ตอนที่ 284 พ่อลูกสามคน
หลังจากเฉิงเฉิงขึ้นมาบนรถ เปหนึ่ง ไม่ก็มองชุดนักเรียนของ เขาทั้งสองคนแล้วพูด : “ทําไมชุดพวกเธอไม่เหมือนกัน ฉัน จําได้ว่าพวกเธออยู่โรงเรียนเดียวกันนี่!
พอหยางหยางได้ยินเขาพูดอย่างนั้น เขาก็กัดเค้กช็อคโก แลตด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองทันที “เรียน โรงเรียนเดียวกัน แล้ว จําเป็นต้องใส่ชุดเหมือนกันด้วยงั้นหรอฮะ”
เป้หมิง ไม่ขมวดคิ้ว พลางยื่นมือที่อยากจะบีบคอเด็กนั่นไป
จับพวงมาลัย
เขาสตาร์ทรถก่อนขับออกจากบ้านเป้หมิงช้าๆ…
พวกเขายังคงคุยกันอยู่
“หยางหยางเรียนอยู่คลาสซี ส่วนผมเรียนอยู่ห้องทอป ชุด พวกเราก็เลยไม่เหมือนกันอย่างที่เห็นนี่ล่ะฮะ” เฉิงเฉิงอธิบาย ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
เป้หมิง ไม่เหลืองมองเฉิงเฉิงอย่างพอใจเล็กน้อย เขาต้อง ยอมรับว่าเป้หมิงซิเฉิงนั้นมีความสง่าและความเป็นตัวของ ตัวเองสูง
“เปหมิงซิเฉิง นี่พี่จะเอาเรื่องชุดมาพูดอวดว่าตัวเองเก่ง กว่าผมงั้นเหรอฮะ อย่ามามองผมด้วยสายตาที่เหมือนผมเป็นมนุษย์ต่างดาวสิฮะ พี่นั่นแหละที่เป็นไม่ใช่ผม… หยางพูดอย่างไม่เกรงกลัว : “ทั้งพี่ทั้งคุณพ่อเลย!” ” หยาง
มุมปากของเป้หมิงโม่และเฉิงเฉิงกระตุกยิ้มขึ้นมาแทบจะ พร้อมกัน…
ระหว่างทาง มีแต่เพียงเสียงของหยางหยางที่พูดไม่หยุด “คุณพ่อ ทำไมวันนี้ถึงไปส่งผมกับเป้หมิงเฉิงล่ะฮะ”
“ผมยังไม่ได้เจอคุณแม่อีกเลยหลังจากคืนนั้น คุณพ่อช่วย พาคุณแม่มาหาพวกเราได้ไหมฮะ”
“ไม่งั้นก็ให้ผมไปอยู่กับคุณแ ได้ฮะ… แต่จะว่าไป ถ้า ไม่มีผมอยู่ ชีวิตของเป้หมิงซิเฉิงคงจะเป็นสีขาวดำเหมือนสี ของหมีแพนด้า ไม่มีสีสัน…”
“แต่ว่า…. หมีแพนด้าเป็นสมบัติของชาตินะ… เป้หมิงเฉิง รู้อย่างนี้แล้วยังจะอยากใช้ชีวิตแบบชาวอยู่อีกหรอ….
หยางหยางพล่ามไม่หยุด จนเปหมิง โม่ทนไม่ไหวจนต้อง
พูดออกมา
“เปหมิงหยาง มาเล่นเกมส์กันเถอะ !
“เกมสไรยะ” หยางหยางถามตาเป็นประกาย
“จากนี้ใครพูดแพ้!”
– หยางหยางเงียบพลงรีบหยิบเค้กช็อคโกแลตเข้า
ปาก
เฉิงเฉิงเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มเบาๆออกมา…
ในที่สุดก็ถึงโรงเรียนที่ดังที่สุดในเมือง A เป้หมิง ไม่จอดรถ ก่อนจะปิดไฟหน้ารถลง
เขาหันไปมองหยางหยางแล้วพูด : “ถึงโรงเรียนแล้ว
“อ้าววววว” หยางหยางปล่อยมือที่ปิดปากตัวเองอยู่ พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น : “คุณพ่อแพ้! ฮ่าๆ รา”
เป้หมิง โม่พูดอย่างอดทนอดกลั้น : “โอเค ฉันแพ้ไปเข้า เรียนได้แล้ว”
เฉิงเฉิงปลดเข็มขัดแล้วลงจากรถพลางหันกลับไปมองเป็น มิงโม่ก่อนจะพูดขึ้น : “ขอบคุณนะฮะพ่อ สวัสดีฮะ”
ขอบคุณ” เป้หมิง โม่รู้สึกแปลกๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้น
ส่วนหยางหยางก็รีบเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วพร้อมกับ พูด : “บ๊ายบายฮะพ่อ!” หลังจากนั้นก็วิ่งปรูดลงจากรถ…
เหมิง ไม่นึกถึงวัยเด็กของเขาเมื่อมองตามแผ่นหลังของ เด็กทั้งสองเดินเข้าตึกเรียนไป…..
ในตอนนั่นเอง
หยางหยางก็รีบวิ่งเข้าไปหาเด็กผู้หญิงหกเจ็ดขวบคนนึง
อย่างรีบร้อน : “เข้ เธอชื่อไรน่ะ น่ารักจัง
“Isalina Christian!” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆตอบพลางฮัมเพ ลงเบาๆ ในลำคอ
“คุณแม่ฉันบอกว่าคนที่อยาวๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกชาว ต่างชาติ เธอเป็นชาวต่างชาติใช่ไหม ฉันขอหยางหยาง ดีใจมากที่ได้รู้จักกับเธอ! ” หยางหยางพ้นคำพูดหวานๆออก มาพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดี
ส่วนเฉิงเฉิงนั้นก็เดินอยู่ข้างหลังเงียบๆเป็นปกติ
“ฉันเป็นลูกครึ่งจีน-เยอรมันน่ะ” เธอตอบพร้อมกับเหลือบ มอง : “อืม… นี่นายชื่อกู้หยางหยางอย่างงั้นเหรอ ชื่อน่ารัก ดีนะ ฮ่าๆๆๆ!”
“อะ” หยางหยางมองเธอ : “ไม่ใช่ นามสกุลฉันคือ… เป็น มึง… เป้หมิงหยางนะ! รู้จักใช่ไหมล่ะ!
เขาไม่มีทางเลือกที่จะใช้นามสกุลที่เป็นนามสกุลที่เขา ปฏิเสธมาโดยตลอด! หวังว่าแม่เขาจะไม่โกรธนะ…
“คุณพ่อฉันก็เป็นคนที่มีอิทธิพลเหมือนกัน! เด็กผู้หญิงคนนั้นเดินไปพูดไป
“หรอ แล้วคุณพ่อของเธอคือใครล่ะ
“%@& •@##%!” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ พูดชื่อยาวๆที่เป็น ภาษาต่างประเทศขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
ส่วนหยางหยางที่ฟังอยู่นั้นก็นึกอยู่นาน “ฉันไม่เห็นเคย
ได้ยินมาก่อนเลย…
“นายจะไปรู้จักได้ไง! พ่อฉันเป็นผู้มีอิทธิพลในเยอรมนี
แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ ทำไมไม่อยู่นั่น “
“เพราะคุณแม่กับคุณพ่อทะเลาะกัน คุณแม่ก็เลยพาฉันมา อยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกคุณพ่อ”
“แม่ฉันก็ชอบพาฉันไปต่างประเทศ…
***
เฉิงเฉิงที่ฟังอยู่นั้นกลอกตา แล้วเดินตามหยางหยางไป อย่างเงียบๆดังเดิม…
ร่างของชายเด็กทั้งสองค่อยๆหายเข้าไปในตึกเรียน….
เปหมิงไม่จ้องมองหยางหยาง เขาได้ยินว่าหยางหยางพูด นามสกุลของเขา พูดว่าตัวเองชื่อเปหมิงหยางเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเด็กผู้หญิงคนนั้น
เด็ก ทําเกินไปไหม
ในขณะที่เขาคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงมือถือกตั้งขึ้น
เขาหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
“คุณชาย ผมกลับมาบ้านเหมิงแล้วได้ยินพวกคนรับใช้ พูดกันว่าวันนี้คุณชายไปส่งเด็กๆเอง” ปลายสายพูดด้วย ความแปลกใจ
“อืม” เป้หมิงโม่ตอบอย่างเฉยเมย
“คุณชายทําแบบนี้เพราะคุณหรอครับ…
“ฉิงฮัว!” เป้หมิง โม่ตะโกน : “นี่นายคิดว่าฉันทำอย่างนี้ก็ เพื่อเธองั้นเหรอ!”
“ใช่ครับ!”
ทั้งๆที่รู้ว่าเปามิงโม่จะโกรธ แต่งตัวก็ไม่ลังเลที่จะตอบ ออกไปแบบนั้น!
“คุณชาย ถ้าสองปีก่อนผมไม่ขับรถชนคุณเฟยเอ๋อ คุณกับ คุณก็คงไม่เป็นกันแบบนี้ ผมรู้ว่าคุณชายรู้สึกผิดเรื่อง เหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อสิบสองปีก่อน แม้ว่าคุณชายจะอยากรับ ผิดชอบชีวิตของคุณเฟยเอ๋อมากแค่ไหน แต่คุณชายก็ไม่ จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบโดยการเอาความสุขของตัวคุณชายเองเข้าแลกแบบนี้นะครับ….
“นายหุบปากซะฉิง ว! พูดเรื่องความสุขกับฉัน! ” เป้หมิงไม่เกรี้ยวกราด : “อย่ามา
แล้วความสุขของเด็กทั้งสองคนล่ะครับ คุณชายไม่คิดถึง ตรงนั้นบ้างหรอครับ ทำไมสองปีก่อนคุณชายถึงเลือกที่จะ เลี้ยงเด็กทั้งสองไว้ เพราะคุณชายรู้ใช่ไหมล่ะครับ ว่าตราบ ใดที่เด็กทั้งสองคนยังอยู่กับคุณชาย คุณก็จะกลับมา คุณชาย ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่คุณคิดจริงๆเหรอว่าคุณจะไม่ เจ็บปวดกับการที่เธอไปต่างประเทศโดยที่ไม่บอกลาอะไร คุณชายกับลูกๆของเธอเลย
“บ้าเอ๊ย! สิ่งที่เธอทำตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ บังคับให้ฉันแสดงให้ศาลเห็นว่าฉันรักเด็กๆจริง!” เขาสบถ : “ฉันจะทำให้เธอพูดไม่ออกเลยคอยดู!
พูดจบเขาก็กดวางสายทันที
จากนั้นก็ขับรถออกไป
แต่ก่อนที่จะออกรถนั้น เขาเหลือไปมองเด็กชายทั้งสองที่ ตอนนี้หายเข้าไปในตึกแล้วอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วพลางเริ่ม กังวลว่าการที่พวกเขาทำแบบนี้ คนที่เจ็บปวดมากที่สุดจะ กลายเป็นลูกๆของพวกเขาเอง…
พอคิดอย่างนั้น สายตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นความโลกเศร้า นมา…
สอนที่พึ่งทานข้าวเช้าเสร็จก็ได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้น
“คุณพ่อ” เธอประหลาดใจ : “เข้ามาก่อนค่ะ!”
ไม้จึงเฉิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มพลางเดินเข้าไปในห้อง เช่าของฮอนและมองไปรอบๆ : “ฮอน ลูกเคยชินกับการอยู่ ในที่แบบนี้แล้วงั้นเหรอ พ่อมีบ้านให้ลูกอยู่ลูกก็ไม่อยู่
ฮอนที่กำลังชงชาอยู่ยิ้ม : “หนูอยากพึ่งพาตัวเองบ้าง ไม่ อยากพึ่งพาคุณพ่อตลอดเวลาหรอกค่ะ
“พูดอะไรของลูกเนียเด็กโง่” โม้จึงเฉิงจิบชา : “เป็นไงบ้าง ช่วงนี้ ได้เจอกับเด็กๆบ้างไหม
“ก็ดีค่ะ เด็กๆก็พึ่งเจอไปตอนคริสต์มาสที่ผ่านมา” พอพูด ถึงเด็กๆเธอก็เศร้าขึ้นมาเล็กน้อย เธอคิดถึง…คิดถึงสามคน นั้นมาก…
“ลูก ลูกแน่ใจเหรอว่าจะให้เป็นมิงไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะดูแล เด็กๆต่อ”
เธอพยักหน้ายิ้มๆ : “เมื่อก่อนหนูอยากให้เด็กๆกลับมาอยู่
กับหนู แต่ตั้งแต่ที่ได้เห็นเด็กๆ ในคืนคริสต์มาสนั่น หนูก็ได้รู้ ว่าเฉิงเฉิงมีความสุขกว่าแต่ก่อนมาก ถึงแม้จะยังคงนิ่งๆ เงียบๆอยู่ก็เถอะ ส่วนหยางหยางก็เหมือนกัน แม้จะยังคงความชนอยู่ แต่เขาก็เข้าใจคุณพ่อของเขามากกว่าแต่ก่อน พวกเขาสองพี่น้องอยู่กับคุณพ่อของเขาตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้ คุณพ่อของพวกเขาจะปฏิบัติต่อพวกเขาไม่ดีไปบ้าง แต่ยังไง พวกเขา ก็เติบโตมาด้วยกันกับคุณพ่อของพวกเขา…
ไม้จึงเฉิงพยักหน้ายิ้มๆ “พ่อดีใจนะที่ลูกรู้จะคำว่า ‘ปล่อยวาง’ ‘
“ค่ะ เพราะหนูได้เห็นความจริงอะไรหลายๆอย่าง…” ฮอ นพูดตามความรู้สึก : “สิ่งเดียวที่หนูจะช่วยพวกเด็กๆได้ก็คือ การทำให้พวกเขาได้รับความรักจากคุณพ่อของพวกเขามาก ที่สุด”
“อ๋อ ลูกเลยใช้ศาลเพื่อกดดันเหมิงไม่ให้เขาใส่ใจพวก เด็กๆมากขึ้นใช่ไหม”
“ค่ะ” กู้ฮอนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม : “คุณพ่อรู้ไหมคะว่ากฎ หมายเนี่ยเป็นวิธีการเดียวที่จะจัดการกับเขาได้ เหนื่อยชะมัด เลย”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก” โม้จึงเฉิงพูด : “แล้วพรุ่งนี้ลูกจะไป ไหนทำไร”
“ใช่แล้ว! เฉิงเฉิงกับหยางหยางกลับมาแล้วนี่นา หนูว่าจะ
เอาเขามาอยู่ที่นี่สักพักค่ะ… “เด็กๆกลับมากันแล้วเหรอ ดีเลย! แต่เป้หมิงไม่เขาจะยอมให้เด็กๆมาหรอ” ไม้จึงเฉิงพูดอย่างกังวลใจ