รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน – ตอนที่ 153

ตอนที่ 153

บทที่ 153 ถ่ายทอดสด

Elisมองที่ภาพแล้วทำหน้าตาเยาะเย้ย พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “โอ้ ทำหน้าดูน่าสงสาร แล้วยังเหมือนกับคนอมทุกข์”

หลินเวยมี่มองพวกเขาแล้วขมวดคิ้ว พยายามผลักเฉินเห้าหมิงมาอีกด้านหนึ่ง แล้วพูดด้วยความโมโห “พวกคุณคิดจะทำอะไรกัน?”

สีหน้าของเฉินเห้าหมิงไม่ค่อยดีนัก พูดด้วยความไม่พอใจ “Elisคุณมาทำอะไร?”

Elisทำหน้าไม่สนใจ นั่งลงที่เก้าอี้แล้วยิ้มเบาๆ “แน่นอนมาดูการถ่ายทอดสดน่ะสิ”

สีหน้าของหลินเวยมี่น่าเกลียดมากขึ้น ยิ่งนานยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ จิตใจเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข สะเทือนไปถึงรากประสาท

ทำไมเฉินเห้าหมิง? คุณยังต้องกลัวคนเห็น Elisถามด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม ในมือก็ยังขยับกล้องไปมาตลอดเวลา “พวกคุณเร็วๆเข้า เวลาของฉันมีจำกัด”

“Elis อย่าทำเกินไป” เฉินเห้าหมิงพูดด้วยสีหน้าหนักแน่น

หลินเวยมี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกเพียงแค่ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยความร้อน จิตใจไม่เป็นสุขทั้งตัว ทำให้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“พวกคุณไสหัวกันไปให้เร็วเลย!” หลินเวยมี่หยิบหมอนเข้าไปทุบพวกเขา

Elisยิ้มเยาะเย้ย สายตาโหดเหี้ยม พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินเห้าหมิง ถ้าคุณทำไม่ได้ ฉันก็จะเรียกคนอื่นมาละนะ”

“Elis!” เฉินเห้าหมิงมองจ้องไปที่เขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจ “เธอออกไปซะ!”

“คุณอย่าลืมนะว่าตอนแรกเราพูดไว้วางยังไง” Elis พูดพลางหัวเราะเยาะ แล้วเล่นกับกล้อง “เฉินเห้าหมิง มีอะไรต้องอายหรือ? ถ้าคุณยังมัวแต่อายอยู่ เธอจะทนไม่ไหวเอานะ”

เฉินเห้าหมิงหันมามองหน้าของหลินเวยมี่เหมือนกับเติมเลือด ก็ราวกับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก

“เร็วหน่อย” Elisพูดอย่างร้อนใจ

เฉินเห้าหมิงขมวดคิ้ว หันไปทางหลินเวยมี่ หลินเวยมี่ค่อยๆหลับตาลง และกัดฟันแน่น เพื่อคุมความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ยังไม่สามารถสู้ความเร่าร้อนที่ข้ามา

มือของเขาค่อยๆสัมผัสลงบนต้นแขนของเธอ เธอรู้สึกสั่นเหมือนกับโดนไฟฟ้าไฟดูดไปสักพักหนึ่ง ลืมตาขึ้นแล้วจ้องไปที่เฉินเห้าหมิง

“เฉินเห้าหมิง ถ้าคุณพบฉันช้าอีกนิด ฉันยอมตายอยู่ตรงนี้!”

ไม่คิดว่าเฉินเห้าหมิงจะยิ้ม “ครั้งที่แล้วเธอก็พูดแบบนี้”

หลินเวยมี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อยับยั้งความไม่พอใจ มือเอื้อมไปที่โคมไฟโบราณ

เฉินเห้าหมิงชะงักไปสักพัก แล้วหลบไปอย่างเร็ว

แต่เธอก็ไม่ได้ทุบเขา กลับทุบไปอีกทางหนึ่ง แตกเป็นชิ้นๆ เธอรีบหยิบส่วนที่แตกที่กลื่นอยู่ขึ้นหนึ่งชิ้นแล้วหันเขาหาข้อมือตัวเอง

“คุณกำลังจะทำอะไร!” เฉินเห้าหมิงตะคอกใส่ด้วยความตกใจ จับมือเธอเอาไว้ เขาไม่คาดคิดว่าหลินเวยมี่จะทำเกินกว่าเหตุ

“จริงๆ แล้วเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม ซื่อสัตย์ เพียบพร้อม” Elisยิ้มแห้งๆ แม้ว่าสายตาจะปกคลุมไปด้วยความเย็นชา

“เฉินเห้าหมิง กำหนดภายใน 5 นาที ไม่งั้นฉันจะไปเรียกคนอื่น” Elisลากเก้าอี้มานั่งมองพวกเขาตามใจชอบ

เฉินเห้าหมิงรีบใช้มือห่อไว้ มือสัมผัสที่แก้มของเธอ ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ

หลินเวยมี่หันหน้าไปด้านข้าง ไม่ยอมให้เขาแตะต้อง ใบหน้าแสดงออกว่ารังเกียจอย่างชัดเจน คล้ายว่ากำลังมองคนที่ชั่วร้ายมากๆ คนหนึ่ง

“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณอยากจะให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อของคุณหรือ?” เขายกมุมปากขึ้น คล้ายไม่พอใจ

หลินเวยมี่ทำหน้าต่อต้าน แต่ว่าร่างกายยังคงรับรู้ถึงสัมผัสที่ร้อนแรง โดยเฉพาะบริเวณที่โดนเขาสัมผัส ราวกับว่าเป็นหญ้าเส้นยาว และแพร่กระจายไม่หยุด ลากอยู่บนร่างกายเธอ

เขาตั้งใจปลดกระดุมเสื้อออก แล้วเปลือยแผ่นอก ก้มหัวลงมาเล็กน้อย เพื่อสัมผัสแก้มของเธอ แล้วกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ

ไม่ใช่เพียงแค่การเคลื่อนไหวธรรมดา แต่ทำให้หลินเวยมี่ราวกับคนใกล้ตายที่พบน้ำดื่มกลางทะเลทราย

เธอหลับตาลง ในสมองคิดว่าเป็นฉู่เฉินซี มือทั้งคู่โอบลำคอของเขาไว้แล้วตอบสนองกลับอย่างเร่าร้อน

เฉินเห้าหมิงไม่คิดว่าเธอจะตอบสนองกลับเร่าร้อนแบบนี้ มือใหญ่ดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอไม่หยุด

เส้นผมยาวกระจายยุ่งเหยิง ใบหน้าเล็กของหลินเวยมี่ราวกับถูกแต้มด้วยเลือด ตอบสนองเขาไม่หยุด

ลมหายใจของเฉินเห้าหมิงค่อยๆ สับสนทีละนิด กดร่างของเธอลง จูบไปทั่วร่างกายของเธอ

“แฉะ” เสียงกล้องดังขึ้น

“ดีมาก ทำต่อไป” Elisพูดออกมาอย่างดีใจ แล้วก็ยิ้ม

ดวงตาของเฉินเห้าหมิงหดแคบลง สีหน้าก็ไม่น่าดูขึ้นมา

ร่างกายของหญิงสาวสั่นเบาๆ ไม่หยุด เสียงร้องไห้ดังขึ้นคล้ายกำลังได้รับความทรมาน อย่างต้องการให้คนทำรัก

เขาก้มจูบปากเธอเบาๆ ถ้าหากเมื่อก่อนโดนคนมองอย่างไรก็ไม่เป็นอะไร แต่ว่าไม่รู้ทำไม เมื่อผู้หญิงคนนั้นคืนหลินเวยมี่ ในของเขาก็รู้สึกไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยินยอม

“ฉู่เฉินซี……” หลินเวยมี่เรียกชื่อเสียงแผ่ว

ดวงตาของเฉินเห้าหมิงหดแคบลง ร่างกายของผู้หญิงคนนี้ดึงดูดคนมาก แต่กลับเรียกชื่อของผู้ชายคนอื่น ช่างน่าขันจริงๆ

“เฉินเห้าหมิง คุณเหม่อไปไหนน่ะ” Elisเตือนอย่างใจดี “คุณต้องรีบกว่านี้”

เฉินเห้าหมิงหัวเราะเสียงเบา

หลินเวยมี่รู้สึกว่ายิ่งนานไปสติยิ่งพร่าเลือน แม้แต่ความเจ็บที่ข้อมือเธอก็ไม่สามารถเรียกสติของเธอกลับมาได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาก็ชื้น น้ำตาไหลลงมาอาบข้างแก้มและสนผมอย่างไม่น่ามอง

“แฉะ แฉะ”

Elisริมฝีปากมีรอยยิ้มขึ้นมา มองรูปภาพ สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย

“ผู้หญิงชั้นต่ำก็คือผู้หญิงชั้นต่ำ มันก็แค่นั้นเอง”

คำพูดรุนแรงดังเข้ามาในหูของเฉินเห้าหมิง มันรุนแรงมาก จิตใต้สำนึกบอกว่าเขาไม่อยากให้เธอเป็นแบบนี้

“เป็นอะไรไป?” Elisตะคอกถามอย่างไม่พอใจ “ยังไม่รีบทำอีก! เฉินเห้าหมิง อย่ามาพูดตอนนี้ว่าคุณทำไม่ได้นะ!”

ดวงตาของเฉินเห้าหมิงหดแคบลง แต่ว่าไม่ว่าจะพูดอะไร ก็อุ้มเธอขึ้นมา โอบมือรอบหลังของเธอ

ในตอนนั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออก คนที่อยู่ภายในห้องตกใจเป็นอย่างมาก มองไปที่ประตูอย่างตกตะลึงงัน

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของฉู่เฉินซียืนอยู่หน้าประตู มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ เมื่อเบนสายตาไปมองบนเตียง ดวงตาก็หดแคบลงอย่างชัดเจน

“ฉู่เฉินซี……” หลินเวยมี่เรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบา ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยน้ำตา ใครมองก็พาลให้รู้สึกสงสาร

มือของฉู่เฉินซีกำหมัดแน่น พูดเสียงเย็น “ปล่อยเธอลง!

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน

Status: Ongoing

หลินเวยมี่ดื่มไปหนึ่งแก้วแล้วก็เมามาย เธอผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของโรงแรม เมื่อสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่เข้มลึกนั้น ฉู่เฉินซีรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอ ก้มหน้าลงแล้วจูบเธอเบาๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็เริ่มเกี่ยวพันกัน……….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท