ตอนที่ 143 คนเก่ากลายเป็นเพื่อนร่วมงาน2
ไม่อาจไม่ยอมรับได้เลย ทุกครั้งที่เธอนั้นมาทำงาน ยังตระกูลกู้นั้น ในใจนั้นรู้สึกมีแต่ความตื่นเต้น
ตอนนอกนั่งอยู่บนสุดของบริษัท แล้วก็มองไปยัง ท้องฟ้า เธอนั้นจึงจะมีจิตใจที่สงบ
“ที่แท้คุณอยู่ที่นี่เอง”
ข้างหลังนั้นก็ได้มีเสียงออกมา
กู้ฮอนนั้นสูดหายใจลึก ๆ แต่ไม่ได้หันกลับไป
ยี่เฟิงนั้นก็ได้นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ
เหมือนกับมีกลิ่นของรากหญ้าลอยมา เธอนั้นรู้สึก ถึงความสบายใจ เหมือนกับเวลาของตอนเด็กเช่นนั้น เพียงแต่มียี่เฟิงอยู่ข้าง ๆ เธอ เธอก็เหมือนความรู้สึกที่ ไม่ดีนั้นก็ถูกลืมเลือนไปหมด
ยี่เฟิงยิ้มออกมา สายตาที่สีดำนั้นก็ได้มองไปยัง เธอ หลังจากนั้น สายตาก็มองไปบนท้องฟ้า แล้วก็ถอน หายใจ “ฉันยังจำได้ว่าคุณนั้นชอบนั่งมองไปยังบนฟ้า นั่น คุณรู้ไหม ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่ยุโรปนั้น ชอบมอง ไปยังท้องฟ้าที่งดงาม ฉันคิดบางครั้ง หากมีคุณนั่งอยู่ ด้วยจะเป็นอย่างไร”
“ยี่เฟิง” กู้ฮอนนั้นพูดออกมาตัดบทเขา
ยี่เฟิงยิ้มเฉื่อย ๆ แล้วก็มองไปยังสายตาที่สับสนของกู้ฮอน แล้วพูดต่อไป
“ตอนนั้น ผมเห็นแค่ผู้หญิงตะวันออกนั่งมองไปยัง ท้องฟ้า ฉันนึกตลอดว่าเป็นคุณ..หลังจากนั้นก็เดิน เข้าไปใกล้ แล้วก็พบว่าไม่ใช่คุณ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ยี่เฟิง” กู้ฮอนกับสายตาที่เต็มไป ด้วยร้อยน้ำ
แล้วก็กลับกลอกสายตาไปมาเพื่อกลบเกลื่อน แล้วก็มองไปยังผู้ชายคนนั้น สายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ที่คลออยู่เช่นนั้น
ยี่เฟิงมีสายตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ยังคงยิ้ม อย่างไม่เต็มใจ “ฮอน ผมเคยมาตลอด ตอนนั้นที่คุณ ยินยอมที่จะไม่เลือกผม หรือว่า คุณไม่เหลือคำใดใด เลย แล้วก็หนีออกไป หรือว่าหายไปจากสายตาของผม แล้วพอมาตอนนี้ ผมเพิ่งเข้าใจว่า ทุกหมดนี้ก็เป็น เพราะ…”
เขานั้นก็ได้มีการจัดระบบเสียงใหม่ เธอนั้นก็พูดออกมาว่า “เพราะอะไร ? ”
“เพราะว่าฉันนั้นไม่กล้ามากพอ” ยี่เฟิงนั้นยิ้ม
หัวเราะออกมา แล้วก็คำพูดที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ “เพราะว่าไม่กล้าพอ ดังนั้นเลยไม่ได้เป็นคนที่บังลมบัง ฝนให้เธอ”
ประโยคนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่นัก เพราะว่าตอนนั้นเพิ่ง จะอายุสิบเจ็ดปี และทำให้ตัวเองนั้นปฏิเสธไป
พอฟังเสร็จถึงความในใจที่เจ็บปวดแล้ว กู้ฮอนนั้น ก็ตาแดงขึ้นอย่างมากมาย
แล้วเธอก็ส่ายหัวว่า “ดังนั้น คุณนั้นก็เลยละทิ้งการ เรียนการถ่ายทำไป แล้วก็ไปเรียนสถาปนิกที่ยุโรป ?”
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตอนที่ตัวเองนั้นออกไปนั้น ไม่ใช่ทำให้ชีวิตของตัวเองที่ดีที่สุดนั้นสิ้นสลายไป
ยี่เฟิงยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว หรืออาจจะเป็น เพราะเดิมทีฉันก็ไม่ใช่มาเรียนเกี่ยวกับสิ่งนี้ ดังนั้นห้าปี ที่ผ่านมา ไม่ว่าผมจะขยันสักเท่าใด ก็ไม่อาจจะล้ำหน้า นวัตกรรมของ V.Q. ได้เลย”
V.Q. กู้ฮอนนั้นก็ตกใจ
ยี่เฟิงไม่เหมือนกับ V.Q. เพราะ V.Q.เป็นสิ่งที่เล่า สืบต่อกันมา แต่ยี่เฟิงนั้นละทิ้งความรักของตัวเองที่จะ เรียนรู้ แล้วกลายมาเป็นสถาปนิก
“ยี่เฟิง คุณโง่มาก ” เธอนั้นได้ละสายตาไปจาก เขา “ทุกคนนั้นมีอำนาจสิทธิ์เป็นของตัวเอง ทำไมจะ ต้องเพื่อฉันแล้วไปทำร้ายตัวเอง”
“เป็นการทำร้ายหรือ ?” ยี่เฟิงหัวเราะและยิ้มออก มาอย่างทุกข์ใจ สายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน “ฮอน คุณพูด…ว่าโชคชะตาทำร้ายผม หรือว่าพวกเรา ทำร้ายตัวเอง ?”
ทันใดนั้นเธอนั้นก็มีความสับสน แล้วก็มองไปยัง ท้องฟ้าด้วยความไม่ชัดเจน “ฉันคิดว่า หากไม่มีกู้อันขีพวกเราจะเป็นอย่างไร ? หากไม่มีเรื่องราวที่เกิดขึ้น มากมาย พวกเราจะต้องสมบูรณ์แบบแน่นอน แต่ว่า…..
“แต่ว่า คุณไม่ได้มีทางเลือก เพราะว่าโชคชะตา เลือกคุณ ใช่ไหม ?” ยี่เฟิงพูดต่อจากเธอ แล้วก็เสียง สั่น ๆ “ฮอน คุณบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณถึงหนีไป เรียนที่อเมริกา ?”
เธอนั้นมีสายตาที่วับวาว สายตานั้นเต็มไปด้วย หมอกน้ำอยู่บนตาเธอ “แม่ฉันป่วยหนัก ฉันต้องการเงิน ก้อนหนึ่ง ฉันจะต้องพาเธอไปรักษาตัวที่อเมริกา”
ยี่เฟิงหยุดยิ้มไปแล้วก็พูดว่า “เพราะอะไรไม่มาหา ผม ? ผมช่วยคุณได้ ถึงแม้จะไม่ได้เลิศหรูขนาดนั้น แต่ ผมสามารถขอเงินจากที่บ้าน”
“ฉันไม่อยากเพราะแบบนี้” เธอนั้นก็หรี่สายตาเล็ก ลง แล้วก็ไม่ทำให้น้ำในตานั้นหล่นร่วงออกมา “ยี่เฟิง คุณจำได้ไหม ? คุณไม่เคยไม่พูดถึงเรื่องในบ้านของ คุณเลย คุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าคุณนั้นเป็นลูกคน บ้านรวย แล้วนิสัยอย่างคุณนั้น แน่นอนว่าจะไม่ไปขอ เงินคนในบ้านเลย ดังนั้น ฉันยอมที่จะเสียศักดิ์ศรี ก็จะ ไม่ให้คุณเสียความเป็นตัวตนของคุณไป”
“ไม่” ยี่เฟิงส่ายหัว ทั้งตัวก็รู้สึกตื่นเต้น “ฮอน คุณ กำลังโกหก คุณสามารถโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกผมไม่ ได้หรอก คุณไม่ยอมมายืมเงินที่ผม เพราะว่านิสัยของ คุณนั้นไม่อนุญาตให้ตัวเองเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าผม เพราะว่าในใจคนที่คุณแคร์ที่สุดก็คือ ผมนั่นเอง
ยี่เฟิงพูดอย่างตรงไปตรงมา เหมือนกับเข็มที่ที่ม แทงไปยังเธอ แล้วก็เลือดไหลออกมา
สายตาที่โทรมเช่นนั้น ยังไม่ทันรู้สึกตัวก็มีน้ำตา
ไหลออกมา
ยี่เฟิงนั้นได้เห็น แล้วก็ยื่นแขนออกไปจับตรงที่ ไหล่ของกู้ฮอน แล้วก็ขยับตัวของเธอนั้นมามองยังตัว
เอง พอตอนที่เห็นน้ำตาของเธอนั้น มือของเขานั้นสั่น
อยู่เช่นนั้น
แล้วก็ได้ใช้มือนั้นลูบใบหน้าของเขาอย่างเบาๆ “ฮอน ผมรู้ว่าคุณนั้นไม่เคยลืมผมไปเลย ใช่ไหม ?” ยี่ เฟิงนั้นกับน้ำเสียงที่เต็มไปการเข้าถึงไปในจิตใจของ ตัวเอง