ตอนที่ 1948
นี่มัน นี่มัน!
เดม่อนที่เหลือที่เห็นเช่นนี้ พวกมันก็ตกใจไปตามๆกัน มีสีหน้าที่ตกตะลึงจนตาค้าง
นี่คือราชันเดม่อนจํานวนกว่าสิบตัวที่ร่วมมือกัน ต่อให้เป็นในโลกอบิส นี่ก็ยังเป็นตัวตนในระดับสูง มีลูกน้องเดม่อนอยู่ภายใต้อํานาจกว่านับล้านตัว มีพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขีดจํากัด
ทว่าตอนนี้กลับถูกเจ้ามนุษย์นี่สังหารภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าใกล้เจ้ามนุษย์นี้ได้แม้แต่น้อย ถูกสังหารไปกลางอากาศ
พวกมันก็สามารถเห็นได้ถึงสีหน้าก่อนตายของราชันเดม่อนเหล่านี้ เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ ความแตกตื่น ความหวาดกลัวและความสับสน เหมือนจะไม่รู้ว่าตนเองเสียท่าและตายไปด้วยเงื้อมมื้อของเจ้ามนุษย์นี้ได้อย่างไร
นี่คือเดม่อนของอบิสจริงๆรึ? อ่อนแอ ช่างอ่อนแอจริงๆ ข้ายังไม่ได้เริ่มออกแรงด้วยซ้ํา ทว่าพวกเจ้ากลับลงไปนอนกองกันหมด
เซี่ยปิงก็ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังทั้งสองข้างพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม ไม่คาดคิดว่าพวกเดม่อนจะอ่อนแอถึงขั้นนี้ พวกเจ้าเป็นเดม่อนที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ที่ข้าได้พบมา อ่อนแอจนแม้แต่ข้าก็ยังตกตะลึง การที่พวกเจ้าถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าปิดผนึกมานานนับล้านปีนั้น มันได้ลบล้างความแข็งแกร่งและความโหดเหี้ยมของพวกเจ้าจนกลายเป็นไก่บ้านเช่นนี้รึ?
ในช่วงเวลานี้ สนามพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกไปโดยที่มีร่างกายของเขาเป็นจุดศูนย์กลาง พลังฉีเดม่อนในพื้นที่ระยะหลายพันกิโลเมตรก็เปลี่ยนกลายเป็นหลุมวนและหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเซี่ยง
พลังงานวิญญาณที่หลงเหลือจากซากศพของเดม่อนเหล่านี้ก็ถูกเซียปิงดูดกลืนเข้ามาอย่างกะทันหัน
เขารู้สึกว่าพลังเวทมนตร์ภายในร่างกายของตนเองกําลังเพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่เซลล์อีกานรกทองคําในส่วนลึกของร่างกายก็กําลังตื่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งแสน ห้าแสน หนึ่งล้าน สามล้าน…
เหมือนว่าเซลล์อีกานรกทองคําในร่างกายของเขากําลังจะเข้าใกล้หนึ่งร้อยล้านเซลล์มากขึ้นเรื่อยๆ พลังอํานาจของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นกัน
เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังอํานาจที่น่าสะพรึงกลัวบางอย่างกําลังจะปรากฏขึ้นมาในโลกอบิสแห่งนี้ ในตอนนี้บนท้องฟ้า ก้อนเมฆที่มีดครื้มก็กําลังรวมตัวกัน พลังอํานาจของหายนะกําลังหมักหมมอย่างต่อเนื่อง
ทว่าเดม่อนจํานวนมากก็ไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์นี้ เพราะความสนใจของพวกมันจดจ่ออยู่ที่เซี่ยปิง ไม่ได้สังเกตเห็นสภาพแวดล้อมรอบๆ
เดม่อนที่อ่อนแอที่สุด? เจ้ามนุษย์บัดซบ ท้ายที่สุดแล้วเจ้ากําลังพูดอะไรกัน พูดราวกับว่าตนเองเคยเผชิญหน้ากับเดม่อนมามากมาย ราวกับเป็นผู้อาวุโสเก่าแก่ที่มากประสบการณ์ไม่มีผิด
เจ้ามนุษย์สารเลว ไม่คาดคิดว่าจะกล้าดูหมิ่นพวกเราเช่นนี้ ถึงขั้นมองพวกเราเป็นไก่บ้าน ช่างเป็นมนุษย์ที่ชั่วช้ายิ่งนัก ข้าจะต้องสังหารเจ้ามนุษย์นี้ให้ได้ สังหารจนสิ้นซาก!
นี่เป็นความอัปยศอดสู เป็นความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่ จะต้องสังหารเจ้าบัดซบนี้ให้จงได้
ข้าจะต้องฉีกร่างของเขาให้เป็นพันๆชิ้นและนําเนื้อของเขาไปให้สุนัขกิน นําไปให้สุนัขกินทั้งหมด!
เดม่อนจํานวนมากก็โมโหกับคําพูดของเซี่ยปิงเป็นอย่างมาก เดือดระอุขึ้นมา เดิมทีพวกมันก็เป็นตัวตนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีที่ไหนที่จะอดทนต่อการดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ได้
แต่ละตัวต่างก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ไม่สามารถยับยั้งตนเองได้อีกแล้ว
เจ้ามนุษย์ เจ้าจะบ้าบินเกินไปแล้ว ราชันผู้นี้ไม่สามารถอดทนอดกลั้นกับเจ้าได้แม้แต่วินาทีเดียว ข้าจะต้องสังหารเจ้าและนําศพของเจ้าไปเซ่นไหว้เดม่อนที่ตายไป
ในตอนนี้ ท่ามกลางเดม่อนนับล้านตัว เดม่อนนรกเก้าชุมก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ของตนเองได้อีกต่อไป มันบินขึ้นไปบนอากาศ สูงส่งและเปี่ยมไปด้วยบารมี มองสิ่งมีชีวิตทั้งมวลจากข้างบน จ้องมองเซียปิงด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
สายตาที่มันมองเชียปิง ราวกับเป็นสายตาที่มองคนตายก็ว่าได้
หึหึ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรและปิดบังการตรวจจับของพวกเราได้อย่างไร ทว่าวันนี้เจ้าจะต้องตาย การที่กล้าเปิดเผยตัวต่อหน้าเดม่อนจํานวนมากมายเช่นนี้ ไม่รู้ว่าสมองของเจ้ากําลังคิดอะไรอยู่
เดม่อนหัวใจสวรรค์ก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
ทุกคน ข้าจะจัดการสังหารเจ้ามนุษย์นี่เอง ข้ารู้สึกได้ว่าภายในร่างกายของเจ้ามนุษย์นี่มีสิ่งที่ข้าปรารถนาอยู่ หลังจากที่สังหารเขา ข้าจะได้ครอบครองผลประโยชน์ที่ไร้ที่สิ้นสุดเป็นแน่
เดม่อนอรุณแสงก็เอ่ยขึ้นมา เสียงของมันดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ เป็นเสียงที่แหบพร่าอย่างมาก ราวกับเป็นเหล็กที่กําลังถูกันก็ว่าได้ เจาะเข้าไปในจิตวิญญาณของทุกคนที่อยู่รอบๆ ทําให้รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ทว่าเมื่อมันเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ เดม่อนจํานวนนับไม่ถ้วนก็ตกใจไปตามๆกัน
เพราะว่านี่คือเดม่อนอรุณแสง ท่ามกลางเดม่อนจํานวนนับไม่ถ้วน นี่คือนักล่าตามธรรมชาติ มีพรสวรรค์ในการพัฒนาเป็นเซนต์เดม่อน เป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
ไม่คาดคิดว่าตัวตนเช่นนี้จะต้องการลงมือด้วยตนเอง?!
แม้แต่เดม่อนหัวใจสวรรค์และเดม่อนนรกเก้าชุมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เพราะว่าปกติแล้วเดม่อนอรุณแสงเป็นตัวตนที่เกียจคร้านอย่างมาก มักที่จะนอนหลับอยู่ตลอดเวลา จะตื่นขึ้นมาในเวลาที่หิวเท่านั้น
หากไม่จําเป็นจริงๆ มันไม่มีทางเคลื่อนไหวออกมา
ทว่าไม่คาดคิดว่าตอนนี้มันจะต้องการลงมือสังหารเจ้ามนุษย์นี่ด้วยตนเอง พวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเจ้ามนุษย์นี่จะยโสโอหังเกินไปจนแม้แต่เดม่อนอรุณแสงก็อดทนไม่ไหว?
ในช่วงเวลานี้ ดวงตาของเดม่อนอรุณแสงก็เผยความคลุ้มคลั่งออกมา มันเกือบที่จะควบคุมสติของตนเองไม่ได้ เพราะมันรู้สึกว่าภายในร่างกายของเซียปิงมีคลื่นความร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุดอยู่ ราวกับเป็นดวงอาทิตย์ที่แท้จริงก็ว่าได้
หากมันสามารถกลืนกินเลือดเนื้อของเจ้ามนุษย์นี่ได้ บางทีมันอาจจะเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของการเป็นเซนต์เดม่อน และสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับเซนต์ได้อย่างรวดเร็ว
นี่คือโอกาสในการก้าวผ่านขีดจํากัดของตนเอง!
ทว่าในตอนนี้ เซียปิงก็ไม่มีเวลาที่จะสนใจกลุ่มของเดม่อนเหล่านี้ที่กําลังจับจ้องเขาเหมือนกับเสือที่จับจ้องเหยื่อ เพราะเขารู้สึกได้ว่าเซลล์อีกานรกทองคําภายในร่างกายของตนเองกําลังตื่นขึ้น มาอย่างบ้าคลั่ง
พริบตาต่อมา ในที่สุดเซลล์อีกานรกทองคําก็ตื่นขึ้นมาถึงหนึ่งร้อยล้านเซลล์ นี่ดูเหมือนกับเป็นจุดวิกฤต เป็นการเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางปริมาณ เหมือนว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถอธิบายได้
หลั่ว หลั่ว หลั่ว
เชี่ยปิงก็รู้สึกว่าเลือดแต่ละหยดภายในร่างกายของตนเองกําลังเดือดระอุ ราวกับเป็นลาวาที่ร้อนระอุก็ว่าได้ ราวกับว่าทั่วทั้งร่างกายจะเปลี่ยนกลายเป็นเปลวไฟในเวลาไม่ช้า
ในขณะเดียวกันเลือดของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปราวกับฟ้ากับเหว วิวัฒนาการขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เลือดของเขากลายเป็นสีทองดําอย่างสมบูรณ์
เลือดเช่นนี้ ดูเหมือนกับเป็นเลือดของสิ่งมีชีวิตในตํานานที่ศักดิ์สิทธิ์ โบราณและยิ่งใหญ่ แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจที่ไม่สามารถอธิบายได้ เหมือนกําเนิดขึ้นมาจากส่วนลึกของความโกลาหล
ปัง!
เดิมทีเดม่อนจํานวนมากที่ต้องการที่จะโจมตีเซียปิง ทว่าร่างกายของเซี่ยปิงกลับ สร้างคลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ปะทุออกมาอย่างกะทันหัน ทําให้เดม่อนที่อยู่รอบๆกระเด็นปลิวออกไป
พื้นที่ในระยะหนึ่งพันกิโลเมตรกลายเป็นพื้นที่เปิดโล่งโดยที่มีเซียปิงอยู่ในจุดศูนย์กลาง ไม่ว่าเดม่อนตัวใดๆก็ถูกผลักออกไปจากระยะรัศมีนี้
เดม่อนเหล่านี้ต่างก็กระอักเลือดออกมากลางอากาศ แตกตื่นกันอย่างมาก พวกมันไม่คาดคิดว่าเมื่อครู่นี้จะมีคลื่นพลังที่กวาดออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิงอย่างกะทันหันและชัดพวกมันจนกระเด็นออกไป
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?!
เดม่อนจํานวนมากก็ตกใจไปตามๆกัน พวกมันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าในช่วงเวลานี้กําลังเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับเจ้ามนุษย์ตรงหน้านี้ เหมือนว่าจะวิวัฒนาการขึ้นไปอีกระดับ
ออร่าที่ทรงอํานาจซึ่งแผ่ออกมาจากส่วนลึกของร่างกายมนุษย์คนนี้ทําให้พวกมันรู้สึกหวาดผวาขึ้นมา ในตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายของเจ้ามนุษย์คนนี้เหมือนจะเปลี่ยนกลายเป็นเตาหลอมขนาดใหญ่ มีคลื่นความร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุดแผ่ออกมา เหมือนว่าจะต้องการละลายแผ่นดินบริเวณนี้ไปอย่างสมบูรณ์
ดวงอาทิตย์ นี่มันดวงอาทิตย์ที่แท้จริง!
เดม่อนอรุณแสงก็มีสีหน้าที่คลั่งไคล้อย่างมาก มันสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอํานาจของแก่นแท้ดวงอาทิตย์จากเจ้ามนุษย์นี่ เหมือนว่าเจ้ามนุษย์นี่จะเป็นดวงอาทิตย์ที่กลับชาติมาเกิด เป็นสุริเทพที่ท่องอยู่ในโลกมนุษย์
มันก็รับรู้ได้อย่างชัดเจน ตนเองที่เป็นเดม่อนเลียนแบบดวงอาทิตย์ เทียบกับสิ่งมีชีวิตในตํานานที่แท้จริงนั้น ไม่รู้ว่าแตกต่างกันมากแค่ไหน ถึงอย่างไรของเลียนแบบก็ไม่มีวันพัฒนาจนเหมือนกับของจริง
ทว่าตอนนี้แตกต่างออกไป ร่างกายของเจ้ามนุษย์นี่แอบแฝงไปด้วยแหล่งพลังงานของดวงอาทิตย์ หากสามารถกลืนกินเจ้ามนุษย์นี่เข้าไปได้ มันจะสามารถวิวัฒนาการและกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่แท้จริง!