ตอนที่ 117 ผู้ชายป่าเถื่อน2
เขาสูดหายใจเฮือกใหญ่
ความเย็นชาและสันโดษตลอดทั้งยี่สิบเก้าปีของ
เขา ดูเหมือนว่าวันนี้จะเปลี่ยนไปเพราะการมีกู้ฮอนเข้า มาอยู่ในชีวิต
ทุกอย่างดูนิ่งเงียบ แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้สึกอะไร มีอะไรที่เปลี่ยนไปกันแน่?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด ทันใดนั้น มีคนมากระจกรถ
เสียงดัง
ปั้ง ปั้ง ปั้ง!
เขาหันไปมอง
ใบหน้าซีดเซียวของกู้ฮอนโผล่เข้ามาอยู่ในสายตา
เขา
เขาตกใจ หันไปมองหล่อนอย่างตกตะลึง จากนั้น รีบกดปุ่มควบคุมในรถ
กระจกหน้าต่างค่อยๆเลื่อนลงมา
กู้ฮอนยื่นหน้าเข้าไปพูดขึ้นด้วยเสียงแหบไม่สบ อารมณ์นัก “นี่ เป๋หมิงโม่ นายจะมาโอ้อวดอะไรกับฉันก็ ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ แต่นายรู้บ้างไหมมาจอด รถในที่แบบนี้ มันขวางทางคนเดิน อีกอย่างนะ ที่นี่เป็น เมืองเก่า นายขับรถหรูโอ่อามาแบบนี้ ทำเอาคุณป้าคุณน้าแถวนี้ตกใจจนความดันขึ้นกันหมดแล้วมั้งเนีย”
เป่หมิงโม่นิ่งเฉย จ้องไปที่หล่อน หลบผู้คนที่กำลัง ซุบซิบนินทา จากนั้น เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามีพวก คุณป้าคุณน้ายืนอยู่เต็มไปหมดจริงด้วย
เมื่อพวกคุณป้าคุณน้าเหล่านั้นเห็นเขา ต่างพากัน เขินหน้าแดง
สีหน้าของเขาเกร็งจนเส้นเอ็นขึ้น หญิงสาวตรง หน้ากล้าว่าเขาโอ้อวด? ลำพองจองหอง? อีกทั้งยังว่า ต่อหน้าพวกคุณป้าคุณน้า!
เขาเป็นถึงประธานบริหารของบริษัทเป่ยหมิง มีทั้ง เงินทั้งอำนาจ เขาทำอะไรผิด?!
เขามองหล่อนด้วยสายตาเฉียบคมดุดัน “ขึ้นรถ!”
กู้ฮอนส่ายหน้า ยกถุงกับข้าวในมือขึ้นมา “ฉันไม่ ไป ฉันยังต้องกลับบ้านไปทำกับข้าว”
เขาเหลือบมองถุงกับข้าวในมือหล่อน จากนั้นมอง ดูสภาพบ้านที่หล่อนอยู่
เขากวาดสายตามองด้วยความอ่อนโยน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บ้านพักของหล่อน จะมีกลิ่น อายที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
เงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากที่นั่งครุ่นคิดเสร็จ เขา ยอมผิดศีลพูดโกหกหล่อน
“พอดีเลย ฉันยังไม่กินข้าวเลย”
กู้ฮอนตกใจตะลึง
นี่เป่ยหมิงกำลังหมายความว่าจะไปกินข้าวบ้าน หล่อนงั้นเหรอ?
“หมายความว่ายังไง?” หล่อนเบ้ปาก
“ก็หมายความว่าเหมือนที่พูดไปยังไงล่ะ!” เขาตอบ กลับอย่างเย่อหยิ่งเหมือนนกยูงลำพองหาง อยากจะมา กินข้าวบ้านหล่อน แต่กลับทำตัวดูถูก ไม่มีจิตสำนึก ทำ ให้กู้ฮอนอยากจะเข้าไปในรถฉีกหน้ากากอันชั่วร้าย เขาออก!
กู้ฮอนครุ่นคิดไปมา ลูกก็กำลังจะกลับมาที่บ้าน พอดี
ถ้าเป่ยหมิงโม่ตามไป จะเกิดอะไรขึ้น?
หล่อนไม่ได้กลัวเป่หมิงโม่จะรู้เรื่องที่หล่อนมีลูก
แล้ว แต่กลัวว่าหยางหยางจะรับไม่ได้ที่หล่อนพาผู้ชาย แปลกหน้าเข้าบ้าน เพราะตั้งแต่เด็กเขาขาดความรักจากพ่อ และพ่อ
ในใจของหยางหยาง ก็ไม่ใช่ผู้ชายคนไหนที่จะมา
แทนที่ได้
เป้หมิงโม่เห็นหล่อนมีสีหน้าไม่สบายใจ จึงรู้สึก โกรธขึ้นมา
“ทำไมเหรอ ที่บ้านมีแอบผู้ชายป่าเถื่อนไว้งั้นเหรอ ก็เลยให้ฉันไปไม่ได้?” เขาพูดออกมาเช่นนี้ ไม่ได้มี ความรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาบ้างเลย
เขาใส่เสื้อดูดีเป็นระเบียบอยู่ตลอด แต่จู่ๆกลับ ปลดกระดุมคอเสื้อออกมา
หัวใจเต้นรัว มองไปที่กู้ฮอนด้วยความรำคาญใจ สายตาอันเย็นชาคู่นั้น ดูเหมือนสามีที่ถูกสวมเขา!
กู้ฮอนเหลือบมอง ส่งสายตาเบื่อหน่ายไม่สบ อารมณ์ให้กับเขา “เป๋หมิงโม่ นายนี่มันใจแคบจริงๆ! คิดอะไรให้มีเหตุผลบ้างได้ไหม ฉันจำเป็นต้องแอบ ผู้ชายไว้ในบ้านด้วยเหรอ?” หล่อนตอกกลับเขา “ถึง ฉันมี ผู้ชายป่าเถื่อนคนนั้นก็คือนาย!”
“ฉัน?” เขาโกรธจนจ้องหล่อนด้วยสายตาอันดุดัน “ให้ตายเถอะ ฉันเป็นผู้ชายป่าเถื่อน?”
คำพูดของหล่อนทำให้เขาไม่พอใจอย่างเห็นได้ ชัด
“เหอะ! ไม่อยากจะสนใจ! ขี้เกียจจะต่อปากต่อคำ ด้วยแล้ว! ” กู้ฮอนมองเขาด้วยสายตาแค้นเคือง จากนั้น ถือถุงกับข้าว หันหลังอ้อมรถเขา เดินออกไปจาก ซอย..
“เดี๋ยวก่อน!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด จากนั้น รีบเปิดประตูรถลงมา ชายหนุ่มรูปร่างดี สูงใหญ่ รีบ เดินลงมาจากรถ บรรดาคุณป้าที่แอบดูอยู่ในซอกซอย สายตาต่างพากันมองเป็นประกาย.
กู้ฮอนรีบขมวดคิ้วขึ้น “นายจะทำอะไรกันแน่?” “ฉันบอกไปแล้วไง ฉันยังไม่กินข้าวเย็น!” ท่าทางของเขา ดูเหมือนจะทิ้งรถขวางทางไว้ตรงนี้ และเดิน ตามหล่อนไป
กู้ฮอนมองไปรอบๆ พวกคุณป้าที่แอบดู ซุบซิบอยู่ ทั้งหลาย พากันเงี่ยหูฟัง ชี้นิ้วไปมา
หล่อนรู้สึกละอาย ไม่อยากถูกมองด้วยสายตาเช่น นี้ กัดฟันจ้องไปที่เป้หมิงด้วยความโหดเหี้ยม “งั้นคุณ ไปจอดรถให้ดีซะ!”
เหมิงโม่ฉีกยิ้มขึ้น ผ่านไปแวบเดียว เขาทำท่าที ราวกับแผนชั่วที่คิดไว้สำเร็จแล้ว “ที่นี่มีตรอกซอกซอย เต็มไปหมด ฉันไม่รู้ทาง เธอมาบอกทางหน่อย”
“โอ้ย! จะมีใครหน้าด้านไปกว่าคุณอีกไหม? นาย กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำหรือยังไง? ไม่มีใครบังคับให้ นายมาที่นี่สักหน่อย!” กู้ฮอนเหลือบตามองบน บ่น พึมพำ แต่ก็ต้องจำใจบอกทางเขา ให้เขาไปจอดที่ใน ซอยที่กว้าง
ขณะเดียวกัน พี่น้องทั้งสองเดินมาจนขาอ่อนแรง
“เห้อ ในที่สุดก็ใกล้ถึงแล้ว…” หยางหยางมองเห็น เขตเมืองเก่าด้านหน้า ตรอกซอกซอยคดเคี้ยวไปมา ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นที่สุด
ให้ความรู้สึกเหมือนเดินมาถึงยอดสูงสุดกำแพง เมืองจีนที่ยาวสองหมื่นลี้
เฉิงเฉิงพยักหน้า สีหน้าเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า
พวกเขาทั้งสองเหนื่อยล้ามาก
ตอนนั้นเอง มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของหยางหยาง ก็ดังขึ้น
หยางหยางปล่อยมือเฉิงเฉิงออก เสยผม ระเบิดของเขาขึ้น กดรับสาย
“ฮัลโหล ลุงสามครับ…
ยผมพลุไฟ
หยางหยางพูดขึ้นเพียงไม่กี่คำ ก็ถูกคุณชายสาม แห่งบ้านเป่ยหมิงบ่นพึมพำดุด่าไม่หยุดจนเขานิ่งชะงัก ไป