ตอนที่489 ชะตากรรมของเฉิงเฉิง1
แต่ไม่นึกเลยว่าเด็กคนนี้จะไม่ยอมตอบอะไรเลย ดวงตาสีอำพันจ้องมองเธออย่างจริงจัง “ร้องไห้ทำไม”
“หา อ้อ……” กู้ฮอนตกใจ นิ้วมือของเธอรีบเช็ดน้ำตาอย่างรีบร้อน “แหะๆ เมื่อครู่แม่เพิ่งคุยกับคุณยาย พอคุยไปคุยมาก็ร้องไห้……ทำให้ลูกตกใจใช่ไหมจ๊ะ”
“คุณอาฉิงฮัวบอกว่า พ่อไปรับแม่กลับมาแล้ว ทำไมแม่ต้องร้องไห้ด้วย” ในดวงตาที่สดใสของเฉิงเฉิง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สอดคล้องกับอายุของเขา
มือเล็กนุ่มของเขา จับมือของกู้ฮอนกลับไว้แน่น เงยหัวเล็กๆขึ้นมา ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่ทว่าจริงจัง ถามแม่ขึ้นอีกครั้ง: “แม่ ทำไมต้องร้องไห้”
ประโยคนี้ มันเต็มไปด้วยความระแวงและความกังวลใจของลูกชาย
หนึ่งสัปดาห์มานี้ พ่ออยู่ที่เมืองA แม่อยู่ที่เมืองS ใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เฉิงเฉิงรู้ดี
ไม่ง่ายเลยที่จะได้รู้จากคุณลุงฉิงฮัวว่าพ่อไม่รับแม่กลับมาแล้ว
เขาดีใจมากจนขาดเรียน ถามที่อยู่จากลุงฉิงฮัว แล้วก็รีบมาที่นี่……
แต่ไม่นึกเลยว่า ตอนที่เข้ามาในห้องนี้ จะได้เห็นแม่ร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม ทำให้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ ไม่มีจะทำท่าอย่างไร
บนใบหน้าเล็กขาวสะอาดของเด็กน้อย เต็มไปด้วยความกลุ้มใจ
ทรงผมเดิมของนายน้อยที่ถูกคนรับใช้หวีจัดทรงมาอย่างดี เพราะว่าเขารีบวิ่งมา จึงยุ่งเหยิงไปบ้าง
เส้นผมเล็กๆห้อยลงมาที่ขมับ มันปรากฏให้เห็นถึงความไร้เดียงสาที่เด็กวัยอย่างเขาควรมี
แต่ทว่า หน้าผากที่เหมือนกับพ่อของเขา มันเป็นรอยย่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เหมือนกับพ่อของเขา ริมฝีปากที่สมบูรณ์แบบ ถึงแม้จะไม่พูดอะไรก็ตาม ต่างก็ดึงดูดผู้คนได้อย่างไม่รู้ตัว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เด็กคนนี้เหมือนกับเป่หมิงโม่มาก
โดยเฉพาะความเย็นชาและความสง่าที่แผ่ออกมาจากตัว มันเหมือนเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
มันเป็นนิสัยเฉพาะตัวที่ต่างจากหยางหยางโดยสิ้นเชิง
“เฉิงเฉิง……” หัวใจของกู้ฮอน พังทลายลงในทันที
พอเห็นหน้าเฉิงเฉิง มันเหมือนกับเธอได้เห็นเป่หมิงโม่
ความเสียใจทั้งหมดที่เธอเก็บไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ มันไหลทะลักออกมาเหมือนแม่น้ำ……
แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ และเธอก็ไม่สามารถบอกลูกชายได้ ว่าพ่อของเขากับแม่จะไม่มีวันเป็นครอบครัวเดียวกันได้อีก……
ถึงแม้ว่าเธอจะคุ้นชินมานานแล้ว แต่เป่หมิงโม่ก็ยังทำลายเศษความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ในใจของเธอ
“แม่ร้องไห้……อ้อ ที่แม่ร้องไห้ก็เพราะว่าดีใจที่ในที่สุดก็ได้เจอคุณยายของลูกไงจ๊ะ……แม่น่าจะร้องไห้ที่คุณยายไม่ยอมตื่นขึ้นมาด้วย……แม่คิดถึงแม่ของแม่มาก เฉิงเฉิงเข้าใจไหมจ๊ะ……ว่าแม่รอให้คุณยายฟื้นขึ้นมาโดยตลอด รอแล้วรอเล่า รอนานมากๆ จนแม่ร้องไห้โฮนี่แหละจ๊ะ……”
กู้ฮอนเช็ดน้ำตา เธอพูดขึ้นพร้อมร้องไห้และหัวเราะในคราวเดียว
โปรดให้อภัยที่เธอได้พูดโกหกในตอนนี้ แม้ว่าเธอจะร้องไห้เพราะแม่ของเธอหลายต่อหลายครั้ง แต่การร้องไห้ในวันนี้ มันไม่ใช่
เป่หมิงโม่กุมมือของคุณท่านเป่หมิงแน่น ทุกท่าทาง ทุกประโยค เธอต่างก็จดจำได้อย่างชัดเจน
น้ำตาจึงไหลพรั่งพรูออกมา จะหยุดร้องก็หยุดไม่ได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องมาเผชิญหน้ากับเป่หมิงโม่ตัวน้อยอีก
“แม่……” น้ำเสียงของเฉิงเฉิงสั่นเล็กน้อย ทำไมเขาจะไม่เข้าใจความรู้สึกของแม่
และใยชีวิตเจ็ดปีกว่าๆของเขา คำว่า‘รอคอย’สองคำนี้ ดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นชะตากรรมของเขาไปแล้ว……
ก่อนอายุห้าขวบ รอให้พ่อหันกลับมามองเขาบ้าง รอให้แม่บินลงมาอยู่ข้างๆเขาเหมือนนางฟ้า
หลังอายุห้าขวบ พ่อก็เริ่มให้ความสนใจเขา แม่ก็บินลงมาอยู่ข้างๆเขาเหมือนนางฟ้า ในตอนนั้น เขาคิดว่าชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความหวัง แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้นของความเศร้าโศก สุดท้ายแม่ก็ต้องไป……เขามีแค่น้องชายฝาแฝดที่ไม่มีหัวใจและไร้ซึ่งความรู้สึกก็เท่านั้น
ก่อนอายุเจ็ดขวบ เขาก็เริ่มรอคอยอีกครั้ง รอให้แม่กลับมา
หลังอายุเจ็ดขวบ ในที่สุดแม่ก็กลับมา เขาก็เริ่มการรอคอยอีกครั้ง รอคอยให้วันหนึ่งพ่อได้แต่งงานกับแม่ เป็นครอบครัวที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน……
แต่ทว่า ความเป็นจริงก็ได้พิสูจน์กับเขาว่า โลกของผู้ใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถคาดหวังหรือควบคุมได้
เขาจึงค่อยๆเข้าใจ การรอคอยจึงได้กลายเป็นชะตากรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชีวิตของเขา
“แม่……” เฉิงเฉิงเรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครืออีกครั้ง เขายกมือเล็กที่ขาวนุ่มขึ้นมา เช็ดน้ำตาจากแก้มให้กู้ฮอนอย่างอ่อนโยน “คุณครูบอกว่า เด็กที่เข้มแข็งต้องไม่ร้องไห้……”
“ใช้แล้ว ลูกรัก ให้อภัยแม่ด้วยนะ……” เธอบีบรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้ออกมา
เธอยอมรับว่าเธอไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกชายของเธอ “คุณครูของเฉิงเฉิงพูดถูก เอาล่ะ แม่จะไม่ร้องไห้ ต้องเข้มแข็ง……”
แต่นึกไม่ถึงว่าลูกชายจะพูดต่ออีกว่า——
“แต่อาสามพูดว่า…… เหตุผลที่คนร้องไห้ ก็เพราะมีความรู้สึก มีความรู้สึกถึงเสียน้ำตา เพราะฉะนั้นไม่ใช่เพราะแม่ไม่เข้มแข็ง แต่เพราะความรู้สึกของแม่มันลึกซึ้งมาก”
ประโยคที่ว่ามีความรู้สึกถึงเสียน้ำตา มันทิ่มแทงเข้ามาที่กลางใจของกู้ฮอน
เธอลืมตา มองลูกชายที่อายุน้อยแต่รู้จักคิดตรงหน้า
ทันใดนั้นน้ำตาก็หยดลงมาราวกับสายฝน……
เธอหลบดวงตาใสของลูกชายอย่างน่าอาย เธอจะยอมรับได้อย่างไร ว่าเธอมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับเป่หมิงโม่ ถึงได้ร้องไห้แบบนี้……
รักใครสักคนอย่างลึกซึ้งเกินไป ก็จะเปิดโอกาสให้คนคนนั้นทำร้ายตัวเองได้
ความอ่อนแอมักจะมาพร้อมกับความแข็งแรงเสมอ
แค่ดูว่าคุณจะเลือกให้อันไหนเป็นเงา อันไหนเป็นตัวตนจริงๆก็แค่นั้นเอง
มือเล็กของเฉิงเฉิงเช็ดน้ำตากู้ฮอนอย่างอ่อนโยน เขาเงียบไปพักหนึ่ง ถึงค่อยๆพูดอย่างระมัดระวังขึ้นมา——
“แม่ ผมเองก็อยากร้องไห้ ได้ไหมครับ”
กู้ฮอนตกใจ
ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตา มองเฉิงเฉิงอย่างไม่เชื่อสายตา
ทันใดนั้นก็รู้สึกจุกที่ลำคอ
มีความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายได้
“เฉิงเฉิง……” เสียงของเธอแหบแห้ง แทบจะไม่กล้าเผชิญหน้ากับลูกชายที่ทั้งฉลาดและทั้งจิตใจดีเช่นนี้ได้อีกแล้ว