สามีเก่าอ้อนรัก – ตอนที่ 417

ตอนที่ 417

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 417 ข่าวที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย

เสิ่นอีเวยพูดจาด้วยความเย็นชา แต่ดูเหมือนว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะไม่สนใจ เขาเพียงสบตาเสิ่นอีเวยหนึ่งครั้ง ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยคำว่า“ แบบนั้นก็ดีสิ”

เสิ่นอีเวยมองเซิ่งเจ๋อเฉิงนั่งเอ้อระเหย มีสองข้างไขว้กันอยู่ที่หลังศีรษะ แสงแดดกระทบลงบนใบหน้า จนเกิดเงาเล็กๆบนเปลือกตาอันเนื่องมาจากขนตาที่มีความงอนยาว

ทันใดนั้น เสิ่นอีเวยพบว่าสายตาของตนเองเหมือนเกิดความผิดปกติ เพราะแม้แต่เส้นขนบนใบหน้าที่เล็กมากของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็สามารถมองเห็น แสงแดดอันอ่อนโยนที่ส่องประกายลงบนใบหน้าของเขา แม้แต่ริ้วรอยต่างก็เริ่มนุ่มนวลขึ้นมา

ลมพัดเบาๆและแสงแดดที่กระทบลงบนเซิ่งเจ๋อเฉิง ทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนโยนจนสุดที่จะพรรณนา

ในขณะที่เสิ่นอีเวยกำลังมึนงง ทันใดนั้นก็มีบริกรคนหนึ่งเดินขึ้นมาจากชั้นล่างของเรือยอชท์ ซึ่งบริกรคือคนไทยในพื้นที่

หลังจากเดินมาถึงทั้งสองคนจึงพูดว่า“สวัสดีค่ะ”จากนั้นจึงใช้ภาษาที่เสิ่นอีเวยฟังไม่รู้เรื่องแนะนำผลไม้ในมือตนเอง

หนึ่งนาทีผ่านไป จานผลไม้ขนาดใหญ่ถูกวางลงบนโต๊ะเล็กตรงกลางระหว่างเสิ่นอีเวยและเซิ่งเจ๋อเฉิง บนจานเต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาล บริกรคนไทยยิ้มและเดินถอยหลังจากไป โดยก่อนที่จะออกไปเธอยิ้มและพูดภาษาไทยกับเสิ่นอีเวยหนึ่งประโยค

ถึงแม้เสิ่นอีเวยจะฟังไม่ออกสักนิดเดียว แต่ดูจากท่าทางของฝ่ายตรงข้ามจึงคาดเดาว่ากำลังชมตนเอง ดังนั้นจึงพยักหน้าเบาๆ และใช้ภาษาอังกฤษพูดคำว่าขอบคุณ

หลังจากบริกรคนนั้นออกไป เสิ่นอีเวยมองไปที่เซิ่งเจ๋อเฉิงที่อยู่ตรงข้าม พบว่าเขากำลังกินผลไว้อย่างเอ้อระเหย จึงเกิดความคิดผุดขึ้นมาในหัวทันที เสิ่นอีเวยถามอย่างแปลกใจว่า:“อย่าบอกฉันนะ ว่าเรือยอชร์นี้เป็นของคุณ?”

เซิ่งเจ๋อเฉิงมีท่าทีไม่เห็นด้วย:“ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”

“ไม่เช่นนั้น ทำไมบริกรคนเมื่อสักครู่ถึงมีท่าทีสุภาพขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอมองว่าคุณเป็นเจ้าของเรือยอชร์ลำนี้”

ไม่รอให้เซิ่งเจ๋อเฉิงเปิดปากพูด เสิ่นอีเวยพูดต่อว่า:“ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย?คุณแค่มาเที่ยวประเทศไทย ถึงกับต้องซื้อเรือยอชร์หนึ่งลำเลยหรอ? เงินของคุณเยอะจนไม่รู้จะเอาไปใช้กับอะไรแล้วใช่ไหม?”

น้ำเสียงของเสิ่นอีเวยดูตื่นเต้นเกินไป จนดึงดูดความสนใจจากสายตาผู้คนที่อยู่บนเรือยอชร์ เมื่อหันไปมองจึงพบว่า พนักงานที่นั่งอยู่ทางนั้นต่างเป็นคนของ Aute ที่ร่วมในการประเมินราคาเครื่องประดับและการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้ด้วย จึงมีการประสานงานอยู่หลายครั้ง ดังนั้นจึงรู้จักหมดทุกคน

เสิ่นอีเวยมองเห็นพวกเขาต่างยิ้มและมองมาที่ตนเอง เธอทนไม่ได้ทันที สังเกตเห็นว่าตนเองลืมตัวจนเสียมารยาท จึงอายจนหน้าแดง เธอทำได้เพียงหันไปให้ความสนใจกับเซิ่งเจ๋อเฉิงต่อ

ทั้งสองคนสบตากัน เซิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะออกมาอย่างไม่คาดคิด :“ใช่แล้ว เงินเยอะจนไม่รู้จะเอาไปใช้กับอะไร คุณอยากจะมาช่วยผมไหมล่ะ?”

เสิ่นอีเวยอึ้งไปสักพัก แน่นอนในใจของเธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้หมายความว่าอย่างไร แต่เธอไม่ยอมพูดในสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นจึงตอบว่า:“ไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ง่ายนิดเดียว เอาเงินที่คุณไม่รู้จะใช้ยังไงไปทำบุญซะ บริจาคให้เด็กยากจนก็ได้ ”

หลังจากเสิ่นอีเวยพูดประโยคนั้นจบ มุมปากของเซิ่งเจ๋อเฉิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที ในขณะนี้เขากำลังอยู่ในท่าทางผ่อนคลายอย่างขี้เกียจ เขาหรี่ตามองเธอเป็นเวลานานจึงค่อยพูดออกมา :“ ผมเพิ่งจะรู้ว่า พวกเราสองคนใจตรงกัน”

เสิ่นอีเวยนิ่งไป:“หมายความว่ายังไง?”

เซิ่งเจ๋อเฉิงอธิบายอย่างอดทน:“อย่างที่คุณพูดเรื่องทำบุญ เมื่อสองปีก่อนผมซื้อเรือยอชร์ลำนี้ ปกติถ้าผมไม่อยู่จะมีพนักงานที่นี่คอยดูแลแทนให้ เมื่อบนเกาะนี้มีกิจกรรมจะนำเรือยอชร์ออกไปให้เช่า รายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับมูลนิธิการกุศลท้องถิ่นเป็นประจำ”

ตอนเซิ่งเจ๋อเฉิงพูดออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย เสิ่นอีเวยถึงกลับนิ่งอึ้งไป ผู้ชายคนนี้ทำแบบนั้นจริงหรอ? เขามีความเมตตาด้วยหรอเนี่ย?

เซิ่งเจ๋อเฉิงมองเห็นแววตาของเสิ่นอีเวยมีความสงสัย จึงเดาความคิดของเธอได้ทันที เขาขมวดคิ้วพูดว่า:“คุณเห็นผมเป็นคนเลวร้ายมากเลยใช่ไหม?”

เสิ่นอีเวยแลบลิ้นใส่ ไม่พูดอะไรต่อ

“ผมทำการกุศลมากมายให้แก่ประเทศ ไม่ใช่แค่ที่นี่”เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดเบาๆ

เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ แน่นอนเสิ่นอีเวยเชื่อเขา แต่ปากกลับไม่อยากยอมรับ

เสิ่นอีเวยหยิบ ipad ข้างกายออกมาอ่านข่าวแก้เบื่อ ปกติเธอไม่ค่อยชอบอ่านข่าว แต่ช่วงที่ผ่านมามีคนหลายคนพูดว่าเธอควรจะสนใจอ่านข่าวสักหน่อย ดังนั้นเธอจึงเริ่มให้ความสนใจขึ้นมาเรื่อยๆ

เพียงแต่ข่าวที่เสิ่นอีเวยให้ความสนใจ กลับไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการออกแบบเครื่องประดับและด้านการค้า

เลื่อนไปเลื่อนมาเหมือนกับจะไม่มีข่าวที่น่าสนใจ เธอกดรีเฟรชโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้น ปรากฏข่าวแรกที่ดึงดูดความสนใจจากสายตาของเสิ่นอีเวย

พาดหัวข่าวด้วยหัวข้อที่สะดุดตา:ประธานบริษัทเซิ่งซื่อแอบนัดเจอกับทนายความชื่อดัง ความสัมพันธ์ทั้งสองคนที่ยากจะอธิบาย

เสิ่นอีเวยหรี่ตามอง เม้มปากบางแน่น เธอเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดีมาก ยังคงนั่งหลับตาพักผ่อน

สองนิ้วของเสิ่นอีเวยลากบนหน้าจอ ipad เพื่อขยายรูปภาพทั้งสองใบ ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ในที่สุดเธอจึงมองเห็นใบหน้าของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงชัดเจน ฝ่ายชายคือเซิ่งเจ๋อเฉิง ส่วนฝ่ายหญิงนั้นคือ……

เธอไม่ได้เจอผู้หญิงคนนั้นมานานมากแล้ว นานจนถ้าไม่มีข่าวนี้เข้ามาในชีวิตของเธอ เธอก็คงเกือบจะลืมไปแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นมีหน้าตาอย่างไร

สวี่อันฉิง

ทันใดนั้นเอง เสิ่นอีเวยไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของตนเองว่าอย่างไร หากจะพูดว่าเจ็บ แต่มันก็ไม่ได้เจ็บ หากจะพูดว่าไม่ได้คิดอะไร ก็คงเหมือนกำลังหลอกตัวเอง

ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า เสิ่นอีเวยรู้สึกแค่เพียงเรื่องราวทั้งหมดที่มองเห็นจากรูปภาพกลายเป็นไม่มีความน่าสนใจ อาจเป็นเพราะไม่ได้สนใจมานานแล้ว ตนเองจึงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร เพราะไม่มีอะไรน่าสนใจ

เสิ่นอีเวยจ้องรูปภาพด้านล่างทั้งสองรูป จมอยู่ในความคิดไปชั่วขณะ จนเมื่อเซิ่งเจ๋อเฉิงส่งเสียงเธอจึงได้สติกลับมา

“ทำไมคุณไม่ลงไปเล่นน้ำกับพวกเขา?”เซิ่งเจ๋อเฉิงเงยหน้าถาม

เสิ่นอีเวยยก ipad ตั้งตรงแนบติดกับหน้าอก มีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา :“เพราะไม่อยาก”

แต่ทว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ใช่คนโง่ เขารับรู้ได้ว่าน้ำเสียงที่เสิ่นอีเวยใช้พูดกับตนเองเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

เขาลุกขึ้น เดินตรงไปนั่งข้างเสิ่นอีเวย และถามว่า:“ไม่อยากหรือไม่กล้ากันแน่?”

คำถามนี้เต็มไปด้วยความยั่วยุ ทำให้เสิ่นอีเวยรู้สึกใจร้อนจนอยู่ไม่เป็นสุข:“เกี่ยวอะไรกับคุณ?”

ฝ่ายชายไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เขาเพียงพูดว่า:“คิดไม่ถึงว่าคุณจะหวาดกลัวแบบนี้ หรือว่ายังคงกลัวตอนที่ผมโยนคุณลงไปในสระน้ำครั้งสุดท้ายตอนนั้น?

สามีเก่าอ้อนรัก

สามีเก่าอ้อนรัก

Status: Ongoing

เสิ่นอีเวยได้แต่งงานกับเชิงเจ๋อเฉิงแล้วแต่เธอรู้ดีว่าที่เขาแต่งงานกับ เธอไม่ใช่เพราะรัก แต่เป็นเพราะอยากจะทรมานเธอ มันจะทรมาน แล้วยังไง เธอรักเขา ตั้งแต่เด็กก็รักเขามาจนถึงตอนนี้ แต่เขาไม่รู้ ชีวิตคู่แต่งงานสองปีเธอทุกข์ทรมานมาก เธอตายใจแล้วและเสนอ หย่าร้างกับเขา ไปจากชีวิตเขาไกลๆ แต่เขากลับเปิดโหมดรักเมีย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท