เมื่อยศพลเดินออกมาใหม่อีกครั้ง ทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนเป็น คนใหม่ อย่างกับคนที่จารวีเฟ่นเมื่อเข้าไม่ใช่เขา แต่เป็นภาพ จินตนาการของจาร
“บศพล คุณอยากทําอะไรกันแน่?
ในที่สุดจารวีก็ระเบิดออกมา เธอทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ยศพลหยิบเสื้อผ้าบนโซฟา โยนลงไปในตระกร้าเสื้อผ้า เปื้อนแล้ว
เขาไม่ปริปากพูดอะไร เส้นผมบนศีรษะดำขลับยังเปียก อยู่ เขาก็ไม่สนใจที่จะเข็ด
ทำเพียงเดินไปเดินมา ยุ่งอยู่ในห้อง เก็บกวาดสิ่งของที่ไม่
ใช้แล้ว
ทั้งย้ายตำแหน่งวางแจกัน ย้ายที่ตั้งโคมไฟ สุดท้ายก็มา นั่งอยู่ตรงข้ามจารวี
เขาล้วงซองบุหรี่สีทองออกมา หยิบออกมานวนหนึ่ง สายตามองจาร
“ผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณ…..
จารวีไม่คาดคิด ต่อหน้าเธอ เขาไม่เคยใช้คําปรึกษา
สองคำนี้
เขาเป็นคนเด็ดขาด ทําอะไรตามใจตัวเอง ไม่เคยคำนึงถึงความรู้ของเธอ
แต่ตอนนี้ เขากลับใช้คำว่าปรึกษาสองคำนี้
ในใจจารวีสับสนวุ่นวาย เธอรู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรสักอย่าง
เป็นแน่
สีหน้าซีดเซียว มือเรียวเล็กหยิบทิชชูขึ้นมาแผ่นหนึ่ง ม้วน นักอยู่ในมือ
“ไม่ต้องปรึกษาแล้ว ตัดสินใจแบบนี้แหละค่ะ”
ความใจเดีตของจาร ทําให้ยศพลตลึงเล็กน้อย เขาน มือไปเขี่ยบุหรี่ในจาน ใช้แรงกดอยู่อย่างนั้น จนไฟขี้เถ้าบุหรี่ เปื้อน ติดมือ จนไหม้ผิวหนังเขา ส่งกลิ่นแปลกๆออกมาเขาก็ ยังไม่รู้ตัว
เนินนานจนบุหรี่มวนนั้นกลายเป็นผง ยศพลถึงพูดว่า
“ไม่ง่ายที่คุณคิดได้แบบนี้ ผมรู้ว่าการทำแท้งสำหรับคุณ เป็นการทําร้ายอย่างห ง แต่ …..”
“คุณว่าอะไรนะคะ?” จารวีร้องออกมา เธอลุกขึ้นยืนจาก โซฟา มองยศพลด้วยสายตาโกรธเคือง ถามอีกครั้งอย่างไม่ มั่นใจ “ทําแท้งลูก? ความติดสินใจที่คุณพูดหมายถึงการ ทำแท้ง? ยศพล คุณสารเลว คุณจะสารเลวกว่านี้อีกไหม?”
จารวีเอาทิชชูที่ม้วนอยู่ในมือ โยนไปที่มือยศพล มือทั้ง สองของเธอกุมหน้าไว้ แล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
รออยู่ตั้งนาน คาดหวังมาตลอด คิดไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
*สารเลว สารเลว คุณมนเหี้ยมโหด ยศพล คุณมันไม่ต่าง อะไรกับสัตว์เดรัจฉาน
จารวีพูดอยู่อย่างนั้นหลายรอบ แล้วเธอก็หมุนตัว พุ่งไป ยังตู้เสื้อผ้า แล้วก็จัดแจงแต่งตัวให้ตัวเอง
แล้วเธอก็เก็บเสื้อผ้าในตู้ไม่กี่ชุด ใส่ลงไปในกระเป๋าเดิน
ทางและพูดอย่างโมโห
“สารเลว ในโลกไม่มีพ่อคนไหนที่เหี้ยมโหดอย่างคุณ ถ้ารู้ ว่าคุณไม่ชอบเด็กคนนี้
ตั้งแต่แรก ฉันคงไม่มาอยู่ที่นี่”
ยศพลจับหัวไหล่เธอ กดเธอไว้กับเตียง “คุณใจเย็นๆ ฟัง ผมอธิบายก่อนดีไหมครับ?”
ศีรษะน้อยของจาร สายอยู่บนเตียง สายอย่างสุดชีวิต
ฉันใจเย็นแล้ว และมีสติที่สุด คุณอย่าเข้าใจผิด ที่ทําให้ “ คนไม่อิสระคือฉัน ไม่ใช่เด็กคนนี้ ถ้าคุณไม่ชอบเขา งั้นฉันก็ จะพาเขาไปเดี๋ยวนี้ เราสองแม่ลูกจะหายสาบสูญจากชีวิต คุณ จะไม่มารบกวนอีกตลอดไป ได้ไหมคะ?”
ยศพลคุกเข่าอยู่ข้างกายเธอ จับมือเธอขึ้นมา ยื่นหน้าจ้อง มองกัน
“จารวร…” เขาพูดอย่างสุขุม “คุณใจเย็นๆก่อนได้ไหม?”
จากวีร่าให้ ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
“ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากฟังคุณพูดอะไรอีก คุณปล่อยฉัน ขตพล ขอแค่ปล่อยฉันออกไปจากห้องนี้ ฉันจะรีบจากไป ไกลๆ รับร้อง ว่าจะไม่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน
เสียงจารวีแหบ ร้องไม่หยุด จนไม่สามารถควบคุมได้
ยศพลกลัวหาเธอเจ็บ งกดทับเธอไว้ แต่ขาเขาวางอยู่ อยู่ด้านข้างเธอ
เสียที่ตอนนี้ จารวีไม่รู้สึก เธอรู้แต่ว่า ยศพลต้องการกำจัด ลูกของเธอ
ผู้ชายคนนี้ เด็ดขาดเกิน คิดถึงแต่ตัวเอง แม้ลูกตัวเองก็ยัง จะไม่เอา
ช่างไม่มีความเป็นคน เธอทําไหมตาบอดยอมอยู่กับคน
จารวี ง าร้อง ความอดทนของยศพลก็ค่อยๆทลายลง
“จารวี หยุดร้อง แล้วหันมามองผม….”
จารวียิ่งดิ้น อ้าปากกัดแขนเขา ในใจเธอที่สงสัยเขา โกรธ เกลียดเขา ไม่พอใจเขา ล้วนระบายที่ปากนี้
ยศพ เจ็บปวด แต่ก็แค่ขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เธอ กัดอย่างตามใจ
จารวีรู้สึกถึงกลิ่นเลือดอุ่นๆในปาก ถึงยอมปล่อยปาก
แขนของเขาโดนเธอตจนมองไม่เห็นหนังเนื้อ เลือดสดๆ ไหลอาบ น่าสยดสยอง
จารวี ตกใจ สายตาจ้องมองเขา และเขาก็จ้องมองเธอ
อย่างสุขุม
” ดอีกไหม? ก็ตพอใจหรือยัง?”
น้าเสียง ศพ ไม่ค่อยพอเสียง
จารวีนอนลงอย่างหมดแรง
เลือดยังคงไหลอยู่ เขาไม่บ่นเจ็บ และไม่ต่อว่าเธอสักนิด
เขาอุ้มเธอสูงขึ้นอีกนิด ให้เธอนอนหนุนหมอน เขานอน อยู่ข้างเธอ ใช้แขนหันหน้ามา
มองเธออยู่แบบนี้
“ฟังนะ ผมตั้งใจมาปรึกษาคุณ คุณอย่าร้องแบบนี้ดีไหม? คุณร้องแบบนี้ คนใจจะคิดว่าผมข่มขู่ คุณนะ”
จารวีรับปาก สะบัดหน้าไม่มองเขา อย่างโมโห
ยศพลยื่นมือ จับหน้าเธอให้หันมา มองตากัน
จารวี คนยังสาว อายุขนาดนี้ไม่เหมาะที่จะมีลูก ผมรู้ การ ตัดสินใจทําให้คุณเจ็บปวด
มาก แต่เพื่ออนาคต เราแท้งลูกก่อนนะ คุณวางใจได้ผม หาหมอไว้อย่างดี คุณจะไม่เจ็บเลย แปบเดียวก็เสร็จ รอคุณโตกว่านี้หน่อย.รอผม/เตรียมพร้อมแล้ว เราค่อยมีลูกกันอีก ไหมครับ?
เสียงพูดเขาสุขุม จารกลับเจ็บปวดที่สุด
เธออยากตาเขามาก อยาก อยากมาก…
แต่เธอก็ไม่ทํา
เธอทำเพียงนอนนิ่งๆไม่พูดอะไร แล้วหัวเราะที่มุมปาก
คุณตกลงแล้วม ไหมครับ?” น้ำเสียงยศพลถามอย่าง อ่อนโยน
“ยศพล เซ็กส์สําคัญกับคุณมากเลยหรอ?
จารวีถามอย่างเย็นชา ยศพลสะดุ้ง พักใหญ่กว่าจะเข้าใจ
เขาจึงหัวเราะอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “แน่นอน หรือมันไม่ สําคัญสําหรับคุณ?”
สมองน้อยๆนี้ ไม่รู้คิดอะไรอยู่?
จารวีผิดหวังมาก พูดได้ว่าผิดหวังอย่างที่สุด
“เป็นไง คุณยอมตกลงทําแท้งไหม?” ยศพลถามขึ้นอีก ครั้ง
เมื่อถามขึ้นแต่ละครั้ง หัวใจจาร รู้สึกเหมือนตกอยู่ใน หุบเหว เยือกเย็นและผิดหวัง
ตอนนี้ตรรกยังเล็กแห่งก็จะไม่เจ็บเท่าไหร่…
“ให้ฉันได้ดูก่อน…หลับตา
ยศพลเห็นจาร สงบลง จึงลุกขึ้นจัดแจงชุดสูท “ผมจะไป
บริษัทแล้วนะ”
จารวีรีมถามขึ้น เมื่อคุณไปเรือสําราญเรือไหน?”
ยศพลตอบอย่างไม่ต้องคิด “น่าจะเป็นเรือสําราญควีน
นะ”
จารวีลุกขึ้น เดินไปห้องน้ำ “ฉันรู้แล้ว
เมื่อจารวีอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกมา ยศ พลก็ไม่อยู่แล้ว
“คุณผู้หญิง ลงไปทานข้าวเช้าเถอะค่ะ”
น้าอามขึ้นมาตามอีก มองเห็นเสื้อกองเต็มที่นอนก็สะดุ้ง ถาม “คุณผู้หญิงจะไปไหนคะ?”
“เปล่าคะ แค่อยากเลือกเสื้อผ้า ปล่อยฉันเถอะ ฉันจะลง ไปทานข้าวเช้า”
จารวีเดินผ่านน้าอาม มาถึงที่ห้องอาหาร
ยศพลเพิ่งออกมาจากห้องอาหาร เข้ามากอดเธอ จูบบน
หน้าผาก “คุณทานข้าวเช้า
ก่อนนะ ผมจะไปเตรียมแพทย์
เมื่อ ยังยอมให้เธอดีตก่อน ตอนนี้ทำไมจะไปเตรียม
แพท แล้ว
ศพล คุณทําไมไม่สารเลวให้มากกว่านี้ จาร คิดในใจ
เงารางยศพลกับนิรัน เดินตามหลังกันออกจากห้องอาหา ค่อยๆลับสายตาจารวีไป
โลกของจาร กลายเป็นสีเทา
อาหารเช้าที่ไร้รสชาติ จารวีพยายามกลืนอาหารลงท้อง อย่างทรามาน
ลูกรัก แม่จะรักและดูแลหนู ไม่ว่าใครจะอยากกำจัดลูก แม่ก็จะไม่ยอมเด็ดขาด
แม่จะคลอดหนูออกมา แล้วเลี้ยงหนูจนเติบโต
ข่าวในทีวีก้าลังรายงาน
…ข่าวบันเทิงล่าสุด บนเรือสําราญคลิฟฟ์ มีงานเลี้ยง รื่นเริงขนาดใหญ่ หลังเลิกงาน
เลี้ยงแล้ว บนเรือมีถุงยางใช้แล้วกว่าสองพันชิ้น มีคนเล่า ว่า นั่นเป็นงานเลี้ยงฟรีเรือนร่าง คนที่เข้าร่วมงานล้วนเป็นสาว สวยวัย สิบแปด ยังมีสไมล์ดาราผู้โด่งดัง….
จารวีเหมือนมีอะไรติดคอ สําลักหนักมาก
เธอรู้สึกหายใจไม่ออก เรือสําราญคลิฟฟ์ เรือสําราญค ลิฟฟ์ ที่แท้เมื่อคืนยศพลไปปาร์ตี้ทำกิจกรรมหมู่กันหรอ?
เธอรู้ รังเกียจ พลขึ้นมาทันที
“คุณผู้หญิง เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?
น้าอามเห็นจารวี วกอยู่ในห้องน้ำ รีบวิ่งมาถาม
จารวีโบกมือ แล้วใช้น้ำบ้วนปาก นั่งอยู่ในห้องน้ำแบบหนึ่ง แล้วถึงเดินออกมาอย่างเฉยเมย
“ไม่เป็นไรคะน้าอาม แค่ไม่สบายนิดหน่อย วันนี้หนูจะไป ดูบริษัทหน่อยนะคะ คําๆหน่อยค่อยกลับมา
เห็นสีหน้าจาร ไม่เป็นไรแล้ว และปกติดี น้าอามจึงหาย
ห่วง
“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายไม่อนุญาตให้คุณไปไหนนะคะ คุณผู้หญิงจะโทรบอกคุณผู้ชายหน่อยไหมคะ?
ฉันก็ไม่ได้ไปไหน แค่จะไปบริษัท เขายุ่งขนาดนั้น อย่า เอาเรื่องเล็กน้อยไปรบกวนเขาเลย”
จารวีพูดอย่างมีเหตุผล น้าอามจึงไม่เกี่ยงอะไร อย่างน้อย คุณผู้ชายก็ไม่ได้บอกห้าม
คุณผู้หญิงไปออฟฟิต
งั้นนําไปเป็นเพื่อนนะคะ เผื่อมีปัญหาอะไรระหว่างเดิน ทาง จะได้ช่วยเหลือทัน” น้า
อามออกความเห็นอย่างห่วงใย
จาก หันมามอง แล้วลากเสียงยาว ด
น้าอาม ฉันไปทำงาน ไม่ได้ไปเดินห้าง ไม่จําเป็นต้องไป เป็นเพื่อน ต่อให้มีปัญหาอะไร ข้างกายฉันก็ยังมีพนักงาน มากมาย
พวกเขายังหนุ่มและแข็งแรงกว่าน้า วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่
เป็นไร
จารวีปฏิเสธความหวังดีของน้าอาม
นิรันไม่อยู่ เธอจึงขับรถเอง
รถสปอร์ตเฟอร์รารี่ค้นสีแดง ที่ยศพลเป็นคนซื้อให้เธอ
ขอโทษนะ ฉันไม่มีทางเลือก
จารวีขับรถสปอร์ตออกประตูไป ขับไปจนถึงสนามบิน จอดรถ แล้วเดินออกจากสนามบิน โบกรถแท็กซี่โดยสารมา ถึงสถานีรถบัส จะไปจากเมืองนี้แล้ว ในใจลึกๆของเธอรู้สึก ไม่อยากไป
แต่เพื่อลูก เธอต้องไป
เธอไม่รู้ ว่าเธอมีความสําคัญกับยศพลขนาดไหน
แต่เธอจะไม่ยอมให้ใครมีคิดร้ายกับลูกของเธอ
รถค่อยๆเคลื่อนออกจากสถานี ในใจจารวี ก็ค่อยๆสงบลง
ตอนเที่ยง ย พลโทรศัพท์กลับมา น้าอามรับโทรศัพท์
“คุณชายสาม
จาร ไปตายที่ไหนแล้ว? ทำไมไม่รับโทรศัพท์
“คุณผู้หญิงบอกว่าจะไปทำงานที่บริษัทค่ะ”
ทํางาน ออกจากบ้านตั้งแต่กี่โมงแล้ว?
น้ำเสียงยศพลตื่นเต้น ทำให้น้าอามก็รู้สึกใจไมตี
“ก็หลังจากที่คุณผู้ชายออกไปไม่นาน คุณผู้หญิงบอก อยากไปบริษัท แล้วเธอก็ขับรถไปเอง…
“จีเงา ปล่อยให้เธอออกไปคนเดียวได้ยังไง..”
“คุณผู้ชายคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิงหรือเปล่า คะ?”
น้าอามถามอย่างไม่สบายใจ เสียงที่ตอบกลับมา มีเพียง เสียงวางสาย