นมากๆ
แต่ผมกลับมั่นใจ แมวที่กําลังพุ่งเข้ามาหาผมเป็นตัวปลอม
เพิ่งคิดถึงตรงนี้ ท่านนักพรตตู๋และพวกอาจารย์ ก็เห็นจุดนี้เช่นกัน ทุกคนต่างทําหน้าดีใจ
อาจารย์รีบพูดขึ้นมาคนแรก “ใช้ได้นิ เสี่ยวฝานสั่นต่อไป !”
เป็นธรรมดาที่ผมจะไม่รอช้า สั่นกระดิ่งต่อไปทันที
ภายใต้เสียงกระดิ่งเจ้าแมวแก่ตัวนั้นค่อนข้างลําบาก เห็นได้ชัดว่ามันเริ่มหงุดหงิดแล้ว
แมวทั้งห้าตัวต่างร้อง “เบี้ยว” ออกมา แล้วพุ่งมาทางผมทันที
แต่ตอนที่พวกมันพุ่งเข้ามา แมวสี่ตัวนั้น ก็ตัวโปร่งแสงพักไปหนึ่ง มีเพียงแมวตัวซ้ายเพียงตัวเองที่มีตาเรืองแสง และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
มันชัดเจนมาก ตัวซ้ายสุดก็คือร่างจริงของเจ้าแมวแก่ ส่วนอีกสี่ตัวที่เหลือ คือตัวปลอม
พอทุกคนเห็นสิ่งนี้ ก็ไม่สนใจแมวอีกสี่ตัว ทุก คนจ้องแมวตัวซ้ายสุดตาไม่กระพริบ
“ที่แท้แกก็อยู่ที่นี่ !” เหล่าฉันตะโกน และยกดาบเข้าไปแทง
“ไอ้แมวปีศาจ เอาชีวิตแกมาให้ฉันซะ !” พี่เฟิงตะโกน
“เดรัจฉาน !” อาจารย์ด่าทันที
ท่านนักพรตตู๋ก็เค้นเสียง ฮีอย่างเย็นชา “เดรัจฉาน !”
ทั้งสี่คนรุมโจมตี ที่เจ้าแมวตัวนั้น
จู่ๆเจ้าแมวตัวนั้นก็เห็นพวกเรารู้ตัวจริงของมัน แล้วมันเลยเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา มันจะกล้าปะทะกับพวกเราตรงๆได้ยังไง หลังจากนั้นมันก็รีบถอยไปด้านหลังทันที
และในตอนที่มันถอยหนี แมวสี่ตัวที่พุ่งมาทาง ผมก็ส่งเสียงดัง “ปัง” พวกมันระเบิดกลายเป็นควันสีดํา
และจางหายไปในทันที
ตอนนี้ เหลือเพียงร่างจริงของเจ้าแมวแก่เท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน พวกอาจารย์ก็เข้าไปอยู่ในรัศมีสังหารแล้ว แต่ละคนต่างลงมือจู่โจมอย่างต่อเนื่อง
แสงดาบเปล่งประกาย ฟาดฟันเอาชีวิตเจ้าแมวปีศาจ
ตอนนี้ตัวเจ้าแมวมีพลังเยอะขึ้น มันเลยใช้ร่างกายที่คล่องแคล่วว่องไวของตัวเอง หลบและโจมตีกลับ
แต่สองมือจะสู้กับสี่แขนได้ยังไง เมื่อไม่มีวิชาพรางตาแล้ว สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้
ได้ยินเพียงเสียง “เบี้ยว” ท้องของเจ้าแมวตัวนั้น โดนดาบของอาจารย์แทงเข้าไปตรงๆหนึ่งครั้ง
แม้จะไม่ได้ฆ่ามันในทันที แต่เจ้าแมวแก่ก็โดนบีบเข้าไปสู่มุมอับ ตอนนี้เหลือแค่เวลาเท่านั้นที่จะกําหนดความตายของมัน
เจ้าแมวแก่ทําหน้าโมโห เอามือข้างหนึ่งกุมท้ องตัวเองเอาไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหยิบกล่องไม้ที่ใส่แก่นหยินแดงเอาไว้ออกมา “อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามาทั้งหมดนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นข้าจะทําลายมัน !”
แก่นหยินแดงอยู่ในมืออีกฝ่าย ไหนเลยพวกเราจะกล้าทุ่มบ่าม
ทําได้เพียงล้อมเอาไว้ ไม่ได้ขยับเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว
พอเจ้าแมวปีศาจนั่นเห็นว่าพวกเราไม่ขยับ มันก็ใช้ใบหน้าที่ดุร้ายจองพวกเรา “เก่งนักนะเจ้าเด็กน้อย
ถึงกับทําลายวิชาร่างจริงห้าชีวิตของข้าได้ !”
ผลลัพธ์เสียงของมันเพิ่งเงียบลง อาจารย์ก็ตะคอกออกมาทันที “เดรัจฉาน อย่าว่าแต่ห้าชีวิตเลย กล้ามายุ่งกับพวกเรา ถึงวันนี้แกจะเอามาเก้า ชีวิตก็อย่าหวังจะเหลือรอดไปได้สักชีวิต……”
พอพูดจบ อาจารย์ก็ยกดาบขึ้น ทําท่าขู่จะใช้กําลัง
ผลลัพธ์ไม่รอให้อาจารย์พูดออกมาอีกครั้ง จู่ๆด้านหลังเราก็มีเสียงสายลมพัดเข้ามา “ฮฮ” ในหุบเขามีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น
อากาศรอบๆที่เคยอบอุ่น ลดลงหลายองศาทัน
ไม่เพียงเท่านี้ เสียงยายแก่ที่แหบแห้ง ก็ดังขี้นด้านหลังของพวกเรา “ข้าละอยากเห็นจริงๆ ว่าใครมันกล้ามาสามหาวขนาดนี้…..”
ศพ

ศพ

Status: Ongoing

หมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่รกร้าง พวกมันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าที่เงียบสงัด มันคือสถานที่ต้องห้ามสำหรับ คนเป็น …..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท