สามีเก่าอ้อนรัก – ตอนที่ 209

ตอนที่ 209

บทที่ 209 หลินอวี้นำเรื่องแท้จริงบอกให้กับเซิ่งเจ๋อเฉิง

งานศพของประธานบริษัทเซิ่งซื่อ ซื่อสวิน

เนื่องจากท่านประธานบริษัทมีชื่อเสียงและคุณธรรมที่สูงส่ง ดังนั้นคนที่มาร่วมงานศพมากมายตลอดวัน

เซิ่งเจ๋อเฉิงและเซิ่งเจิ้นอวิ๋นมีงานยุ่งมากมายตลอดวัน แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงใบหน้ามีความอิดโรย และไม่ได้มีชีวิตชีวามากนัก

หลินอวี้ได้อยู่ข้าง ๆเซิ่งเจ๋อเฉิง

เซิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนนึกคิดอะไรขึ้นมาเลยหันไปถามว่า “พ่อลูกตระกูลเจิ้งไม่ได้ตอบกลับข่าวอะไรเลยหรือ ? ”

หลินอวี้ส่ายหัว “ไม่มี เพียงแต่เมื่อวานเจิ้งโป๋หงได้โทรมาหา แล้วใช้น้ำเสียงที่ตกใจกล่าวถึงเรื่องการจากไปของท่านประธาน ซึ่งไม่ได้เตรียมการเตรียมตัวอะไรเลย แล้วบอกว่าขออภัยมา ณ ที่นี้ เดี๋ยวจะส่งตัวแทนไป”

เซิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มด้วยความไร้ความรู้สึก พูดอย่างเฉยชาว่า “ถามอย่างตกใจ ? เรื่องการไว้อาลัยที่จัดไปหลายวันก่อน เรื่องจากการไปของคุณตาผมก็ได้อนุมัติลงสื่อแล้ว เมื่อวานเพิ่งจะโทรมา ถามอย่างตกใจ ประโยคนี้จะพูดจากตรงไหนดี ? ”

หลินอวี้พยักหน้าตาม แล้วใช้น้ำเสียงกดดันพูดว่า “นั้นหากพูดตามความเห็นของท่าน การลงนามความร่วมมือกับบริษัทเจิ้งซื่อ จะมีความเป็นไปได้ไหม ? ”

เซิ่งเจ๋อเฉิงกัดฟันและริมฝีปากของตัวเอง แล้วดึงหน้าอย่างตึง

เมื่อฟังคำถามของหลินอวี้แล้ว ในหัวสมองของเขาก็ได้ปรากฏภาพในห้องประชุมของบริษัทเซิ่งซื่อ โดยเจิ้งอวิ๋นชวนจะให้เสิ่นอีเวยขอโทษเขา เขาก็จะตอบรับการลงนาม

พอคิดถึงตรงนี้ ระหว่างคิ้วของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เต็มไปความด้วยเยือกเย็น

พูดออกมาจากปากตัวเองอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ยังไม่รู้อะไรชัดเจน แต่ผมจะต้องรักษามัน”

แท้ที่สุดแล้วรักษาอะไร เซิ่งเจ๋อเฉิงยังไม่ได้พูดถึงลึกลงไปว่าหมายถึงอะไร

หลิวอวี้รู้สึกถึงความแปลกใจเมื่อคำพูดเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งไม่ใช่นิสัยการพูดของเขา

แต่หลินอวี้ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อไป อยู่ข้างกายเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มานานโขอยู่ เขาก็มีความเข้าใจและกระจ่างในตัวอยู่บ้าง

มีบางเรื่อง ผู้เป็นหัวหน้าก็ไม่อยากจะให้ถามต่ออะไรมากมาย ก็ทำได้เพียงแต่เงียบๆ ไป

แต่ว่าเมื่อพูดถึงเซิ่งเจ๋อเฉิงได้กล่าวถึงบริษัทเจิ้งซื่อ หลินอวี้ก็ได้นึกถึงเรื่องวันนี้ตอนสาย ๆ ที่โทรมาหาตน แล้วถามเรื่องการติดต่อเจิ้งอวิ๋นชวนขึ้น

“คุณหญิงเสิ่นกับคุณเจิ้งเป็นเพื่อนกันใช่ไหมครับ ? ” หลินอวี้ถาม

พอพูดออกไป เซิ่งเจ๋อเฉิงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ท่าทางแสดงออกถึงความเหนื่อยล้า

“คุณเจิ้ง ? คุณเจิ้งคนไหน ? เจิ้งโป๋หงหรือ? ”

หลินอวี้ส่ายหัวแล้วตอบกลับไปว่า “ไม่ใช่ครับ ลูกชายของเจิ้งโป๋หง เจิ้งอวิ๋นชวน”

พอได้ยินเจิ้งอวิ๋นชวน ชื่อก็ปรากฏออกมาจากใบหน้าของตัวเอง เซิ่งเจ๋อเฉิงมีสีหน้าที่ไม่ดีนัก ซึ่งถูกมองออกโดยหลินอวี้

ดูแล้วเรื่องราวคงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆหลินอวี้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

“เกิดอะไรขึ้นล่ะ ? ” เซิ่งเจ๋อเฉิงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

พอมองสายตาของหัวหน้า หลินอวี้ก็ไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป

“วันนี้ตอนสาย ผมได้รับโทรศัพท์ของคุณหญิงเสิ่น เธอบอกว่าให้ผมบอกวิธีติดต่อเจิ้งอวิ๋นชวนให้หน่อย”

พอหลินอวี้พูดถึงตรงนี้ ก็เห็นถึงสีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่มีสีหน้าตกใจ

หลินอวี้ไม่กล้าจะพูดต่อ แต่ได้ยินคำพูดที่แสนจะเยือกเย็นของเซิ่งเจ๋อเฉิงว่า “พูดต่อไป”

“พอผมรู้สึกว่าแปลก ๆ ไปเพราะว่าพ่อลูกตระกูลเจิ้งได้มาที่บริษัทเราครั้งแรก และวันนั้นก็เป็นวันที่พบกันครั้งแรก ดังนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเขาทั้งสองคนมีเรื่องอะไรกัน คุณหญิงเสิ่นบอกว่ามีเรื่องส่วนตัวกับเขานิดหน่อย”

“เรื่องอะไร ? ”

หลินอวี้ได้อธิบายต่อไป เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ฟังอย่างเงียบ ๆ

“ในสายคุณหญิงเสิ่นไม่ได้บอกอะไร”

เห็นหลินอวี้พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็กลับดูแย่ลงอย่างมาก

“ผมกลลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเลยถามเธอว่าตอนนั้นท่านรู้เรื่องนี้หรือเปล่า ตอนนั้นเธอตอบว่าท่านรู้เรื่องนี้ ดังนั้นผมเลยบอกวิธีติดต่อกับคุณเจิ้งไป”

สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงยิ่งอยู่ยิ่งมืดมน หลินอวี้รู้ตัวเองอย่างชัดเจนว่าตัวเองทำอะไรผิดลงไป ต่อมาเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มีคำพูดออกมา “เรื่องนี้ ผมไม่รู้อะไรทั้งสิ้น คุณถูกเสิ่นอีเวยหลอกเข้าแล้ว”

คำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่หลินอวี้อยู่กับเขามานานปีก็เข้าใจในอารมณ์และความรู้สึกของเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นอย่างดี ยิ่งนิ่งมากเท่าไหร่ก็อธิบายได้ว่าเขานั้นโมโหถึงจุดสุดขีด

“ทำไมไม่นำเรื่องนี้รายงานผม” “ตำแหน่งผู้ช่วยนี่คุณเป็นยังไง ? ” หลินอวี้รู้สึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ เขาจะเดาออกได้อย่างไรว่าเสิ่อีเวยจะกล้าที่จะโกหก? หน้าผากของหลินอวี้ก็เริ่มมีเหงื่อไหลออกมาก ก้มหัวแล้วพูดว่า “ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทำผิด ผมยินยอมรับโทษ”

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เก็บสายตาที่ไม่ดีกลับไปจากหลินอวี้ ผู้หญิงคนนี้ในเมื่อกล้าที่จะใช้นามของตัวเองในการโกหกหลินอวี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงมีความโกรธอย่างมากถึงมากที่สุด ตอนนี้เขาจะอยากจะเจอผู้หญิงคนนี้ มือของเขานั้นได้กดอะไรไม่รู้ในโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เซิ่งเจ๋อเฉิงได้โทรศัพท์หาเสิ่นอีเวย หลินอวี้ที่อยู่ข้าง ๆก็มีความตกใจอย่างยิ่ง หัวหน้าของตนเองไม่ใช่ได้ยินมาว่าตลอดมาเกลียดผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หรือ ? เกลียดแม้กระทั่งชื่อโทรศัพท์ก็ไม่ได้บันทึกไว้

แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้ …. เซิ่งเจ๋อเฉิงได้กดเบอร์โทรศัพท์อย่างไวมาก หรือว่า….เขาจำเบอร์โทรศัพท์ไว้ในใจ ?

หลินอวี้รู้สึกว่า ช่วงนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่สามารถรู้ถึงความชัดเจนของหัวหน้าตนเอง

สถานการณ์ตรงเสิ่นอีเวย ในตอนนี้กำลังต่อสู้กับเจิ้งอวิ๋นชวน เมื่อได้พูดถึงปัญหาของเรื่องระดับแอลกอฮอล์ เธอก็ยังไม่สามารถตอบอะไรได้

พอถึงตอนนี้ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังออกมา เสิ่นอีเวยเอาออกมาดู ในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เธอนั้นจงใจปิดบังเซิ่งเจ๋อเฉิงมาหาเจิ้งอวิ๋นชวน ทำไมตอนนี้โทรศัพท์มาหาตัวเองล่ะ ?

เสิ่นอีเวยในใจมีความรีบร้อนอย่างยิ่ง แต่ว่าเธอก็รู้นิสัยของเซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นอย่าง หากไม่ได้รับโทรศัพท์ ก็จะเจอกับอะไรบ้าง

และตอนนี้บวกกับเรื่องที่คุณตาได้ลาโลกไป ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงพบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก เธอไม่สามารถทำให้เขาโมโหได้

เสิ่นอีเวยใจรีบร้อนอย่างหนัก หลังจากนั้นก็ใช้มือกดปุ่มรับโทรศัพท์ ยังไม่ได้พูดเธอพูดอะไรก็มีเสียงออกมาว่า “ฮัลโหล” ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวของเซิ่งเจ๋อเฉิงลอยเข้ามาให้หูของเธอ “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น ให้เวลาคุณสิบวินาที บอกที่อยู่ให้กับผม”

น้ำเสียงที่สุขุมเงียบของเซิ่งเจ๋อเฉิง แต่เสิ่นอีเวยฟังแล้วรู้สึกน่ากลัวมากเพราะเธอไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ในเวลานี้ของเซิ่งเจ๋อเฉิงมีสีหน้าที่น่าเกลียดมาก

ในเมื่อเขาพูดถึงขนาดนี้ ก็สามารถรู้เรื่องได้ว่าตัวเองนั้นมาหาเจิ้งอวิ๋นชวน

“คุณยังมีเวลาอีกห้าวินาที” วาจาที่น่ากลัวและหนักแน่นของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้นับเวลาถอยหลัง

เสิ่นอีเวยด่าอยู่ในใจ แล้วก็ได้บอกที่อยู่ของเธอ ก็คือได้บอกสถานที่บาร์ที่ตัวเองอยู่

เสิ่นอีเวยขณะที่พูดโทรศัพท์อยู่นั้น ได้สะกดทุกความสนใจในห้องนั้น เจิ้งอวิ๋นชวนมีสายตาที่ค่อนข้างเยือกเย็น ปากก็มีรอยยิ้มนิดหน่อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความนึกสนุก

เพราะว่าทุกความสนใจอยู่ที่เสิ่นอีเวยหมเ ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้สนใจถึงเรื่องที่ทุกคนมองมาหน้าเธอ และเจิ้งอวิ๋นชวนเดินมาอยู่ข้าง ๆเธอ

เซิ่งเจ๋อเฉิงได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาออกม่ว่า “ตอนนี้คุณอยู่กับเจิ้งอวิ๋นชวน?”

สามีเก่าอ้อนรัก

สามีเก่าอ้อนรัก

Status: Ongoing

เสิ่นอีเวยได้แต่งงานกับเชิงเจ๋อเฉิงแล้วแต่เธอรู้ดีว่าที่เขาแต่งงานกับ เธอไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะอยากจะทรมานเธอ มันจะทรมาน แล้วยังไง เธอรักเขา ตั้งแต่เด็กก็รักเขามาจนถึงตอนนี้ แต่เขาไม่รู้ ชีวิตคู่แต่งงานสองปีเธอทุกข์ทรมานมาก เธอตายใจแล้วและเสนอ หย่าร้างกับเขา ไปจากชีวิตเขาไกลๆ แต่เขากลับเปิดโหมดรักเมีย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท