ตอน168 ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด1
ร่างที่แต่งกายสบายๆ ใบหน้าเงยมองขึ้นฟ้า ดูเหมือนสาว อายุสิบแปดปี ผมยาวสวยถูกมัดเป็นหางม้า รองเท้าผ้าใบ และกางเกงยีนส์สีขาว ยี่เฟิงเหมือนกับเห็นหญิงสาวที่ สะอาดและบริสุทธิ์เมื่อห้าปีก่อน…
ใจเขาบีบรัดแน่น
“ฮอน ผมอยู่ที่นี่ ”
กู้ฮอนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง
“ยี่เฟิง เย็นขนาดนี้แล้วมาหาฉันมีอะไรรีเปล่า?”
ยี่เฟิงยังคงยิ้มเบาๆ “ฮอน ทำไมคุณถึงลาออกกะทันหัน
อย่างนั้นล่ะ?”
“”เธอยิ้มขอโทษ
ยี่เฟิงถามต่อไปว่า “คุณพยายามหลีกเลี่ยงผม หรือว่า คุณมีอะไรปิดบังอยู่กัน?”
“ไม่มีแน่นอน …. กู้ฮอนปฏิเสธอย่างรีบร้อน และไม่รู้ว่า
จะบอกยี่เฟิงได้อย่างไร ถึงเหตุผลที่ไร้สาระสำหรับการลา ออกของเธอ เธอทำได้แค่ยิ้มให้เขาอย่างฝืนใจ “มันไม่ เกี่ยวอะไรกับคุณเลยค่ะ ยี่เฟิงคุณอย่างคิดไปไกล ฉันแค่ เหนื่อยเท่านั้น ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทกู้ซื่อ เรื่องโครงการ หยิง” อีกแล้ว….”
“คุณจะยอมแพ้แล้วเหรอ? บริษัทกู้ชื่อไม่สำคัญกับคุณ แล้วเหรอ?” ยี่เฟิงหุบยิ้มเล็กน้อย “ผมคิดว่า…”
“เปล่าค่ะ ยี่เฟิง คุณเข้าใจผิดแล้ว บริษัทกู้ซื่อไม่สำคัญ สำหรับฉันสักนิด!”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยบริษัทกู้ ชื่อล่ะ? ทำไมคุณต้องทำเพื่อบริษัทกู้ชื่อให้ชนะการประมูล สองรอบแรก? คุณก็รู้ว่าที่ผมเข้ามาบริษัทกู้ซื่อก็เพราะคุณ ตอนนี้ก็เข้ารอบสุดท้ายแล้ว คุณจะลาออกไปแบบนี้เหรอ? ฮอน หรือว่าพอผมเข้ามา มันทำให้คุณต้องออกไป?”
ยี่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉัน…. หัวใจของกู้ฮอนสั่นไหว กัดริมฝีปากล่าง ไม่ กล้ามองดวงตาที่ซึมเศร้านั้น “ฉันขอโทษ ยี่เฟิง ฉันไม่ อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาขอบคุณคุณมากที่ช่วย เหลือบริษัทกู้ชื่อ ฉัน.
“ผมไม่ต้องการคำขอโทษ !” ยี่เฟิงขัดจังหวะเธออย่าง รวดเร็ว ดวงตาที่จริงใจจับจ้องเธออย่างใกล้ชิด “มองผม
ฮอน!”
เขาบังคับให้เธอเผชิญหน้ากับเขา!
กู้ฮอนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และมองที่ใบหน้ายี่เฟิง ผิว ขาวละเอียดอ่อน เหมือนคนที่ออกมาจากนวนิยาย มันควร จะสดใส แต่เธอกลับเห็นเพียงความเศร้าของเขา…
ทันใดนั้นเธอรู้สึกเศร้าเล็กน้อย: “ยี่เฟิง ผ่านห้าปีแล้ว ทุก อย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว คุณก็รู้? เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่
“ฮอนคุณรู้อะไรไหม?” เสียงอันนุ่มนวลของเล็กน้อย “ผมเกลียดที่ผมกลับมาช้าไปก้าวหนึ่ง”
เขาหยุดพูด นัยน์ตาเปล่งประกายอย่างชัดเจน “แต่ผม ไม่เคยเสียใจที่ได้รู้จักคุณ ผมรู้ว่ามันผ่านมาห้าปีแล้ว และ มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ผมยังคงเหมือนเดิม! ฮอน คุณจำไว้นะ ไม่ว่าคุณเผชิญปัญหาอะไร ให้เชื่อไว้ว่า คุณ ยังมีผมอยู่!
ให้เชื่อไว้ว่า คุณยังมีผมอยู่!
ประโยคที่ทำให้คนใจเต้นนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฮอนจะต้อง ซาบซึ้งใจและขยับตัวเข้าในอ้อมแขนของเขา แต่ตอน นี้. เธอมีความลับมากเกินไปที่จะพูดได้
“ยี่เฟิง อย่าดีกับฉันเลย ได้ไหม? ฉันไม่มีค่า….
“ผมคิดว่ามันมีค่าก็พอแล้ว” ยี่เฟิงยังคงยิ้มเบาๆ ดวงตา ของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ผมจะพาคุณไปที่หนึ่ง ไปที่นั่นแล้ว คุณจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงเกลียดตัวเองที่ กลับมาช้าไปก้าวหนึ่ง ไปที่นั่นแล้ว คุณจะรู้ว่า ผมเป็นตัว เลือกที่ดีที่สุดของคุณ!”
เธอชะงักไปหนึ่ง ไม่เข้าใจคำพูดของ
ในตอนเช้าเขาพูดทางโทรศัพท์ว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดี ที่สุดของเธอ และนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเน้นย้ำา
เขาต้องการจะสื่ออะไร? หรือเขารู้อะไรบางอย่าง?
กู้ฮอนรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา และถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว “จะไปไหนเหรอ?”
ยี่เฟิงยิ้มอย่างแผ่วเบา จับพวงมาลัย และเริ่มออกรถ ก่อน จะพูดว่า–
“ตระกูลของผม”
ยี่เฟิงไม่เคยพูดกับใครเรื่องตระกูลของเขา….
ตกกลางคืน
คฤหาสน์ตระกูลเป่ยหมิง แสงไฟสว่างไสว
ไม่ได้เงียบสงบเหมือนในอดีต คืนนี้คฤหาสน์อันหรูหรา แห่งนี้ ปกคลุมไปด้วยไฟสีแดง ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มี ชีวิตชีวา
คืนนี้คุณท่านเป็หมิงเจิ้งเทียนสวมเสื้อคลุมย้อนยุค ถึง แม้ว่าผมของเขาจะเป็นสีขาวเทา แต่ยังคงความแข็งแกร่ง อยู่เสมอ
ถือไม้จันทน์สีแดงเดินไปมา พูดบ่นตลอดว่า “เจ้าลูกคน นั้นเมื่อไหร่จะกลับมา?
เจียงฮุยซินนั่งเงียบอยู่ข้างๆ ดื่มชาอย่างมีสง่า เธอสวม ชุดกี่เพ้าสมัยโบราณ ดูงดงามและอ่อนโยน
“เจิ้งเทียน คุณนั่งลงเถอะค่ะ เดินไปเดินมา ฉันตาลายไป หมดแล้ว” เจียงฮุยซินถอนหายใจเล็กน้อย “ฉิงฮัวก็บอก แล้วว่ากำลังเดินทางมาไม่ใช่เหรอคะ? คุณวางใจเถอะ ชายสองและหลานชายของคุณคงใกล้จะถึงในเร็วๆนี้”
เปหมิงเจิ้งเทียนเป่าเคราสั้นสีขาวของตัวเอง ราวกับว่า เจียงฮุ่ยซินพูดตรงกับในใจเขา และมองไปรอบๆ “ใครบอก ว่าผมสนใจชายสองกัน? ผมหมายถึงเจ้าชายสามต่าง หาก!”
เจียงฮุยซินสายหัวทันที ที่เธอได้ยินชายตรงหน้าพูดถึง ลูกชายของเขาอีกครั้ง “ยันยัน โทรมาตั้งแต่เช้าแล้ว บอก ว่ายังมีฉากที่ยังถ่ายไม่เสร็จ คาดว่าเขาจะมาถึงช้าหน่อย แต่เขาสัญญาว่าจะกลับมาให้ทันอาหารค่ำ”
“หึม! ตระกูลเป่ยหมิงไม่มีอาหารให้เขากินเหรอ? ทุกวันเขา คงรู้ว่าออกไปอยู่ข้างนอกแบบนั้นมันลำบากขนาดไหน! เป็นนักแสดงมันจะมีอนาคตอะไร? ตระกูลเป่ยหมิงโดนเขา ทำขายหน้าจนหมดแล้ว!” เป่าหมิงเจิ้งเทียนขมวดคิ้วแน่น เมื่อพูดถึงชายสาม